บริเวณทางเข้าด้านหน้าโรงแรมค่ำคืนนี้ แลเห็นบรรดาแขกแต่งตัวชุดราตรีหรูทยอยเดินเข้าเพื่อไปร่วมงานแต่งงานคู่รักไฮโซ จังหวะนี้รถยุโรปราคาแพงหรูขับเข้ามาจอดหน้าโรงแรมด้วยความเร็วสูง ล้อรถเบียดกับถนนแผดเสียงดังสนั่น จนทำให้ทุกคนที่กำลังเดินไปชะงักหันกลับมามองเป็นแถว
เรียวขาขาวงามของสาวสวยเจ้าของรถแพงระยับก้าวออกมาจากรอยผ่าสูงถึงโคนขาของชุดราตรีสีแดงสด ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น มองอย่างตะลึง ในความสวย เมื่อเธอคนนั้นขยับตัวจึงพบว่าชุดราตรีสีแดงรัดรูป โชว์แผ่นหลังเปลือยเปล่าจนถึงสะโพก ยิ่งดูเซ็กซี่มาก
เธอคือ กะรัต หลานรักของเจ้าสัวบัญชา มหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ภายในห้องบอลรูมจัดงานแต่งงาน ถูกเนรมิตรโดยทีมออร์แกไนซ์ออกมาเลิศหรูอลังการ ด้วยเป็นคู่แต่งงานของลูกหลานตระกูลไฮโซ แขกเหรื่อที่มาร่วมยินดีแต่งตัวหรูดูดี บ่งบอกฐานะ นั่งอยู่ที่โต๊ะเต็มห้อง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวพากันจูงมือเดินบนทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ไปขึ้นไปสู่บนเวที
ขณะเดียวกัน รถแวนสีดำคันหรูขับอย่างเร็ว เข้ามาจอดหน้าโรงแรม สมหวังคนขับรถ รีบลงจากที่นั่งคนขับมาเปิดประตูด้านข้างให้กุนตี หรือกุ้ง พี่สาวคนโตซึ่งดูแลธุรกิจของครอบครัว กับ กุนตี หรือก้อย แพทย์ฝึกหัด น้องสาวคนเล็กของกะรัต ทั้งคู่รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในโรงแรมอย่างรีบร้อน
งานแต่งในห้องบอลรูมดำเนินไป พิธีกรบนเวทียืนอยู่กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ประกาศ
“ผมว่าทุกคนในห้องนี้คงอยากรู้แล้วว่าเจ้าบ่าว เจ้าสาวของเราพบรักกันยังไง งั้นเชิญชม VTR กันเลยดีกว่าครับ”
ไฟในห้องบอลรูมมืดลง ภาพ VTR ฉายบนจอ เป็นภาพเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวตอนเด็กๆ แขกในงานหัวเราะชื่นชม ทันใดนั้นภาพ VTR ของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็ดับหายไป แล้วมีภาพผู้หญิงกับผู้ชาย กำลังกอดจูบกันเข้ามาใน โรงแรมม่านรูดขึ้นมาแทนที่ เสียงแขกในงานฮือฮาว่าเป็นภาพของใคร ผู้หญิงคนหนึ่งรีบลุกขึ้นมา จะวิ่งหนีออกไปจากงาน กะรัต แย่งไมค์ไปจากมือพิธีกรประกาศกับไมค์
“ทุกท่านอาจจะสงสัยว่า ผู้หญิงเริงร่านในวิดีโอนั้นเป็นใครใช่ไหมคะ”
ทันใดนั้นมีไฟสปอร์ตไลท์ส่องพุ่งไปที่ร่างผู้หญิงที่ลุกขึ้น กำลังจะเดินหนีออกจากห้องบอลรูม
“มันคือนางนี่แหละค่ะ นังไฮโซแม่พระ สร้างภาพเป็นผู้แสวงบุญ ที่แท้เป็นพวกลอบแสวงสวาทกับผัวชาวบ้าน”
แขกมองหน้าผู้หญิงที่กำลังจะหนี แล้วหันไปมองภาพ VTR ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกัน
“ไม่จริงนะ ฉันไม่ใช่ มันใส่ความฉัน” ผู้หญิงคนนั้นโวยวายลั่น
ไฟในห้องถูกเปิดให้สว่างทีละจุด จนสว่างไปทั่วห้องบอลรูม กะรัตในชุดราตรีสีแดงสดยืนสง่าอยู่กลาง เวที มือถือไมค์ ใบหน้ามองพุ่งไปที่ผู้หญิงคู่กรณีดวงตาคมกริบ ริมฝีปากเหยียดยิ้มเยาะหยาม ผู้หญิงคนนั้นมองอึ้งๆ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นกะรัต
“คุณกะรัต”
กะรัตเดินนวยนาดมาดอย่างนางพญา ลงจากเวทีเดินมาที่ผู้หญิงคนนั้น
“ถ้าแกรู้จักชื่อฉัน แกก็ควรจะรู้ว่าฉันเป็นเมียของผู้ชายที่แกสมสู่ แกอย่าได้พาร่างกายที่โสโครกกับจิตใจ ที่โสมมของแกเข้าวัดปฎิธรรมให้ศาสนาหมนหมองอีก แต่ถ้าอยากจะชะล้าง ...ฉันจะอนุโมทนาให้”
กะรัตหยิบขวดน้ำหมักขี้สีน้ำตาลดำจากในกระเป๋าถือ ออกมาเทสาดใส่
“อ๊าย...” ผู้หญิงร้องลั่น พยายามสะบัด
“คิดจะแย่งผัวใครไม่แย่ง มาแย่งผัวกะรัต ก็ต้องตบ...”
