[CR] REVIEW: ยูโรเชี่ยน ออโต้ เซอร์วิส (อู่รับซ่อมรถ+ตัวแทนติดตั้งแก็สรถยนต์)

กระทู้รีวิว
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ถนัดเขียนรีวิวเท่าไรนะครับ พอดีเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาผมเอารถของตัวเองไปติดตั้งแก๊สLPGกับอู่ที่อยู่ละแวกบ้านมา เลยอยากเอาประสบการณ์ที่ได้จากการติดตั้งแก๊สกับทางอู่มาเขียนรีวิวให้ได้อ่านกัน เผื่อใครที่อยากจะนำรถไปติดแก๊สแต่ยังไม่รู้จะไปติดที่ไหนก็ลองนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจดูนะครับ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า สำหรับรีวิวนี้จะเขียนถึงการติดตั้งเฉพาะแก๊สLPGเท่านั้นนะครับ ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวเลือกหลากหลายยี่ห้อมากเช่น Energy Reform, AC, Versus และอื่นๆ ส่วนตัวผมตัดสินใจที่จะเลือกของACครับ (รถที่นำไปติดตั้งเป็น Nissan Teana – J31) เพราะทางอู่ก็เป็นตัวแทนของACอยู่พอดี ส่วนการติดตั้งแก๊สNGV(CNG)นั้นจะแตกต่างกับLPGนิดหน่อยตรงที่NGVจะต้องใช้อุปกรณ์ที่รับแรงอัดได้สูงกว่า(NGVเป็นของเหลวที่สภาพแรงกดดันสูงกว่าLPG) ดังนั้นจำนวนชิ้นส่วนเลยมากกว่าและราคาสูงกว่าLPGอยู่ระดับนึงครับ

สเปครุ่นที่ใช้ก็มีดังนี้ครับ
AC รุ่น STAG300 ISA2
- หัวฉีดเปลี่ยนเป็นของ HANA
- ถัง Metal Mate ขนาด52kg

สภาพภายนอกโดยรวมถือว่าสะอาดสะอ้านดีครับ มีการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆเป็นระเบียบเรียบร้อยดี


ที่จอดรถลูกค้าจะอยู่ทางขวาหลังจากเข้าประตูมาครับ


ที่อู่มีแขวนป้ายบอกว่าเป็นตัวแทนติดตั้งอย่างเป็นทางการของACด้วย


เอารูปตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งมาให้ดูกันครับ


ป.ล. หน้าตาสวิทช์บอกระดับแก็สของACดูดีมาก ยี่ห้ออื่นไม่รู้เป็นไง?? (แต่อันนี้ผมชอบมาก อิอิ)


ขอเล่าเรื่องอู่นิดนึง จากการสอบถามคุณแดง(เจ้าของร้าน)บอกว่าที่อู่เปิดเป็นอู่ซ่อมรถแบบครบวงจร โดยมีบริการรับติดตั้งแก๊สรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของกิจการมานานนับสิบปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะบอกกันปากต่อปาก ในเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้นั้น คุณแดงแนะนำว่าทางอู่ก็มีสินค้าหลายตัวให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจชอบ แกเล่าต่ออีกว่ามีหลายรายมีปัญหาจากการติดแก๊ส ต้องเข้าๆออกๆอู่หลายที่ พอมาลองทำกับที่อู่ซึ่งแกทำแบบone stop serive ถ้ามีปัญหาด้านอื่นก็ซ่อมได้เลย ไม่ต้องขับไปๆมาๆ เลยทำให้หลายคนติดใจกลายมาเป็นลูกค้าประจำ(ซะงั้น)

