ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า เครื่องgps นี้เหมาะกับสามีที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น แอบคุยโทรศัพท์ กลับบ้านผิดเวลา ทำตัวลับๆล่อ และพฤติกรรมทั้งหลายที่ผิดปกติไปจากเดิม ส่วนคุณสามีที่ดีก็ไม่ต้องกลัวนะคะ จะไม่มีภรรยาคนไหนคอยใช้เครื่องนี้กับคุณแน่นอน ประสบการณ์ของเราซึ่งได้อยู่ใน2กระทู้ที่ผ่านมา แต่รายละเอียดในการใช้เครื่องgps ไม่ได้กล่าวเอาไว้มาก กระทู้นี้เราจะเล่าให้ฟังสำหรับท่านที่สนใจ แต่ก็ต้องทำใจให้ได้กับสิ่งที่เราจะได้ยินนะ เพราะมันจะเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก น้ำตาจะไหลไม่รู้ตัว จะคิดไม่ถึงว่าเค้าจะหลอกเราขนาดนี้สามีเราคบกับผู้หญิงคนนี้ตอนเราท้องได้ 8 เดือน หลังจากที่เราคลอดลูกได้3เดือน เราถึงจะรู้ว่าสามีมีผู้หญิงเราจึงส่งข้อความไปที่ FB ผู้หญิงบอกว่า "เธอรู้ไหมว่าคนที่เธอคบอยู่เค้ามีลูกมีเมียแล้ว" สามีก็รับปากว่าจะเลิกติดต่อกับผู้หญิงหักซิมโทรศัพท์ทิ้งบอกว่าแค่นี้ผู้หญิงก็ติดต่อเค้าไม่ได้แล้ว เราก็สบายใจคิดว่าเลิกได้จริงๆ จนลูกได้ 5 เดือน สามีก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ กลับบ้านดึกทุกวันวันหยุดก็ไม่เคยอยู่บ้านช่วยเลี้ยงลูกเลย ออกทุกวันบอกว่าจะไปหาเงิน โทรศัพท์ก็ตั้งสั่นและจะไม่วางให้เราเห็นเลย เราจึงหาข้อมูลทางเน็ตว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะติดตามคนว่าอยู่ที่ไหน คุยกับใคร หาไปหามาก็เจอเครื่อง gps tracker ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ติดตามรถหาย คนหาย สัตว์หายได้ เราจึงทำการศึกษาข้อมูลและวิธีใช้และได้ทำการสั่งซื้อมาใช้งานทันที เครื่องแรกที่ซื้อมา 2400 บ.ขั้นแรกก็จัดการหาซื้อซิมโทรศัพท์ ซึ่งเป็นระบบอะไรก็ได้มาใส่ไว้ในเครื่อง gps ชาร์ตแบตเสร็จเรียบร้อยก็เอาไปซ่อนไว้ในรถที่สามีใช้ประจำ พอรถออกจากบ้านเราก็เริ่มโทรเข้าเบอร์ในเครื่อง gps ดักฟังว่าเค้าคุยโทรศัพท์กับใครในรถ และก็ได้ผลจริงๆ ค่ะ ระหว่างที่โทรฟังใจก็เต้นตุ๊บ ตุ๊บ เราก็ได้ยินเสียงเพลงในรถ สักพักก็โทรศัพท์หาผู้หญิงเล่าให้ผู้หญิงฟังว่าเราเริ่มสงสัยแล้วว่าเค้ายังไม่เลิกกันติดต่อกัน คุยกันด้วยความเป็นห่วงถามผู้หญิงว่าเมื่อคืนที่รักกลับบ้านดึกเปล่า กินอะไรหรือยัง เดี๋ยวจะเข้าไปหา ฟังไปฟังมาน้ำตาเริ่มไหล เริ่มรับไม่ได้กับคำพูดของสามีที่ได้ยิน ยังไม่ทันจับสัณญาณว่ารถอยู่ที่ไหนก็โทรเข้าไปว่าสามีเลย ว่าเมื่อกี้คุยกับใครได้ยินหมดทุกอย่างเลยนะไหนบอกว่าเลิกติดต่อกันแล้วไง และก็ยื่นคำขาดเลยนะว่ามาเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับมันเลย พอตอนกลางคืนสามีกลับมาก็ยังไม่รู้ว่าเรามีเครื่อง