สวัสดีค่ะชาวห้องแป้ง
เดี๋ยวนี้ก่อน จขกท. จะตัดสินใจซื้ออะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะกูเกิ้ลหาข้อมูลเอาเองในเน็ต พันทิปเป็นเว็บที่ จขกท. เข้าอัพเดทข้อมูลต่างๆ เป็นประจำ วันนี้ถือโอกาสมารีวิวเป็นกระทู้แรกถึงผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองไปสอยตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างแล้วดูบ้าง เผื่อว่าจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินให้กับคุณผู้อ่านที่สนใจในสิ่งเดียวกันบ้างนะคะ
ก่อนอื่น ขอแจ้งสภาพผิวของ จขกท. นะคะ จขกท. เป็นคนผิวผสม ผิวขาว เมื่อก่อนผิวค่อนข้างดี ใช้อะไรไม่ค่อยจะแพ้ เดี๋ยวนี้เมื่ออายุมากขึ้น (30+) และสภาพการทำงานที่ค่อนข้างหนักทำให้นอนน้อยที่อาจส่งผลต่อสภาพผิวของ จขกท. คือ ผลิตภัณฑ์บางอย่าง ใช้แล้วสิวผดขึ้น หนังหน้าเยิน เกิดอาการแพ้ขึ้นมาทันที
ช่วงหลังๆ ผิวหน้าเริ่มกลับมาดีขึ้น พอมาสำรวจตัวเองแล้วพบว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (บางตัวก็ใช้ติดต่อกันมาเกิน 3 ปี แบบว่าหมดทีไรก็ต้องถวิลหากลับไปซื้อซ้ำ) เราใช้สิ่งเหล่านี้ และไหนๆ จะโพสท์ทั้งทีก็เอาให้ครบจบกระบวนการงานหน้าตามหัวกระทู้เลยล่ะกัน
มาเริ่มกันดีกว่า...
1. Cleanser
(1) Bifesta Cleansing Express Cleansing Gel
ล้าง คสอ. กันแดดชนิดกันน้ำออกได้หมดจด เราชอบตรงที่ไม่ต้องเปลืองสำลีเช็ดหน้า แค่บีบใส่มือ นวด แล้วล้างออก ก็หมดจด สำหรับมาสคาร่าแบบกันน้ำต้องใช้คอตตอนบัดเก็บรายละเอียดสักหน่อยก็จะจัดการกับสิ่งตกค้างออกไปได้ เคยนอกใจไปใช้ยี่ห้ออื่นแต่สุดท้ายก็กลับมาซื้ออีก เราชอบพอๆ กับ BISOUS BISOUS 1step Cleanser Perfect Facial Wash อารมณ์และวิธีใช้อย่างเดียวกัน ใช้สลับกันสองยี่ห้อนี้
(2) Physiogel Cleanser
เป็นเจลสีขาว ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น ได้ฟีลลิ่งที่อ่อนโยน ใช้หลังล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าตอนเช้ามันได้ฟีลลิ่งอ่อนโยนกับผิว ผิวไม่แห้งตึง
(3) Smooth E White Baby Face Scrub
จขกท. ชอบกลิ่นหอมๆ แบบสมูธอี และฟีลลิ่งดีกว่าแบบไม่มีสครับ มันจะเหลวกว่าแบบไม่มีเม็ดสครับ เราซื้อมาตอนไปต่างจังหวัดแล้วติดใจ ถ้าหมดจะซื้อแบบหลอดใหญ่ ^_^ ใช้อาทิตย์ละ 1 - 2 ครั้ง หรือในช่วงที่รู้สึกว่าลูบหน้าแล้วมันมีสิวเสี้ยนขรุขระไม่ราบรื่น ล้างหน้าเสร็จรู้สึกเบาสบายไม่แห้งตึง หอมอ่อนๆ ฟิน
2. Skin care
(1) Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate
ทีแรกเกือบจะไม่รักแล้วนะวิตซีขวดนี้ ล้างหน้าเสร็จทาก่อนทุกตัว ชอบความรู้สึกอุ่นๆ เมื่อแรกสัมผัสได้อารมณ์เหมือนเซรั่มมันซึมแทรกเข้าไปทำงานในชั้นผิวประมาณนั้น ช่วงแรกที่ใช้รู้สึกดีมาก แล้วเมื่อใช้ต่อเนื่อง ขยันทาทุกวันเช้าเย็นติดต่อกันมาสองเดือนก็เฉยๆ เลยหยุดใช้ไปซักประมาณ 2 อาทิตย์ โดยระหว่างนั้นเราลงแต่มอยซ์เจอร์รักษาความชุ่มชื้นอย่างเดียว แต่เพราะความเสียดายกลัวว่าวิตซีจะเสื่อมคุณภาพเลยกลับมาใช้ใหม่ ก็รู้สึกได้ทันทีว่าผิวหน้าดีขึ้นจนสังเกตได้ มันกระจ่างใส บอกไม่ถูก เลยกลับมารักกันอีกครั้ง และคงต้องมีขวดต่อไปอีกแน่นอน ^^
(2) Estee lauder Advanced Night Repair. Synchronized Recovery Complex II
เป็นเซรั่มที่ให้ฟีลลิ่งดีมากอ่ะ ถ้าใช้ตัวนี้อยู่ แล้วไปลองใช้ยี่ห้ออื่นก็จะต้องคิดถึงตัวนี้ ช่วงไหนเราโหมงานหนักติดต่อกันจะต้องพึ่งตัวนี้ BA บอกว่า สามารถเอามาใช้ตอนกลางวันได้ แต่เราเก็บไว้ใช้เฉพาะกลางคืนเพราะมันเปลือง ^^ ถ้าช่วงไหนนอนปกติจะใช้บ้างไม่ใช้บ้าง แบบว่านอกใจไปลองสิ่งอื่นไรงี้ ถ้ามีใครถามว่าอยากเริ่มต้นใช้เซรั่มดีๆ สักขวด เราจะแนะนำขวดนี้ค่ะ (และจะลงท้ายว่า ต้องไปเทสดูก่อนนะว่าแพ้ไหมมมม...)
(3) Clinique Dramatically Different Moisturizing Gel
ตัวนี้เราชอบมานานแสนนาน มันเบาสบายหน้า ช่วงไหนอยากพักหน้า หน้าแพ้อะไรมาก็จะไม่คิดอะไรมาก ทาแค่ตัวนี้พอ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเดียว รอผิวหน้าดีขึ้นถึงค่อยทาแบบที่มีสารบำรุงอื่นๆ เพิ่ม จริงๆ แล้วฮาดะลาโบะสีขาวก็ดีนะคะผิวฟูดีค่ะ แต่ยังไง สุดท้าย จขกท. ก็ต้องกลับมาที่ตัวนี้ เพราะระลึกถึงกลิ่นเฉพาะของคลีนิกส์เค้าล่ะ ที่สำคัญเราชอบเอามาผสมกับรองพื้นที่แห้งเร็ว หรือข้นมาก มันช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นมาก
(4) Kiehl's Lip Balm#1
กลิ่นจะออกแนวธรรมชาติของน้ำมันอ่ะค่ะ นวดก่อนนอน ตื่นมาริมฝีปากนุ่มเนียนไม่แตกระแห้ง ทาลิปสติกลื่นปี๊ดๆ ไม่ทำให้ปากของ จขกท. คล้ำ ชอบจริงๆ
(5) L'Oreal Revitalift laser X3 Eye Cream
ผิวรอบดวงตาสำคัญมาก เพราะถ้ามันเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลย แก้ยาก จขกท. ยังไม่เจอครีมตัวไหนที่ใช่เลยนะคะ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้ใช้ตัวนี้อยู่ ฟีลลิ่งก็ดีนะคะ ซึมซาบดี เนื้อเบา แต่ จขกท. ไม่ใช้ตัวแอพพลิเคเตอร์ที่ปลายหลอด เพราะเกรงว่าจะมีสิ่งสกปรกตกค้าง เลยใช้บีบใส่นิ้วนางเท่าเม็ดถั่วเขียวขยี้นิ้วนางสองข้างแล้วทารอบดวงตาเบาๆ
3. กันแดด
(1) Biore UV Aqua Rich watery essence water base SPF50+PA+++
เป็นกันแดดที่ไม่ทำให้หน้ามัน บางเบา ไม่หนัก ไม่หนา ไม่วอก และไม่รบกวนรองพื้น คสอ. ติดทน ทำให้ชีวิตการแต่งหน้าง่ายขึ้นจริงๆ ค่ะ จขกท. ไม่ชอบ 2 อย่างในกันแดดตัวนี้ คือ 1. กลิ่นซิตรัส ดีที่จะได้กลิ่นเฉพาะตอนทาเท่านั้น เลยยังอยู่ร่วมกันได้ 2. เนื้อครีม ที่ไม่รวมละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน บ้างก็ว่ามันเป็นแคปซูลกันแดดที่จะแตกตัวตอนทา ก็ว่ากันไป ตราบใดที่มันไม่มีผลกับประสิทธิภาพ ก็หยวนๆ ไป แต่ถ้ามันเป็นเนื้อเดียวกันสวยๆ ล่ะก็ จะถูกใจมาก