กลับมาเรื่องแก๊สต่อ ส่วนตัวผมอยากได้รุ่นดีที่สุดไปเลย แต่เนื่องจากรถที่ผมจะติดแก๊สนั้นไม่สามารถติดตั้งรุ่นTopสุดที่ใช้ตัวเชื่อมรับสัญญาณOBDจากรถได้(รับสัญญาณการจ่ายน้ำมันจริงมาปรับในการจ่ายแก๊ส) เลยต้องเลือกรุ่นที่รองลงมาเพราะมีECUที่สามารถจะคำนวนรูปแบบการจ่ายแก็สแบบสามมิติซึ่งทำให้สามารถจูนได้ดี โดยที่ไม่ต้องง้อสัญญาณOBDจากรถ เพียงแต่ต้องอาศัยการปรับจูนโดนช่างที่ชำนาญและทดสอบวิ่งประมาณพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการจูนนิ่งในทุกช่วงความเร็วเท่านั้นครับ สุดท้ายก็เลือกรุ่นรองท๊อปที่เอามาทำรีวิวคือ STAG300 ISA2 ครับ

นอกเรื่องไปเยอะ มาดูการติดตั้งกันดีกว่านะครับ เริ่มแรกก็เริ่มจากการคลุมๆๆ คลุมแทบทุกส่วนของรถที่ทำงาน ตรงนี้คนไหนรักรถอาจจะชอบ


ขั้นต่อมาก็จะเป็นกระบวนการถอด, รื้อ, แคะ, แกะ และติดตั้งชุดแก๊สที่ทางร้านจัดเตรียมไว้รอเราอยู่แล้ว
โดยขั้นตอนการติดตั้งคร่าวๆจะใช้ช่างทั้งหมด 2 คนโดยขั้นตอนมีรายละเอียดประมาณนี้ครับ

หน้ารถ+ห้องเครื่อง
-   เริ่มแรกช่างจะเปิดฝาเครื่องออกมาก่อนเพื่อดูจุดที่จะใช้ยึดอุปกรณ์ต่างๆ เช่นหม้อต้มและหัวจ่ายเชื้อเพลิงLPG
-   การติดตั้งหัวจ่ายLPGนั้น ทางอู่ให้คำแนะนำว่าควรติดตั้งให้ใกล้กับห้องเผาใหม้ให้มากที่สุด เนื่องจากจะให้การจ่ายเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องเดินเรียบไม่สะดุด ในจุดนี้แอบสังเกตุว่าช่างที่อู่เล็งตำแหน่งหาจุดติดตั้งอยู่หลายครั้งมากครับ คงเน้นความสำคัญให้กับจุดติดตั้งตรงนี้มากจริงๆ ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการทำรูบริเวณช่องไอดีเพื่อให้หัวจ่ายแก็สสามารถจ่ายเชื้อเพลิงปนกับอากาศไปเข้าห้องเครื่องได้ง่าย ทางอู่เลือกใช้บัดกรีเจาะลงไปเพื่อทำรู โดยให้เหตุผลว่าการใช้บัดกรีจะไม่ทำให้เกิดเศษหลุดลงไปสร้างความเสียหายในห้องเครื่องครับ หลังจากนั้นเมื่อรูที่เจาะเย็นลงก็จะใช้หัวต๊าปเกลียวทำเกลียวเพื่อยึดหัวจ่ายเชื้อเพลิงต่อไป ตรงนี้มีขั้นตอนและเทคนิคอีกมากรวมถึงการติดตั้งและเดินสายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆเช่น หม้อต้ม, Map Sensor และฯลฯ ซึ่งกินเวลาพอสมควรและผมไม่ได้ถ่ายมาทั้งหมดทุกขั้นตอนเนื่องจากใช้เวลานานและกลัวจะไปรบกวนสมาธิการทำงานของทางช่างมากเกินไปเลยจะขอข้ามรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนการติดตั้งอุปกรณ์จุกจิกเหล่านี้ออกไปนะครับ


ช่างกำลังเลือกจุดที่จะติดหัวจ่ายเชื้อเพลิง

-   ตำแหน่งการติดหม้อต้มนั้นจะอยู่ใกล้กับฝั่งห้องโดยสาร ช่างจะใช้จุดยึดเดิมเป็นจุดสำหรับยึดหม้อต้ม โดยที่อู่นี้เลือกให้สายไฟที่ใช้ทั้งหมดในห้องเครื่องนี้จะถูกพันเก็บอย่างดีและหุ้มด้วยท่อโปโล(Flex)ทุกเส้นครับ