gps ดักฟังในรถคิดว่าเราดักฟังจากโทรศัพท์ของเค้าๆ เลยปาโทรศัพท์แตกไปเลย ตั้งแต่วันนั้นเหตุการณ์เริ่มรุนแรงเรื่อยๆ เริ่มไม่เกรงใจเราเรื่องคุยโทรศัพท์เค้าบอกว่าจะเป็นอะไรแค่คุยกันอย่างเดียว ไม่ได้ไปเจอกัน ไม่ได้ไปเอากัน เดี๋ยวก็ห่างกันไปเอง วันรุ่งขึ้นเค้าไปทำงานและหาของในช่องเก็บของหลังเบาะเลยเจอเครื่อง gps ที่เราใส่เอาไว้ โดยที่ไม่โวยวายกับเราเลย พอเราโทรฟังก็ได้ยินแต่เสียงหมาเห่า เช็คสัญญาณก็บอกว่าอยู่ที่ทำงาน ทั้งๆ ที่รถจอดอยู่บ้าน ถึงเวลาจะเปลี่ยนแบตก็แอบเข้าไปในรถปรากฎว่าเครื่อง gps หายไปแล้ว เราก็ไม่ย่อท้อพอเครื่องแรกหายก็สั่งเครื่องที่ 2 มาอีกราคา1450 บ.คราวนี้เปลี่ยนที่ซ่อน เอาไปซ่อนไว้ใต้เบาะ เครื่องนี้ได้ผลมาก รู้ทุกอย่าง ที่ห้องผู้หญิง ที่ทำงาน พากันไปที่ไหนแม้แต่คุยหรือทะเลาะกันในรถเราก็ได้ยิน เครื่องนี้เราฟังประมาณ2เดือน ฟังแล้วฟังอีกเมื่อไหร่เค้าจะเลิกกันสักที เมื่อไหร่จะทะเลาะกันแรงๆ สักที จับสัญญานรถทีไรเลิกงานถ้าไม่ไปห้องผู้หญิงก็ที่คาเฟ่ทุกวัน บางวันก็รับผู้หญิงไปทำงานกับตัวเองด้วย หนักๆเข้าก็บอกกับเราว่า เราต้องยอมรับว่ายังไงเค้าต้องมีมันเป็นเมียน้อยอีกคนแน่นอน โดยที่ไม่แคร์ความรู้สึกเราเลยว่าจะรู้สึกยังไง และแล้ววันแตกหักก็มาถึง เราตั้งเวลารถออกตัวไว้จะส่งข้อความมาบอกที่โทรศัพท์ เช็คสัญญานก็มาถึงปากซอยบ้านแล้วดับเครื่อง จอดรถโทรศัพท์ประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ดักฟังก็ได้ยินว่า ที่รักเป็นผู้หญิงที่เค้ารักมากและรักคนเดียว เค้าไม่เคยรักใครเท่านี้มาก่อน ใครก็มาห้ามเค้าไม่ได้ เค้าหึงนะของตัวเองต้องให้เค้าจับคนเดียว (คือผู้หญิงเป็นนักร้องคาเฟ่อาจจะบอกว่าโดนแขกจับอะไร) เค้าไม่มีวันทิ้งตัวเองแน่นอนตัวเองไม่ต้องกลัวยังไงเค้าก็รัก พรุ่งนี้เค้าไปหานะ กลับถึงบ้านโทรบอกเค้าด้วยนะ และอีกหลายอย่าง ฟังไปก็น้ำตาไหลไป ไม่เคยพูดถึงลูกถึงเมียเลย พอกลับมาถึงบ้าน เราก็เลยปรี๊ดแตกเลย และวันนั้นเราก็ไล่ให้ไปอยู่กับผู้หญิงเลย บอกว่าถ้ารักกันมากก็ไปอยู่กับมันเลย คืนนั้นเค้าก็ออกไป โดยที่เค้าบอกว่าไปอยู้แล้ว คอยดูนะว่ามันจะ happy มากที่เห็นเค้ากลับมาหา ไปโดยที่ไม่ห่วงลูกเลยสักนิด วันรุ่งขึ้นกลับมาเอาเสื้อผ้าและก็เอาเครื่อง gps ออกจากรถโดยที่ไม่คืนให้เราด้วย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังอยู่กับผู้หญิงบ้างกลับมาบ้านบ้างแต่เราไม่สนใจ เราเลี้ยงลูกคนเดียวได้ ถ้าใครสนใจวิธีใช้ติดต่อมาได้นะคะเราจะได้ไม่โดนสวมเขา เค้าจะหลอกเราไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะสิ่งที่เราได้ยินและได้เห็นนั่นคือความจริง
จับพฤติกรรมสามีด้วยเครื่อง gps