** กระทู้แนะนำที่เที่ยวนะคะ จขกท. ไปมาแล้ว และชอบมาก ข้อมูลรวบรวมจากหลายๆแห่ง รูปส่วนใหญ่เป็นของจขกท. เอง รูปที่ได้มาจากที่อื่นจะมี credit ไว้ให้นะคะ
** รายละเอียดจะเยอะนิดนึง เอาไว้อ้างอิงสำหรับคนที่ตั้งใจจะไปค่ะ ใครยังไม่ไปดูรูปผ่านๆเอาเพลินแล้วกันนะคะ ^^
** ข้อมูลตรงไหนผิดพลาด หรือจะให้เพิ่มเติม/แก้ไข ตรงไหน รบกวนหลังไมค์มานะคะ
Ohara เป็นพื้นที่ชนบทของเกียวโต เดิมเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม ซึ่งยังคงบรรยากาศแบบนั้นอยู่แม้ในปัจจุบัน ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำ Takano ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต
มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและสีสันตามฤดูกาล เป็นที่นิยมมากในฤดูใบไม้แดง และซากุระ แต่ในฤดูหนาวที่มีหิมะตก และฤดูร้อนก็สวยงามเหมือนกัน
จุดที่น่าสนใจมีตั้งแต่ระหว่างทาง ก่อนจะมาถึง จะนั่งรถผ่านทิวเขาที่เต็มไปด้วยต้นสนซีดาร์ ซึ่งป่าแบบนี้ไม่พบในเมืองไทย ต้นสนที่สูงลิบลำต้นตรง แทบจะไม่มีกิ่งก้านก่อนถึงเรือนยอด เป็นเพราะถูกตัดกิ่งก้านออกไปทุกๆ 4-5 ปี จึงได้ลำต้นตรงและไม่มีตาไม้เมื่อเลาะเปลือกออก (ตาไม้จะหายไปหลักจากตัดกิ่งออกไปประมาณ 10 กว่าปี) เพื่อให้ได้ท่อนซุงที่มีคุณภาพและราคาดี
เมื่อมาถึงบริเวณ Ohara แล้ว มีทั้งวัดต่างๆให้ชม ภายในมีทั้งสวนและอาคารที่สวยงาม (Sanzen-in, Hosen-in, Jikko-in, Jakko-in) ได้ดูบ้านแบบเกษตรกรที่หลังคามุงด้วยฟางหนาหนัก ถ้ามาฤดูร้อนก็จะได้เห็นทุ่งต้น Shiba ที่สีม่วงอมแดงตัดกับสีของทุ่งนาเขียวขจี เป็นพืชที่นำมาทำเป็นของดองขึ้นชื่อของแถบนี้ที่ใครมาก็ต้องลอง นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลในช่วงต่างๆของปีด้วย
การเดินทางจากหน้าสถานีรถไฟเกียวโต ไปโดยนั่งรถบัสหมายเลข 17 จากสถานีรถไฟเกียวโตไปประมาณ 1 ชั่วโมง (580 เยน, รถออกทุก 20 นาที) หรือจาก Shijo-Kawaramachi ใช้เวลาประมาณ 45 นาที (510 เยน) หรือเร็วกกว่านั้นคือนั่งรถใต้ดินสาย Karasuma ไปยังสถานีสุดท้ายคือ Kokusaikaisan (20 นาที, 280 เยน) แล้วไปต่อรถบัสหมายเลข 19 อีกที (20 นาที, 340 เยน, รถออกทุก 40 นาที) ก็จะประมาณ 40 นาที (แต่ต้องกะตารางเวลารถบัสให้เป๊ะ ไม่งั้นจะนานกว่าเดิม)
เนื่องจากบริเวณนี้ ใช้ตั๋วรถบัส Kyoto city แบบหนึ่งวัน (one-day bus pass) ไม่ได้ จึงต้องจ่ายเงินเพิ่ม จึงขอแนะนำให้ใช้เวลาที่นี่ทั้งวันไปเลยดีกว่า จะได้เที่ยวได้ทั่วถึงและไม่ต้องรีบร้อนนัก
ควรหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว และวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะคนเยอะมาก หากต้องเดินทางช่วงนั้น แนะนำให้ไปขึ้นรถบัสตั้งแต่ต้นทางที่สถานีเกียวโต และไปแต่เช้า (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและชาวเกียวโตเองก็มีไม่น้อย)
เส้นทางเดินที่แนะนำคือ ไปยัง Sanzen-in → แวะทานอาหารที่ร้านค้าหน้าวัด Sanzen-in → Jikko-in → Shorin-in → Hosen-in ซึ่งทั้งหมดนี้ จะได้พักจิบชาเขียวและขนมหวานสองครั้ง เพราะรวมอยู่ในค่าเข้าชมของวัดสองแห่งแล้ว (Jikko-in และ Hosen-in) ดังนั้นใครอยากจิบชากินขนมและจะไปทั้งหมดนี้ อย่าเพิ่งจ่ายเงินเพิ่มค่าชาไปที่ Sanzen-in นะคะ เดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็อิ่มเองค่ะ