กะรัตตบผู้หญิงล้มคว่ำ
“ล้างด้วยน้ำหมักในถังขี้อย่างนี้นี่แหละ”
ผู้หญิงจ้องหน้าโกรธจัดที่กะรัตทำให้ขายหน้า เธอลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปตบ กะรัตสู้กับผู้หญิงตบกันนัวเนีย กุนตีและกันตาวิ่งเข้ามาในห้องบอลรูม แล้วรีบพุ่งเข้าไปดึงร่างกะรัตออกมา พนักงานเสิร์ฟ เข้าไปห้ามผู้หญิงคนนั้น
“พอเถอะกั้ง เขาเป็นหุ้นส่วนบริษัทของคุณภูนะ” กุนตีห้าม
“ต่อให้เป็นโคตรเหง้าศักราช ถ้ามายุ่งกับผัวกั้ง กั้งไม่เอาไว้หรอกพี่กุ้ง”
กะรัตโวยวาย พยายามดิ้นให้หลุดจากกุมมือกันตาและกุนตี
“ปล่อยกั้ง”
“พี่กั้งไม่เห็นเหรอ พี่พังงานแต่งคนอื่นหมดแล้ว” กันตาห้ามปราม
กะรัตตะโกนบอกเจ้าบ่าว เจ้าสาว
“ก็ช่วยไม่ได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารู้ว่าเพื่อนยุ่งกับผัวคนอื่น ก็จงรีบห้าม ไม่อย่างนั้นงานแต่งคุณพัง”
กุนตีกับกันตา ช่วยกันลากร่างกะรัตที่พยายามสะบัดตัวอาละวาดเป็นช้างตกมัน ออกจากห้องบอลรูม นักข่าวกรูเข้ามารุมถ่ายรูปกะรัตแสงแฟรชวูบวาบ
วันใหม่...แสงดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือท้องทะเล ในห้องน้ำใหญ่ผนังรอบด้านเป็นกระจก ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ ทะเลสีฟ้าสด ตัดกับท้องฟ้าสีขาว กะรัตนั่งแช่อยู่ในอ่างจากุชชี่ในห้องน้ำหรูอย่างเซ็งกับชีวิต
กันตา กุนตี ยืนมองกะรัตอย่างเป็นห่วง อยู่กับพวงทอง มารดาของทั้งสามคน
“แน่ใจนะว่ายัยกั้งจะอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ใช่คิดเชือดข้อมือเหมือน คราวก่อนอีก” พวงหยกกังวล
กันตากับกุนตีสะกิดแขนพวงหยก ไม่ให้พูดย้ำอดีตของกะรัต
“ชีวิตกั้งนี่ทำบุญคนไม่ขึ้นจริงๆ ทำดีกับใคร ไม่เคยไว้ใจได้เลย” กะรัตบ่นอย่างน้อยใจ
“ใจเย็นๆนะพี่กั้ง พี่ภูเขาบอกแล้วไงว่าที่ทำไปเพราะเมา อีกอย่างผู้หญิงก็ขู่ว่าจะถอนหุ้น พี่ภูก็เลย...”
