มีใครอยากสร้างพิพิธภัณฑ์กับผมมั้ยครับ

กระทู้คำถาม
เอาง่ายๆ เลยนะครับ

คือผมมีความฝัน อยากทำพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มานานมากแล้ว

เพราะผมไปเมืองนอกแล้ว ผมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกินกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ไทยครับ

ฝรั่งมันทำพิพิธภัณฑ์ได้แบบโคตรเท่ เลิศหรู อลัง แถมเยอะด้วย

ของไทยสู้ไม่ได้เลย ทั้งเก่า ทั้งไกล ไม่ค่อยมีการ update


ไม่นานมานี้ มีแคมเปญเรื่อง "พิพิธภัณฑ์เด็ก" ที่ถูกทิ้งร้างไว้ หลายปี กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง

ผมตามข่าวดู  กทม.บอกว่าจะปรับปรุงทุกปี แต่ก็อย่างที่ทราบนั่นแหละครับ มันก็ไม่เคยเปิดสักปี

แถมจะเปิดประมูล ก็ไม่มีบริษัทเอกชนหน้าไหน เข้ามาประมูลเพราะกลัวเจ๊ง


มันจุดไฟความฝันที่ผมมี ตั้งแต่ยังวัยรุ่น ว่าสักวันอยากจะทำพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ coolๆ

มีกระดูกเจ้า T-Rex วางอยู่ ตรงทางเข้า ให้คนที่ไม่เคยเห็น ได้อึ้ง ว่าครั้งนี้ มีสัตว์ที่ใหญ่โตขนาดนี้ วิ่งพล่านไปมาบนโลกด้วยหรือเนี่ย



ถึงแม้พิพิธภัณฑ์เด็ก จะไม่ใช่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ซักทีเดียว

แต่ขึ้นชื่อ ว่า "เด็ก" แล้ว สิ่งที่เราอยากมอบให้เขา เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางความคิด นั้นก็คงไม่พ้น "วิทยาศาสตร์" แน่ๆ



และเมื่อวาน ทาง www.change.org

รวบรวมรายชื่อได้ ครบสองหมื่นคน จึงไปยื่นหนังสือให้กับ มรว.สุขุมพันธ์
รายละเอียดดังนี้ครับ

"ตัวแทนผู้ปกครอง และเด็กๆ นำโดยเจ้าของแคมเปญ คุณปรีห์กมล และอาจารย์ เดชรัตเข้าพบท่านผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวานนี้เพื่อยื่นรายชื่อของทุกท่านที่ได้ลงชื่อสนับสนุนผ่าน Change.org/kidsmuseum กว่า 20,000คน เรียกร้องขอคืนพิพิธภัณฑ์เด็กหลังปิดปรับปรุงมายาวนานเข้าปีที่ 4แล้ว
โดยท่านผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์รับปากจะเร่งซ่อมให้เสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคม และพร้อมเปิดใช้ก่อนสิ้นปีนี้ ที่สำคัญจะเปิดให้ผู้ปกครองไปร่วมกันออกแบบพิพิธภัณฑ์ด้วย

ดังนั้นในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ.นี้ทางกลุ่มจึงเตรียมจัดกิจกรรม “สานฝันขอคืนพิพิธภัณฑ์เด็ก” โดยอยากเชิญผู้ร่วมลงชื่อและประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ใหญ่ของกทม. มานั่งพูดคุยกันซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่การออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่ทุกคนต้องการเพื่อเป็นของขวัญให้กับเด็กๆ

ขอบคุณผู้ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนทุกท่าน"




ใจผมเอง คิดว่า เราคงไม่สามารถฝากความหวังอะไรไว้กับรัฐได้

แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นภาคประชาชนทำกันเอง มันจะสำเร็จครับ




แน่นอนครับ ตัวผมเอง เป็นหมอ ไม่มีทั้งความรู้เรื่องการสร้างพิพิธภัณฑ์ มีแต่ความอยากทำอย่างเดียว


เลยอยากชวนเพื่อนๆทุกคน ที่สนใจ ไปเจอกัน วันอาทิตย์ที่ 9 กพ. 57 นี้

เพื่อคุยถึงความเป็นไปได้ ว่า model ของพิพิธภัณฑ์ควรเป็นอย่างไร หน้าตาจะออกมาเป็นแบบไหน

จะฝากอีเมลไว้ในนี้ หรือหลังไมค์อีเมลมาให้ผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะประสานนัดสถานที่ และเวลาอีกทีนึงครับ


หรือหากใครไม่สะดวกไป แต่อยากจะเสนอไอเดีย ก็เสนอในกระทู้นี้ได้เลยครับ ผมจะเอาไปเสนอต่อให้ครับ


ขอบคุณมากครับ

ถ้าหากไม่เป็นการรบกวน ผมขอช่วยกันโหวตขึ้นเป็นกระทู้แนะนำครับ


===================================
UPDATE!!!
เพิ่งติดต่อกับทางทีมงานได้สักครู่นี้ครับ

