แม้ปริมาณอาจจะขายได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองเจ้า เพราะมีคนใช้เยอะขึ้นทุกปีอยู่แล้ว
แต่ส่วนแบ่งกลับโดนซัมซุงแซงหน้า ในขณะที่ไอโฟนมีส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ !!!
สังเกตุดูเมื่อ 4-5 ปี ก่อนคนไทยยยังนิยมใช้ Nokia เป็นยี่ห้อมือถือที่คนไทยชอบมากที่สุดในสมัยนั้น
ในขณะที่ไอโฟนเริ่มเป็นที่รู้จัก คนเริ่มเห่อ และใฝ่ฝันอยากได้เพราะมีราคาแพงในยุคนั้น
ในขณะที่ตอนนั้นแอนดรอยด์ ยังเทียบไอโฟนแทบไม่ติดในหลายๆ ด้าน ซัมซุงก็เพิ่งบุกทำมือถือแอนดรอยด์ในยุคแรกๆ
หลังจากนั้นแอนดรอยด์ก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ในขณะที่ซัมซุงก็เริ่มสร้างแบรนด์ Galaxy ของตัวเอง พร้อมแตกไลน์ ทั้ง S ทั้ง Note
และทุ่มทำการตลาดอย่างหนัก จนซัมซุงมีมือถือรุ่นท็อปของตัวเองวางจำหน่ายปีละ 1 รุ่นต่อไลน์ เหมือนไอโฟน
จนเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ช่วงนั้นเป็นยุคก่อนเริ่มของ Note 2 / S3 / iPhone5 เป็นช่วงปลายของยุค Note 1 / S2 / iPhone4
ซัมซุงสามารถแซงแอปเปิลขึ้นมาได้ และเป็นช่วงที่โนเกียตกต่ำสุดขีดในประเทศไทย(และอาจทั่วโลก)
ช่วงนั้น คนไทยเริ่มรู้สึกว่าซัมซุง ไม่ใช่แบรนด์มือถือทางเลือกอีกต่อไป และไอโฟนไม่ใช่มือถืออัจริยะที่ 1 ในใจที่อยากได้อีกต่อไป
จนซัมซุงก้าวขึ้นมาเบียดไอโฟนได้แบบถึงพริกถึงขิง กับการออกสมาร์ทโฟนหลายรุ่นทั้งไลน์ Galaxy S และ Galaxy Note ไม่รวมรุ่นระดับกลาง
2-3 ที่ผ่านมาซัมซุงสู้กับแอปเปิลอย่างดุเดือด ในขณะที่แอนดรอยด์พัฒนาตัวเองไปได้เรื่อยๆ
แต่จุดเด่นของซัมซุงกลับเป็นการทำการฟีเจอร์พิเศษให้มือถือของตัวเองแตกต่างจากแอนดรอยด์ธรรมดา
และใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมามากกว่า 2 ปี และในวันนี้มันแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ตอบรับค่อนข้างดี
พอมาปลายปีที่แล้ว ซัมซุง สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งและพุ่งขึ้นเป็น 1 ในประเทศไทยได้อย่างสง่างาม
ในขณะที่ไอโฟนจากแอปเปิล มีส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ จนเห็นได้ชัด
แม้ ไอโฟน6 จะเปิดตัวปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้คนฮิตมากพอจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้มากขนาดไหน
เพราะช่วงไอโฟน 5 ก็ขึ้นมานิดเดียวแล้วก็ดรอปลงไปอีก และที่สำคัญอย่าลืมว่าซัมซุงได้ขึ้นแท่นเป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีไปแล้ว
ดังนั้นต่อให้ ไอโฟน 6 ได้รับความนิยม ทางฝั่งซัมซุงก็มีของดีในมือถือ Galaxy S5 และ Galaxy note4 ที่จะออกจำหน่ายปีนี้เช่นกัน
สังเกตุจากยอดขาย Galaxy Note3 จะพบว่าคนใช้งานเริ่มคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ต้องการซื้อมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่าสมาร์ทโฟนปกติ
ถ้าเทรนด์มาแนวนี้ อีก 3-5 ปีข้างหน้า Samsung จะทำได้เหมือนที่ nokia เคยเป็นในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน จะเป็นยุครุ่งเรืองสุดขีด
สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ส่วนใหญ่ไว้ได้ ในขณะที่ iPhone จะกลายเป็นมือถือ แฟชันสวยๆ เก๋ๆ 1 ในหลายๆ รุ่น เป็นตัวเลือกนึงในตลาด
อีก 3-5 ปีข้างหน้า เราอาจจะเห็นการจัดกิจกรรม การแจกรางวัลที่เราเห็นตามโฆษณาในทีวี โดยใช้มือถือของซัมซุงรุ่นท็อปๆ แทนที่เราจะเห็นแต่ไอโฟนในปัจจุบัน