กันตาปลอบ กะรัตสวนทันที
“ขายตัวงั้นเหรอ แล้วฉันล่ะ ฉันมีเงินเยอะกว่านังนั่นตั้งร้อยเท่าพันเท่าทำไมภูไม่มาเอา”
“พี่ภูคงกลัวพวกปากหอยปากปูนินทาว่าตกถังข้าวสารน่ะสิ ก้อยไม่ได้เข้าข้างพี่ภูนะ แต่เราไม่เคยจน เราไม่รู้หรอกว่าการโดนดูถูก มันเป็นยังไง มองอีกแง่นึง...พี่ภูเขาเป็นคนดี ไม่หวังเอาเงินจากพี่กั้ง”
“แต่มันนอกใจฉันนะ”
“มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย คิดซะว่าเขาแค่ไปลองอาหารข้างทางแล้วกัน สุดท้ายก็ต้องกลับมากินอาหาร เหลาอย่างพี่กั้งวันยันค่ำ ให้พี่ภูมาหาพี่กั้งนะ”
“อย่าให้มันเสนอหน้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันว่ามีดหรือลูกปืน จะพุ่งใส่กบาลมันก่อนกัน”
พวงหยกแทรกขึ้น
“แต่ยังไงตาภูก็ต้องมา แกลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน นิตยสาร GOOD MORNING HISO เขาล็อกคิวทำสกู๊ปชีวิต ครอบครัวแกไว้ ยังไงแกกับตาภูก็ต้องสร้างภาพว่ารักกัน”
“เหมือนที่เดือนที่แล้วพ่อกับแม่ ถ่ายรูปสร้างภาพลงหนังสือพิมพ์ว่ายังรักกันไงกั้ง” กุนตีเสริม
“กั้งสะตอไม่เป็น” กะรัตเชิด
พวงหยกสะดุ้ง
“นี่แกว่าฉันสะตอเหรอยายกั้ง”
“เปล่านะแม่” กะรัตตัดบท “กลับไปกรุงเทพกันได้แล้ว กั้งอยากอยู่เงียบๆ”
พวงหยกจ้องหน้า
“ฉันกลับแน่ แต่ยังไงแกต้องให้นิตยสารสัมภาษณ์ ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครมันพูดว่าผู้หญิงตระกูลนี้ โดนนอกใจตั้งแต่แม่ยันลูก”
“ใครจะว่ายังไงก็ช่าง มันไม่ใช่คนเจ็บนี่ กั้งต่างหากที่เจ็บแล้วกั้งก็จะไม่ทน กั้งจะเลิกกับไอ้ภู”
พวงหยกอ้าปากจะต่อว่ากะรัต แต่กุนตีจับแขนพวงหยกเป็นเชิงปราม แล้วพยักหน้าให้พวงหยก และกันตาออกจากห้องน้ำ
พวงหยกโวยวาย ที่ถูกดึงออกมาจากจากห้องของกะรัต
“แกจะลากแม่ออกมาทำไมยายกุ้ง แม่จะคุยกับยายกั้งให้รู้เรื่องนี่มันแต่งงานหนที่สามแล้วนะ ผัวสองคนแรกเป็น ม่ายผัวตาย คนนี้จะเป็นม่ายผัวทิ้งเหรอ แม่ไม่ยอม แม่อายชาวบ้านเขา”
“กั้งไม่เลิกหรอกแม่”
นวลถือชามก๋วยเตี๋วเนื้อผ่านพวงหยก กุนตี กันตาไปที่ห้องของกะรัต กันตามองตามชามก๋วยเตี๋ยวเนื้อแล้วยิ้ม
“ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวเนื้อนั่นไงแม่ พี่กั้งบอกเลิกกินเนื้อมาเป็นชาติแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่เคยเลิกได้”
“ก็ความรักเป็นของอร่อย จะเลิกได้ยังไง”
กุนตีหมายถึงเจ็บปวดเพราะความรักขนาดไหน ก็ไม่เคยเลิกอยากกินมันได้เลย
นวลถือชามก๋วยเตี๋ยวเนื้อเข้ามาวางบนโต๊ะตัวเตี้ยไว้ ให้กะรัตนั่งกินอาหาร ขณะแช่น้ำได้
“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าโปรดของคุณกั้งมาแล้วค่ะ”
กะรัตดีดนิ้วดัง ป๊อก ป๊อก ตามนิสัย นวลรีบหยิบผ้าคลุมกางรอ กะรัตลุกขึ้นจากน้ำมาสวมเสื้อคลุม
“คุณกั้งจะให้ยกเลิกนัดสัมภาษณ์ไหมคะ”
“แม่พูดถูก ขืนฉันยกเลิก อีพวกกากชะนีมันก็ระริกระรี้คิดว่าฉันเลิก กับภูแล้วน่ะสิ ฉันจะทำให้พวกมันเห็นว่า สุดท้ายภูต้องเลือกฉัน เพราะฉันมีปัญญาให้ภูได้ทุกอย่าง ในขณะที่พวกมัน เป็นได้แค่ปลิงเกาะภู”
นวลมองกะรัตแล้วแอบถอนใจที่สุดท้ายกะรัตก็ใช้เงินซื้อความสุขจอมปลอม แล้วกะรัตจะเจอรักจริงและ ความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร
