นักร้องดัง "ใบเตย อาร์สยาม" แจงคลิป/ภาพชายหนุ่มขี้เมาบุกขึ้นบนเวทีทำท่าจะกอดหอมก่อนยัดเงินใส่กางเกงเป็นหลานแม่และเป็นเกย์ ด้านกลุ่มแอนตี้ไม่เชื่อ บอกเกย์จริงแถมยังเป็นญาติกันไม่น่าจะทำน่าเกลียดแบบนั้น
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งในส่วนของนักร้องลูกทุ่งจากค่ายอาร์สยาม "ใบเตย" สุธีวัน ทวีสิน หลังไม่กี่วันก่อนที่อินสตาแกรม @anti_baitoeyrsiam ได้มีการเผยแพร่ภาพและคลิประหว่างที่เจ้าตัวกำลังแสดงคอนเสิร์ตก่อนมีชายที่อยู่ในลักษณะอาการมึนเมาสุราคนหนึ่งขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเข้าไปทำท่าเหมือนจะกอดและหอมไปที่ใบหน้า ขณะที่ตัวนักร้องหญิงเองนั้นก็มีท่าทีที่ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังได้ยัดกระดาษซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินเข้าไปในส่วนขากางเกงขาสั้นของสาวใบเตยที่สวมอยู่ด้วยก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเชิญตัวลงไป (คลิกดูคลิปได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=5ZkdsPFY6yE)
ทั้งนี้หลังจากที่ทั้งภาพและคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาทางด้านของสาวใบเตยก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ นสพ.คมชัดลึกถึงเรื่องที่ว่านี้โดยบอกว่าคลิปที่เห็นนั้นเป็นคลิปที่ตนเองไปโชว์ในผับ "จีสตาร์" ผับเกย์ชื่อดังและหนุ่มคนดังกล่าวนั้นก็ไม่ใช่ผู้ชายแท้แถมยังเป็นหลานของมารดาตนเอง ส่วนที่เหมือนมีการซบนัวเนียกันนั้นเจ้าตัวแจงว่าอีกฝ่ายแค่มากระซิบขอเพลงเนื่องเพราะเสียงดนตรีดังนั่นเอง
"ถามว่ากลัวคนเข้าใจผิดไหม หนูแค่อยากจะบอกว่าหนูเองทำงานตรงนี้มีหน้าที่สร้างความบันเทิง บางทีเจอคนเมา หรือคนคิดไม่ดี เข้ามาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่ด้วยหน้าที่ของเรา เราทำอะไรไม่ได้นอกจากว่าทำงานของเราให้ดีที่สุด ทั้งที่ใจจริงเราอยากที่จะหยุดร้องและเดินลงจากเวที หรืออยากที่จะเอาไมค์ตีหัว แต่ทุกครั้งในการทำงาน เราพยายามเซฟตัวเองอยู่แล้ว"
อยางไรก็ตาม แม้เจ้าตัวจะชี้แจงไปแล้วทว่าในโลกออนไลน์โดยเฉพาะในส่วนของอินสตาแกรม แอนตี้ ใบเตยอาร์สยามนั้นก็ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้กันอยู่ โดยบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่าชายคนดังกล่าวเป็นเกย์จริงหรือ ถ้าเป็นเกย์ทำไมถึงได้ทำท่าทางในลักษณะที่ผู้ชายแท้ๆ กระทำกับสาวๆ โดยเฉพาะการยัดเงินเข้าใปในกางเกง แถมยิ่งยังเป็นญาติกันอีกต่างหาก นอกจากนี้ในส่วนของคลิปที่มีการโพสต์ไว้ในยูทิวบ์นั้นมีรายงานว่าหลายคลิปหรือเกือบจะทั้งหมดได้ถูกลบไปแล้ว
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000014197
แอนตี้ "ใบเตย" ไม่เชื่อนักร้องสาวแจงคลิปหนุ่มยัดเงินเข้ากางเกงเป็นเกย์
นักร้องดัง "ใบเตย อาร์สยาม" แจงคลิป/ภาพชายหนุ่มขี้เมาบุกขึ้นบนเวทีทำท่าจะกอดหอมก่อนยัดเงินใส่กางเกงเป็นหลานแม่และเป็นเกย์ ด้านกลุ่มแอนตี้ไม่เชื่อ บอกเกย์จริงแถมยังเป็นญาติกันไม่น่าจะทำน่าเกลียดแบบนั้น
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งในส่วนของนักร้องลูกทุ่งจากค่ายอาร์สยาม "ใบเตย" สุธีวัน ทวีสิน หลังไม่กี่วันก่อนที่อินสตาแกรม @anti_baitoeyrsiam ได้มีการเผยแพร่ภาพและคลิประหว่างที่เจ้าตัวกำลังแสดงคอนเสิร์ตก่อนมีชายที่อยู่ในลักษณะอาการมึนเมาสุราคนหนึ่งขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเข้าไปทำท่าเหมือนจะกอดและหอมไปที่ใบหน้า ขณะที่ตัวนักร้องหญิงเองนั้นก็มีท่าทีที่ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังได้ยัดกระดาษซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินเข้าไปในส่วนขากางเกงขาสั้นของสาวใบเตยที่สวมอยู่ด้วยก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเชิญตัวลงไป (คลิกดูคลิปได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=5ZkdsPFY6yE)
ทั้งนี้หลังจากที่ทั้งภาพและคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาทางด้านของสาวใบเตยก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ นสพ.คมชัดลึกถึงเรื่องที่ว่านี้โดยบอกว่าคลิปที่เห็นนั้นเป็นคลิปที่ตนเองไปโชว์ในผับ "จีสตาร์" ผับเกย์ชื่อดังและหนุ่มคนดังกล่าวนั้นก็ไม่ใช่ผู้ชายแท้แถมยังเป็นหลานของมารดาตนเอง ส่วนที่เหมือนมีการซบนัวเนียกันนั้นเจ้าตัวแจงว่าอีกฝ่ายแค่มากระซิบขอเพลงเนื่องเพราะเสียงดนตรีดังนั่นเอง
"ถามว่ากลัวคนเข้าใจผิดไหม หนูแค่อยากจะบอกว่าหนูเองทำงานตรงนี้มีหน้าที่สร้างความบันเทิง บางทีเจอคนเมา หรือคนคิดไม่ดี เข้ามาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่ด้วยหน้าที่ของเรา เราทำอะไรไม่ได้นอกจากว่าทำงานของเราให้ดีที่สุด ทั้งที่ใจจริงเราอยากที่จะหยุดร้องและเดินลงจากเวที หรืออยากที่จะเอาไมค์ตีหัว แต่ทุกครั้งในการทำงาน เราพยายามเซฟตัวเองอยู่แล้ว"
อยางไรก็ตาม แม้เจ้าตัวจะชี้แจงไปแล้วทว่าในโลกออนไลน์โดยเฉพาะในส่วนของอินสตาแกรม แอนตี้ ใบเตยอาร์สยามนั้นก็ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้กันอยู่ โดยบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่าชายคนดังกล่าวเป็นเกย์จริงหรือ ถ้าเป็นเกย์ทำไมถึงได้ทำท่าทางในลักษณะที่ผู้ชายแท้ๆ กระทำกับสาวๆ โดยเฉพาะการยัดเงินเข้าใปในกางเกง แถมยิ่งยังเป็นญาติกันอีกต่างหาก นอกจากนี้ในส่วนของคลิปที่มีการโพสต์ไว้ในยูทิวบ์นั้นมีรายงานว่าหลายคลิปหรือเกือบจะทั้งหมดได้ถูกลบไปแล้ว
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000014197