กุนซืออิตาเลี่ยนผู้ใช้แผนการเล่น 3-5-2 ได้แจ่มแมวที่สุด ณ ตอนนี้
Antonio Conte , Juventus
Serie A
2012-2014
Serie A : 20 ทีม / 38 นัด
Week #22
ฤดูกาลที่แล้วยูเว่ฯโชว์ฟอร์มโหดด้วยการรักษาอันดับ "หัวตารางหนาวมาก" ตั้งแต่นัดที่ 2 ในเกมลีก จนจบนัดสุดท้าย ทำแต้มเรื่อยๆมาเรียงๆ รักษาสถานะสเตเบิลจนจบฤดูกาล คว้าแชมป์เกร๋ๆ ด้วยการทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างนาโปลีเกือบ 10 แต้มแบบไม่ต้องลุ้นเยอะ
ฤดูกาลนี้ กุนซือผู้ฉุดรั้งยูเว่ฯจากทีมกลางตารางสู่ยอดทีมหัวตารางจนคว้าแชมป์ลีกได้ 2 ฤดูกาลติดอย่าง แอนโตนิโอ ฆอนเต้ ก็ำการปรับทัพและแนวรุกเพิ่มเติมเล็กน้อย (ที่บางคนก็บอกว่า มโหฬารเลยทีเดียว) ด้วยการเสริมกองหน้าเพิ่มอีก 2 ตัวคือ คาลอส เตเบซ และ เฟอร์นานโด อิยอเรนเต้ และได้ทำการ "ยื่นหอกให้ศัตรู" ด้วยการขาย อเลซานโดร มาตรี้ ให้กับ เอซี มิลาน (ที่ต่อมาเป็นที่รู้กันว่า หอกที่ยูเว่ฯยื่นมานั้นเป็น "หอกหัก")
แผนการซื้อตัวและปล่อยตัวนักเตะของยูเว่ฯนั้นเยี่ยมยุทธ์มาก เพราะนอกจากจะปล่อยนักเตะอายุมากออกจากทีมได้ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อ ยังได้นักเตะใหม่มาในราคาที่ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้
แต่ถึงอย่างนั้นใช่ว่า ยูเวนตุสจะดูน่ากลัวอยู่ทีมเดียว เพราะทีมรองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วอย่าง นาโปลีก็ยกเครื่องใหม่หมด ทั้งผู้จัดการทีมและนักเตะ กุนซือคนใหม่ของนาโปลี อย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ได้งบจัดเต็มจากสโมสร ซื้อสตาร์เข้าทีมมาเพียบ จัดไปเบาๆก่อนทั้งซื้อขาดและยืมตัว ก็แค่ 12 ตัว ขำๆชิลๆ เรียกได้ว่ากะมาชิงแชมป์เต็มที่เช่นเดียวกัน
และที่สำคัญ .. การเปลี่ยนโค้ชในปีนี้ยังทำให้ โรม่า ได้กลับมาผงาดอีกครั้งด้วย ...
(เดี๊ยนขออณุญาติที่จะไม่พูดถึง อันดับ 4 ปีที่แล้วอย่าง เอซี มิลาน ทีมสุดเลิฟของพี่กรี้ "กุนซือผู้หมดโปร" ไปนะคระ)
Week #12 : Double Kill นาโปลี
>> ทีมอื่นสะดุด แต่เรายังไม่หยุดชนะ! ชนะ นาโปลี ขึ้นอันดับ 2 <<
หลังจากต้องเห็นฟอร์มร้อนแรง สุดเผ็ดเด็ดสะระตี่ เตะปี๊ปสามร้อยทีก็บุบของ "เทพเจ้าต็อตตี้" หมาป่าแห่งโรม่า และ ทีม "เฟรชชี่" รวมดาว(เคย)รุ่งของนาโปลี ผลัดกันขึ้นอันดับ 1 บนตารางคะแนนอยู่นาน ยูเว่ฯที่ออกสตาร์ตด้วยอันดับและฟอร์มที่ค่อนข้างไม่หวือหวานัก ด้วยจำนวนประตูผลต่างไม่เยอะเหมือนทีมอื่น ทำให้แม้ช่วงแรก ยูเว่ฯจะไม่เคยแพ้เลย และเสมอไปแค่นัดเดียว ก็ยังไม่อาจสู้บรรดาทีมโค้ชใหม่ฟอร์มสดอีก 2 ทีมได้ ทำให้ทีมรั้งอยู่ที่ประมาณอันดับ 3-5 มาตลอด โรม่าและนาโปลีเคยพบกันไปแล้ว ในสัปดาห์ที่ 8 แต่พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้พบกับ ยูเวนตุสเลย
ข่าวดีก็มาเยือนนครตูริน เมื่อพระนครโรมต้องขาด "เจ้าชายหมาป่า" ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในเกมรุกที่ผ่านๆมาของโรม่า เนื่องอาการบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่า ส่อแววน่าจะพักอย่างต่ำ 4 สัปดาห์ อาจส่งผลให้โรม่าฟอร์มสะดุดก็เป็นได้ เค้าลางเริ่มมาให้เห็น เมื่อโรม่าเอาชนะมาด้วยสกอร์กรุบกรอบ นัดละลูก แถมพลาดเสมอกับโตริโน่อีก ขณะที่ ยูเว่ฯยังเดินหน้าช้าชนเกร๋ๆ เอาชนะเก็บแต้มมาได้เรื่อยๆ .. ไล่หลังโรม่ามาติดๆ
ในนัดที่ 12 ยูเว่ฯโคจรมาพบกับทีมหัวตารางครั้งแรก พวกเขาจัดการพิฆาตนาโปลี และขึ้นสู่อันดับ 2 ได้สำเร็จ .. 12 นัด ของนาโปลีพึ่งแพ้เพียง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือแพ้ โรม่า และครั้งที่ 2 คือ ยูเวนตุสในสัปดาห์นี้ ...
