เรื่องราวอันสุดแสนจะแปลกประหลาดเริ่มเกิดขึ้นที่อ็อกนาร์ด แคลิฟอร์เนีย หลังจากที่เกิดเหตุฆาตกรรมในห้องๆหนึ่ง ทำให้กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ แอบเข้าไปสำรวจสถานที่เกิดเหตุด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนเกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองขึ้น
เป็นหนังผีสยองขวัญที่ทำมาแล้วถึง 4 ภาค โดยในภาคนี้จะเป็นภาคเสริมจากภาคก่อนๆ เพื่อขยายเรื่องราวให้กว้างขึ้น(นิดนึง) โดยวิธีการเล่าเรื่องจะกลับไปเล่นที่เสน่ห์ดั้งเดิมของเรื่องนี้ คือการใช้กล้องวีดีโอแบบพกพาในการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมด (หลังจากที่ลองมาหลายๆวิธี ทั้งการตั้งกล้องไว้ทั่วบ้าน หรือการใช้กล้องวงจรปิดก็ตาม) ทำให้กลิ่นอายของความดั้งเดิมของหนังชุดนี้กลับมาเต็มๆ
ส่วนการเล่าเรื่อง ก็ดำเนินไปตามสูตร คืออธิบายภูมิหลังกับความสัมพันธ์ของตัวละครก่อน แล้วค่อยๆทำให้เราสงสัยและตกใจ สร้างความหลอนให้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพอเอาเข้าจริง ผมว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ มีประเด็นหลักแค่นิดเดียว ส่วนใหญ่ดูเอามันส์ล้วนๆ ซึ่งโดยรวมถือว่าสนุกและทำเอาขนหัวลุกในระดับหนึ่ง แต่ดูๆไปก็รู้สึกเหมือนกับว่าหมดมุข เพราะเดาจังหวะได้ค่อนข้างง่าย เลยไม่ฟินเท่าที่ดูภาคแรก ใครที่ชอบหนังแนวนี้ก็ลองไปดูกันได้นะครับ
8/10
[SR] Paranormal Activity: The Masked Ones : เรียลลิตี้ขนหัวลุก: เป้าหมายปีศาจ (ไม่สปอยล์)
เรื่องราวอันสุดแสนจะแปลกประหลาดเริ่มเกิดขึ้นที่อ็อกนาร์ด แคลิฟอร์เนีย หลังจากที่เกิดเหตุฆาตกรรมในห้องๆหนึ่ง ทำให้กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ แอบเข้าไปสำรวจสถานที่เกิดเหตุด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนเกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองขึ้น
เป็นหนังผีสยองขวัญที่ทำมาแล้วถึง 4 ภาค โดยในภาคนี้จะเป็นภาคเสริมจากภาคก่อนๆ เพื่อขยายเรื่องราวให้กว้างขึ้น(นิดนึง) โดยวิธีการเล่าเรื่องจะกลับไปเล่นที่เสน่ห์ดั้งเดิมของเรื่องนี้ คือการใช้กล้องวีดีโอแบบพกพาในการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมด (หลังจากที่ลองมาหลายๆวิธี ทั้งการตั้งกล้องไว้ทั่วบ้าน หรือการใช้กล้องวงจรปิดก็ตาม) ทำให้กลิ่นอายของความดั้งเดิมของหนังชุดนี้กลับมาเต็มๆ
ส่วนการเล่าเรื่อง ก็ดำเนินไปตามสูตร คืออธิบายภูมิหลังกับความสัมพันธ์ของตัวละครก่อน แล้วค่อยๆทำให้เราสงสัยและตกใจ สร้างความหลอนให้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพอเอาเข้าจริง ผมว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ มีประเด็นหลักแค่นิดเดียว ส่วนใหญ่ดูเอามันส์ล้วนๆ ซึ่งโดยรวมถือว่าสนุกและทำเอาขนหัวลุกในระดับหนึ่ง แต่ดูๆไปก็รู้สึกเหมือนกับว่าหมดมุข เพราะเดาจังหวะได้ค่อนข้างง่าย เลยไม่ฟินเท่าที่ดูภาคแรก ใครที่ชอบหนังแนวนี้ก็ลองไปดูกันได้นะครับ