ในโรงแรมม่านรูด ภูเบศร์คุยมือถือกับนวล
“กั้งให้ฉันไปหาตอนนี้เหรอนวล ได้ๆ...ตอนนี้ฉันเคลียร์งานเพิ่งเสร็จ เดี๋ยวรีบไปหากั้งเดี๋ยวนี้เลย”
ภูเบศร์รีบกดวางสาย แล้วก้มหยิบกางเกงมารีบใส่ พร้อมหยิบเสื้อของนิลุบลปาใส่ร่างของเธอที่ยังนอนเพลียอยู่
“ตื่นเร็ว ผมต้องรีบไปพัทยาเดี๋ยวนี้”
นิลุบลลุกขึ้นใส่เสื้ออย่างอิดออด
“จะรีบไปง้อนางเมียปีศาจเหรอคะ”
ภูเบศร์ไม่ตอบ รีบสะบัดตัวออกห่างนิลุบลแล้วไป หยิบกระเป๋าเงินพร้อมกุญแจรถ มือถือภูเบศร์ดังขึ้น เขามองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วเดินออกไปคุยนอกห้องไม่ให้นิลุบลแอบฟัง
เมื่อออกมาหน้าห้องโรงแรมม่านรูด ภูเบศร์กดรับสาย
“ฮัลโหล...อย่าโกรธนะครับที่รัก ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนั้นผมทำไป เพราะผลประโยชน์ ผมยอมทำทุกอย่างให้เรามีเงิน เพื่อสร้าง ครอบครัวของเรา ตอนนี้ผมกำลังไปง้อกั้ง เห็นนวลบอกว่ากั้งให้ ผมลาออกจากบริษัทเก่า แล้วจะให้เงินผมตั้งบริษัทเอง”
ภายในรถที่สมหวังเป็นคนขับมีกระจกกั้นระหว่างโซนคนขับกับ โซนคนนั่ง สายน้ำผึ้งเพื่อนสนิทของกะรัตกำลังพูดมือถืออยู่
“จริงเหรอคะ งั้นถ้าคุณได้เงินแล้ว คุณก็เลิกกับเขาได้แล้วสิ ทีนี้พวกเราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ...แม่...ลูกกันสักที”
ภูเบศร์มองนาฬิกาอย่างรีบร้อน
“แล้วค่อยคุยกัน ผมต้องรีบไปก่อน เดี๋ยวกั้งจะเปลี่ยนใจ”
ภูเบศร์กดวางสาย นิลุบลเดินออกจากห้องมาพอดี ภูเบศร์รีบขึ้นรถแล้วยิ้มหมายมั่นกับเงินก้อนโตที่กะรัต
รับปากจะให้เขาเป็นทุนเปิดบริษัท
ในห้องแต่งตัวในบ้านพักตากอากาศของกะรัต ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซน์เนอร์ช่วยกันแต่งหน้าทำผม ให้กะรัตอย่างรีบร้อน กะรัตหงุดหงิดเพราะกลัวไม่ทันเวลา
“ทำให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม เดี๋ยวทีมงานก็จะมาสัมภาษณ์กันแล้ว ป่านนี้ภูยังไม่มาอีกรึไง เดี๋ยวฉันก็เปลี่ยนใจไม่ให้เงินซะหรอก”
ดีไซน์เนอร์หยิบชุดมาโชว์ให้กะรัตเลือก
“ชุดนี้น่าเบื่อเป็นป้าแถวสำเพ็ง...ชุดนั้นโป๊ไป…ฉันแต่งงานแค่ปีกว่า คงไม่ต้องใส่ชุดยั่วผัวเป็นดาวยั่วขนาดนั้น หรอก...ชุดสีขาวนั่นเก็บไปเลย ฉันจัดงานฉลอง ไม่ใช่จัดงานลาบวช นี่ชุดราคาตั้งหลายหมื่น ไม่มีอะไรใหม่ๆเลยรึไง”
ดีไซน์เนอร์แอบรำคาญ
“นี่ก็เป็นคอลเลคชั่นของแฟชั่นซีซั่นนี้แล้วนะฮะน้องกั้ง”
นวลเดินคุมละมุนแม่บ้านอีกคนให้รีบถือแก้วน้ำแล้วอาหารว่าง เข้ามาบริการเพื่อบรรเทาบรรยากาศ ก่อนเกิดสงครามกลางห้อง
“น้ำเย็นๆ ขนมหวานๆมาแล้วค่า”
“นวล เธอจัดการบอกร้านอาหารรึยังว่าฉันเปลี่ยนโซนจัดงานเลี้ยงจากริมหาด เป็นในร้านรึยัง ฉันจะใส่ชุดราตรี ไม่อยากให้ชุดเปื้อน”
นวลชะงักพูดอย่างอึกอัก
“บอกแล้วค่ะ แต่ร้านไม่กล้ารับปากว่า จะเปลี่ยนได้ไหม”
“นี่ร้านยึกยักคิดจะเรียกเงินเพิ่มรึไง งั้นก็จ่ายไป จะได้จบๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่อยู่ที่คนอื่น”
กะรัตหันมามองนวลด้วยสายตาเอาเรื่องทันที ช่างผม ช่างแต่งหน้า ดีไซน์เนอร์มองไปทางกะรัต ว่าจะอารมณ์ขึ้นไหมที่มีคนกล้ามีปัญหากับเธอ
“ใครกล้ามีปัญหากับกะรัต”
ตอนที่ 1 สามีตีตรา