1. Roma 32 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 3 ลูก
2. Juventus 31 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 10 ลูก
3. Napoli 29 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 9 ลูก
4. Inter 25 แต้ม > 29 ลูก เสียไป 12 ลูก
5. Fiorentina 24 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 14 ลูก
Week #13 : สู่บัลลังก์จ่าฝูง ..
>> ชนะ ลิเวอโน่ ขึ้นอันดับ 1 <<
ในสัปดาห์ที่ 12 แต้มระหว่างโรม่าและยูเว่ฯค่อนข้างสูสี โรม่าเสมอมา 2 นัดติด (กลายเป็นตั้งแต่แต่ขาดต๊อตตี้ ก็ชนะไปแค่ 2 ครั้ง นอกนั้นเสมออีก 2 นัด) สัปดาห์นี้พวกเขามีคิวเจอกับ คากลิอารี ซึ่งเป็นเกมเหย้าที่น่าจะเก็บแต้มได้สบาย เพราะคากลิอารี พึ่งชนะมาแค่ 2 นัด นอกนั้นคือสกอร์เสมอและแพ้ ขณะที่ยูเว่ฯ กลับต้องไปเล่นเกมเยือนกับลิเวอโน่ที่พึ่งแพ้อินเตอร์ฯมา และอันดับยังค่อนข้างแย่บนตาราง ทำให้นัดนี้ ยูเว่ฯ น่าจะเก็บ 3 แต้มได้ เช่นเดียวกับ โรม่า ...
แต่ทว่า .. ผลของคู่โรม่าดันกลายเป็นเสมอแบบไร้สกอร์! ผลจากคู่นาโปลีในเกมเหย้าดันเจอตาลุงคาซซาโน่เลทเกมแพ้ซะงั้น! มีเพียง ยูเว่ฯเชือดนิ่มเก็บ 3 แต้มได้ในเกมเยือน ในสัปดาห์นี้ ...
เมื่อ 2 ทีมไฟแรงพร้อมใจกันฟอร์มสะดุด ยูเวนตุสจึงขึ้นสู่บัลลังก์ "หัวตารางหนาวมาก" ได้ในที่สุด ...
1. Juventus 34 แต้ม > 28 ลูก เสียไป 10 ลูก
2. Roma 33 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 3 ลูก
3. Napoli 29 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 10 ลูก
4. Inter 26 แต้ม > 30 ลูก เสียไป 13 ลูก
5. Fiorentina 24 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 15 ลูก
Week #19 : หัวตารางหนาวมาก ขึ้นแล้วลงยาก พูดเลย ..
>> รั้งจ่าฝูง ชนะรวด 10 นัดติด <<
หลังจากพักเบรกหนีหนาวกลับมาเพื่อเริ่มต้นเกมนัดที่ 18 ก็เป็นแมตสุดร้อนแรง เลือดเดือดปุดๆ เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่ยูเว่ฯต้องมาพบกับโรม่าในเกมลีกฤดูกาลนี้ ยูเว่ฯได้เปรียบกว่าตรงที่เกมนี้พวกเขาจะเล่นในบ้าน และ 5 นัดล่าสุดของโรม่า เก็บชัยชนะได้เพียง 2 ครั้ง นอกนั้นคือสกอร์เสมอ ขณะที่ยูเวนตุสนั้น ไร้พ่ายติดต่อกันมา 9 นัดแล้ว
และพวกเขาต้องการนัดที่ 10
ที่สุดแล้ว .. ยูเวนตุสก็สามารถเก็บสถิติ ชนะรวด 10 นัดจาก โรม่าจนได้ ..
