สวัสดีค่ะชาวโต๊ะเครื่องแป้งทุกท่าน
อิ๊บมีโอกาสสิงสู่อยู่ในห้องนี้มาราวๆ 2 ปีแล้ว 555 ดูรีวิวได้รับความรู้จากห้องนี้เกี่ยวกับเรื่องเครื่องสำอางมามากมายนะคะ ซื้อตามคนในห้องแป้งก็เยอะเลย เห็นคนอื่นเค้ารีวิวข้าวของกันอิ๊บก็อยากทำบ้างอะ 555 เลยจะขอหยิบลิปสติกราคานิสิตนักศึกษาซื้อได้ คนทำงานก็ใช้ดี ราคาก็ไม่แพงไป มีหลายเนื้อให้เลือกแถมสียังมากมายอีกต่างหาก มาปาดบนปากให้ทุกท่านได้ดูกัน นั่นคือลิปสติกของ MAC นั่นเองค่า อิ๊บมีอยู่ 13 สีด้วยกันค่ะ
“สีในภาพเป็นภาพจริงที่ไม่ได้รับการปรับแต่งใดๆค่ะ”
ในรูปจะระบุชื่อสี ตัวลิป ปากอันเปลือยเปล่าของอิ๊บและหลังทาแล้วนะคะ
ชุดแรก... จะเป็นสีโทนชมพูค่ะ ประกอบไปด้วย 5 สีได้แก่ Viva Glam Nicki (Satin), Steady Going (Matte), Please Me (Matte), Flamingo (Lustre) และ Lovelorn (Lustre)
1. Viva Glam Nicki Minaj เนื้อ Satin ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีชัดมาแต่ไกลเลยค่ะ เป็นสีชมพูสว่างที่พอทาในวันที่หน้าตาเหนื่อยล้า หน้าจะดูตื่นขึ้นมาทันทีเลย เป็นชมพูสว่างอมเหลืองหน่อยๆ ชอบค่ะ แซ่บดี 555 ส่วนตัวอิ๊บว่าเนื้อซาตินของแมคเค้าทาง่ายค่ะ เนื้อลื่นแต่ทาไปแล้วดูแมท - -* งง
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
2. Steady Going (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีชมพูหวานๆเลยค่ะ ชมพูออกม่วงๆหน่อย ตัวนี้อยู่ใน Retro Matte Collection ค่ะ ถ้าแต่งหน้าโทนหวานๆสีนี้จะเข้ากันได้ดีมาก ไม่ต้องแต่งตาเยอะก็รอดไปได้ ผิวอิ๊บออกขาวเหลือง แต่ถ้าคนผิวเข้มๆหน่อยทาอิ๊บว่าจะสวยมากๆเลย เสียที่เกลี่ยยากไปหน่อย เนื้อแห๊งแห้ง
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
3. Please Me (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีชมพูสุภาพๆค่ะ ทาได้ทุกวันและเชื่อว่าทาได้ทุกสีผิวและทาได้สวยด้วย ชมพูอมน้ำตาล สีนี้เป็นสียอดฮิตถึงขั้นที่ว่าร้านที่รับหิ้วโก่งราคากันน่าดูเลย ^^ เนื้อแมทและซาตินของแมคเกลี่ยง่ายค่ะ เนื้อลื่นแต่ติดทนดีเลย
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
4. Flamingo (Lustre) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : ตัวนี้อยู่ใน All about orange collection ค่ะ เป็นสีออกชมพูอมส้มตามแบบฉบับของนกฟลามิงโก้ตามชื่อสีเลยค่ะ เนื้อลื่นทาได้ง่าย สีนี้ไม่เข้มเกินไป ทาได้ทุกวันเลย
ปิดสีปากมิด : กลบสีปากไม่ค่อยมิดนะคะ เพราะเนื้อเค้าจะลื่นๆเหมือนลิปบาล์มที่มีสีชัดเจนซะมากกว่า
ติดทน : เนื้อ Lustre ติดไม่ค่อยทนค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เติมได้บ่อยๆอยู่แล้ว 555
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