เรียวขาขาวงามของสาวสวยเจ้าของรถแพงระยับก้าวออกมาจากรอยผ่าสูงถึงโคนขาของชุดราตรีสีแดงสด ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น มองอย่างตะลึง ในความสวย เมื่อเธอคนนั้นขยับตัวจึงพบว่าชุดราตรีสีแดงรัดรูป โชว์แผ่นหลังเปลือยเปล่าจนถึงสะโพก ยิ่งดูเซ็กซี่มาก
เธอคือ กะรัต หลานรักของเจ้าสัวบัญชา มหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ภายในห้องบอลรูมจัดงานแต่งงาน ถูกเนรมิตรโดยทีมออร์แกไนซ์ออกมาเลิศหรูอลังการ ด้วยเป็นคู่แต่งงานของลูกหลานตระกูลไฮโซ แขกเหรื่อที่มาร่วมยินดีแต่งตัวหรูดูดี บ่งบอกฐานะ นั่งอยู่ที่โต๊ะเต็มห้อง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวพากันจูงมือเดินบนทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ไปขึ้นไปสู่บนเวที
ขณะเดียวกัน รถแวนสีดำคันหรูขับอย่างเร็ว เข้ามาจอดหน้าโรงแรม สมหวังคนขับรถ รีบลงจากที่นั่งคนขับมาเปิดประตูด้านข้างให้กุนตี หรือกุ้ง พี่สาวคนโตซึ่งดูแลธุรกิจของครอบครัว กับ กุนตี หรือก้อย แพทย์ฝึกหัด น้องสาวคนเล็กของกะรัต ทั้งคู่รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในโรงแรมอย่างรีบร้อน
งานแต่งในห้องบอลรูมดำเนินไป พิธีกรบนเวทียืนอยู่กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ประกาศ
“ผมว่าทุกคนในห้องนี้คงอยากรู้แล้วว่าเจ้าบ่าว เจ้าสาวของเราพบรักกันยังไง งั้นเชิญชม VTR กันเลยดีกว่าครับ”
ไฟในห้องบอลรูมมืดลง ภาพ VTR ฉายบนจอ เป็นภาพเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวตอนเด็กๆ แขกในงานหัวเราะชื่นชม ทันใดนั้นภาพ VTR ของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็ดับหายไป แล้วมีภาพผู้หญิงกับผู้ชาย กำลังกอดจูบกันเข้ามาใน โรงแรมม่านรูดขึ้นมาแทนที่ เสียงแขกในงานฮือฮาว่าเป็นภาพของใคร ผู้หญิงคนหนึ่งรีบลุกขึ้นมา จะวิ่งหนีออกไปจากงาน กะรัต แย่งไมค์ไปจากมือพิธีกรประกาศกับไมค์
“ทุกท่านอาจจะสงสัยว่า ผู้หญิงเริงร่านในวิดีโอนั้นเป็นใครใช่ไหมคะ”
ทันใดนั้นมีไฟสปอร์ตไลท์ส่องพุ่งไปที่ร่างผู้หญิงที่ลุกขึ้น กำลังจะเดินหนีออกจากห้องบอลรูม
“มันคือนางนี่แหละค่ะ นังไฮโซแม่พระ สร้างภาพเป็นผู้แสวงบุญ ที่แท้เป็นพวกลอบแสวงสวาทกับผัวชาวบ้าน”
แขกมองหน้าผู้หญิงที่กำลังจะหนี แล้วหันไปมองภาพ VTR ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกัน
“ไม่จริงนะ ฉันไม่ใช่ มันใส่ความฉัน” ผู้หญิงคนนั้นโวยวายลั่น
ไฟในห้องถูกเปิดให้สว่างทีละจุด จนสว่างไปทั่วห้องบอลรูม กะรัตในชุดราตรีสีแดงสดยืนสง่าอยู่กลาง เวที มือถือไมค์ ใบหน้ามองพุ่งไปที่ผู้หญิงคู่กรณีดวงตาคมกริบ ริมฝีปากเหยียดยิ้มเยาะหยาม ผู้หญิงคนนั้นมองอึ้งๆ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นกะรัต
“คุณกะรัต”
กะรัตเดินนวยนาดมาดอย่างนางพญา ลงจากเวทีเดินมาที่ผู้หญิงคนนั้น
“ถ้าแกรู้จักชื่อฉัน แกก็ควรจะรู้ว่าฉันเป็นเมียของผู้ชายที่แกสมสู่ แกอย่าได้พาร่างกายที่โสโครกกับจิตใจ ที่โสมมของแกเข้าวัดปฎิธรรมให้ศาสนาหมนหมองอีก แต่ถ้าอยากจะชะล้าง ...ฉันจะอนุโมทนาให้”
กะรัตหยิบขวดน้ำหมักขี้สีน้ำตาลดำจากในกระเป๋าถือ ออกมาเทสาดใส่
“อ๊าย...” ผู้หญิงร้องลั่น พยายามสะบัด
“คิดจะแย่งผัวใครไม่แย่ง มาแย่งผัวกะรัต ก็ต้องตบ...”