1. Juventus 49 แต้ม > 42 ลูก เสียไป 12 ลูก
2. Roma 44 แต้ม >39 ลูก เสียไป 17 ลูก
3. Napoli 43 แต้ม > 41 ลูก เสียไป 18 ลูก
4. Fiorentina 37 แต้ม > 34 ลูก เสียไป 20 ลูก
5. Inter 32 แต้ม > 38 ลูก เสียไป 23 ลูก
หากดูจากผลงานการทำทีมในฤดูกาลที่ผ่านมาของฆอนเต้ เชื่อว่าแฟนม้าลายหลายคนคงวางใจได้แล้วเปลาะนึง เพราะผลงานในเกมที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ถือว่าำทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ พาทีมสู่จ่าฝูงทิ้งแต้มห่างอันดับ 2 อยู่ถึง 9 แต้ม แม้จะมีจุดขัดใจหลายอย่างสำหรับแฟนบอลในด้าน การไม่ค่อยเปิดเกมบุกทั้งที่ำสามารถทำได้ หรือ สกอร์ขาดแล้วชอบถอยมาอุดมากกว่าบุกเอาสกอร์เพิ่ม อาจเรียกได้ว่า ฆอนเต้เป็น กุนซือที่เน้นเล่นเพลย์เซฟคนนึง จนแฟนบอลขาลุยอาจหงุดหงิดไปบ้าง
ฆอนเต้ได้รับฉายาว่าเป็นอีกหนึ่งกุนซือจอมแ็ท็คติค จะเห็นได้ว่า แผนการเล่นที่เขาใช้กับยูเว่ฯคือ 3-5-2 และไม่เคยใช้แผนการเล่นอื่นเลย และแผนการเล่นนี้ยังถูกเอามาวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นอีกแผนการเล่นที่เล่นให้เทพได้ยาก แต่ฆอนเต้ ทำทีมที่ฟิตกับแผนการเล่นนี้ได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลชื่นชม(และบางครั้งก็ด่า)ฆอนเต้คือ เขาแก้เกมได้ดีเยี่ยมในหลายๆครั้ง แก้ปัญหาตรงจุด อุดรอยรั่ว เสริมช่องโหว่ ที่เหลือคือเรื่องของความสามารถของนักเตะบนสนาม และการกระตุ้นให้ทีมเดินหน้าในจังหวะที่พวกเขากำลังตามหลังอยู่
ยูเวนตุสของฆอนเต้เคยได้รับการกล่าวขวัญว่า "ยิงไม่มาก ท่ายากไม่เยอะ แต่เชื่อเถอะไม่แพ้" คือ แม้จะทำเกมบุกได้ไม่ถึงกึ๋น และไม่ได้มีเกมบุกที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย หรือถึงขั้น โหดส๊าส แต่แนวรับเหนียวแน่นหนึบ และ จนถึงขั้นแพ้ยาก แม้จะชนะไม่กี่ลูก แต่หลายครั้งเราจะเห็นได้ว่าพวกเขาเก็บคลีนชีตได้บ่อยมากๆ จาก 22 นัดพวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 นัด ขนะที่โรม่าที่เสียประตูน้อยกว่าก็เก็บคลีนชีตได้ถึง 13 นัดเช่นเดียวกัน 22 นัดที่ผ่านมา ยูเว่ฯพึ่งแพ้ไปนัดเดียว และเสมอไปเพียง 2 ครั้งในเกมลีก
แต่ใช่ว่าการคุมทีมของฆอนเต้จะไม่มีรอยด่างพร้อยเลย ...
เกมที่ยูเว่ฯพ่ายแพ้ในสัปดาห์ที่ 8 คือ นัดเยือน "เดอะ ไวโอล่า" ฟิออเรนติน่า สัปดาห์นั้นมันไม่มีข้ออ้างเรื่องเกมกลางสัปดาห์ เพราะทั้งคู่เจอกันหลังแข่งบอลถ้วยเกือบ 2 สัปดาห์ ฟิออร์ฯก็จัดชุดใหญ่ และ ยูเว่ฯเองก็จัดเต็มเช่นกัน เกมนี้แลกกันอย่างโหดร้ายดุเดือด ลูกโทษฝั่งละลูก ใบเหลืองปลิวว่อน ยิงกันแทบพรุน ฟาล์วกันให้ยับ
เกมนี้แนวรับสุดหนึบของยูเว่ฯถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง มากถึงขั้น "ห่วยแตกในรอบหลายปี" กลับการปล่อยให้เจอยิงถึง 4 ลูกในครึ่งหลัง ทั้งที่ครึ่งแรกพวกเขานำอยู่ 3 ลูก บุฟฟ่อนถูกติเตียนจากแฟนๆบางกลุ่มอย่างรุนแรงเรื่องสมควรให้ถูกรีไทร์ (ซึ่งเชื่อว่าส่วนนึงเป็นแฟนทีมชาติอิตาลีที่เป็นแฟนฟิออร์ฯ) และรอซซี่ก็ดันองค์ลง หลังจากยิงจุดโทษ ก็เหมาอีก 2 กลายเ็ป็นคนเดียว 3 ประตู อีก 1 มาจากโจอาคิน
แม้จะพ่ายแพ้เพียงแค่นัดเดียว แต่ก็ถือเป็นรอยด่างที่น่าเจ็บปวดอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ ฆอนเต้ทำอะไรกับเกมบุกจากฟิออร์ในครึ่งหลังไม่ได้เลย นักเตะก็ลน ระบบรวน จนพวกเขาปราชัยในที่สุด นัดนี้แฟนๆวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเพราะธรรมชาติของฆอนเต้ที่พอทีมนำห่างแล้วชอบผ่อนเกม หลายครั้งทำให้เกือบถูกเอาคืนอยู่บ่อยๆ และคราวนี้ แนวรุกอันโหดร้ายของฟิออร์ฯได้แสดงให้เห็นแล้ว ..