5. Lovelorn (Lustre) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้คือสีชมพูสุภาพอีกสีหนึ่งค่ะ แต่ไม่ได้อมน้ำตาลเหมือน Please me สีนี้จะเป็นชมพูอ่อนๆอมม่วงหน่อยๆ สีหวานมากๆเลย ทาได้ทุกวันค่ะ
ปิดสีปากมิด : กลบสีปากไม่ค่อยมิดนะคะ เพราะเนื้อเค้าจะลื่นๆเหมือนลิปบาล์มที่มีสีชัดเจนซะมากกว่า
ติดทน : เนื้อ Lustre ติดไม่ค่อยทนค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เติมได้บ่อยๆอยู่แล้ว 555
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
มาต่อกันที่อีกกลุ่มสีนะคะ กลุ่มต่อไปคือสีออกนู้ดและสีส้มค่ะ อิ๊บมีอย่างละ 2 สีด้วยกัน ได้แก่สี Crème Cup (Creamsheen), Snob (Satin), Ravishing (Creamsheen) และ Sushi Kiss (Satin) ค่า
6. Crème Cup (Cream Sheen) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีชมพูนมๆค่ะ ไม่ป่วยถ้าแต่งหน้าโทนสโมคกี้
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : ทนกว่า Lustre แต่ไม่เท่า Satin และ Matte ค่ะ
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
7. Snob (Satin) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นนู้ดชมพูอมม่วงค่ะ แต่อิ๊บทาแล้วป่วยมากกกกกก ถึงจะแต่งตาจัดเต็มก็ไม่ได้ช่วยให้ดูหายป่วยขึ้นมาได้เลย 555 ต้องแก้ด้วยการทาปากด้านในสีชมพู หรือสีม่วงๆ แล้วทาตัวนี้ทับ ให้ดูไล่ระดับสี ถึงจะหายป่วยค่ะ
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
8. Ravishing (Cremesheen) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีส้มที่ไม่เข้มไม่อ่อนเกิน ทาได้ทุกวันค่ะ ส่วนตัวอิ๊บผิวออกเหลืองทาปากโทนส้มแล้วมันขับผิวได้มากกว่าสีชมพู สีนี้เลยเป็นสีโปรดที่หยิบมาใช้บ่อยสุดๆเลย
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : ทนกว่า Lustre แต่ไม่เท่า Satin และ Matte ค่ะ
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
9. Sushi Kiss (Satin) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีส้มอ่อนแต่ชัด - -* งง คือมันเป็นสีแนวเดียวกับที่ทางอิทูดี้และแบรนด์เกาหลีเค้าชอบทำออกมาน่ะค่ะ ส้มสว่าง ไม่ออกแดง ไม่ออกเหลือง แต่ออกสีนมๆ สีนี้อยู่ใน All about orange collection ค่ะ สอยมาพร้อมๆกับน้อง Flamongo ด้านบน ส่วนตัวอิ๊บว่าสีนี้เหมาะกับคนผิวขาวมากๆ อิ๊บผิวเหลืองทาแล้วไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่
ปิดสีปากมิด : ปิดได้ดีค่ะ
ติดทน : ติดทนค่ะ
เป็นคราบ : บำรุงก่อนค่ะ ถ้าไม่ลงลิปมันหรือลิปบาล์มก่อนคราบมาแน่นอน
ต่อไปเป็นกลุ่มสีโทนแดงและม่วงค่ะ อิ๊บไม่รู้เป็นอะไรชอบซื้อสีที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้มา ทาแล้วฟินกับตัวเองอยู่หน้ากระจก จากนั้นก็ลบออก - -* ปาร์ตี้ก็ไม่ได้ไปกับคนอื่นเค้า เสียดายตังเบาๆแต่ยังไงมันก็คือความสุขของเรา เนาะ 555 เอาล่ะ มีสีแดง 2 สี ม่วง 2 สี ได้แก่ Ablaze (Matte), Riri Woo (Retro Matte), Up The Amp (Amplified), Flat out Fabulous (Matte)
