เนื่องจากช่วงนี้มีการสร้างกระแสข่าวเรื่องธนาคารบางแห่งได้ปล่อยเงินให้รัฐบาลกู้ เพื่อนำเงินไปจ่ายชาวนา และปลุกระดมให้ประชาชนแห่ไปถอนเงินที่ธนาคารนั้นๆ เป็นจำนวนมาก ในความคิดของผม บุคคลที่ทำการปลุกระดมประชาชน เป็นการกระทำแย่มากๆ อันจะทำให้ธนาคารล้มได้ ดังนั้นลองมาดูสาเหตุที่ทำให้ธนาคารล้มกัน
1. การที่สินทรัพย์ที่ธนาคารมี หรือ เงินที่ธนาคารให้กู้ ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าที่คาดหวัง ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินแก่ผู้ที่ต้องการมาถอนเงินได้
2. การที่มีคนจำนวนมากแห่กันมาถอนเงินจนธนาคารไม่สามารถขายสินทรัพย์เพื่อหาเงินมารองรับได้ทัน
เป็นสาเหตุให้ธนาคารยังคงต้องการเงินฝาก เพราะสินทรัพย์ที่ธนาคารมีอยู่จะไม่สามารถแปลงเป็นสภาพคล่องได้ทันที หากผู้ฝากเงินทุกคนมีความหวั่นวิตก ทุกคนจะแห่มาถอนเงินออกจากธนาคาร อันจะส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า “Bank Run” ที่อาจจะส่งผลกระทบจนกลายเป็น “Bank Panic” ได้ในที่สุด
Bank Run คือ การที่ลูกค้าจำนวนมากแห่ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของตน โดยเชื่อว่าธนาคารล้ม เมื่อผู้คนทราบข่าวก็ยิ่งเกิดความกลัว ตื่นตระหนก ทำให้ยิ่งแห่ไปถอนเงินกันใหญ่ ธนาคารก็สูญเสียความมั่นคง แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับหลายๆธนาคาร เป็น Bank panic มันก็จะกระทบกระเทือนไปทั้งระบบ เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในช่วงที่ประเทศประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ธนาคารหลายแห่งต้องประสบปัญหาด้านความเชื่อมั่นในตัวของธนาคาร ดังในกรณีของ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ ในช่วงวิกฤติประชาชนต่างพากันคาดว่า ธนาคารจะไม่สามารถที่จะคืนเงินต้นแก่ผู้ฝากได้ เนื่องจากคาดว่าธนาคารไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถบริหารงานต่อไป ทั้งยังถูกพิษทางการเมืองทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อธนาคารหดหายไป ประชาชนผู้ที่ฝากเงินกระแสรายวัน ออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ ได้พากันมาแห่ถอนเงินคืนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของตัวเอง จนในที่สุด ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการต้องปิดตัวลง
สรุป คือ ผมอยากให้ทุกคนใช้สติให้ดี อย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลใดๆ ก็ตามที่ต้องการปล่อยข่าวให้เกิดสถานการณ์อันนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหม่ ดังเช่นตอนปี 2540 ได้ เพราะไม่ว่าธนาคารจะมีความมั่นคงแค่ไหนก็ตาม ถ้าเกิดการปลุกระดมให้ประชาชนไปถอนเงิน ยังไงก็ต้องเกิดปัญหา Bank Run ขึ้นจนได้
ขอประนามบุคคลที่ปล่อยข่าว ปลุกระดมประชาชนให้ไปถอนเงิน เพื่อขัดขวางธนาคารบางแห่งไม่ให้ปล่อยเงินกู้ให้รัฐไปจ่ายชาวนา
1. การที่สินทรัพย์ที่ธนาคารมี หรือ เงินที่ธนาคารให้กู้ ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าที่คาดหวัง ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินแก่ผู้ที่ต้องการมาถอนเงินได้
2. การที่มีคนจำนวนมากแห่กันมาถอนเงินจนธนาคารไม่สามารถขายสินทรัพย์เพื่อหาเงินมารองรับได้ทัน
เป็นสาเหตุให้ธนาคารยังคงต้องการเงินฝาก เพราะสินทรัพย์ที่ธนาคารมีอยู่จะไม่สามารถแปลงเป็นสภาพคล่องได้ทันที หากผู้ฝากเงินทุกคนมีความหวั่นวิตก ทุกคนจะแห่มาถอนเงินออกจากธนาคาร อันจะส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า “Bank Run” ที่อาจจะส่งผลกระทบจนกลายเป็น “Bank Panic” ได้ในที่สุด
Bank Run คือ การที่ลูกค้าจำนวนมากแห่ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของตน โดยเชื่อว่าธนาคารล้ม เมื่อผู้คนทราบข่าวก็ยิ่งเกิดความกลัว ตื่นตระหนก ทำให้ยิ่งแห่ไปถอนเงินกันใหญ่ ธนาคารก็สูญเสียความมั่นคง แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับหลายๆธนาคาร เป็น Bank panic มันก็จะกระทบกระเทือนไปทั้งระบบ เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในช่วงที่ประเทศประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ธนาคารหลายแห่งต้องประสบปัญหาด้านความเชื่อมั่นในตัวของธนาคาร ดังในกรณีของ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ ในช่วงวิกฤติประชาชนต่างพากันคาดว่า ธนาคารจะไม่สามารถที่จะคืนเงินต้นแก่ผู้ฝากได้ เนื่องจากคาดว่าธนาคารไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถบริหารงานต่อไป ทั้งยังถูกพิษทางการเมืองทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อธนาคารหดหายไป ประชาชนผู้ที่ฝากเงินกระแสรายวัน ออมทรัพย์ และเงินฝากประจำ ได้พากันมาแห่ถอนเงินคืนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของตัวเอง จนในที่สุด ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการต้องปิดตัวลง
สรุป คือ ผมอยากให้ทุกคนใช้สติให้ดี อย่าได้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลใดๆ ก็ตามที่ต้องการปล่อยข่าวให้เกิดสถานการณ์อันนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหม่ ดังเช่นตอนปี 2540 ได้ เพราะไม่ว่าธนาคารจะมีความมั่นคงแค่ไหนก็ตาม ถ้าเกิดการปลุกระดมให้ประชาชนไปถอนเงิน ยังไงก็ต้องเกิดปัญหา Bank Run ขึ้นจนได้