กะรัตตบผู้หญิงล้มคว่ำ
“ล้างด้วยน้ำหมักในถังขี้อย่างนี้นี่แหละ”
ผู้หญิงจ้องหน้าโกรธจัดที่กะรัตทำให้ขายหน้า เธอลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปตบ กะรัตสู้กับผู้หญิงตบกันนัวเนีย กุนตีและกันตาวิ่งเข้ามาในห้องบอลรูม แล้วรีบพุ่งเข้าไปดึงร่างกะรัตออกมา พนักงานเสิร์ฟ เข้าไปห้ามผู้หญิงคนนั้น
“พอเถอะกั้ง เขาเป็นหุ้นส่วนบริษัทของคุณภูนะ” กุนตีห้าม
“ต่อให้เป็นโคตรเหง้าศักราช ถ้ามายุ่งกับผัวกั้ง กั้งไม่เอาไว้หรอกพี่กุ้ง”
กะรัตโวยวาย พยายามดิ้นให้หลุดจากกุมมือกันตาและกุนตี
“ปล่อยกั้ง”
“พี่กั้งไม่เห็นเหรอ พี่พังงานแต่งคนอื่นหมดแล้ว” กันตาห้ามปราม
กะรัตตะโกนบอกเจ้าบ่าว เจ้าสาว
“ก็ช่วยไม่ได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารู้ว่าเพื่อนยุ่งกับผัวคนอื่น ก็จงรีบห้าม ไม่อย่างนั้นงานแต่งคุณพัง”
กุนตีกับกันตา ช่วยกันลากร่างกะรัตที่พยายามสะบัดตัวอาละวาดเป็นช้างตกมัน ออกจากห้องบอลรูม นักข่าวกรูเข้ามารุมถ่ายรูปกะรัตแสงแฟรชวูบวาบ
วันใหม่...แสงดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือท้องทะเล ในห้องน้ำใหญ่ผนังรอบด้านเป็นกระจก ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ ทะเลสีฟ้าสด ตัดกับท้องฟ้าสีขาว กะรัตนั่งแช่อยู่ในอ่างจากุชชี่ในห้องน้ำหรูอย่างเซ็งกับชีวิต
กันตา กุนตี ยืนมองกะรัตอย่างเป็นห่วง อยู่กับพวงทอง มารดาของทั้งสามคน
“แน่ใจนะว่ายัยกั้งจะอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ใช่คิดเชือดข้อมือเหมือน คราวก่อนอีก” พวงหยกกังวล
กันตากับกุนตีสะกิดแขนพวงหยก ไม่ให้พูดย้ำอดีตของกะรัต
“ชีวิตกั้งนี่ทำบุญคนไม่ขึ้นจริงๆ ทำดีกับใคร ไม่เคยไว้ใจได้เลย” กะรัตบ่นอย่างน้อยใจ
“ใจเย็นๆนะพี่กั้ง พี่ภูเขาบอกแล้วไงว่าที่ทำไปเพราะเมา อีกอย่างผู้หญิงก็ขู่ว่าจะถอนหุ้น พี่ภูก็เลย...”