(2) Shiseido ANESSA Perfect UV sunscreen SPF50+ PA+++
ตัวนี้ดีสมดังที่ร่ำลือทุกประการ ดีมากๆ คอนเฟิร์มค่ะ ข้อเสียที่เป็นอันรู้กันคือล้างออกยาก แต่เรามีเคลนเซอร์ที่ดีแล้ว ยังไงก็ไม่กลัวอุดตันค่ะ แปลกตรงตัวเคลนเซอร์ที่เค้าขายคู่กันกลับทำได้ไม่น่าประทับใจ จขกท. มันยังคงตั้งตระหง่านอยู่ในตู้รอวันที่ต้องเอามาใช้ในยามฉุกเฉินต่อไป
(3) Cute Press Botanic Sunscreen Extra Protection for Body SPF 30 PA++
สำหรับตัวนี้ไม่รู้ว่ากันแดดได้ดีจริงหรือเปล่า แต่ จขกท. ใช้แทนโลชั่นทาตัวตอนกลางวัน กลิ่นก็หอมสะอาดดีด้วย ยี่ห้อนี้ถูกและดีมีหลายตัวค่ะ จขกท. เป็นแฟนสินค้าหลายอย่างของยี่ห้อนี้ ครีมอาบน้ำกับโลชั่นรอยัลเจลลี่นี่ก็ชอบ ช่วงเดือนเกิดก็ซื้อตุนเลยได้ลดตั้ง 40% แหน่ะ
4. คสอ.
(1) Chanel CC Cream Complete Correction SPF30 PA+++
ตัวนี้ทีแรกก็เกือบไม่รัก เพราะว่าทายากแห้งไว และพอผ่านไป 4 ชั่วโมง หน้ามันค่ะ จนมาพบวิธีใช้มันให้ได้ผลด้วยตัวเอง คือบีบผสมกับเจลเหลืองของคลีนิกส์ครึ่งต่อครึ่งแล้วทา มันใช่เลยค่ะ ทาง่ายขึ้น และผิวแลดูดี บางเบา แบบว่า Complete Correction จริงๆ ส่วนอาการหน้ามันนั้น จขกท. ทา Benefits Poreprofessional ช่วยคุมมันได้ระดับหนึ่งค่ะ ถ้ามีความมันขึ้นมาอีกก็ใช้ทิชชู่ซับเบาๆ
(2) MAC Select Moisture Cover Concealer
ตัวนี้ใช้เก็บรายละเอียดจุดบกพร่องต่างๆ ปกปิดได้แบบบางเบา เนื้อเหลวๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ถ้าหมดแล้วก็อยากจะลองค้นหาสิ่งใหม่ๆ และถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจก็คงต้องกลับมารักกันเหมือนเดิม
(3) MAC Lightful Marine Bright Formula SPF 25 PA+++ Foundation
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ดีตัวเลยค่ะ แต่กระแสไม่แรงเลย ปกติ จขกท. ใช้ดิออร์สโนว์กับเอ็กซ์ตรีมฟิต นอกใจมาลอง MAC ดูบ้างก็จัดว่าดีให้อยู่ range เดียวกัน ทาง่าย สีไม่ดรอป ทาทีไรใครๆ ก็ทักว่า ผิวดีจัง ใครจะไปรู้ว่าเราโบกอะไรไปตั้งมากมาย ^^
(4) MAC Pro Longwear Blush # Stay Pretty
สีหวานๆ สุภาพดีค่ะ ใช้ได้ทุกโอกาส งานเช้า กลางวัน กลางคืน จขกท. ก็ใช้ตัวนี้ แต่ถ้าอยากได้ความแกลม จขกท. จะปัด The Balm Hot Mama Blush เพิ่มชิมเมอร์วิ๊งว๊างเล่นกับแสงสวยดีค่ะ
(5) IN2IT Gel liner pen waterproof #GL 01 xtreme black
ถูกและดี ไม่ต้องเหลา เขียนลื่น ไม่เลอะเทอะ ดำเข้มสะใจค่ะ สำหรับ จขกท. ถ้าทาอินเนอร์ไลน์ต้องระวังไม่ทาใกล้หัวตามากนัก เพราะอาจพลาดเลอะได้เหมือนกันค่ะ ^^"
