ปัจจุบันอายุ 39 ปีค่ะ แต่เรื่องนี้เกิดตอนอายุ 10 ขวบ และไม่เคยลืมเลยค่ะ
ตอนนั้น อยู่ชั้นป.4 บ้านที่อยู่เป็นลานมัน บ่านป้าน่ะค่ะ ไปอาศัยป้าอยู่ บ้านชั้นเดียว บริเวณบ้านกว้างเป็นไร่ๆเลยค่ะ มีลานมัน มีฉางเก่า เอาไว้จอดรถและเก็บมันแห้ง ท้ายลานมันเป็นสวนใหญ่ๆรกๆ มีสระน้ำใหญ่ เฉพาะสวนก็ประมาณไร่นึงแล้วค่ะ บ้านป้าบริเวณกว้างมากกกก
ต้องบอกก่อนว่า บ้านป้างูเข้าบ่อยมากค่ะ เพราะติดกับป่า พื้นที่รกเรื้อ เข้ามานอนในห้องน้ำบ่อย ต้องคอยดูดีๆค่ะ เขาจะเข้ามาทางรูระบายน้ำที่ไม่มีตะแกรงกั้นค่ะ ก็งูเหลือมบ้าง สิงบ้าง หมาไปเจอเห่าๆอยู่ใต้ตู้เย็นบ้าง กลัวจนหลอนเลยค่ะ แต่ก็ต้องอยู่
วันที่เกิดเหตุ วันนั้นเดินอยุ่หน้าบ้าน มองเห็นงูตัวดำๆใหญ่พอสมควร กำลังเลื้อยช้าๆ ไปทางบ้านป้า ซ้ายมือของบ้านเป็นสวนมะม่วง อย่ากระนั้นเลย เราไม้ขว้างให้ไปทางสวนดีกว่า จะได้ไม่เข้าบ้านป้า ตาก็เขม้นมองหัวของงู นึกถึงบทเรียนตอนเรียนกับครู งูมีพิษจะมีหัวที่บานๆ (แผ่แม่เบี้ย) ตัวนี้หัวกลมๆแสดงว่าไม่มีพิษ คือคิดเอาเองค่ะ เพราะเคยดูรูปงูมีพิษกับครู มั่นใจมาก (โปรดสอนบุตรหลานของท่านด้วยเรื่องนี้)
เราเอาไม้ท่อนๆแถวฉางมาสองอัน ขว้างไปหามันอันนึง กะให้โดนตรงข้างๆตัวนะคะ ไม่ตั้งใจให้บาดเจ็บ แต่......
เค้าหันกลับมาแผ่พังพานอันใหญ่มากกกกกก ยกตัวขึ้นเท่ากับความสูงของเราหน้าเรากับเขาอยู่ห่างกันแค่ไม่เกินเมตรห้าสิบค่ะ (ความทรงจำเืรื่องหน้าเค่าติดตาไปอีกหลายปีเลยค่ะ ) ตาเค้าน่ากลัวมาก หัวโงนเงนไปมา หางไม่น่าจะตั้งได้ขนาดนั้น แต่เค้าเหมือนยืนได้เลยค่ะ โอย น่ากลัวมากกก
เราตัวแข็งไปเลย ตามองแต่ตาเค้า ไม้ยังถือค้างในมืออีกอัน มองกันอยู่นานมาก จำไม่ได้ว่ากี่นาที ค่ะ แต่ใจจะขาด แต่พอคิดอยู่ในใจว่า " หนูไม่ได้คิดจะตีคุณเลยค่ะ หนูแค่อยากไล่ให้คุณไปทางสวน ไม่อยากให้เข้าบ้านค่ะ " เรายืนนิ่งนี่คือขาแข็งนะคะ อยากวิ่งแต่วิ่งไม่ออก ซึ่งมาคิดดูหลังจากโตแล้วว่า ถ้าวิ่งออก คงโดนฉกตายค่ะ โชคดีมากๆ
หลังจากพูดในใจ เ้ค้าค่อยๆลดหัวลงค่ะ แล้วก็เลื้อยช้าๆไปทางสวน ไม่ไปทางบ้านอีก เราเริ่มเคลื่อนไหวได้ ก็วิ่งตาตั้งไปหาป้า ร้องให้ใหญ่ ฝันร้ายไปอีกนานมากค่ะ