10. Ablaze (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีส้มอมแดงค่ะ มันออกเข้มเลยแหละแต่ดูในรูปมันไม่แซ่บเท่าตอนทาจริงๆ 555 สีนี้อยู่ใน Fashion Set Collection เป็นสีออกแนว Coral คล้ายๆ Grandma ของ Lip Tar น่ะค่ะ
ปิดสีปากมิด : มิดมากค่ะ ทาง่ายด้วย
ติดทน : ทนค่ะ 4 ชั่วโมงสบายๆ
เป็นคราบ : ต้องบำรุงก่อนค่ะไม่งั้นคราบมาเยือนแน่ๆ
11. RiRi Woo (Retro Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นแดงที่สวยและแซ่บมากกกก มันเป็นแดงที่แด๊งแดงไม่ปนส้ม ไม่ปนชมพู ซื้อมาด้วยความหลงรักในตัวแม่นาง Rihanna และลายเซ็นที่สลักไว้บนแท่ง 555 พอซื้อมาแล้วแอบผิดหวังนะคะ คืออิ๊บหิ้วมาในราคาที่เค้าโก่งไว้พอสมควรเลย แต่พอได้มากลับเฉยๆ ไม่ค่อยได้ทา อาจเพราะยังเรียนอยู่ ปาร์ตี้ก็ไม่ไปกับเค้าเลยไม่รู้จะทาไปไหนด้วยอ่ะ มิหนำซ้ำยังคล้ายกับ Ruby Woo มากยังกับแกะ เลยเสียดายเบาๆ และหลังจากที่ซื้อมาได้ไม่กี่เดือน นางออกเป็นแพคเกจอันไฮโซโก้เก๋ แท่งสีชมพูเมทัลลิค เสียดายและคับแค้นใจเป็นอย่างมาก แต่จะไปโทษลิปเค้าไม่ได้นะคะ ผิดที่เราเองต่างหากซื้อมาไม่เจียมการดำเนินชีวิต สุดท้ายเลยได้แต่เอามาใช้แทนทินต์ ทาริมฝีปากด้านในติดทนมากก 555
ปิดสีปากมิด : มิดมากค่ะ
ติดทน : ทนสุดยอด ถ้าไม่กินอะไรนะ ถ้ากินน้ำหรืออาหารก็มีจางๆบ้างค่ะ
เป็นคราบ : ถ้าบำรุงก่อนไม่เป็นคราบค่ะ ^^
12. Up The Amp (Amplified) ก่อน และหลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีม่วงค่ะ แต่เป็นม่วงที่ยังทาได้ทุกวันอยู่นะ อาจจะแต่งตายากหน่อยแต่มันฝวยมากอะ อิ๊บทาไปเรียนด้วย 555 มันเป็นเนื้อลื่นๆด้วยแหละพอทาไปแล้วเลยดูไม่หนักเกินไป ชอบค่ะ
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : งืมม ไม่ค่อยทนเท่าไหร่นะคะ ประมาณ 2 ชั่วโมงก็จางแล้ว
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
13. Flat Out Fabulous (Matte) ก่อนและหลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีม่วงก่ำอมชมพู แต่ต่างจาก Up The Amp ข้างบนเพราะมันเป็นม่วงเข้ม ม่วงกล้วยไม้อมชมพูที่ชอบบบบบ และติดทนและสีแน่น แต่ไม่ค่อยได้ทาอีกละ - -* ไม่สิ ไม่ใช่ไม่ค่อยได้ทา ไม่เคยทาออกไปไหนเลยดีกว่า ซื้อมาวางประดับไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง วันดีคืนดีก็หยิบมาปาดบนปากแล้วสักพักก็เช็ดออกไป คือเสียใจและเสียดาย แต่ชอบนะคะ มันแซ่บดี อ้อ ลืม อยู่ใน Retro Matte Collection สอยนางมาพร้อม Steady Going ค่ะ
ปิดสีปากมิด : ปิดมิดมากค่ะ ทาง่าย เนื้อลื่นด้วย
ติดทน : ทนมากค่ะ
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงก่อนเป็นคราบค่ะ แต่ถ้าบำรุงแล้วไม่เป็นนะ