-   ท่อยาง(Hose)ต่างๆที่ใช้ในการติดตั้งทุกจุดผมสังเกตุว่าที่อู่ใช้ท่อนำเข้าทั้งหมด อีกทั้งการยึดท่อยางต่างๆเข้าด้วยกันจะใช้ปลอกรัดท่อแบบที่ใช้กันในโรงประกอบ


-   ชุดกล่องECUนั้นจะถูกนำไปติดตั้งภายในห้องโดยสาร บริเวณด้านหน้าใต้คอลโซลของคนขับครับ


หลังรถ
-   ในส่วนนี้ยางอะไหล่จะถูกยกออกมา ถึงตอนนี้ถ้าเป็นคนรักรถอาจทำใจยากสักนิดนึง เนื่องจากช่างจะต้องเลือกจุดที่จะต้องทำการเจาะ! ขอย้ำครับว่าเจาะจริงๆ โดยรูที่เจาะนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อ
1.ยึดตัวถังให้ติดอยู่กับตัวรถ โดยถ้าเป็นถังโดนัทจะเจาะทั้งหมด 3 รู (รูยึดถัง2รู)
2.ระบายอากาศและเชื่อมกับท่อเติมแก๊สอีก1รู
เวลาเจาะจะใช้สว่านค่อยๆเจาะจนกระทั่งรูทะลุ แล้วใช้กระดาษทรายหรือหัวขัดจับกับสว่านขัดเศษที่อยู่รอบๆปากรูเจาะให้เรียบเพื่อความเรียบร้อยหลังจากนั้นจึงใช้สีกันสนิมพ่นทับอีกหลายๆชั้นเพื่อป้องกันสนิมที่อาจเกิดบริเวณรูเจาะครับ(ขั้นตอนนี้ใช้เวลาพอสมควร) ส่วนใครที่เลือกติดแบบถังแคปซูลต้องทำใจนะครับ เพราะจะต้องเจาะรูเพิ่มอีก 2 รู (รูยึดถังข้างละ2รู)ครับ รวมเป็น5 รู มากกว่าถังแบบโดนัทอยู่2รู

การยึดถังเข้ากับตัวรถนั้นจะใช้น๊อต2ตัวสำหรับถังแบบโดนัท โดยช่างจะยึดโดยการสวมหัวน๊อตเข้าทางด้านล่างของตัวถังและขันด้วยนัททางตอนบน(ด้านในห้องเก็บสัมภาระ)แล้วจึงพ่นทับด้วยสีกันสนิมอีกชั้นเพื่อความเรียบร้อยสวยงามและทนทานมากกว่า อู่บางที่อาจทำง่ายๆโดยการสวมน๊อตลงไปทางข้างบนซึ่งส่งผลให้ปลายด้านล่างของน๊อตอยู่ใกล้กับพื้น โอกาสที่จะโดนน้ำแล้วเป็นสนิมจึงมีสูงกกว่ามากครับ

-   เมื่อทำการเตรียมพื้นที่ติดตั้งถังกันแล้วก็เอาถังลงไปติดตั้งแทนล้ออะไหล่ได้เลยครับ โดยขั้นต่อมาก็จะเป็นการเลือกตำแหน่งที่จะใช้ติดตั้งหัวnozzleสำหรับการเติมแก๊ส เนื่องจากมีกฏระบุไว้ว่าจุดเติมแก็สจะต้องอยู่ห่างจากท่อไอเสียไม่น้อยกว่า 20cm จึงต้องเลือกติดตั้งทางด้านขวาเนื่องจากทางซ้ายมีพื้นที่ค่อนข้างแคบเนื่องจากห้องสัมภาระลึกลงมาจนใกล้กับปลายท่อไอเสียมากกว่าทางขวาพอสมควรครับ ท่อที่ใช้ในการเดินมายังหัวจ่ายนั้นทางอู่ใช้ท่อโปโล(Flex)มาพันซ้ำอีกครั้งเพื่อป้องกันความร้อนและฝุ่นละอองให้อีกชั้นนึงด้วยครับ โดยเสริมความติดแน่นของท่อด้วยเคเบิลไทร์อีกทีตามจุดที่สำคัญต่างๆ