(6) IN2IT Waterproof Eyebrow Liner WB 02 dark brown
ถูกและดีอีกเช่นกัน จขกท. ซื้อตอนซื้อ 1 แถม 1 ไม่ต้องเหลา เขียนสร้างโครงคิ้วแล้วใช้แปรงปัดให้ฟุ้งๆ ที่หัวคิ้วก็สวยเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน ไม่แพ้แบรนด์ราคาแพงๆ เลย
(7) Lifeford hi-precise eye pen
ถูกและดีอีกตัวค่ะ ซื้อไม่รู้กี่แท่งแล้ว เป็นหัวพู่กันเขียนง่าย ไม่เลอะเลือน ไม่ลอกเป็นแผ่น
(8) Dior Addict Lip Glow FPS 10 SPF
เป็นลิปที่ จขกท. ชอบมากๆ ทาแล้วเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ ได้สีชมพูหวานๆ สุขภาพดี บำรุงริมฝีปากไม่ให้ดำคล้ำด้วย จขกท. ลองใช้ลิปแคร์เปลี่ยนสียี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่สวยเท่าแท่งนี้ ใช้มาไม่รู้กี่แท่งแล้วอีกเหมือนกันค่ะ จะซื้อต่อไปเรื่อยๆ อย่าเลิกผลิตนะคะ
(9) Dior Addict High Shine # 376 Rose Tendance Trendy Pink
สีหวานๆ สุภาพๆ จขกท. ชอบลิปดิออร์ตรงเทคโนโลยีเหลือบสีของเนื้อลิปสติกอ่ะค่ะ สีของเค้าจะสวยแตกต่าง และรุ่นนี้เนื้อดีไม่แห้ง ไม่เป็นคราบ แต่สีไม่แน่นถึงขนาดปิดสีปากมิดนะคะ คิดอะไรไม่ออกก็แท่งนี้ตลอดค่ะ
(10) Bonavoce Volume Mascara
อันนี้มันโผล่ติดมาในภาพเพราะเป็นมาสคาร่าที่ใช้อยู่ตอนนี้ (แต่ไม่ได้ดีที่สุดอ่ะค่ะ) สีดำเข้มดี ปัด 3 ทีพอ เพราะมากกว่า 3 ทีขนตาตก จะใช้จนกว่าจะหมดค่ะ แล้วจะเปลี่ยนไปลอง Loreal Architect ดูบ้าง
5. น้ำหอม 3 กลิ่นนี้ เป็นกลิ่นโปรดที่ จขกท. ซื้อซ้ำตลอดไม่ยอมเปลี่ยนใจค่ะ
(1) Issey Miyake L'eau D'issey Florale Eau De Toilette
กลิ่นหอมสดใสวัยรุ่น ไม่รู้เป็นไรฉีดเมื่อไหร่รู้สึกอ่อนวัยเหมือนวัย 20 ฉีดแทบทุกวัน
(2) Christian Dior J'Adore Eau De Parfum Spray
กลิ่นหอมหรูแบบสง่างาม วันพิเศษๆ เป็นทางการ หรือแม้แต่เข้าประชุมนัดสำคัญ จขกท. มักฉีดกลิ่นนี้เพื่อสร้างความมั่นใจค่ะ
(3) Christian Dior Miss Dior Cherie
จขกท. ซื้อเพราะนาตาลี พอร์ทแมนเป็นพรีเซนเตอร์จริงๆ กลิ่นนี้ก็เหมือนบุคลิกของนาง สวย ฉลาด contemporary เมื่อไหร่ที่ จขกท. อยากจะรู้สึกแตกต่างจากทุกวัน แบบว่า 2 กลิ่นข้างบนเป็นอะไรที่ใช่สำหรับ จขกท. แค่อยากเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็จะเลือกฉีดกลิ่นนี้ค่ะ
จบละ ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
ขออภัยที่ไม่ได้ใส่ราคามา เพราะ จขกท. ซื้อใช้นานแล้ว และไม่ได้จดเอาไว้ค่ะ หวังว่าจะมีคนชอบเหมือนกันค่ะ
ชื่อสินค้า: Smooth e, physiogel, bifesta, estee lauder, kiehl's, loreal, clinique, biore, shiseido, cute press, issey miyake, dior, chanel, mac, in2it, lifeford, bonavoce