ค่ายมือถือจะเริ่มหันมาโปรโมทรุ่นท็อปราคาแพงๆของซัมซุงมากกว่า เพราะคนเริ่มนิยมใช้ซัมซุงมากกว่า
ไอโฟนของแอปเปิลจะเริ่มเข้าสู่ยุคถดถอยและตกต่ำ ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
เหมือนกับสินค้าทุกชนิดที่มีวัฐจักรของตัวเอง พอเข้าจุดสูงสุดก็จะเริ่มถดถอย
ซัมซุงแตกมือถือออกมาหลายไลน์เช่น note กับ s ทำให้เหมือนมีสินค้าชนิดใหม่หลายชนิด
แต่ละไลน์ เน้นตอบสนองความต้องการแตกต่างกันไป ทำให้จับกลุ่มทาร์เก็ตได้ครอบคลุมมากที่สุด
และถ้าไลน์ไหนเริ่มถดถอย ก็จะแตกไลน์ใหม่ เพิ่มเข้ามาให้เหมือนเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ซัมซุงคงความเป็น 1 ไปได้เรื่อยๆ
ในขณะที่ไอโฟนเปรียบเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ไม่มีตัวตายตัวแทน ไม่มีตัวเลือก ถ้าจบก็คือจบ
นอกจากแอปเปิลจะเปลี่ยนกลยุทธ์และพัฒนาโปรดักส์อื่นออกมาชดเชยหรือทดแทนไอโฟน
แต่ความจริงแอปเปิลก็ได้ลองแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ 5c ที่เพิ่งออกมา เนื่องจากเปลี่ยนแค่บอดี้
การฟังก์ชั่นการใช้งานยังเหมือนเดิม คนเลยไม่รู้สึกแตกต่าง ต่างจากซัมซุงที่ note กับ s มีฟังก์ชั่นการทำงานต่างกันชัดเจน
อนาคต เป็นเรื่องของแอนดรอยด์ มือถือแบรนด์อื่นๆ เช่น Nokia LG HTC Sony แบรนด์จีน จะเริ่มฉายแววสดใส
และแทรกขึ้นมาเป็นทางเลือกให้คนตัดสินใจมากขึ้น
ต่อไปนี้ ต่อให้แอปเปิลจะมีไม้ตายอะไรใหม่ๆ ออกมา ก็จะโดนซัมซุงปาดหน้า หรือพยายามทำให้ดีกว่า เหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา
ถ้าแอปเปิลยังหากินด้วยวิธีเดิมๆ การตลาดหรือมาร์เก็ตติ้งก็คงสู้ไม่ได้มาก สุดท้ายซัมซุงจะเป็นเจ้าตลาด
คนไทยใช้มือถือ Samsung มากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับ iPhone ที่มีคนใช้น้อยลงเรื่อยๆ
แม้ปริมาณอาจจะขายได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองเจ้า เพราะมีคนใช้เยอะขึ้นทุกปีอยู่แล้ว
แต่ส่วนแบ่งกลับโดนซัมซุงแซงหน้า ในขณะที่ไอโฟนมีส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ !!!
สังเกตุดูเมื่อ 4-5 ปี ก่อนคนไทยยยังนิยมใช้ Nokia เป็นยี่ห้อมือถือที่คนไทยชอบมากที่สุดในสมัยนั้น
ในขณะที่ไอโฟนเริ่มเป็นที่รู้จัก คนเริ่มเห่อ และใฝ่ฝันอยากได้เพราะมีราคาแพงในยุคนั้น
ในขณะที่ตอนนั้นแอนดรอยด์ ยังเทียบไอโฟนแทบไม่ติดในหลายๆ ด้าน ซัมซุงก็เพิ่งบุกทำมือถือแอนดรอยด์ในยุคแรกๆ
หลังจากนั้นแอนดรอยด์ก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ในขณะที่ซัมซุงก็เริ่มสร้างแบรนด์ Galaxy ของตัวเอง พร้อมแตกไลน์ ทั้ง S ทั้ง Note
และทุ่มทำการตลาดอย่างหนัก จนซัมซุงมีมือถือรุ่นท็อปของตัวเองวางจำหน่ายปีละ 1 รุ่นต่อไลน์ เหมือนไอโฟน
จนเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ช่วงนั้นเป็นยุคก่อนเริ่มของ Note 2 / S3 / iPhone5 เป็นช่วงปลายของยุค Note 1 / S2 / iPhone4
ซัมซุงสามารถแซงแอปเปิลขึ้นมาได้ และเป็นช่วงที่โนเกียตกต่ำสุดขีดในประเทศไทย(และอาจทั่วโลก)
ช่วงนั้น คนไทยเริ่มรู้สึกว่าซัมซุง ไม่ใช่แบรนด์มือถือทางเลือกอีกต่อไป และไอโฟนไม่ใช่มือถืออัจริยะที่ 1 ในใจที่อยากได้อีกต่อไป
จนซัมซุงก้าวขึ้นมาเบียดไอโฟนได้แบบถึงพริกถึงขิง กับการออกสมาร์ทโฟนหลายรุ่นทั้งไลน์ Galaxy S และ Galaxy Note ไม่รวมรุ่นระดับกลาง
2-3 ที่ผ่านมาซัมซุงสู้กับแอปเปิลอย่างดุเดือด ในขณะที่แอนดรอยด์พัฒนาตัวเองไปได้เรื่อยๆ
แต่จุดเด่นของซัมซุงกลับเป็นการทำการฟีเจอร์พิเศษให้มือถือของตัวเองแตกต่างจากแอนดรอยด์ธรรมดา
และใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมามากกว่า 2 ปี และในวันนี้มันแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ตอบรับค่อนข้างดี
พอมาปลายปีที่แล้ว ซัมซุง สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งและพุ่งขึ้นเป็น 1 ในประเทศไทยได้อย่างสง่างาม
ในขณะที่ไอโฟนจากแอปเปิล มีส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ จนเห็นได้ชัด
แม้ ไอโฟน6 จะเปิดตัวปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้คนฮิตมากพอจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้มากขนาดไหน
เพราะช่วงไอโฟน 5 ก็ขึ้นมานิดเดียวแล้วก็ดรอปลงไปอีก และที่สำคัญอย่าลืมว่าซัมซุงได้ขึ้นแท่นเป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีไปแล้ว
ดังนั้นต่อให้ ไอโฟน 6 ได้รับความนิยม ทางฝั่งซัมซุงก็มีของดีในมือถือ Galaxy S5 และ Galaxy note4 ที่จะออกจำหน่ายปีนี้เช่นกัน
สังเกตุจากยอดขาย Galaxy Note3 จะพบว่าคนใช้งานเริ่มคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ต้องการซื้อมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่าสมาร์ทโฟนปกติ
ถ้าเทรนด์มาแนวนี้ อีก 3-5 ปีข้างหน้า Samsung จะทำได้เหมือนที่ nokia เคยเป็นในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน จะเป็นยุครุ่งเรืองสุดขีด
สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ส่วนใหญ่ไว้ได้ ในขณะที่ iPhone จะกลายเป็นมือถือ แฟชันสวยๆ เก๋ๆ 1 ในหลายๆ รุ่น เป็นตัวเลือกนึงในตลาด
อีก 3-5 ปีข้างหน้า เราอาจจะเห็นการจัดกิจกรรม การแจกรางวัลที่เราเห็นตามโฆษณาในทีวี โดยใช้มือถือของซัมซุงรุ่นท็อปๆ แทนที่เราจะเห็นแต่ไอโฟนในปัจจุบัน
ค่ายมือถือจะเริ่มหันมาโปรโมทรุ่นท็อปราคาแพงๆของซัมซุงมากกว่า เพราะคนเริ่มนิยมใช้ซัมซุงมากกว่า
ไอโฟนของแอปเปิลจะเริ่มเข้าสู่ยุคถดถอยและตกต่ำ ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
เหมือนกับสินค้าทุกชนิดที่มีวัฐจักรของตัวเอง พอเข้าจุดสูงสุดก็จะเริ่มถดถอย
ซัมซุงแตกมือถือออกมาหลายไลน์เช่น note กับ s ทำให้เหมือนมีสินค้าชนิดใหม่หลายชนิด
แต่ละไลน์ เน้นตอบสนองความต้องการแตกต่างกันไป ทำให้จับกลุ่มทาร์เก็ตได้ครอบคลุมมากที่สุด
และถ้าไลน์ไหนเริ่มถดถอย ก็จะแตกไลน์ใหม่ เพิ่มเข้ามาให้เหมือนเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ซัมซุงคงความเป็น 1 ไปได้เรื่อยๆ
ในขณะที่ไอโฟนเปรียบเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียว ไม่มีตัวตายตัวแทน ไม่มีตัวเลือก ถ้าจบก็คือจบ
นอกจากแอปเปิลจะเปลี่ยนกลยุทธ์และพัฒนาโปรดักส์อื่นออกมาชดเชยหรือทดแทนไอโฟน
แต่ความจริงแอปเปิลก็ได้ลองแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ 5c ที่เพิ่งออกมา เนื่องจากเปลี่ยนแค่บอดี้
การฟังก์ชั่นการใช้งานยังเหมือนเดิม คนเลยไม่รู้สึกแตกต่าง ต่างจากซัมซุงที่ note กับ s มีฟังก์ชั่นการทำงานต่างกันชัดเจน
อนาคต เป็นเรื่องของแอนดรอยด์ มือถือแบรนด์อื่นๆ เช่น Nokia LG HTC Sony แบรนด์จีน จะเริ่มฉายแววสดใส
และแทรกขึ้นมาเป็นทางเลือกให้คนตัดสินใจมากขึ้น
ต่อไปนี้ ต่อให้แอปเปิลจะมีไม้ตายอะไรใหม่ๆ ออกมา ก็จะโดนซัมซุงปาดหน้า หรือพยายามทำให้ดีกว่า เหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา
ถ้าแอปเปิลยังหากินด้วยวิธีเดิมๆ การตลาดหรือมาร์เก็ตติ้งก็คงสู้ไม่ได้มาก สุดท้ายซัมซุงจะเป็นเจ้าตลาด