หมดแล้วครบแล้ววววววว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครที่กำลังมองหาสีลิปที่กำลังสนใจได้บ้างนะคะ ขออภัยเป็นอย่างสูงหากมีข้อผิดพลาดประการใดในการรีวิวครั้งแรกนี้ค่ะ ^^ ขอบคุณค่ะ
[CR] [Review]** Mac Lipstick 13 สีค่ะ ^^
ในรูปจะระบุชื่อสี ตัวลิป ปากอันเปลือยเปล่าของอิ๊บและหลังทาแล้วนะคะ
ชุดแรก... จะเป็นสีโทนชมพูค่ะ ประกอบไปด้วย 5 สีได้แก่ Viva Glam Nicki (Satin), Steady Going (Matte), Please Me (Matte), Flamingo (Lustre) และ Lovelorn (Lustre)
1. Viva Glam Nicki Minaj เนื้อ Satin ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีชัดมาแต่ไกลเลยค่ะ เป็นสีชมพูสว่างที่พอทาในวันที่หน้าตาเหนื่อยล้า หน้าจะดูตื่นขึ้นมาทันทีเลย เป็นชมพูสว่างอมเหลืองหน่อยๆ ชอบค่ะ แซ่บดี 555 ส่วนตัวอิ๊บว่าเนื้อซาตินของแมคเค้าทาง่ายค่ะ เนื้อลื่นแต่ทาไปแล้วดูแมท - -* งง
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
2. Steady Going (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีชมพูหวานๆเลยค่ะ ชมพูออกม่วงๆหน่อย ตัวนี้อยู่ใน Retro Matte Collection ค่ะ ถ้าแต่งหน้าโทนหวานๆสีนี้จะเข้ากันได้ดีมาก ไม่ต้องแต่งตาเยอะก็รอดไปได้ ผิวอิ๊บออกขาวเหลือง แต่ถ้าคนผิวเข้มๆหน่อยทาอิ๊บว่าจะสวยมากๆเลย เสียที่เกลี่ยยากไปหน่อย เนื้อแห๊งแห้ง
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
3. Please Me (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีชมพูสุภาพๆค่ะ ทาได้ทุกวันและเชื่อว่าทาได้ทุกสีผิวและทาได้สวยด้วย ชมพูอมน้ำตาล สีนี้เป็นสียอดฮิตถึงขั้นที่ว่าร้านที่รับหิ้วโก่งราคากันน่าดูเลย ^^ เนื้อแมทและซาตินของแมคเกลี่ยง่ายค่ะ เนื้อลื่นแต่ติดทนดีเลย
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
4. Flamingo (Lustre) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : ตัวนี้อยู่ใน All about orange collection ค่ะ เป็นสีออกชมพูอมส้มตามแบบฉบับของนกฟลามิงโก้ตามชื่อสีเลยค่ะ เนื้อลื่นทาได้ง่าย สีนี้ไม่เข้มเกินไป ทาได้ทุกวันเลย
ปิดสีปากมิด : กลบสีปากไม่ค่อยมิดนะคะ เพราะเนื้อเค้าจะลื่นๆเหมือนลิปบาล์มที่มีสีชัดเจนซะมากกว่า
ติดทน : เนื้อ Lustre ติดไม่ค่อยทนค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เติมได้บ่อยๆอยู่แล้ว 555
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
5. Lovelorn (Lustre) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้คือสีชมพูสุภาพอีกสีหนึ่งค่ะ แต่ไม่ได้อมน้ำตาลเหมือน Please me สีนี้จะเป็นชมพูอ่อนๆอมม่วงหน่อยๆ สีหวานมากๆเลย ทาได้ทุกวันค่ะ
ปิดสีปากมิด : กลบสีปากไม่ค่อยมิดนะคะ เพราะเนื้อเค้าจะลื่นๆเหมือนลิปบาล์มที่มีสีชัดเจนซะมากกว่า
