เริ่มต้นด้วยการเล่าเกี่ยวกับบริษัทผมนะครับ เป็นบริษัทต่างด้าว โดยได้รับใบอนุญาตผลิตสินค้าด้านงานตัดเย็บเครื่องนุ่งห่มให้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้นขายที่ไทยไม่ได้ บริษัทเปิดมาได้ปีนี้ปีที่2แล้ว โดยได้เริ่มการผลิตตั้งแต่ 1 มกราคม 2556
บริษัทได้นำเข้าวัตถุดิบโดยผ่านศุลกากร และทำการผลิตสินค้าส่งกลับไปที่บริษัทแม่ สมมุตินำเข้ามา50000 บาท ก็เรียกเก็บเงินไป50000บาทพอดี โดยให้มีการหักล้างพอดี เพราะมันเป็นงานฝีมือ ที่ใช้ความชำนาญอย่างมาก โดยให้เห็นผลที่ขายไปเท่าทุนที่สั่งซื้อมาเพราะมองว่าเป็นสินค้าทดลองผลิต
บริษัทปิดงบเดือน12 ครับ โดยปรากฏว่า ต้นทุนขาย ( เงินเดือน + ค่าเช่า +บวกอื่นๆๆ รวมแล้ว 6,000,000 กว่าบาท ) แต่ยอดที่เรียกเก็บเงินจากบริษัทที่ญี่ปุ่นเพียง 900,000 บาท ( อย่างที่บอกเรียกเก็บเท่าราคาผ้าที่นำเข้ามา) แล้วทีนี้ผู้ตรวจสอบบัญชีเขาประเมินให้ว่า คิดลูกหนี้การค้าหรือเรียกเก็บเงินจากบริษัทเเม่ 7,000,000 หรือให้ออกใบเพิ่มหนี้มา อยากถามว่ามันสมเหตุสมผลไหมที่ประมานราคา7,000,000ให้เป็นยอดขายและในกรณีนี้ต้องทำยังไงครับ
เข้าใจว่าต้องทำตามใจออดิท เพราะเขาจะไม่เซ็นให้ นายก็ไม่อยากให้มียอดนี้ ช่วยแก้ปัญหาหรือช่วยบอกข้อดีข้อเสียหน่อยครับ
ปิดงบปีบริษัทกับการออกใบเพิ่มหนี้
บริษัทได้นำเข้าวัตถุดิบโดยผ่านศุลกากร และทำการผลิตสินค้าส่งกลับไปที่บริษัทแม่ สมมุตินำเข้ามา50000 บาท ก็เรียกเก็บเงินไป50000บาทพอดี โดยให้มีการหักล้างพอดี เพราะมันเป็นงานฝีมือ ที่ใช้ความชำนาญอย่างมาก โดยให้เห็นผลที่ขายไปเท่าทุนที่สั่งซื้อมาเพราะมองว่าเป็นสินค้าทดลองผลิต
บริษัทปิดงบเดือน12 ครับ โดยปรากฏว่า ต้นทุนขาย ( เงินเดือน + ค่าเช่า +บวกอื่นๆๆ รวมแล้ว 6,000,000 กว่าบาท ) แต่ยอดที่เรียกเก็บเงินจากบริษัทที่ญี่ปุ่นเพียง 900,000 บาท ( อย่างที่บอกเรียกเก็บเท่าราคาผ้าที่นำเข้ามา) แล้วทีนี้ผู้ตรวจสอบบัญชีเขาประเมินให้ว่า คิดลูกหนี้การค้าหรือเรียกเก็บเงินจากบริษัทเเม่ 7,000,000 หรือให้ออกใบเพิ่มหนี้มา อยากถามว่ามันสมเหตุสมผลไหมที่ประมานราคา7,000,000ให้เป็นยอดขายและในกรณีนี้ต้องทำยังไงครับ
เข้าใจว่าต้องทำตามใจออดิท เพราะเขาจะไม่เซ็นให้ นายก็ไม่อยากให้มียอดนี้ ช่วยแก้ปัญหาหรือช่วยบอกข้อดีข้อเสียหน่อยครับ