แต่การจะไม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ผู้จัดการทีม มักถูกวิพากษวิจารณ์เสมอ ไม่ว่าีทีมจะแพ้หรือชนะ ฆอนเต้ คือหน้าตาของยูเว่ฯ เขาพลิกเกม เพิ่มโอกาส ปรับกระบวน ทำให้ทีมที่เริ่มแย่ กลับมาพลิกเอาชนะได้ในหลายๆครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การผ่อนเกมหรือการจัดทีมผู้เ่ล่นของฆอนเต้บางครั้งก็ดูประมาทเกินไป จนต้องมาด้นสดเอากลางสนามแบบน่าหวาดเสียวอยู่บ่อยๆ
และในระยะหลังนี่ต้องบอกว่า สโลแกน "ยิงไม่มาก ท่ายากไม่เยอะ" อาจใช้กับยูเว่ฯไม่ได้แล้ว เมื่อแผนการเล่น 3-5-3 เริ่มเข้าแก็ป และขึ้นชื่อลือชา เพราะได้หนุนนำให้กองกลางทั้ง 5 ตัวกลายเป็นที่โจษจันอยู่ ณ ตอนนี้ ในความแหล่ม และ โหดสลัดเป็ด
ขณะที่กองหน้า ฆอนเต้จับ เตฟคู่ยอ ซึ่งก็ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว เมื่อแถว 2 พร้อมใจกันเกิดอีก ยิ่งไปกันใหญ่เลยทีนี้ กองกลางอย่างวิดัล มาพร้อมเชิงฟุตบอล ซุปเปอร์เพลย์เม็กเกอร์ สามโลก ระเบิดปฐพี สไตล์การเล่นแบบ BOX TO BOX ที่อยากลุกขึ้นปรบมือให้ในความทุ่มเท เมื่อวิดัลได้จับบอลแฟนๆต้องเผลอหลุดกรี๊ดออกมาว่า "มันยิงแน่ๆเลยค่ะ!!!!" (อิคนเขียนเว่อร์มาก) ถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมเลยทีเดียว ขณะที่น้องป็อกไม่ยอมน้อยหน้า ขอเก็บกินแบบ น้อยๆแต่กินเรื่อยๆ
นอกเหนือจาก กุนซือจอมแ็ท็คติค อย่างฆอนเต้ สิ่งหนึ่งที่แฟนๆคอยยกย่องเสมอ และเกือบตลอดเวลา คือ "นักเตะของพวกเขาทุกคน" ที่เล่นด้วยความทุ่มเทจนอยากหลั่งน้ำตาให้ ไม่ว่าเกมนั้นจะบุกขึ้นนำ หรือ ตามและกำลังจะพลาดท่า พวกเขาก็เล่นกันเหมือนเป็นเกมสุดท้าย พลิกสกอร์กลับมาชนะจนได้ ในวันหรือเหลือ 10 คนพวกเขาจะเล่นเหมือนมี 12 คน ยิ่งมีน้อยยิ่งต้องทุ่มเท .. นี่เป็นอีกทีมที่คุณแทบจะไม่เคยเห็นแฟนๆ ออกมาด่านักเตะแบบสาดเสียเทเสียให้เห็นเลย
หาก ยูเวนตุส ยังคงเล่นด้วยฟอร์มนี้ เล่นอย่างทุมเทและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในทุกเกม พวกเขาอาจจะครองตำแหน่งจ่าฝูงไปจนจบฤดูกาลเหมือนฤดูกาลที่แล้วก็ได้
หนทางสู่การเป็นแชมป์ คุณอาจไม่ต้องใช้นักเตะเทวดา
เพียงแค่ต้องแน่วแน่กับผลงานเข้าไว้ ...