ติดทน : เนื้อ Lustre ติดไม่ค่อยทนค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เติมได้บ่อยๆอยู่แล้ว 555
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
มาต่อกันที่อีกกลุ่มสีนะคะ กลุ่มต่อไปคือสีออกนู้ดและสีส้มค่ะ อิ๊บมีอย่างละ 2 สีด้วยกัน ได้แก่สี Crème Cup (Creamsheen), Snob (Satin), Ravishing (Creamsheen) และ Sushi Kiss (Satin) ค่า
6. Crème Cup (Cream Sheen) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีชมพูนมๆค่ะ ไม่ป่วยถ้าแต่งหน้าโทนสโมคกี้
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : ทนกว่า Lustre แต่ไม่เท่า Satin และ Matte ค่ะ
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
7. Snob (Satin) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นนู้ดชมพูอมม่วงค่ะ แต่อิ๊บทาแล้วป่วยมากกกกกก ถึงจะแต่งตาจัดเต็มก็ไม่ได้ช่วยให้ดูหายป่วยขึ้นมาได้เลย 555 ต้องแก้ด้วยการทาปากด้านในสีชมพู หรือสีม่วงๆ แล้วทาตัวนี้ทับ ให้ดูไล่ระดับสี ถึงจะหายป่วยค่ะ
ปิดสีปากมิด : เนื้อแมทและซาตินของแมคกลบสีปากได้มิดนะคะ
ติดทน : ติดทนอยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทานอะไร 3-4 ชั่วโมงสบายๆเลย
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงด้วยลิปบาล์มหรือลิปมันก่อนคราบมาเยือนแน่ๆค่ะ
8. Ravishing (Cremesheen) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีส้มที่ไม่เข้มไม่อ่อนเกิน ทาได้ทุกวันค่ะ ส่วนตัวอิ๊บผิวออกเหลืองทาปากโทนส้มแล้วมันขับผิวได้มากกว่าสีชมพู สีนี้เลยเป็นสีโปรดที่หยิบมาใช้บ่อยสุดๆเลย
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : ทนกว่า Lustre แต่ไม่เท่า Satin และ Matte ค่ะ
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
9. Sushi Kiss (Satin) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีส้มอ่อนแต่ชัด - -* งง คือมันเป็นสีแนวเดียวกับที่ทางอิทูดี้และแบรนด์เกาหลีเค้าชอบทำออกมาน่ะค่ะ ส้มสว่าง ไม่ออกแดง ไม่ออกเหลือง แต่ออกสีนมๆ สีนี้อยู่ใน All about orange collection ค่ะ สอยมาพร้อมๆกับน้อง Flamongo ด้านบน ส่วนตัวอิ๊บว่าสีนี้เหมาะกับคนผิวขาวมากๆ อิ๊บผิวเหลืองทาแล้วไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่
ปิดสีปากมิด : ปิดได้ดีค่ะ
ติดทน : ติดทนค่ะ
เป็นคราบ : บำรุงก่อนค่ะ ถ้าไม่ลงลิปมันหรือลิปบาล์มก่อนคราบมาแน่นอน
ต่อไปเป็นกลุ่มสีโทนแดงและม่วงค่ะ อิ๊บไม่รู้เป็นอะไรชอบซื้อสีที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้มา ทาแล้วฟินกับตัวเองอยู่หน้ากระจก จากนั้นก็ลบออก - -* ปาร์ตี้ก็ไม่ได้ไปกับคนอื่นเค้า เสียดายตังเบาๆแต่ยังไงมันก็คือความสุขของเรา เนาะ 555 เอาล่ะ มีสีแดง 2 สี ม่วง 2 สี ได้แก่ Ablaze (Matte), Riri Woo (Retro Matte), Up The Amp (Amplified), Flat out Fabulous (Matte)
