10ปีที่แล้ว
เมื่อสมัยอายุ 15 เคยป่วยเป็นไตรั่วครับ ก็กินยา  Prednisolone  รักษาได้ 1 ปีจนหาย(ที่โรงบาลย่าน นนทบุรี)

แต่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผมมีอาการป่วยไม่สบาย ก็เลยกินยา แก้ไขธรรมดาๆได้เกือบ 1 อาทิตย์ พร้อมกับอาการบวมน้ำที่หน้าแข้ง ทางโรงบาล(ย่านทองหล่อ) จึงตรวจเลือดและปัสสวะ ซึ่งทำการนัดตรวจทั้งหมด 3 ครั้ง โดยใช้เวลาตรวจอีก 1 อาทิตย์ ระหว่างนั้นผมได้ยาขับปัสวะมา รู้สึกดีขึ้นมาก อาการบวมก็ดีขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงเหมือนปกติ มีบวมเหลืออยู่บ้างเล็กน้อยที่หน้าแข้งซ้าย

วันนี้ไปหาหมอตามที่หมอนัด ผลสรุปคือยังมีโปรตีนรั่วในปัสวะ แต่ที่ ตอนนี้ผมเครียดมากๆคือโดนสั่งให้กิน Prednisolone 12 เม็ด ในครั้งเดียว!?  บ้าไปแล้วววว สมัยผมอายุ 15 อาการผมหนักมากกกก หน้าบวมตาบวม เดินไม่ได้ เป็นไข้หนาวสั่นยังไม่กินเยอะขนาดนี้เลย แล้วไอ้ยานี้ผมเคยกินมา 1 ปี ผมรู้ว่ามันเป็นยังไง ผลข้างเคียงของมันก็น่ากลัว

ผมเลยตัดสินใจเข้าไปถามหมอหลังรับยาเสร็จ หมอบอกว่าไม่เยอะเกินไปหรอกสำหรับผม เขาคำนวณตามน้ำหนักตัวผม( 75 กิโล) เขาพูดว่าทำตามตำรา ผมก็เถียงเขาไม่ออก ผมพยายาม หยิบเหตุผลต่างๆเข้าไปคุยก็ได้คำตอบกลับมาว่า "งั้นเอางี้ กินยาครั้งละ 4 เม็ด 3 มื้อ แต่หมอแนะนำให้กิน 12 เม็ดทีเดียวดีกว่า" ยานี้ผมต้องเริ่มกินวันพรุ่งนี้ครับจนถึงวันที่ 20 หมอจะนัดไปตรวจดูอาการอีกที ซึ่งท่าทีและน้ำเสียงของคุณหมอตั้งแต่มาเจอ 3 ครั้ง เขาก็ดูไม่ค่อยเป้นมิตรเท่าไหร่นะครับ ดูไม่ใส่ใจ ไม่เคยขอดูตรงส่วนที่บวมหรือแม้แต่จะลองเอามือมาสัมผัสหน้าแข้งที่บวมๆของผมเลยด้วยซ้ำ หลายคนบอกว่าคุณหมอท่านนี้คือหมอเฉพาะทาง แต่ส่วนตัวผมไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า ทำไมถึงตัดสินใจให้กินยาที่มีผลข้างเคียงรุนแรงมากขนาดนี้ทั้งที่ผมยังแข็งแรงดีอยู่แท้ๆ ขนาดอาการเคยเป็นหนักในอดีตยังไม่เคยกินเยอะแบบนี้เลย

บอกตรงๆ เครียดครับ ไม่กล้ากินเลยที่เขาให้มา 12 เม็ด ถึงจะกินแค่ 2 อาทิตย์ก็เถอะ  เลยอยากลองปรึษาเพื่อนๆในนี้ดูก่อนว่าจะทำยังไง? ใครมีประสปการณ์เคยกินยังไงก้มาแชร์กันได้นะครับ แล้วเพื่อนๆนี่คิดว่าคุณหมอเขาทำเกินไปไหม?   ผมใช้ประกันสังคมอยู่ด้วยถ้าจะย้ายโรงบาลก็ต้องทำเรื่อง แต่ถาถามอาการผมตอนนี้เป้นไง ตอบได้ว่าปกติมากๆ แค่หน้าแข้งซ้ายบวมน้ำนิดนึง นอกนั้นผมยังมีแรงวิ่งแรงเดินปกติดีครับ