FORZA JUVE
[1ST HALF 2013-14] เส้นทางหลัง "ผ่านครึ่งฤดูกาล" ของ "ทีมจ่าฝูง" จาก 6 ลีกส์ดัง #3 : JUVENTUS
Antonio Conte , Juventus
Serie A
2012-2014
Serie A : 20 ทีม / 38 นัด
Week #22
ฤดูกาลที่แล้วยูเว่ฯโชว์ฟอร์มโหดด้วยการรักษาอันดับ "หัวตารางหนาวมาก" ตั้งแต่นัดที่ 2 ในเกมลีก จนจบนัดสุดท้าย ทำแต้มเรื่อยๆมาเรียงๆ รักษาสถานะสเตเบิลจนจบฤดูกาล คว้าแชมป์เกร๋ๆ ด้วยการทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างนาโปลีเกือบ 10 แต้มแบบไม่ต้องลุ้นเยอะ
ฤดูกาลนี้ กุนซือผู้ฉุดรั้งยูเว่ฯจากทีมกลางตารางสู่ยอดทีมหัวตารางจนคว้าแชมป์ลีกได้ 2 ฤดูกาลติดอย่าง แอนโตนิโอ ฆอนเต้ ก็ำการปรับทัพและแนวรุกเพิ่มเติมเล็กน้อย (ที่บางคนก็บอกว่า มโหฬารเลยทีเดียว) ด้วยการเสริมกองหน้าเพิ่มอีก 2 ตัวคือ คาลอส เตเบซ และ เฟอร์นานโด อิยอเรนเต้ และได้ทำการ "ยื่นหอกให้ศัตรู" ด้วยการขาย อเลซานโดร มาตรี้ ให้กับ เอซี มิลาน (ที่ต่อมาเป็นที่รู้กันว่า หอกที่ยูเว่ฯยื่นมานั้นเป็น "หอกหัก")
แผนการซื้อตัวและปล่อยตัวนักเตะของยูเว่ฯนั้นเยี่ยมยุทธ์มาก เพราะนอกจากจะปล่อยนักเตะอายุมากออกจากทีมได้ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อ ยังได้นักเตะใหม่มาในราคาที่ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้
แต่ถึงอย่างนั้นใช่ว่า ยูเวนตุสจะดูน่ากลัวอยู่ทีมเดียว เพราะทีมรองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วอย่าง นาโปลีก็ยกเครื่องใหม่หมด ทั้งผู้จัดการทีมและนักเตะ กุนซือคนใหม่ของนาโปลี อย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ได้งบจัดเต็มจากสโมสร ซื้อสตาร์เข้าทีมมาเพียบ จัดไปเบาๆก่อนทั้งซื้อขาดและยืมตัว ก็แค่ 12 ตัว ขำๆชิลๆ เรียกได้ว่ากะมาชิงแชมป์เต็มที่เช่นเดียวกัน
และที่สำคัญ .. การเปลี่ยนโค้ชในปีนี้ยังทำให้ โรม่า ได้กลับมาผงาดอีกครั้งด้วย ...
(เดี๊ยนขออณุญาติที่จะไม่พูดถึง อันดับ 4 ปีที่แล้วอย่าง เอซี มิลาน ทีมสุดเลิฟของพี่กรี้ "กุนซือผู้หมดโปร" ไปนะคระ)
Week #12 : Double Kill นาโปลี
>> ทีมอื่นสะดุด แต่เรายังไม่หยุดชนะ! ชนะ นาโปลี ขึ้นอันดับ 2 <<
หลังจากต้องเห็นฟอร์มร้อนแรง สุดเผ็ดเด็ดสะระตี่ เตะปี๊ปสามร้อยทีก็บุบของ "เทพเจ้าต็อตตี้" หมาป่าแห่งโรม่า และ ทีม "เฟรชชี่" รวมดาว(เคย)รุ่งของนาโปลี ผลัดกันขึ้นอันดับ 1 บนตารางคะแนนอยู่นาน ยูเว่ฯที่ออกสตาร์ตด้วยอันดับและฟอร์มที่ค่อนข้างไม่หวือหวานัก ด้วยจำนวนประตูผลต่างไม่เยอะเหมือนทีมอื่น ทำให้แม้ช่วงแรก ยูเว่ฯจะไม่เคยแพ้เลย และเสมอไปแค่นัดเดียว ก็ยังไม่อาจสู้บรรดาทีมโค้ชใหม่ฟอร์มสดอีก 2 ทีมได้ ทำให้ทีมรั้งอยู่ที่ประมาณอันดับ 3-5 มาตลอด โรม่าและนาโปลีเคยพบกันไปแล้ว ในสัปดาห์ที่ 8 แต่พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้พบกับ ยูเวนตุสเลย
ข่าวดีก็มาเยือนนครตูริน เมื่อพระนครโรมต้องขาด "เจ้าชายหมาป่า" ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในเกมรุกที่ผ่านๆมาของโรม่า เนื่องอาการบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่า ส่อแววน่าจะพักอย่างต่ำ 4 สัปดาห์ อาจส่งผลให้โรม่าฟอร์มสะดุดก็เป็นได้ เค้าลางเริ่มมาให้เห็น เมื่อโรม่าเอาชนะมาด้วยสกอร์กรุบกรอบ นัดละลูก แถมพลาดเสมอกับโตริโน่อีก ขณะที่ ยูเว่ฯยังเดินหน้าช้าชนเกร๋ๆ เอาชนะเก็บแต้มมาได้เรื่อยๆ .. ไล่หลังโรม่ามาติดๆ
ในนัดที่ 12 ยูเว่ฯโคจรมาพบกับทีมหัวตารางครั้งแรก พวกเขาจัดการพิฆาตนาโปลี และขึ้นสู่อันดับ 2 ได้สำเร็จ .. 12 นัด ของนาโปลีพึ่งแพ้เพียง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือแพ้ โรม่า และครั้งที่ 2 คือ ยูเวนตุสในสัปดาห์นี้ ...