ชื่อสินค้า: Ohara, Sanzen-in, Jikko-in, Shorin-in, Hosen-in, Jakko-in, Kyoto, Japan, โอฮาระ, เกียวโต, ญี่ปุ่น, วัด, สวนญี่ปุ่น, ชนบท
คะแนน:
[CR] แนะนำที่เที่ยวแถบ Ohara ชานเมืองเกียวโต, ญี่ปุ่น ค่ะ
** รายละเอียดจะเยอะนิดนึง เอาไว้อ้างอิงสำหรับคนที่ตั้งใจจะไปค่ะ ใครยังไม่ไปดูรูปผ่านๆเอาเพลินแล้วกันนะคะ ^^
** ข้อมูลตรงไหนผิดพลาด หรือจะให้เพิ่มเติม/แก้ไข ตรงไหน รบกวนหลังไมค์มานะคะ
Ohara เป็นพื้นที่ชนบทของเกียวโต เดิมเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม ซึ่งยังคงบรรยากาศแบบนั้นอยู่แม้ในปัจจุบัน ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำ Takano ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต
มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและสีสันตามฤดูกาล เป็นที่นิยมมากในฤดูใบไม้แดง และซากุระ แต่ในฤดูหนาวที่มีหิมะตก และฤดูร้อนก็สวยงามเหมือนกัน
จุดที่น่าสนใจมีตั้งแต่ระหว่างทาง ก่อนจะมาถึง จะนั่งรถผ่านทิวเขาที่เต็มไปด้วยต้นสนซีดาร์ ซึ่งป่าแบบนี้ไม่พบในเมืองไทย ต้นสนที่สูงลิบลำต้นตรง แทบจะไม่มีกิ่งก้านก่อนถึงเรือนยอด เป็นเพราะถูกตัดกิ่งก้านออกไปทุกๆ 4-5 ปี จึงได้ลำต้นตรงและไม่มีตาไม้เมื่อเลาะเปลือกออก (ตาไม้จะหายไปหลักจากตัดกิ่งออกไปประมาณ 10 กว่าปี) เพื่อให้ได้ท่อนซุงที่มีคุณภาพและราคาดี
เมื่อมาถึงบริเวณ Ohara แล้ว มีทั้งวัดต่างๆให้ชม ภายในมีทั้งสวนและอาคารที่สวยงาม (Sanzen-in, Hosen-in, Jikko-in, Jakko-in) ได้ดูบ้านแบบเกษตรกรที่หลังคามุงด้วยฟางหนาหนัก ถ้ามาฤดูร้อนก็จะได้เห็นทุ่งต้น Shiba ที่สีม่วงอมแดงตัดกับสีของทุ่งนาเขียวขจี เป็นพืชที่นำมาทำเป็นของดองขึ้นชื่อของแถบนี้ที่ใครมาก็ต้องลอง นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลในช่วงต่างๆของปีด้วย
การเดินทางจากหน้าสถานีรถไฟเกียวโต ไปโดยนั่งรถบัสหมายเลข 17 จากสถานีรถไฟเกียวโตไปประมาณ 1 ชั่วโมง (580 เยน, รถออกทุก 20 นาที) หรือจาก Shijo-Kawaramachi ใช้เวลาประมาณ 45 นาที (510 เยน) หรือเร็วกกว่านั้นคือนั่งรถใต้ดินสาย Karasuma ไปยังสถานีสุดท้ายคือ Kokusaikaisan (20 นาที, 280 เยน) แล้วไปต่อรถบัสหมายเลข 19 อีกที (20 นาที, 340 เยน, รถออกทุก 40 นาที) ก็จะประมาณ 40 นาที (แต่ต้องกะตารางเวลารถบัสให้เป๊ะ ไม่งั้นจะนานกว่าเดิม)
เนื่องจากบริเวณนี้ ใช้ตั๋วรถบัส Kyoto city แบบหนึ่งวัน (one-day bus pass) ไม่ได้ จึงต้องจ่ายเงินเพิ่ม จึงขอแนะนำให้ใช้เวลาที่นี่ทั้งวันไปเลยดีกว่า จะได้เที่ยวได้ทั่วถึงและไม่ต้องรีบร้อนนัก
ควรหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว และวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะคนเยอะมาก หากต้องเดินทางช่วงนั้น แนะนำให้ไปขึ้นรถบัสตั้งแต่ต้นทางที่สถานีเกียวโต และไปแต่เช้า (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและชาวเกียวโตเองก็มีไม่น้อย)
เส้นทางเดินที่แนะนำคือ ไปยัง Sanzen-in → แวะทานอาหารที่ร้านค้าหน้าวัด Sanzen-in → Jikko-in → Shorin-in → Hosen-in ซึ่งทั้งหมดนี้ จะได้พักจิบชาเขียวและขนมหวานสองครั้ง เพราะรวมอยู่ในค่าเข้าชมของวัดสองแห่งแล้ว (Jikko-in และ Hosen-in) ดังนั้นใครอยากจิบชากินขนมและจะไปทั้งหมดนี้ อย่าเพิ่งจ่ายเงินเพิ่มค่าชาไปที่ Sanzen-in นะคะ เดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็อิ่มเองค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น