ตอนนี้ได้เวลา และสถานที่แล้วนะครับ
คือเป็น วันอาทิตย์ที่ 9 กพ. 57 เวลา 13.00-16.00 น. (ใครอยากมาจอยกันก่อน หลังไมค์มาบอกได้ครับ ผมคงแวะเข้าไปก่อน)
ที่ พิพิธภัณฑ์เด็ก จตุจักร นะครับ

ผมได้คุยกับทางทีมงานที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการรณรงค์แล้ว
บอกว่า
งานครั้งนี้ อยากให้มากันมากๆ เพราะจะมีคนจากทาง กทม. มาด้วย  ตอนที่ change.org ไปยื่นรายชื่อ กับ ผู้ว่า ก็มีแค่ 4-5 คน
อยากแสดงจะให้เห็นว่า พวกเรามีความทุ่มเทและต้องการเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เพียงโลก online
(ผมว่าสำคัญ ไม่อย่างนั้น มันก็จะเป็นเพียงแค่ คลิกแล้วก็ผ่านไป ซึ่งไม่ได้แสดงออกว่าเราจริงจังกับเรื่องนี้)

ซึ่งขณะนี้ ทาง กทม. ได้จัดจ้างผู้รับเหมา ในการปรับปรุงส่วนโครงสร้างอาคาร เรียบร้อย แต่ยังไม่เริ่มดำเนินการ
แต่ในส่วนของรายละเอียดภายใน ว่าจะจัดเป็นนิทรรศการอย่างไร ยัง blank อยู่ครับ

ซึ่งในวันงานก็คงมีการพูดคุยเพิ่มเติมเรื่องนี้ ว่า เราอยากจะเห็นมันเป็นอย่างไร และคงจะจัดการพูดคุยแบบนี้อีกหลายครั้งครับ

ทาง กทม. ก็อยากได้ภาคประชาชนไปมีส่วนร่วมในการออกแบบด้วย

เดี๋ยวยังไง ผมจะเปิด facebook group ไว้  ถ้าใครต้องการ update แชร์ความเห็นข้อมูล ช่วยหลังไมค์ ชื่อ FB มาที่ผมด้วยครับ
ผมจะได้ invite เข้าไปได้

ขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 35
ตอนนี้ทางทีมฯ และchange.org กำลังคิดกันว่าจะทำอะไรบ้างในวันที่ 9 ก.พ.นี้ เบื้องต้นอยากให้คนที่อยากให้มีพิพิธภัณฑ์มารวมตัวกันเยอะๆ พร้อมกับให้ความเห็นของประชาชนต่อกทม.  เข้าใจว่าผอ.ที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะมาร่วมงานด้วย (จะพยายามดึงผู้ว่ากทม.ฯ ให้มาร่วมด้วย) พร้อมกับนำชมสภาพปัจจุบันของพิพิธภัณฑ์ พร้อมฉายอนาคตของพิพิธภัณฑ์เด็กตามที่ผู้ว่าฯ ได้ประกาศไว้ ตั้งใจว่าจะเริ่มงานเวลา 13.00-16.00 น.

มีความเห็น หรืออยากทำอะไรในวันนั้นยังเปิดกว้างนะครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะรีบมาแจ้งครับ
www.facebook.com/kidsmuseum
nengo112@hotmail.com
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
สนใจค่ะ  เราอยากได้พิพิธภัณฑ์เด็กมากเลย ไปวนเวียนรอดูมาตั้งแต่ ป.ตรี
แต่ไม่ได้เข้าไปชมเพราะมันซ่อมไม่เสร็จซักที ก็เลยต้องไปดูงานที่อื่นแทน

มันเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ลึกๆนะ เวลาที่เห็นประเทศอื่นเขาให้ความสำคัญกับเด็ก
เมืองเราอย่าว่าแต่ให้ความสำคัญกับเด็กเลย  แค่ที่ว่างในการศึกษาให้กับเด็กพิเศษยังแทบไม่มี
ทั้งที่หากมีศูนย์ หรือ พิพิธภัณฑ์ที่จะกระตุ้นการเรียนรู้ให้ได้ทั้งเด็กปกติ และ เด็กพิเศษ ก็คงดีแท้ๆ
อย่างน้อยก็เป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน และส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กๆได้