10. Ablaze (Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีส้มอมแดงค่ะ มันออกเข้มเลยแหละแต่ดูในรูปมันไม่แซ่บเท่าตอนทาจริงๆ 555 สีนี้อยู่ใน Fashion Set Collection เป็นสีออกแนว Coral คล้ายๆ Grandma ของ Lip Tar น่ะค่ะ
ปิดสีปากมิด : มิดมากค่ะ ทาง่ายด้วย
ติดทน : ทนค่ะ 4 ชั่วโมงสบายๆ
เป็นคราบ : ต้องบำรุงก่อนค่ะไม่งั้นคราบมาเยือนแน่ๆ
11. RiRi Woo (Retro Matte) ก่อน – หลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นแดงที่สวยและแซ่บมากกกก มันเป็นแดงที่แด๊งแดงไม่ปนส้ม ไม่ปนชมพู ซื้อมาด้วยความหลงรักในตัวแม่นาง Rihanna และลายเซ็นที่สลักไว้บนแท่ง 555 พอซื้อมาแล้วแอบผิดหวังนะคะ คืออิ๊บหิ้วมาในราคาที่เค้าโก่งไว้พอสมควรเลย แต่พอได้มากลับเฉยๆ ไม่ค่อยได้ทา อาจเพราะยังเรียนอยู่ ปาร์ตี้ก็ไม่ไปกับเค้าเลยไม่รู้จะทาไปไหนด้วยอ่ะ มิหนำซ้ำยังคล้ายกับ Ruby Woo มากยังกับแกะ เลยเสียดายเบาๆ และหลังจากที่ซื้อมาได้ไม่กี่เดือน นางออกเป็นแพคเกจอันไฮโซโก้เก๋ แท่งสีชมพูเมทัลลิค เสียดายและคับแค้นใจเป็นอย่างมาก แต่จะไปโทษลิปเค้าไม่ได้นะคะ ผิดที่เราเองต่างหากซื้อมาไม่เจียมการดำเนินชีวิต สุดท้ายเลยได้แต่เอามาใช้แทนทินต์ ทาริมฝีปากด้านในติดทนมากก 555
ปิดสีปากมิด : มิดมากค่ะ
ติดทน : ทนสุดยอด ถ้าไม่กินอะไรนะ ถ้ากินน้ำหรืออาหารก็มีจางๆบ้างค่ะ
เป็นคราบ : ถ้าบำรุงก่อนไม่เป็นคราบค่ะ ^^
12. Up The Amp (Amplified) ก่อน และหลังทา
ความชัดเจน : สีนี้เป็นสีม่วงค่ะ แต่เป็นม่วงที่ยังทาได้ทุกวันอยู่นะ อาจจะแต่งตายากหน่อยแต่มันฝวยมากอะ อิ๊บทาไปเรียนด้วย 555 มันเป็นเนื้อลื่นๆด้วยแหละพอทาไปแล้วเลยดูไม่หนักเกินไป ชอบค่ะ
ปิดสีปากมิด : พอได้อยู่ค่ะ
ติดทน : งืมม ไม่ค่อยทนเท่าไหร่นะคะ ประมาณ 2 ชั่วโมงก็จางแล้ว
เป็นคราบ : ไม่เป็นคราบค่ะ
13. Flat Out Fabulous (Matte) ก่อนและหลังทา
ความชัดเจน : เป็นสีม่วงก่ำอมชมพู แต่ต่างจาก Up The Amp ข้างบนเพราะมันเป็นม่วงเข้ม ม่วงกล้วยไม้อมชมพูที่ชอบบบบบ และติดทนและสีแน่น แต่ไม่ค่อยได้ทาอีกละ - -* ไม่สิ ไม่ใช่ไม่ค่อยได้ทา ไม่เคยทาออกไปไหนเลยดีกว่า ซื้อมาวางประดับไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง วันดีคืนดีก็หยิบมาปาดบนปากแล้วสักพักก็เช็ดออกไป คือเสียใจและเสียดาย แต่ชอบนะคะ มันแซ่บดี อ้อ ลืม อยู่ใน Retro Matte Collection สอยนางมาพร้อม Steady Going ค่ะ
ปิดสีปากมิด : ปิดมิดมากค่ะ ทาง่าย เนื้อลื่นด้วย
ติดทน : ทนมากค่ะ
เป็นคราบ : ถ้าไม่บำรุงก่อนเป็นคราบค่ะ แต่ถ้าบำรุงแล้วไม่เป็นนะ
หมดแล้วครบแล้ววววววว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครที่กำลังมองหาสีลิปที่กำลังสนใจได้บ้างนะคะ ขออภัยเป็นอย่างสูงหากมีข้อผิดพลาดประการใดในการรีวิวครั้งแรกนี้ค่ะ ^^ ขอบคุณค่ะ