1. Roma 32 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 3 ลูก
2. Juventus 31 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 10 ลูก
3. Napoli 29 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 9 ลูก
4. Inter 25 แต้ม > 29 ลูก เสียไป 12 ลูก
5. Fiorentina 24 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 14 ลูก
Week #13 : สู่บัลลังก์จ่าฝูง ..
>> ชนะ ลิเวอโน่ ขึ้นอันดับ 1 <<
ในสัปดาห์ที่ 12 แต้มระหว่างโรม่าและยูเว่ฯค่อนข้างสูสี โรม่าเสมอมา 2 นัดติด (กลายเป็นตั้งแต่แต่ขาดต๊อตตี้ ก็ชนะไปแค่ 2 ครั้ง นอกนั้นเสมออีก 2 นัด) สัปดาห์นี้พวกเขามีคิวเจอกับ คากลิอารี ซึ่งเป็นเกมเหย้าที่น่าจะเก็บแต้มได้สบาย เพราะคากลิอารี พึ่งชนะมาแค่ 2 นัด นอกนั้นคือสกอร์เสมอและแพ้ ขณะที่ยูเว่ฯ กลับต้องไปเล่นเกมเยือนกับลิเวอโน่ที่พึ่งแพ้อินเตอร์ฯมา และอันดับยังค่อนข้างแย่บนตาราง ทำให้นัดนี้ ยูเว่ฯ น่าจะเก็บ 3 แต้มได้ เช่นเดียวกับ โรม่า ...
แต่ทว่า .. ผลของคู่โรม่าดันกลายเป็นเสมอแบบไร้สกอร์! ผลจากคู่นาโปลีในเกมเหย้าดันเจอตาลุงคาซซาโน่เลทเกมแพ้ซะงั้น! มีเพียง ยูเว่ฯเชือดนิ่มเก็บ 3 แต้มได้ในเกมเยือน ในสัปดาห์นี้ ...
เมื่อ 2 ทีมไฟแรงพร้อมใจกันฟอร์มสะดุด ยูเวนตุสจึงขึ้นสู่บัลลังก์ "หัวตารางหนาวมาก" ได้ในที่สุด ...
1. Juventus 34 แต้ม > 28 ลูก เสียไป 10 ลูก
2. Roma 33 แต้ม > 26 ลูก เสียไป 3 ลูก
3. Napoli 29 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 10 ลูก
4. Inter 26 แต้ม > 30 ลูก เสียไป 13 ลูก
5. Fiorentina 24 แต้ม > 24 ลูก เสียไป 15 ลูก
Week #19 : หัวตารางหนาวมาก ขึ้นแล้วลงยาก พูดเลย ..
>> รั้งจ่าฝูง ชนะรวด 10 นัดติด <<
หลังจากพักเบรกหนีหนาวกลับมาเพื่อเริ่มต้นเกมนัดที่ 18 ก็เป็นแมตสุดร้อนแรง เลือดเดือดปุดๆ เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่ยูเว่ฯต้องมาพบกับโรม่าในเกมลีกฤดูกาลนี้ ยูเว่ฯได้เปรียบกว่าตรงที่เกมนี้พวกเขาจะเล่นในบ้าน และ 5 นัดล่าสุดของโรม่า เก็บชัยชนะได้เพียง 2 ครั้ง นอกนั้นคือสกอร์เสมอ ขณะที่ยูเวนตุสนั้น ไร้พ่ายติดต่อกันมา 9 นัดแล้ว
และพวกเขาต้องการนัดที่ 10
ที่สุดแล้ว .. ยูเวนตุสก็สามารถเก็บสถิติ ชนะรวด 10 นัดจาก โรม่าจนได้ ..
