สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก ผมเคยแต่เข้ามาหาความรู้จากเวปนี้แต่ไม่เคยได้ตอบแทนอะไรสักทีเพราะถ่ายรูปก็ไม่สวย รีวิวก็ไม่ละเอียดเลยคิดว่าแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นๆรับทราบเพราะช่วงนี้หลายท่านคงเตรียมเดินทางไปยุโรปกันแล้ว
ผมเดินทางไปยุโรปปีที่แล้ว ตามรอยพี่ฟองสบู่ไปโดยเช่ารถจากเวียนนาขับไปปราก,เชสกี้คลุมลอฟ,ฮาลสแตท,ซาลสเบอร์กแล้วกลับเวียนนา โดยก่อนเดินทางผมศึกษาข้อมูลหลักจากของคุณฟองสบู่,คุณช้างน้อยกับพี่ๆอีกหลายท่าน อ่านtripadviser,Lonely planet ,Eye withness ก่อนจะเล่าเรื่องโดนล้วงกระเป๋าขอเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเช่ารถเดินทางของผมครับ ผมเดินทางสามคน เป็นเด็กสี่ขวบคนนึง เช่ารถเบนซ์ c class wagon ไป หกวันสามหมื่นกว่าบาท( ให้ย้อนเวลากลับไป ผมจะหาบริษัท localครับ ถูกกว่ามาก ปีนี้ผมจะไปทางยุโรปตะวันตก ลองเช่าบริษัทlocalดู สิบสี่วันสามหมื่นกว่าเอง รถผมเป็นมินิMPV ถอดเบาะได้ ขอให้ช่วยถอดเบาะออกก็ไม่ขัดข้อง ก็ไม่รู้จะเป็นไงนะครับแต่เท่าที่ติดต่อแล้วประทับใจกว่าบริษัทใหญ่ๆมาก) ปัญหาที่จะเล่าคือบ้านผมเป็นพวกบ้าสมบัติ ตอนแรกจะเอากระเป๋าไซส์ใหญ่สุดที่สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตไป2ใบ(ความยาวรวม กว้าง+ยาว+สูง<158 ซม), carry on 3 ใบ,กระเป๋าไซส์กลางอีกหนึ่งใบ มั่นใจในแวกอน แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจหนึ่งวันก่อนเดินทาง ผมเปลี่ยนใจลดใบใหญ่เหลือแค่ใบเดียว แล้วเอาhandbag ขนาดใหญ่ไปสองใบแทน รวมความคือไป7ใบ ตอนไปเข้าคิวรอยื่นเรื่องรับรถ เจ้าหน้าที่เห็นกระเป๋าผมแล้ว รีบหา E class wagonให้ แต่รถหมด สรุปไปตายเอาดาบหน้า พอเห็นหลังรถก็แทบเป็นลมนอกจากแคบแล้วยังเป็นslopeลาดลง ไหนจะcar seatลูกอีกหลังจากจัดไปมาจึงได้ใบใหญ่ด้านหลังหนึ่งใบ แครี่ออน สองใบ handbagหนึ่งใบ ข้างๆลูกสาวผมบนเบาะจะเป็นกระเป๋าใบกลางกับhandbag บนพื้นจะเป็นแครี่ออนใบเล็กสุด จะพยายามเอาภาพมาลงนะครับ ยังไม่เคยลงเลย สิ่งที่เป็นอุทาหรณ์สำหรับพวกบ้าสมบัติคือถ้าคุณไม่แน่ใจในสถานะการณ์ ให้แบ่งเป็น handbag นิ่มๆสองใบดีกว่า จุเท่ากันแต่ปรับเข้ากับพื้นที่ง่ายกว่า ยกเว้นถ้าสายการบินระบุให้เอากระเป๋าโหลดได้แค่คนละใบ ยังไงก็ต้องใบโตแล้วไม่สามารถหารถใหญ่ได้ ลองหารถ มินิเอ็มพีวี เช่นRenault senic3 ราคาไม่แพง เลื่อนเบาะหลังได้