คะแนน:
[CR] [CR]:::: รีวิว Cleanser + Skin care + คสอ. + กันแดด + น้ำหอมที่ใช้บ่อยที่สุดและประทับใจที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ::::
เดี๋ยวนี้ก่อน จขกท. จะตัดสินใจซื้ออะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะกูเกิ้ลหาข้อมูลเอาเองในเน็ต พันทิปเป็นเว็บที่ จขกท. เข้าอัพเดทข้อมูลต่างๆ เป็นประจำ วันนี้ถือโอกาสมารีวิวเป็นกระทู้แรกถึงผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองไปสอยตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างแล้วดูบ้าง เผื่อว่าจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินให้กับคุณผู้อ่านที่สนใจในสิ่งเดียวกันบ้างนะคะ
ก่อนอื่น ขอแจ้งสภาพผิวของ จขกท. นะคะ จขกท. เป็นคนผิวผสม ผิวขาว เมื่อก่อนผิวค่อนข้างดี ใช้อะไรไม่ค่อยจะแพ้ เดี๋ยวนี้เมื่ออายุมากขึ้น (30+) และสภาพการทำงานที่ค่อนข้างหนักทำให้นอนน้อยที่อาจส่งผลต่อสภาพผิวของ จขกท. คือ ผลิตภัณฑ์บางอย่าง ใช้แล้วสิวผดขึ้น หนังหน้าเยิน เกิดอาการแพ้ขึ้นมาทันที
ช่วงหลังๆ ผิวหน้าเริ่มกลับมาดีขึ้น พอมาสำรวจตัวเองแล้วพบว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (บางตัวก็ใช้ติดต่อกันมาเกิน 3 ปี แบบว่าหมดทีไรก็ต้องถวิลหากลับไปซื้อซ้ำ) เราใช้สิ่งเหล่านี้ และไหนๆ จะโพสท์ทั้งทีก็เอาให้ครบจบกระบวนการงานหน้าตามหัวกระทู้เลยล่ะกัน
มาเริ่มกันดีกว่า...
1. Cleanser
(1) Bifesta Cleansing Express Cleansing Gel
ล้าง คสอ. กันแดดชนิดกันน้ำออกได้หมดจด เราชอบตรงที่ไม่ต้องเปลืองสำลีเช็ดหน้า แค่บีบใส่มือ นวด แล้วล้างออก ก็หมดจด สำหรับมาสคาร่าแบบกันน้ำต้องใช้คอตตอนบัดเก็บรายละเอียดสักหน่อยก็จะจัดการกับสิ่งตกค้างออกไปได้ เคยนอกใจไปใช้ยี่ห้ออื่นแต่สุดท้ายก็กลับมาซื้ออีก เราชอบพอๆ กับ BISOUS BISOUS 1step Cleanser Perfect Facial Wash อารมณ์และวิธีใช้อย่างเดียวกัน ใช้สลับกันสองยี่ห้อนี้
(2) Physiogel Cleanser
เป็นเจลสีขาว ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น ได้ฟีลลิ่งที่อ่อนโยน ใช้หลังล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าตอนเช้ามันได้ฟีลลิ่งอ่อนโยนกับผิว ผิวไม่แห้งตึง
(3) Smooth E White Baby Face Scrub
จขกท. ชอบกลิ่นหอมๆ แบบสมูธอี และฟีลลิ่งดีกว่าแบบไม่มีสครับ มันจะเหลวกว่าแบบไม่มีเม็ดสครับ เราซื้อมาตอนไปต่างจังหวัดแล้วติดใจ ถ้าหมดจะซื้อแบบหลอดใหญ่ ^_^ ใช้อาทิตย์ละ 1 - 2 ครั้ง หรือในช่วงที่รู้สึกว่าลูบหน้าแล้วมันมีสิวเสี้ยนขรุขระไม่ราบรื่น ล้างหน้าเสร็จรู้สึกเบาสบายไม่แห้งตึง หอมอ่อนๆ ฟิน
2. Skin care
(1) Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate
ทีแรกเกือบจะไม่รักแล้วนะวิตซีขวดนี้ ล้างหน้าเสร็จทาก่อนทุกตัว ชอบความรู้สึกอุ่นๆ เมื่อแรกสัมผัสได้อารมณ์เหมือนเซรั่มมันซึมแทรกเข้าไปทำงานในชั้นผิวประมาณนั้น ช่วงแรกที่ใช้รู้สึกดีมาก แล้วเมื่อใช้ต่อเนื่อง ขยันทาทุกวันเช้าเย็นติดต่อกันมาสองเดือนก็เฉยๆ เลยหยุดใช้ไปซักประมาณ 2 อาทิตย์ โดยระหว่างนั้นเราลงแต่มอยซ์เจอร์รักษาความชุ่มชื้นอย่างเดียว แต่เพราะความเสียดายกลัวว่าวิตซีจะเสื่อมคุณภาพเลยกลับมาใช้ใหม่ ก็รู้สึกได้ทันทีว่าผิวหน้าดีขึ้นจนสังเกตได้ มันกระจ่างใส บอกไม่ถูก เลยกลับมารักกันอีกครั้ง และคงต้องมีขวดต่อไปอีกแน่นอน ^^
(2) Estee lauder Advanced Night Repair. Synchronized Recovery Complex II
เป็นเซรั่มที่ให้ฟีลลิ่งดีมากอ่ะ ถ้าใช้ตัวนี้อยู่ แล้วไปลองใช้ยี่ห้ออื่นก็จะต้องคิดถึงตัวนี้ ช่วงไหนเราโหมงานหนักติดต่อกันจะต้องพึ่งตัวนี้ BA บอกว่า สามารถเอามาใช้ตอนกลางวันได้ แต่เราเก็บไว้ใช้เฉพาะกลางคืนเพราะมันเปลือง ^^ ถ้าช่วงไหนนอนปกติจะใช้บ้างไม่ใช้บ้าง แบบว่านอกใจไปลองสิ่งอื่นไรงี้ ถ้ามีใครถามว่าอยากเริ่มต้นใช้เซรั่มดีๆ สักขวด เราจะแนะนำขวดนี้ค่ะ (และจะลงท้ายว่า ต้องไปเทสดูก่อนนะว่าแพ้ไหมมมม...)
(3) Clinique Dramatically Different Moisturizing Gel
ตัวนี้เราชอบมานานแสนนาน มันเบาสบายหน้า ช่วงไหนอยากพักหน้า หน้าแพ้อะไรมาก็จะไม่คิดอะไรมาก ทาแค่ตัวนี้พอ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเดียว รอผิวหน้าดีขึ้นถึงค่อยทาแบบที่มีสารบำรุงอื่นๆ เพิ่ม จริงๆ แล้วฮาดะลาโบะสีขาวก็ดีนะคะผิวฟูดีค่ะ แต่ยังไง สุดท้าย จขกท. ก็ต้องกลับมาที่ตัวนี้ เพราะระลึกถึงกลิ่นเฉพาะของคลีนิกส์เค้าล่ะ ที่สำคัญเราชอบเอามาผสมกับรองพื้นที่แห้งเร็ว หรือข้นมาก มันช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นมาก
(4) Kiehl's Lip Balm#1
กลิ่นจะออกแนวธรรมชาติของน้ำมันอ่ะค่ะ นวดก่อนนอน ตื่นมาริมฝีปากนุ่มเนียนไม่แตกระแห้ง ทาลิปสติกลื่นปี๊ดๆ ไม่ทำให้ปากของ จขกท. คล้ำ ชอบจริงๆ
(5) L'Oreal Revitalift laser X3 Eye Cream
ผิวรอบดวงตาสำคัญมาก เพราะถ้ามันเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลย แก้ยาก จขกท. ยังไม่เจอครีมตัวไหนที่ใช่เลยนะคะ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้ใช้ตัวนี้อยู่ ฟีลลิ่งก็ดีนะคะ ซึมซาบดี เนื้อเบา แต่ จขกท. ไม่ใช้ตัวแอพพลิเคเตอร์ที่ปลายหลอด เพราะเกรงว่าจะมีสิ่งสกปรกตกค้าง เลยใช้บีบใส่นิ้วนางเท่าเม็ดถั่วเขียวขยี้นิ้วนางสองข้างแล้วทารอบดวงตาเบาๆ
3. กันแดด
(1) Biore UV Aqua Rich watery essence water base SPF50+PA+++
