ปรกติปั่นจักรยานไปทำงาน และจอดไว้ใต้ตึก...ก็ไม่หาย
แต่เมื่อวานมีธุระต้องโดยสารบีทีเอส และคิดว่าในขบวนบีทีเอสคงต้องแน่นตั้งแต่สยาม ดังนั้นจำต้องจอดลูกชาย คือจักรยานสีฟ้า ล้อสีขาวคันนี้ ไว้ที่ป้ายจอดรถจักรยานของ กทม ด้วย แต่ก็มั่นใจว่า ไม่หาย เพราะมีผู้คนผ่านไปมา และไม่ใช่ถนนสายเปลี่ยว และสิ่งที่สำคัญคือ มีการล็อคด้วยโซ่เป็นแน่นหนา และเราก็จากลูกชายมาตั้งแต่เวลา 18.10 น.เหมือนเวลามันเดินเร็วกว่าปกติ จากเวลาเดิมที่ว่าจะกลับมาให้ไว กลายเป็นช้า และแล้วก็มาถึงสถานีราชดำริ และเดินมาที่จอด....แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง เอ๊ะ!ที่เราก็จอดไว้ตรงนี้นี่หว่า..... ทันใดนั้นเองจิตใต้สำนึกก็คิดได้แล้วว่า "จักรยานหาย" เหมือนเสียงโจรมันบอกว่า "ขอบคุณ"
เราตัดสินเรียกพี่วินมอไซค์จากบีทีเอสไป สน.ลุมพินี
คุณตำรวจก็ลงบันทึกแระจำวัน และบอกว่าควรไปดูกล้องวงจรปิด...แค่นั้นเระ เราก็ต้องจัดการเอง
เข้าใจ....งานตำรวจเยอะ....คดีโจรขโมยจักรยานมันเล็ก
เราต้องนั่งวินกลับมาสถานีราชดำริ เจ้าหน้าที่บอกว่า "ต้องไปดูที่สยามนะค่ะ ปิดเวลาห้าทุ่มนะค่ะ"....
คิดในใจ..... นี้ก็ดึกมาก ....สติก็ไม่อยู่กับตัวแล้ว....กลับดีกว่า...ไปตั้งหลักที่บ้าน
การตอบสนองถัดมาคือ ร้อง อึ้ง กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"จะกลับบ้านยังไงว่ะ" นี้ก็สามทุ่มแล้ว..ทำยังไง?..พรุ่งนี้อีก...อุตสาห์ซื้อมา
วันนี้ มาทำงานแบบเบลอๆ โดยไม่มีลูกชายแสนรักของเรา
"ไม่มี ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว...ไม่ ไม่ ไม่... ไม่อยากจะเชื่อ"
เฮ้ย รอเวลา...จนเลิกงาน
ไปดูกล้องวงจรปิดที่บีทีเอสสยาม
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่นะ ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวีดีโอใต้สถานี โคตรไม่ชัดเลย
เพราะไม่ได้ทำความสะอาด และกล้องมันเก่านะค่ะ เจ้าหน้าที่ผู้แสนดีที่ช่วยเราหาเวลาที่เราจอดแจ้งมา
เราก็เข้าใจ จึงเดิน....จากสยามไปราชดำริ ไปดูเลขที่ติดไว้กล้องวงจรปิดของ กทมใ เดินตั้งแต่ซอยมหาดเล็ก จนไปถึงใกล้สวนลุม
จากนั้นก็โทรไป ขอภาพจากกล้อง กทม.