ประสบการณ์เผชิญหน้างูจงอาง แบบตาจ้องตา
ตอนนั้น อยู่ชั้นป.4 บ้านที่อยู่เป็นลานมัน บ่านป้าน่ะค่ะ ไปอาศัยป้าอยู่ บ้านชั้นเดียว บริเวณบ้านกว้างเป็นไร่ๆเลยค่ะ มีลานมัน มีฉางเก่า เอาไว้จอดรถและเก็บมันแห้ง ท้ายลานมันเป็นสวนใหญ่ๆรกๆ มีสระน้ำใหญ่ เฉพาะสวนก็ประมาณไร่นึงแล้วค่ะ บ้านป้าบริเวณกว้างมากกกก
ต้องบอกก่อนว่า บ้านป้างูเข้าบ่อยมากค่ะ เพราะติดกับป่า พื้นที่รกเรื้อ เข้ามานอนในห้องน้ำบ่อย ต้องคอยดูดีๆค่ะ เขาจะเข้ามาทางรูระบายน้ำที่ไม่มีตะแกรงกั้นค่ะ ก็งูเหลือมบ้าง สิงบ้าง หมาไปเจอเห่าๆอยู่ใต้ตู้เย็นบ้าง กลัวจนหลอนเลยค่ะ แต่ก็ต้องอยู่
วันที่เกิดเหตุ วันนั้นเดินอยุ่หน้าบ้าน มองเห็นงูตัวดำๆใหญ่พอสมควร กำลังเลื้อยช้าๆ ไปทางบ้านป้า ซ้ายมือของบ้านเป็นสวนมะม่วง อย่ากระนั้นเลย เราไม้ขว้างให้ไปทางสวนดีกว่า จะได้ไม่เข้าบ้านป้า ตาก็เขม้นมองหัวของงู นึกถึงบทเรียนตอนเรียนกับครู งูมีพิษจะมีหัวที่บานๆ (แผ่แม่เบี้ย) ตัวนี้หัวกลมๆแสดงว่าไม่มีพิษ คือคิดเอาเองค่ะ เพราะเคยดูรูปงูมีพิษกับครู มั่นใจมาก (โปรดสอนบุตรหลานของท่านด้วยเรื่องนี้)
เราเอาไม้ท่อนๆแถวฉางมาสองอัน ขว้างไปหามันอันนึง กะให้โดนตรงข้างๆตัวนะคะ ไม่ตั้งใจให้บาดเจ็บ แต่......
เค้าหันกลับมาแผ่พังพานอันใหญ่มากกกกกก ยกตัวขึ้นเท่ากับความสูงของเราหน้าเรากับเขาอยู่ห่างกันแค่ไม่เกินเมตรห้าสิบค่ะ (ความทรงจำเืรื่องหน้าเค่าติดตาไปอีกหลายปีเลยค่ะ ) ตาเค้าน่ากลัวมาก หัวโงนเงนไปมา หางไม่น่าจะตั้งได้ขนาดนั้น แต่เค้าเหมือนยืนได้เลยค่ะ โอย น่ากลัวมากกก
เราตัวแข็งไปเลย ตามองแต่ตาเค้า ไม้ยังถือค้างในมืออีกอัน มองกันอยู่นานมาก จำไม่ได้ว่ากี่นาที ค่ะ แต่ใจจะขาด แต่พอคิดอยู่ในใจว่า " หนูไม่ได้คิดจะตีคุณเลยค่ะ หนูแค่อยากไล่ให้คุณไปทางสวน ไม่อยากให้เข้าบ้านค่ะ " เรายืนนิ่งนี่คือขาแข็งนะคะ อยากวิ่งแต่วิ่งไม่ออก ซึ่งมาคิดดูหลังจากโตแล้วว่า ถ้าวิ่งออก คงโดนฉกตายค่ะ โชคดีมากๆ
หลังจากพูดในใจ เ้ค้าค่อยๆลดหัวลงค่ะ แล้วก็เลื้อยช้าๆไปทางสวน ไม่ไปทางบ้านอีก เราเริ่มเคลื่อนไหวได้ ก็วิ่งตาตั้งไปหาป้า ร้องให้ใหญ่ ฝันร้ายไปอีกนานมากค่ะ