เป็นกันแดดที่ไม่ทำให้หน้ามัน บางเบา ไม่หนัก ไม่หนา ไม่วอก และไม่รบกวนรองพื้น คสอ. ติดทน ทำให้ชีวิตการแต่งหน้าง่ายขึ้นจริงๆ ค่ะ จขกท. ไม่ชอบ 2 อย่างในกันแดดตัวนี้ คือ 1. กลิ่นซิตรัส ดีที่จะได้กลิ่นเฉพาะตอนทาเท่านั้น เลยยังอยู่ร่วมกันได้ 2. เนื้อครีม ที่ไม่รวมละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน บ้างก็ว่ามันเป็นแคปซูลกันแดดที่จะแตกตัวตอนทา ก็ว่ากันไป ตราบใดที่มันไม่มีผลกับประสิทธิภาพ ก็หยวนๆ ไป แต่ถ้ามันเป็นเนื้อเดียวกันสวยๆ ล่ะก็ จะถูกใจมาก
(2) Shiseido ANESSA Perfect UV sunscreen SPF50+ PA+++
ตัวนี้ดีสมดังที่ร่ำลือทุกประการ ดีมากๆ คอนเฟิร์มค่ะ ข้อเสียที่เป็นอันรู้กันคือล้างออกยาก แต่เรามีเคลนเซอร์ที่ดีแล้ว ยังไงก็ไม่กลัวอุดตันค่ะ แปลกตรงตัวเคลนเซอร์ที่เค้าขายคู่กันกลับทำได้ไม่น่าประทับใจ จขกท. มันยังคงตั้งตระหง่านอยู่ในตู้รอวันที่ต้องเอามาใช้ในยามฉุกเฉินต่อไป
(3) Cute Press Botanic Sunscreen Extra Protection for Body SPF 30 PA++
สำหรับตัวนี้ไม่รู้ว่ากันแดดได้ดีจริงหรือเปล่า แต่ จขกท. ใช้แทนโลชั่นทาตัวตอนกลางวัน กลิ่นก็หอมสะอาดดีด้วย ยี่ห้อนี้ถูกและดีมีหลายตัวค่ะ จขกท. เป็นแฟนสินค้าหลายอย่างของยี่ห้อนี้ ครีมอาบน้ำกับโลชั่นรอยัลเจลลี่นี่ก็ชอบ ช่วงเดือนเกิดก็ซื้อตุนเลยได้ลดตั้ง 40% แหน่ะ
4. คสอ.
(1) Chanel CC Cream Complete Correction SPF30 PA+++
ตัวนี้ทีแรกก็เกือบไม่รัก เพราะว่าทายากแห้งไว และพอผ่านไป 4 ชั่วโมง หน้ามันค่ะ จนมาพบวิธีใช้มันให้ได้ผลด้วยตัวเอง คือบีบผสมกับเจลเหลืองของคลีนิกส์ครึ่งต่อครึ่งแล้วทา มันใช่เลยค่ะ ทาง่ายขึ้น และผิวแลดูดี บางเบา แบบว่า Complete Correction จริงๆ ส่วนอาการหน้ามันนั้น จขกท. ทา Benefits Poreprofessional ช่วยคุมมันได้ระดับหนึ่งค่ะ ถ้ามีความมันขึ้นมาอีกก็ใช้ทิชชู่ซับเบาๆ
(2) MAC Select Moisture Cover Concealer
ตัวนี้ใช้เก็บรายละเอียดจุดบกพร่องต่างๆ ปกปิดได้แบบบางเบา เนื้อเหลวๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ถ้าหมดแล้วก็อยากจะลองค้นหาสิ่งใหม่ๆ และถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจก็คงต้องกลับมารักกันเหมือนเดิม
(3) MAC Lightful Marine Bright Formula SPF 25 PA+++ Foundation
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ดีตัวเลยค่ะ แต่กระแสไม่แรงเลย ปกติ จขกท. ใช้ดิออร์สโนว์กับเอ็กซ์ตรีมฟิต นอกใจมาลอง MAC ดูบ้างก็จัดว่าดีให้อยู่ range เดียวกัน ทาง่าย สีไม่ดรอป ทาทีไรใครๆ ก็ทักว่า ผิวดีจัง ใครจะไปรู้ว่าเราโบกอะไรไปตั้งมากมาย ^^
(4) MAC Pro Longwear Blush # Stay Pretty
สีหวานๆ สุภาพดีค่ะ ใช้ได้ทุกโอกาส งานเช้า กลางวัน กลางคืน จขกท. ก็ใช้ตัวนี้ แต่ถ้าอยากได้ความแกลม จขกท. จะปัด The Balm Hot Mama Blush เพิ่มชิมเมอร์วิ๊งว๊างเล่นกับแสงสวยดีค่ะ