การขับรถไปปรากเดิมทีผมจะไปทางBrno แต่ไปอ่านเจอว่ากำลังซ่อมทางเพราะหิมะตกหนัก(ผมไปกลางพ.ค.)ก็เลยเขียนไปถามสมาชิกในtripadviserที่ใน forum ของ ปราก ก็มีคนตอบมาว่ารถติดหนักจริงแล้วเขาก็แนะนำให้ไปทาง Trebon, Tabor แทนก็อ้อมหน่อย ถนนเล็กกว่า แต่รถไม่ติด วิวสวยดีครับ เกร็ดเล็กน้อยอีกแล้วครับ ตอนเริ่มขับพวงมาลัยซ้ายแรกๆนอกจากปัญหาการเลี้ยวและเข้าวงเวียน อีกอย่างที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงคือกะระยะตอนขับไม่ถูกชิดขวาเกินไป ยิ่งเจอถนนที่สวนกันยิ่งกินขวาจนจะตกถนน ผมขับๆไปถึงเพิ่งสังเกตุครับขณะขับๆไป เวลามองผ่านไปยังกระจกหน้า ถ้าเราเห็นเส้นประสีขาวกลางถนนพุ่งเข้ามายังมุมล่างซ้ายของกระจกตลอด ระยะระหว่างรถเรากับกึ่งกลางถนนจะพอดี อยู่เมืองไทยลองสังเกตุมุมล่างซ้ายดูครับ อาจมีปรับแต่งบ้างตามขนาดรถ แต่น่าจะช่วยได้บ้าง การเดินทางจนไปถึงปรากก็ราบรื่นดี
วันรุ่งขึ้นไปเที่ยวที่แกรนพาเลส ราบรื่น ชื่นมื่น จนผมคิดว่าผมวิตกจริตเรื่องล้วงกระเป๋า เรื่องขโมยหรือต้มตุ๋นมากไป
และแล้ววันนั้นก็มาถึงครับ ก่อนที่เพื่อนๆจะคิดว่าการโดนล้วงเป๋าไม่น่าแปลกอะไร ก็คุณไม่ระวังเอง ระวังก็ไม่โดนหรอก ผมขออธิบายนิดนึงว่าก่อนไปปราก ผมอ่านกิติศัพท์ของเมืองนี้แล้วว่าเทพขนาดไหน ผมเตรียมดังนี้ครับ 1.ซื้อกระเป๋าสะพายของpacsafe 2.เข็มขัดซ่อนเงิน pacsafe 3.กระเป๋าคล้องคอ pacsafe แยกเงินกับเครดิตไว้คนละที่ ทุกครั้งที่ขึ้นรถสาธารณะจะระวังตลอด วันที่เกิดเหตุคือเราขึ้นรถรางผิดสาย พอไปลงแล้วก็เดินไปมา ขณะเดินก็มีผมหญิงลักษณะเป็นชาวยุโรปถือแผนที่เข้ามาถามทาง ซึ่งดูผิดปกติมากเพราะเห็นๆอยู่ว่านี่มันเอเชียล้วนๆสามคนจะไปรู้ทางได้ไง(ฟระ) พวกผมเซโนอย่างเดียวพร้อมกับชิ่งออกมา ยังคิดในใจลูกไม้กระจอกจริงๆไม่ได้แอ้มหรอก หลังจากนั้นเราลงสถานีMustek ครับ ขึ้นไปรถก็โล่งๆ พอถึงสถานีที่จะลง ผู้หญิงสาวคนหนึ่งกดปุ่มเปิดประตู ระหว่างเดินออก ประตูก็หนีบทันที ผู้หญิงดันประตูไว้ ผู้ชายอีกคนก็เข้ามาช่วยง้าง ผมยืนห่างแค่เมตรกว่าๆเองครับ ยังไงก็ต้องเข้าไป ประตูหนีบแรงมาก มีคนเข้ามาช่วยอีกคน ผมได้ยินคนตะโกน push yellow button ผมก็กด ประตูก็เปิด กินเวลาไม่เกินสิบวินาที หลังจากนั้นพอจะก้าวเท้าออกจากรถ ผมตบไปที่กางเกง คงเดาได้นะครับ มันไปซะแล้ว เงินในนั้นมีไม่เท่าไหร่ครับ แต่ผมดันใส่เครดิตกับเอทีเอ็มไว้ ทั้งๆที่วันแรกๆจะแยกไว้ พออยู่ๆไปดันคิดว่าตัวเองระแวงมากไป เลยใช้เสร็จแล้วเก็บรวมกัน พอมาลำดับเหตุการณ์ทีหลังก็สังเกตได้ว่ามาเป็นทีมครับ รวมทั้งผู้หญิงที่โดนหนีบด้วย เพราะก่อนรถจะเข้าสถานี ภรรยาผมบอกว่าเห็นผู้หญิงเข้าไปกดปุ่มหลายครั้งก่อนรถจะจอด มันคงทำให้ประตูมีปัญหาขึ้นได้ กระเป๋ากางเกงอีกข้างมีกล้องคอมแพคสุดกระจอก มันไม่แตะเลย สรุปก็กร่อยๆไปเกือบวันครับ ต้องเกาะภรรยากินจนหมดทริป ผมเห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่เหมือนกับที่เคยอ่านเจอ ก็เลยมาโพสท์ลงเผื่อเป็นประโยชน์ครับ