1. Juventus 49 แต้ม > 42 ลูก เสียไป 12 ลูก
2. Roma 44 แต้ม >39 ลูก เสียไป 17 ลูก
3. Napoli 43 แต้ม > 41 ลูก เสียไป 18 ลูก
4. Fiorentina 37 แต้ม > 34 ลูก เสียไป 20 ลูก
5. Inter 32 แต้ม > 38 ลูก เสียไป 23 ลูก
หากดูจากผลงานการทำทีมในฤดูกาลที่ผ่านมาของฆอนเต้ เชื่อว่าแฟนม้าลายหลายคนคงวางใจได้แล้วเปลาะนึง เพราะผลงานในเกมที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ถือว่าำทำผลงานได้ดีสม่ำเสมอ พาทีมสู่จ่าฝูงทิ้งแต้มห่างอันดับ 2 อยู่ถึง 9 แต้ม แม้จะมีจุดขัดใจหลายอย่างสำหรับแฟนบอลในด้าน การไม่ค่อยเปิดเกมบุกทั้งที่ำสามารถทำได้ หรือ สกอร์ขาดแล้วชอบถอยมาอุดมากกว่าบุกเอาสกอร์เพิ่ม อาจเรียกได้ว่า ฆอนเต้เป็น กุนซือที่เน้นเล่นเพลย์เซฟคนนึง จนแฟนบอลขาลุยอาจหงุดหงิดไปบ้าง
ฆอนเต้ได้รับฉายาว่าเป็นอีกหนึ่งกุนซือจอมแ็ท็คติค จะเห็นได้ว่า แผนการเล่นที่เขาใช้กับยูเว่ฯคือ 3-5-2 และไม่เคยใช้แผนการเล่นอื่นเลย และแผนการเล่นนี้ยังถูกเอามาวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นอีกแผนการเล่นที่เล่นให้เทพได้ยาก แต่ฆอนเต้ ทำทีมที่ฟิตกับแผนการเล่นนี้ได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลชื่นชม(และบางครั้งก็ด่า)ฆอนเต้คือ เขาแก้เกมได้ดีเยี่ยมในหลายๆครั้ง แก้ปัญหาตรงจุด อุดรอยรั่ว เสริมช่องโหว่ ที่เหลือคือเรื่องของความสามารถของนักเตะบนสนาม และการกระตุ้นให้ทีมเดินหน้าในจังหวะที่พวกเขากำลังตามหลังอยู่
ยูเวนตุสของฆอนเต้เคยได้รับการกล่าวขวัญว่า "ยิงไม่มาก ท่ายากไม่เยอะ แต่เชื่อเถอะไม่แพ้" คือ แม้จะทำเกมบุกได้ไม่ถึงกึ๋น และไม่ได้มีเกมบุกที่แข็งแกร่งอะไรมากมาย หรือถึงขั้น โหดส๊าส แต่แนวรับเหนียวแน่นหนึบ และ จนถึงขั้นแพ้ยาก แม้จะชนะไม่กี่ลูก แต่หลายครั้งเราจะเห็นได้ว่าพวกเขาเก็บคลีนชีตได้บ่อยมากๆ จาก 22 นัดพวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 นัด ขนะที่โรม่าที่เสียประตูน้อยกว่าก็เก็บคลีนชีตได้ถึง 13 นัดเช่นเดียวกัน 22 นัดที่ผ่านมา ยูเว่ฯพึ่งแพ้ไปนัดเดียว และเสมอไปเพียง 2 ครั้งในเกมลีก
แต่ใช่ว่าการคุมทีมของฆอนเต้จะไม่มีรอยด่างพร้อยเลย ...
