เราเป็นคนที่มีปัญหาในช่องปากเป็นประจำ ตอนเด็กๆมีอุดฟันบ้าง จนเป็นวัยรุ่นก็ต้องจัดฟันเนื่องจากฟันขึ้นไม่ครบ ทำให้มีช่องว่างระหว่างฟันกรามด้านในจึงจำเป็นต้องจัด (ไม่ได้จะทำเพื่อปรับรูปหน้าหรือเพื่อความสวยงามของฟันเป็นสาเหตุหลัก) พ้นวัยรุ่นไปก็เริ่มเจอการรักษารากฟัน ล่าสุดก็3ซี่แล้ว เรื่องขูดหินปูน ถ้าอยู่ไทยก็ไปขูดอยู่เป็นประจำ

ล่าสุดมีความจำเป็นต้องครอบฟัน แต่เนื่องจากเป็นฟันกรามซี่ที่เตี้ย หมอฟันที่เรารักษาเป็นประจำแต่เด็กจึงส่งเราไปรักษากับหมอฟันอีกท่านนึง ปรากฏว่าหลังจากที่โทรนัดวัน เราเกิดอาการปวดฟันจนเคี้ยวอาหารข้างนั้นไม่ได้ พอวันนี้ไปตามที่หมอนัด เราก็แจ้งอาการไป และพบว่าซี่ที่จะทำครอบกับซี่ที่ปวดเป็นคนละซี่ (เราเข้าใจผิดไปเอง)

หมอก็ทำการเอ็กซเรย์และลงความเห็นว่าต้องถอน ยอมรับค่ะว่าไม่ได้ทำใจมาเพื่อการนี้ ซึ่งซี่ที่ถูกถอนก็เคยรักษารากฟันมาแล้ว แน่นอนว่ามันน่ากลัวมาก ขนาดเราเป็นคนที่ไม่กลัวการทำฟัน เช่นการขูดหินปูน เลือดท่วมปากประจำเพราะเป็นคนเหงือกบาง เรายอมรับว่าตอนที่หมอใช้คีมทั้งโยกทั้งดึงมันน่ากลัวมากๆ ถอนฟันครั้งสุดท้ายมันผ่านมานานเป็นสิบกว่าปีละมั้ง ส่วนการผ่าฟันคุดเราโดนปิดหน้าปิดตาไว้หมด จนไม่ค่อยรับรู้ว่าหมอเอาผ่าฟันออกอะไรยังไง

พอทำเสร็จ แน่นอนล่ะว่าไม่ปวดฟันแล้ว ส่วนฤทธิ์ยาชาก็ยังมีอยู่ แต่เรากลับทำใจไม่ได้ กลับมาที่บ้านเปิดเฟสบุคแชทกับเพื่อนที่เป็นหมอฟัน น้ำตาก็ไหลพรากๆ เสียใจที่ตัวเองตั้งใจดูแลฟันมากๆ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาตลอด แต่เราก็ไม่พลาดการตรวจฟันและขูดหินปูนเป็นประจำ ในขณะที่คนรอบข้างดูจะปล่อยปละละเลย ไม่เคยมีใครพูดว่ามีปัญหาเรื่องฟันเลย เรารู้ว่ามันดูเป็นเรื่องเล็กนะฟันซี่เดียว แต่ทำไมเราถึงทำใจไม่ได้เลยคะ ระบายความทุกข์ให้เพื่อนฟังก็น้ำตาไหลเสียใจตลอด ทำยังไงเราถึงจะทำใจยอมรับได้คะ