ขับรถกระเป๋าหลายใบ โดนล้วงกระเป๋าที่Prague
ผมเดินทางไปยุโรปปีที่แล้ว ตามรอยพี่ฟองสบู่ไปโดยเช่ารถจากเวียนนาขับไปปราก,เชสกี้คลุมลอฟ,ฮาลสแตท,ซาลสเบอร์กแล้วกลับเวียนนา โดยก่อนเดินทางผมศึกษาข้อมูลหลักจากของคุณฟองสบู่,คุณช้างน้อยกับพี่ๆอีกหลายท่าน อ่านtripadviser,Lonely planet ,Eye withness ก่อนจะเล่าเรื่องโดนล้วงกระเป๋าขอเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเช่ารถเดินทางของผมครับ ผมเดินทางสามคน เป็นเด็กสี่ขวบคนนึง เช่ารถเบนซ์ c class wagon ไป หกวันสามหมื่นกว่าบาท( ให้ย้อนเวลากลับไป ผมจะหาบริษัท localครับ ถูกกว่ามาก ปีนี้ผมจะไปทางยุโรปตะวันตก ลองเช่าบริษัทlocalดู สิบสี่วันสามหมื่นกว่าเอง รถผมเป็นมินิMPV ถอดเบาะได้ ขอให้ช่วยถอดเบาะออกก็ไม่ขัดข้อง ก็ไม่รู้จะเป็นไงนะครับแต่เท่าที่ติดต่อแล้วประทับใจกว่าบริษัทใหญ่ๆมาก) ปัญหาที่จะเล่าคือบ้านผมเป็นพวกบ้าสมบัติ ตอนแรกจะเอากระเป๋าไซส์ใหญ่สุดที่สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตไป2ใบ(ความยาวรวม กว้าง+ยาว+สูง<158 ซม), carry on 3 ใบ,กระเป๋าไซส์กลางอีกหนึ่งใบ มั่นใจในแวกอน แต่ไม่รู้อะไรมาดลใจหนึ่งวันก่อนเดินทาง ผมเปลี่ยนใจลดใบใหญ่เหลือแค่ใบเดียว แล้วเอาhandbag ขนาดใหญ่ไปสองใบแทน รวมความคือไป7ใบ ตอนไปเข้าคิวรอยื่นเรื่องรับรถ เจ้าหน้าที่เห็นกระเป๋าผมแล้ว รีบหา E class wagonให้ แต่รถหมด สรุปไปตายเอาดาบหน้า พอเห็นหลังรถก็แทบเป็นลมนอกจากแคบแล้วยังเป็นslopeลาดลง ไหนจะcar seatลูกอีกหลังจากจัดไปมาจึงได้ใบใหญ่ด้านหลังหนึ่งใบ แครี่ออน สองใบ handbagหนึ่งใบ ข้างๆลูกสาวผมบนเบาะจะเป็นกระเป๋าใบกลางกับhandbag บนพื้นจะเป็นแครี่ออนใบเล็กสุด จะพยายามเอาภาพมาลงนะครับ ยังไม่เคยลงเลย สิ่งที่เป็นอุทาหรณ์สำหรับพวกบ้าสมบัติคือถ้าคุณไม่แน่ใจในสถานะการณ์ ให้แบ่งเป็น handbag นิ่มๆสองใบดีกว่า จุเท่ากันแต่ปรับเข้ากับพื้นที่ง่ายกว่า ยกเว้นถ้าสายการบินระบุให้เอากระเป๋าโหลดได้แค่คนละใบ ยังไงก็ต้องใบโตแล้วไม่สามารถหารถใหญ่ได้ ลองหารถ มินิเอ็มพีวี เช่นRenault senic3 ราคาไม่แพง เลื่อนเบาะหลังได้