เกมที่ยูเว่ฯพ่ายแพ้ในสัปดาห์ที่ 8 คือ นัดเยือน "เดอะ ไวโอล่า" ฟิออเรนติน่า สัปดาห์นั้นมันไม่มีข้ออ้างเรื่องเกมกลางสัปดาห์ เพราะทั้งคู่เจอกันหลังแข่งบอลถ้วยเกือบ 2 สัปดาห์ ฟิออร์ฯก็จัดชุดใหญ่ และ ยูเว่ฯเองก็จัดเต็มเช่นกัน เกมนี้แลกกันอย่างโหดร้ายดุเดือด ลูกโทษฝั่งละลูก ใบเหลืองปลิวว่อน ยิงกันแทบพรุน ฟาล์วกันให้ยับ
เกมนี้แนวรับสุดหนึบของยูเว่ฯถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง มากถึงขั้น "ห่วยแตกในรอบหลายปี" กลับการปล่อยให้เจอยิงถึง 4 ลูกในครึ่งหลัง ทั้งที่ครึ่งแรกพวกเขานำอยู่ 3 ลูก บุฟฟ่อนถูกติเตียนจากแฟนๆบางกลุ่มอย่างรุนแรงเรื่องสมควรให้ถูกรีไทร์ (ซึ่งเชื่อว่าส่วนนึงเป็นแฟนทีมชาติอิตาลีที่เป็นแฟนฟิออร์ฯ) และรอซซี่ก็ดันองค์ลง หลังจากยิงจุดโทษ ก็เหมาอีก 2 กลายเ็ป็นคนเดียว 3 ประตู อีก 1 มาจากโจอาคิน
แม้จะพ่ายแพ้เพียงแค่นัดเดียว แต่ก็ถือเป็นรอยด่างที่น่าเจ็บปวดอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ ฆอนเต้ทำอะไรกับเกมบุกจากฟิออร์ในครึ่งหลังไม่ได้เลย นักเตะก็ลน ระบบรวน จนพวกเขาปราชัยในที่สุด นัดนี้แฟนๆวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเพราะธรรมชาติของฆอนเต้ที่พอทีมนำห่างแล้วชอบผ่อนเกม หลายครั้งทำให้เกือบถูกเอาคืนอยู่บ่อยๆ และคราวนี้ แนวรุกอันโหดร้ายของฟิออร์ฯได้แสดงให้เห็นแล้ว ..
แต่การจะไม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ผู้จัดการทีม มักถูกวิพากษวิจารณ์เสมอ ไม่ว่าีทีมจะแพ้หรือชนะ ฆอนเต้ คือหน้าตาของยูเว่ฯ เขาพลิกเกม เพิ่มโอกาส ปรับกระบวน ทำให้ทีมที่เริ่มแย่ กลับมาพลิกเอาชนะได้ในหลายๆครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การผ่อนเกมหรือการจัดทีมผู้เ่ล่นของฆอนเต้บางครั้งก็ดูประมาทเกินไป จนต้องมาด้นสดเอากลางสนามแบบน่าหวาดเสียวอยู่บ่อยๆ
และในระยะหลังนี่ต้องบอกว่า สโลแกน "ยิงไม่มาก ท่ายากไม่เยอะ" อาจใช้กับยูเว่ฯไม่ได้แล้ว เมื่อแผนการเล่น 3-5-3 เริ่มเข้าแก็ป และขึ้นชื่อลือชา เพราะได้หนุนนำให้กองกลางทั้ง 5 ตัวกลายเป็นที่โจษจันอยู่ ณ ตอนนี้ ในความแหล่ม และ โหดสลัดเป็ด
ขณะที่กองหน้า ฆอนเต้จับ เตฟคู่ยอ ซึ่งก็ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว เมื่อแถว 2 พร้อมใจกันเกิดอีก ยิ่งไปกันใหญ่เลยทีนี้ กองกลางอย่างวิดัล มาพร้อมเชิงฟุตบอล ซุปเปอร์เพลย์เม็กเกอร์ สามโลก ระเบิดปฐพี สไตล์การเล่นแบบ BOX TO BOX ที่อยากลุกขึ้นปรบมือให้ในความทุ่มเท เมื่อวิดัลได้จับบอลแฟนๆต้องเผลอหลุดกรี๊ดออกมาว่า "มันยิงแน่ๆเลยค่ะ!!!!" (อิคนเขียนเว่อร์มาก) ถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมเลยทีเดียว ขณะที่น้องป็อกไม่ยอมน้อยหน้า ขอเก็บกินแบบ น้อยๆแต่กินเรื่อยๆ
นอกเหนือจาก กุนซือจอมแ็ท็คติค อย่างฆอนเต้ สิ่งหนึ่งที่แฟนๆคอยยกย่องเสมอ และเกือบตลอดเวลา คือ "นักเตะของพวกเขาทุกคน" ที่เล่นด้วยความทุ่มเทจนอยากหลั่งน้ำตาให้ ไม่ว่าเกมนั้นจะบุกขึ้นนำ หรือ ตามและกำลังจะพลาดท่า พวกเขาก็เล่นกันเหมือนเป็นเกมสุดท้าย พลิกสกอร์กลับมาชนะจนได้ ในวันหรือเหลือ 10 คนพวกเขาจะเล่นเหมือนมี 12 คน ยิ่งมีน้อยยิ่งต้องทุ่มเท .. นี่เป็นอีกทีมที่คุณแทบจะไม่เคยเห็นแฟนๆ ออกมาด่านักเตะแบบสาดเสียเทเสียให้เห็นเลย
หาก ยูเวนตุส ยังคงเล่นด้วยฟอร์มนี้ เล่นอย่างทุมเทและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในทุกเกม พวกเขาอาจจะครองตำแหน่งจ่าฝูงไปจนจบฤดูกาลเหมือนฤดูกาลที่แล้วก็ได้
เพียงแค่ต้องแน่วแน่กับผลงานเข้าไว้ ...
FORZA JUVE