กันตาปลอบ กะรัตสวนทันที
“ขายตัวงั้นเหรอ แล้วฉันล่ะ ฉันมีเงินเยอะกว่านังนั่นตั้งร้อยเท่าพันเท่าทำไมภูไม่มาเอา”
“พี่ภูคงกลัวพวกปากหอยปากปูนินทาว่าตกถังข้าวสารน่ะสิ ก้อยไม่ได้เข้าข้างพี่ภูนะ แต่เราไม่เคยจน เราไม่รู้หรอกว่าการโดนดูถูก มันเป็นยังไง มองอีกแง่นึง...พี่ภูเขาเป็นคนดี ไม่หวังเอาเงินจากพี่กั้ง”
“แต่มันนอกใจฉันนะ”
“มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย คิดซะว่าเขาแค่ไปลองอาหารข้างทางแล้วกัน สุดท้ายก็ต้องกลับมากินอาหาร เหลาอย่างพี่กั้งวันยันค่ำ ให้พี่ภูมาหาพี่กั้งนะ”
“อย่าให้มันเสนอหน้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันว่ามีดหรือลูกปืน จะพุ่งใส่กบาลมันก่อนกัน”
พวงหยกแทรกขึ้น
“แต่ยังไงตาภูก็ต้องมา แกลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน นิตยสาร GOOD MORNING HISO เขาล็อกคิวทำสกู๊ปชีวิต ครอบครัวแกไว้ ยังไงแกกับตาภูก็ต้องสร้างภาพว่ารักกัน”
“เหมือนที่เดือนที่แล้วพ่อกับแม่ ถ่ายรูปสร้างภาพลงหนังสือพิมพ์ว่ายังรักกันไงกั้ง” กุนตีเสริม
“กั้งสะตอไม่เป็น” กะรัตเชิด
พวงหยกสะดุ้ง
“นี่แกว่าฉันสะตอเหรอยายกั้ง”
“เปล่านะแม่” กะรัตตัดบท “กลับไปกรุงเทพกันได้แล้ว กั้งอยากอยู่เงียบๆ”
พวงหยกจ้องหน้า
“ฉันกลับแน่ แต่ยังไงแกต้องให้นิตยสารสัมภาษณ์ ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครมันพูดว่าผู้หญิงตระกูลนี้ โดนนอกใจตั้งแต่แม่ยันลูก”
“ใครจะว่ายังไงก็ช่าง มันไม่ใช่คนเจ็บนี่ กั้งต่างหากที่เจ็บแล้วกั้งก็จะไม่ทน กั้งจะเลิกกับไอ้ภู”
พวงหยกอ้าปากจะต่อว่ากะรัต แต่กุนตีจับแขนพวงหยกเป็นเชิงปราม แล้วพยักหน้าให้พวงหยก และกันตาออกจากห้องน้ำ
พวงหยกโวยวาย ที่ถูกดึงออกมาจากจากห้องของกะรัต
“แกจะลากแม่ออกมาทำไมยายกุ้ง แม่จะคุยกับยายกั้งให้รู้เรื่องนี่มันแต่งงานหนที่สามแล้วนะ ผัวสองคนแรกเป็น ม่ายผัวตาย คนนี้จะเป็นม่ายผัวทิ้งเหรอ แม่ไม่ยอม แม่อายชาวบ้านเขา”
“กั้งไม่เลิกหรอกแม่”
นวลถือชามก๋วยเตี๋วเนื้อผ่านพวงหยก กุนตี กันตาไปที่ห้องของกะรัต กันตามองตามชามก๋วยเตี๋ยวเนื้อแล้วยิ้ม
“ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวเนื้อนั่นไงแม่ พี่กั้งบอกเลิกกินเนื้อมาเป็นชาติแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่เคยเลิกได้”
“ก็ความรักเป็นของอร่อย จะเลิกได้ยังไง”
กุนตีหมายถึงเจ็บปวดเพราะความรักขนาดไหน ก็ไม่เคยเลิกอยากกินมันได้เลย
นวลถือชามก๋วยเตี๋ยวเนื้อเข้ามาวางบนโต๊ะตัวเตี้ยไว้ ให้กะรัตนั่งกินอาหาร ขณะแช่น้ำได้
“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าโปรดของคุณกั้งมาแล้วค่ะ”
กะรัตดีดนิ้วดัง ป๊อก ป๊อก ตามนิสัย นวลรีบหยิบผ้าคลุมกางรอ กะรัตลุกขึ้นจากน้ำมาสวมเสื้อคลุม
“คุณกั้งจะให้ยกเลิกนัดสัมภาษณ์ไหมคะ”
“แม่พูดถูก ขืนฉันยกเลิก อีพวกกากชะนีมันก็ระริกระรี้คิดว่าฉันเลิก กับภูแล้วน่ะสิ ฉันจะทำให้พวกมันเห็นว่า สุดท้ายภูต้องเลือกฉัน เพราะฉันมีปัญญาให้ภูได้ทุกอย่าง ในขณะที่พวกมัน เป็นได้แค่ปลิงเกาะภู”
นวลมองกะรัตแล้วแอบถอนใจที่สุดท้ายกะรัตก็ใช้เงินซื้อความสุขจอมปลอม แล้วกะรัตจะเจอรักจริงและ ความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร
ในโรงแรมม่านรูด ภูเบศร์คุยมือถือกับนวล
“กั้งให้ฉันไปหาตอนนี้เหรอนวล ได้ๆ...ตอนนี้ฉันเคลียร์งานเพิ่งเสร็จ เดี๋ยวรีบไปหากั้งเดี๋ยวนี้เลย”
ภูเบศร์รีบกดวางสาย แล้วก้มหยิบกางเกงมารีบใส่ พร้อมหยิบเสื้อของนิลุบลปาใส่ร่างของเธอที่ยังนอนเพลียอยู่
“ตื่นเร็ว ผมต้องรีบไปพัทยาเดี๋ยวนี้”
นิลุบลลุกขึ้นใส่เสื้ออย่างอิดออด
“จะรีบไปง้อนางเมียปีศาจเหรอคะ”
ภูเบศร์ไม่ตอบ รีบสะบัดตัวออกห่างนิลุบลแล้วไป หยิบกระเป๋าเงินพร้อมกุญแจรถ มือถือภูเบศร์ดังขึ้น เขามองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วเดินออกไปคุยนอกห้องไม่ให้นิลุบลแอบฟัง
เมื่อออกมาหน้าห้องโรงแรมม่านรูด ภูเบศร์กดรับสาย
“ฮัลโหล...อย่าโกรธนะครับที่รัก ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนั้นผมทำไป เพราะผลประโยชน์ ผมยอมทำทุกอย่างให้เรามีเงิน เพื่อสร้าง ครอบครัวของเรา ตอนนี้ผมกำลังไปง้อกั้ง เห็นนวลบอกว่ากั้งให้ ผมลาออกจากบริษัทเก่า แล้วจะให้เงินผมตั้งบริษัทเอง”
ภายในรถที่สมหวังเป็นคนขับมีกระจกกั้นระหว่างโซนคนขับกับ โซนคนนั่ง สายน้ำผึ้งเพื่อนสนิทของกะรัตกำลังพูดมือถืออยู่
“จริงเหรอคะ งั้นถ้าคุณได้เงินแล้ว คุณก็เลิกกับเขาได้แล้วสิ ทีนี้พวกเราก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ...แม่...ลูกกันสักที”
ภูเบศร์มองนาฬิกาอย่างรีบร้อน
“แล้วค่อยคุยกัน ผมต้องรีบไปก่อน เดี๋ยวกั้งจะเปลี่ยนใจ”
ภูเบศร์กดวางสาย นิลุบลเดินออกจากห้องมาพอดี ภูเบศร์รีบขึ้นรถแล้วยิ้มหมายมั่นกับเงินก้อนโตที่กะรัต
รับปากจะให้เขาเป็นทุนเปิดบริษัท
ในห้องแต่งตัวในบ้านพักตากอากาศของกะรัต ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซน์เนอร์ช่วยกันแต่งหน้าทำผม ให้กะรัตอย่างรีบร้อน กะรัตหงุดหงิดเพราะกลัวไม่ทันเวลา
“ทำให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม เดี๋ยวทีมงานก็จะมาสัมภาษณ์กันแล้ว ป่านนี้ภูยังไม่มาอีกรึไง เดี๋ยวฉันก็เปลี่ยนใจไม่ให้เงินซะหรอก”
ดีไซน์เนอร์หยิบชุดมาโชว์ให้กะรัตเลือก
“ชุดนี้น่าเบื่อเป็นป้าแถวสำเพ็ง...ชุดนั้นโป๊ไป…ฉันแต่งงานแค่ปีกว่า คงไม่ต้องใส่ชุดยั่วผัวเป็นดาวยั่วขนาดนั้น หรอก...ชุดสีขาวนั่นเก็บไปเลย ฉันจัดงานฉลอง ไม่ใช่จัดงานลาบวช นี่ชุดราคาตั้งหลายหมื่น ไม่มีอะไรใหม่ๆเลยรึไง”
ดีไซน์เนอร์แอบรำคาญ
“นี่ก็เป็นคอลเลคชั่นของแฟชั่นซีซั่นนี้แล้วนะฮะน้องกั้ง”
นวลเดินคุมละมุนแม่บ้านอีกคนให้รีบถือแก้วน้ำแล้วอาหารว่าง เข้ามาบริการเพื่อบรรเทาบรรยากาศ ก่อนเกิดสงครามกลางห้อง
“น้ำเย็นๆ ขนมหวานๆมาแล้วค่า”
“นวล เธอจัดการบอกร้านอาหารรึยังว่าฉันเปลี่ยนโซนจัดงานเลี้ยงจากริมหาด เป็นในร้านรึยัง ฉันจะใส่ชุดราตรี ไม่อยากให้ชุดเปื้อน”
นวลชะงักพูดอย่างอึกอัก
“บอกแล้วค่ะ แต่ร้านไม่กล้ารับปากว่า จะเปลี่ยนได้ไหม”
“นี่ร้านยึกยักคิดจะเรียกเงินเพิ่มรึไง งั้นก็จ่ายไป จะได้จบๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่อยู่ที่คนอื่น”
กะรัตหันมามองนวลด้วยสายตาเอาเรื่องทันที ช่างผม ช่างแต่งหน้า ดีไซน์เนอร์มองไปทางกะรัต ว่าจะอารมณ์ขึ้นไหมที่มีคนกล้ามีปัญหากับเธอ
“ใครกล้ามีปัญหากับกะรัต”