ส่วนตัวเคยดูสารคดีการปฏิวัติของประเทศจีนมาบ้าง พอดูแล้วมันแอบไม่ชอยมาพากลเกี่ยวการเมืองช่วงเวลานี้นิดๆ
มันพอจะมีเส้นที่ทับกันอยู่ เลยพอดูแล้วก็รู้สึกว่าใช่.

ตอนนั้นจีนเป็นลัทธิที่เรียกว่า พวกคลั่งเหมา คือถ้าใครที่คิดต่างกับเหมาแล้ว ก็จะโดนยุวชนทหาร เข้าไปทำร้าย หรือไม่ก็เรียกให้นายทหารจับไปยิงเป้า
เพียงเพราะคิดต่าง ส่วนใหญ่ จะเป็นพวก นักวิชาการ นักคิด นักเขียน ศิลปิน ต่างๆที่ไม่ใช่ชาวนา

โดยถ้าเอามาเปรียบเทียบ กับการเมืองเราตอนนี้ ก็คง หนี้ไม่พ้น คนคลั่ง นปช กับ กปปส พวกที่คลั่งอะไรแบบนี้จัดๆแล้ว พวกเค้าจะไม่สนใจเลยว่าพวกเค้ามีข้อเสียอะไรบ้าง แล้วไม่ยอมรับเปนอันขาดว่าพวกเขา มีข้อเสีย พวกเค้าคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในประเทศไทยแล้ว โดนจะปิดตายข้อเสียของตนเอาไว้

แล้วก็ออกมาจัดการกับพวกที่เหนต่างกับพวกเขาโดนไม่สามารถแยกแยะอะไรได้ เพราะพวกเขาคือสิ่งที่ถูกต้อง !

อย่าลืมนะคะว่าเสนห์ขอบประชาธิปไตยคือ การคิดต่างไม่ใช่ ความคิดของคนหมู่มากมากชนะแล้วไม่สนใจความคิดส่วนน้อย
มันเป็นการปรับคลื่นเข้าหากัน แล้วผสมผสานกันอย่าลงตัว(ไม่มากก็น้อย) ถ้าคิดเหมือนกันหมดก็คงเปนแบบเกาหลีเหนือ แล้วคะ
สงสัยมากว่าทำไมพวกหัวรุนแรงถึงถวิลหาสงครามตอนนี้ สงสัยตอนเด็กบ้าแรมโบ้ แล้วสอบนายร้อย นายสิบไม่ติดกันรึป่าว ถึงมาทำอะไรกันแบบตอนนี้
พวกคุณคงจินตนาการว่าพวกคุณคือทหารอยู่รึป่าว ?

อย่าลืมนะคะว่าเราคือคนไทยด้วยกัน มีพอหลวงองค์เดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน กินข้าวจากชาวนาเหมือนกัน.