การขับรถไปปรากเดิมทีผมจะไปทางBrno แต่ไปอ่านเจอว่ากำลังซ่อมทางเพราะหิมะตกหนัก(ผมไปกลางพ.ค.)ก็เลยเขียนไปถามสมาชิกในtripadviserที่ใน forum ของ ปราก ก็มีคนตอบมาว่ารถติดหนักจริงแล้วเขาก็แนะนำให้ไปทาง Trebon, Tabor แทนก็อ้อมหน่อย ถนนเล็กกว่า แต่รถไม่ติด วิวสวยดีครับ เกร็ดเล็กน้อยอีกแล้วครับ ตอนเริ่มขับพวงมาลัยซ้ายแรกๆนอกจากปัญหาการเลี้ยวและเข้าวงเวียน อีกอย่างที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงคือกะระยะตอนขับไม่ถูกชิดขวาเกินไป ยิ่งเจอถนนที่สวนกันยิ่งกินขวาจนจะตกถนน ผมขับๆไปถึงเพิ่งสังเกตุครับขณะขับๆไป เวลามองผ่านไปยังกระจกหน้า ถ้าเราเห็นเส้นประสีขาวกลางถนนพุ่งเข้ามายังมุมล่างซ้ายของกระจกตลอด ระยะระหว่างรถเรากับกึ่งกลางถนนจะพอดี อยู่เมืองไทยลองสังเกตุมุมล่างซ้ายดูครับ อาจมีปรับแต่งบ้างตามขนาดรถ แต่น่าจะช่วยได้บ้าง การเดินทางจนไปถึงปรากก็ราบรื่นดี
วันรุ่งขึ้นไปเที่ยวที่แกรนพาเลส ราบรื่น ชื่นมื่น จนผมคิดว่าผมวิตกจริตเรื่องล้วงกระเป๋า เรื่องขโมยหรือต้มตุ๋นมากไป
และแล้ววันนั้นก็มาถึงครับ ก่อนที่เพื่อนๆจะคิดว่าการโดนล้วงเป๋าไม่น่าแปลกอะไร ก็คุณไม่ระวังเอง ระวังก็ไม่โดนหรอก ผมขออธิบายนิดนึงว่าก่อนไปปราก ผมอ่านกิติศัพท์ของเมืองนี้แล้วว่าเทพขนาดไหน ผมเตรียมดังนี้ครับ 1.ซื้อกระเป๋าสะพายของpacsafe 2.เข็มขัดซ่อนเงิน pacsafe 3.กระเป๋าคล้องคอ pacsafe แยกเงินกับเครดิตไว้คนละที่ ทุกครั้งที่ขึ้นรถสาธารณะจะระวังตลอด วันที่เกิดเหตุคือเราขึ้นรถรางผิดสาย พอไปลงแล้วก็เดินไปมา ขณะเดินก็มีผมหญิงลักษณะเป็นชาวยุโรปถือแผนที่เข้ามาถามทาง ซึ่งดูผิดปกติมากเพราะเห็นๆอยู่ว่านี่มันเอเชียล้วนๆสามคนจะไปรู้ทางได้ไง(ฟระ) พวกผมเซโนอย่างเดียวพร้อมกับชิ่งออกมา ยังคิดในใจลูกไม้กระจอกจริงๆไม่ได้แอ้มหรอก หลังจากนั้นเราลงสถานีMustek ครับ ขึ้นไปรถก็โล่งๆ พอถึงสถานีที่จะลง ผู้หญิงสาวคนหนึ่งกดปุ่มเปิดประตู ระหว่างเดินออก ประตูก็หนีบทันที ผู้หญิงดันประตูไว้ ผู้ชายอีกคนก็เข้ามาช่วยง้าง ผมยืนห่างแค่เมตรกว่าๆเองครับ ยังไงก็ต้องเข้าไป ประตูหนีบแรงมาก มีคนเข้ามาช่วยอีกคน ผมได้ยินคนตะโกน push yellow button ผมก็กด ประตูก็เปิด กินเวลาไม่เกินสิบวินาที หลังจากนั้นพอจะก้าวเท้าออกจากรถ ผมตบไปที่กางเกง คงเดาได้นะครับ มันไปซะแล้ว เงินในนั้นมีไม่เท่าไหร่ครับ แต่ผมดันใส่เครดิตกับเอทีเอ็มไว้ ทั้งๆที่วันแรกๆจะแยกไว้ พออยู่ๆไปดันคิดว่าตัวเองระแวงมากไป เลยใช้เสร็จแล้วเก็บรวมกัน พอมาลำดับเหตุการณ์ทีหลังก็สังเกตได้ว่ามาเป็นทีมครับ รวมทั้งผู้หญิงที่โดนหนีบด้วย เพราะก่อนรถจะเข้าสถานี ภรรยาผมบอกว่าเห็นผู้หญิงเข้าไปกดปุ่มหลายครั้งก่อนรถจะจอด มันคงทำให้ประตูมีปัญหาขึ้นได้ กระเป๋ากางเกงอีกข้างมีกล้องคอมแพคสุดกระจอก มันไม่แตะเลย สรุปก็กร่อยๆไปเกือบวันครับ ต้องเกาะภรรยากินจนหมดทริป ผมเห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่เหมือนกับที่เคยอ่านเจอ ก็เลยมาโพสท์ลงเผื่อเป็นประโยชน์ครับ