(5) IN2IT Gel liner pen waterproof #GL 01 xtreme black
ถูกและดี ไม่ต้องเหลา เขียนลื่น ไม่เลอะเทอะ ดำเข้มสะใจค่ะ สำหรับ จขกท. ถ้าทาอินเนอร์ไลน์ต้องระวังไม่ทาใกล้หัวตามากนัก เพราะอาจพลาดเลอะได้เหมือนกันค่ะ ^^"
(6) IN2IT Waterproof Eyebrow Liner WB 02 dark brown
ถูกและดีอีกเช่นกัน จขกท. ซื้อตอนซื้อ 1 แถม 1 ไม่ต้องเหลา เขียนสร้างโครงคิ้วแล้วใช้แปรงปัดให้ฟุ้งๆ ที่หัวคิ้วก็สวยเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน ไม่แพ้แบรนด์ราคาแพงๆ เลย
(7) Lifeford hi-precise eye pen
ถูกและดีอีกตัวค่ะ ซื้อไม่รู้กี่แท่งแล้ว เป็นหัวพู่กันเขียนง่าย ไม่เลอะเลือน ไม่ลอกเป็นแผ่น
(8) Dior Addict Lip Glow FPS 10 SPF
เป็นลิปที่ จขกท. ชอบมากๆ ทาแล้วเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ ได้สีชมพูหวานๆ สุขภาพดี บำรุงริมฝีปากไม่ให้ดำคล้ำด้วย จขกท. ลองใช้ลิปแคร์เปลี่ยนสียี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่สวยเท่าแท่งนี้ ใช้มาไม่รู้กี่แท่งแล้วอีกเหมือนกันค่ะ จะซื้อต่อไปเรื่อยๆ อย่าเลิกผลิตนะคะ
(9) Dior Addict High Shine # 376 Rose Tendance Trendy Pink
สีหวานๆ สุภาพๆ จขกท. ชอบลิปดิออร์ตรงเทคโนโลยีเหลือบสีของเนื้อลิปสติกอ่ะค่ะ สีของเค้าจะสวยแตกต่าง และรุ่นนี้เนื้อดีไม่แห้ง ไม่เป็นคราบ แต่สีไม่แน่นถึงขนาดปิดสีปากมิดนะคะ คิดอะไรไม่ออกก็แท่งนี้ตลอดค่ะ
(10) Bonavoce Volume Mascara
อันนี้มันโผล่ติดมาในภาพเพราะเป็นมาสคาร่าที่ใช้อยู่ตอนนี้ (แต่ไม่ได้ดีที่สุดอ่ะค่ะ) สีดำเข้มดี ปัด 3 ทีพอ เพราะมากกว่า 3 ทีขนตาตก จะใช้จนกว่าจะหมดค่ะ แล้วจะเปลี่ยนไปลอง Loreal Architect ดูบ้าง
5. น้ำหอม 3 กลิ่นนี้ เป็นกลิ่นโปรดที่ จขกท. ซื้อซ้ำตลอดไม่ยอมเปลี่ยนใจค่ะ
(1) Issey Miyake L'eau D'issey Florale Eau De Toilette
กลิ่นหอมสดใสวัยรุ่น ไม่รู้เป็นไรฉีดเมื่อไหร่รู้สึกอ่อนวัยเหมือนวัย 20 ฉีดแทบทุกวัน
(2) Christian Dior J'Adore Eau De Parfum Spray
กลิ่นหอมหรูแบบสง่างาม วันพิเศษๆ เป็นทางการ หรือแม้แต่เข้าประชุมนัดสำคัญ จขกท. มักฉีดกลิ่นนี้เพื่อสร้างความมั่นใจค่ะ
(3) Christian Dior Miss Dior Cherie
จขกท. ซื้อเพราะนาตาลี พอร์ทแมนเป็นพรีเซนเตอร์จริงๆ กลิ่นนี้ก็เหมือนบุคลิกของนาง สวย ฉลาด contemporary เมื่อไหร่ที่ จขกท. อยากจะรู้สึกแตกต่างจากทุกวัน แบบว่า 2 กลิ่นข้างบนเป็นอะไรที่ใช่สำหรับ จขกท. แค่อยากเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็จะเลือกฉีดกลิ่นนี้ค่ะ
จบละ ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
ขออภัยที่ไม่ได้ใส่ราคามา เพราะ จขกท. ซื้อใช้นานแล้ว และไม่ได้จดเอาไว้ค่ะ หวังว่าจะมีคนชอบเหมือนกันค่ะ