-   ท่อสำหรับส่งแก๊สจากถังทางตอนหลังของรถจะถูกวางให้เดินตามแนวของแชสซีส(Chassis)เพื่อป้องกันการกระแทกจากทางใต้ท้องรถที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ โดยสรุปท่อ(Fuel pipe)จะมีเดินทั้งหมด 2 จุดใหญ่ๆคือ เดินเข้าเครื่องกับเดินเข้าถังครับ

ทั้งนี้คุณแดงเจ้าของอู่ก็กรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมมาอีกว่าการติดตั้งแก๊สในรถยนต์นั้นจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆดังนี้ครับ

1.   คุณภาพของชุด/อุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งว่ามีคุณภาพสูงพอหรือไม่ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้กับรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ซึ่งทางอู่แจ้งว่าเลือกใช้แต่เฉพาะของคุณภาพเกรดAเท่านั้น ท่อยาง(Hose)ต่างๆก็เป็นท่อนำเข้าจากต่างประเทศ(Made in U.S.A.) ส่วนตัวดูจากการติดตั้งแล้วก็ดูไม่งกของจริงๆครับ ช่างใช้อุปกรณ์ต่างๆครบดี

2.   การติดตั้งที่เหมาะสม ถูกต้องตามหลักวิชาการสำหรับการติดตั้งแก๊สรถยนต์ โดยจะต้องติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญงาน มีประสบการณ์ในการติดตั้งและพิถีพิถันสูงเท่านั้น โดยเน้นว่างานแต่ละคันที่ออกไปจะต้องเรียบร้อย แข็งแรงปลอดภัย สามารถนำออกไปโชว์ได้ ซึ่งจากที่อยู่ที่อู่ดูการติดตั้ง1วันเต็มๆจากทั้งหมด2วันบอกได้ว่า ช่างที่นี่ค่อนข้างเน้นความเรียบร้อยของงานมาก เพราะฉะนั้นใครที่ใจร้อนต้องการให้งานเสร็จเร็วหรือมีเวลาจำกัด แนะนำให้ติดต่อทางอู่นัดแนะกันเรื่องเวลาที่ใช้ก่อนนำรถเข้ามาทำก็น่าจะดีครับ

3.   การจูน (สำคัญมาก) การจูนเปรียบเหมือนทักษะพ่อครัวครับ ถ้าสองข้อแรกดี เหมือนเรามีวัตถุดิบชั้นเลิศแต่ถ้าขาดพ่อครัวที่มีประสบการณ์ในการปรุง อาหารที่ได้ก็ขาดเสน่ห์ ไม่อร่อย ไม่ประทับใจ โดยที่ทางอู่ให้ความสำคัญกับการจูนนิ่ง(Tuning)มากเป็นอันดับต้นๆเลยครับ โดยการจูนหลักๆจะมี2ระบบคือ Auto หรือการจูนนิ่ง ในที่นี้หมายถึงจูนจากในอู่(รถจอดเฉยๆ) อีกอันนึงคือ Manual หรือจูนวิ่ง ในการจูนแบบนี้ช่างเทคนิคจะนำรถเราออกไปวิ่งทดสอบเก็บข้อมูล โดยอู่ที่ผมทำรีวิวในครั้งนี้แจ้งว่า ถ้าลูกค้าต้องการให้ทางอู่จูนวิ่งก็ทำให้ได้ โดยคนทดสอบจะเป็นคุณแดงเจ้าของอู่เป็นคนขับเอง โดยจะใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน130km/h และจะวิ่งประมาณ 60 – 70km โดยประมาณครับ ซึ่งที่นี่มีเทคนิคการจูนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งตรงนี้ทางอู่ไม่ได้บอกรายละเอียดซึ่งก็คงเป็นปรกติครับ
ชื่อสินค้า:   ยูโรเชี่ยน ออโต้ เซอร์วิส
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่