ขอลงรูปพิพิธภัณฑ์เด็กของประเทศเกาหลี ที่เราไปดูงานมานะคะ  การส่งเสริมด้านการเรียนรู้ของเขา น่าประทับใจมากๆน่ะ
เมืองเราจับหนังสือยัดใส่เด็ก แต่อันนี้เขาจับเด็กยัดใส่ลงไปในหนังสือ โดยในพิพิธภัณฑ์จะจำลองเรื่องราวในนิทานขึ้น
เด็กก็จะเรียนรู้และสัมผัสสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในนิทานได้ เสมือนตัวเองเป็นตัวละคร มีการนำเทคโนโลยีมาใช้จำลองภาพด้วย
การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำเองผ่านทางประสาทสัมผัสต่างๆนี่ล่ะ ยิ่งมากยิ่งดี
นอกจากนี้ก็มีการจัดมุมทำกิจกรรม activity และ cooldown ให้กับเด็กด้วยน่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ส่วนอีกเรื่องพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ เหมือนจะทำแค่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
แต่ที่จริงมันแฝงเรื่องราวนิทานพื้นบ้านจากเกาหลีที่เชื่อว่า ชาวเกาหลีกำเนิดจากหมี
มีนิทานแสดงให้เห็นถึงบุคลิกและนิสัยที่ดีของหมี ในเรื่องความอดทน
ทำให้เด็กซึมซับ เรียนรู้ และปลูกฝังคุณลักษณะแบบนั้นมา  
แล้วเขาใช้ตุ๊กตาหมีเป็นสื่อกระตุ้นการเรียนรู้ให้กับเด็ก ทำให้น่าสนใจที่จะเรียนรู้ด้วย

ตรงช่องยาวๆ เขาทำเป็นนิทาน กำเนิดของชาวเกาหลี เกี่ยวกับหมียังไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอย้อนกลับมาที่ของไทยซักนิดนะคะ  อย่างที่บอกไปพิพิธภัณฑ์เด็กปิดตลอดปีตลอดชาติ
ก็เลยพาหลานไปท้องฟ้าจำลองแทน และก็มองๆดูรูปแบบสถานที่ๆมีการจัดให้เด็กไปด้วยน่ะ

อันนี้เป็นภาพนานแล้วนะ  ที่นี่ก็ดีน่ะ  มีของให้เด็กเรียนรู้และเล่นสนุกได้เต็มที่เหมือนกัน
เรียกได้ว่า  สำหรับคนในเมือง เดินทางด้วย BTS ก็เป็นอีกตัวเลือกได้เหมือนกัน (แต่ของบางอย่างก็ชำรุดนะ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่มันก็มีคำถามว่า แล้วหากเป็นเด็กพิเศษล่ะ ศูนย์เรียนรู้อย่างที่คลองหก ท้องฟ้าจำลอง หรือ พิพิธภัณฑ์เด็กที่ซ่อมแซมตลอดชาติ
เขาจะมีส่วนไหนบ้างที่สามารถเข้าถึงการใช้บริการ สามารถเรียนรู้และสนุกไปกับมันได้  มันก็น่าเป็นอีกประเด็น
อย่างเกาหลีเอง เขามีการนำเครื่องมือมาช่วยในการเรียนรู้เยอะมาก  สำหรับเด็กพิเศษ หรือ ผู้บกพร่องทางด้านต่างๆน่ะ
แม้แต่ทางเดินในอาคารก็มีการวาง blind way ด้วยน่ะ  ส่วนป้ายก็มีการทำอักษรเบลล์เอาไว้ด้วย
รวมทั้งมีการใช้สื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปด้วยน่ะ ทั้งเสียง สัมผัส การมองเห็น

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เราก็ไม่รู้หรอกว่า model พิพิธภัณฑ์ที่ดีควรเป็นยังไง แต่จากความชอบส่วนตัวและสายของตัวเองจะวนเวียนอยู่กับมนุษย์โดยเฉพาะเด็กๆ
ก็อยากจะช่วยผลักดันให้หลายๆฝ่ายเด็กความสำคัญของเด็กให้มากๆน่ะ  หากมีอะไรช่วยได้ก็อยากช่วยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 22
มาให้ความมั่นใจครับ มันจะสำเร็จแน่นอน ถ้าเรามุ่งมั่น

ผมเป็นเพียงวิศวกรแต่ก็รักในการเรียนรู้ และก็ได้รับแรงบันดาลใจตั้งแต่เด็กๆ ผ่านนิทรรศการวิทยาศาสตร์

เล่าถึงครอบครัวนิดนึง
พ่อผมตาบอด แต่ก็ทำตามความใฝ่ฝันได้สำเร็จ คือให้คนตาบอดได้โอกาสในการศึกษา และได้เปิดโรงเรียนสอนคนตาบอดสายวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศ ที่เพชรบุรี ชื่อโรงเรียนธรรมิกวิทยา เมื่อปี 2551

ถ้าพ่อได้รู้ว่ามีคนใจดีอยากร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คงดีใจมาก เพราะเด็กๆจะได้รับประโยชน์มาก

ยังไงก็ฝากนึกถึงเด็กพิการอื่นด้วยนะครับ มีอะไรที่ช่วยได้ ผมยินดีช่วยครับ เพราะมันก็เป็นความใฝ่ฝันของผมเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่