พี่เจ้าหน้าที่ก็อจ้งว่ารอรับภายใน 2-3วันทำการครับ
ณ วันนี้ คือวันที่สองที่เราจากกับลูกชายไป
นี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่จะฝากถึงความรับผิดชอบ ในสิทธิของประชาชน
ทำไมการหาที่จอดจักรยานอย่างปลอดภัย ช่างแสนยากลำบากจริงในกรุงเทพมหานครแห่งนี้
"โครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น" เป็นโครงการที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีจักรยาน แต่ต้องการใช้การ "ปั่น" เพื่อออกกำลังกาย หรือเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นในเมืองกรุง และมีที่จอดเฉพาะที่แน่นหนา
แต่โครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น จะได้ผลยิ่งขึ้น หากการ "ปั่น" นี้ได้ดูแลจักรยานทุกคัน อย่างทั่วถึง และมีความปลอดภัยเช่นกันกับจักรยานของกทม
....อึ้ง.....ช็อคกับภัยกลางกรุง
เราไม่สามารถจะเชื่อใจแสงสว่าง กลองวงจรปิด และโซ่คล้องหลายนิ้วได้เลย
แม้นไม่แพงถึงหลักหมื่นเหมือนใครเขา เราก็เก็บเงินเอง จักรยานคันแรกที่ซื้อเอง มันมีความทรงจำดีดี...ที่ขนาดแม่ก็ยังขี่เลย
คุณคิดดูผู้หญิงอายุ60ปี เธอมีความสุขกับจักรยานเหมือนกับวัยเดียวกับเรา ซึ่งเป็นลูก
แน่นอนอยู่แล้ว มันคือความทรงจำดีดี เจ้าจักรยานพับได้
ตัวถังสีฟ้า ล้อมีสีขาว แฮนด์และเบาะนั่งสีน้ำตาล
โปรดช่วยกันตามหาโจรด้วยความเคารพทุกท่าน
เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีเจตนาอยากได้จักรยานกลับมาเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่เป็นจุดประสงค์หลัก คือ การตามหาโจรขโมยจักยาน
เพื่อที่คนพวกนี้จะไม่ได้ทำความเดือดร้อนในสังคมนี้อีก
อย่างน้อยก็เพื่ออยากบอกแก่ผู้รับซื้อของโจร
ว่า ก่อนที่คุณจะซื้อ คุณได้ใาในราคาแสนต่ำ แต่เมื่อเทียบกับใจของคนที่สูญเสียไปนั้น ยากนักจะทดแทนได้
เรามีเงิน เราสามารถซื้อใหม่ได้
แต่เราก็สามารถทำมันหายได้
ถ้ามีโจรขโมยจักรยาน
และคนรับซื้อของโจร
และในสังคมที่เราไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินเราได้เลย!!!
จักรยานหาย ที่BTSราชดำริ เมื่อ28 มกรา 2557
ปรกติปั่นจักรยานไปทำงาน และจอดไว้ใต้ตึก...ก็ไม่หาย
แต่เมื่อวานมีธุระต้องโดยสารบีทีเอส และคิดว่าในขบวนบีทีเอสคงต้องแน่นตั้งแต่สยาม ดังนั้นจำต้องจอดลูกชาย คือจักรยานสีฟ้า ล้อสีขาวคันนี้ ไว้ที่ป้ายจอดรถจักรยานของ กทม ด้วย แต่ก็มั่นใจว่า ไม่หาย เพราะมีผู้คนผ่านไปมา และไม่ใช่ถนนสายเปลี่ยว และสิ่งที่สำคัญคือ มีการล็อคด้วยโซ่เป็นแน่นหนา และเราก็จากลูกชายมาตั้งแต่เวลา 18.10 น.เหมือนเวลามันเดินเร็วกว่าปกติ จากเวลาเดิมที่ว่าจะกลับมาให้ไว กลายเป็นช้า และแล้วก็มาถึงสถานีราชดำริ และเดินมาที่จอด....แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง เอ๊ะ!ที่เราก็จอดไว้ตรงนี้นี่หว่า..... ทันใดนั้นเองจิตใต้สำนึกก็คิดได้แล้วว่า "จักรยานหาย" เหมือนเสียงโจรมันบอกว่า "ขอบคุณ"
เราตัดสินเรียกพี่วินมอไซค์จากบีทีเอสไป สน.ลุมพินี
คุณตำรวจก็ลงบันทึกแระจำวัน และบอกว่าควรไปดูกล้องวงจรปิด...แค่นั้นเระ เราก็ต้องจัดการเอง
เข้าใจ....งานตำรวจเยอะ....คดีโจรขโมยจักรยานมันเล็ก
เราต้องนั่งวินกลับมาสถานีราชดำริ เจ้าหน้าที่บอกว่า "ต้องไปดูที่สยามนะค่ะ ปิดเวลาห้าทุ่มนะค่ะ"....
คิดในใจ..... นี้ก็ดึกมาก ....สติก็ไม่อยู่กับตัวแล้ว....กลับดีกว่า...ไปตั้งหลักที่บ้าน
การตอบสนองถัดมาคือ ร้อง อึ้ง กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"จะกลับบ้านยังไงว่ะ" นี้ก็สามทุ่มแล้ว..ทำยังไง?..พรุ่งนี้อีก...อุตสาห์ซื้อมา
วันนี้ มาทำงานแบบเบลอๆ โดยไม่มีลูกชายแสนรักของเรา
"ไม่มี ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว...ไม่ ไม่ ไม่... ไม่อยากจะเชื่อ"
เฮ้ย รอเวลา...จนเลิกงาน
ไปดูกล้องวงจรปิดที่บีทีเอสสยาม
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่นะ ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวีดีโอใต้สถานี โคตรไม่ชัดเลย
เพราะไม่ได้ทำความสะอาด และกล้องมันเก่านะค่ะ เจ้าหน้าที่ผู้แสนดีที่ช่วยเราหาเวลาที่เราจอดแจ้งมา
เราก็เข้าใจ จึงเดิน....จากสยามไปราชดำริ ไปดูเลขที่ติดไว้กล้องวงจรปิดของ กทมใ เดินตั้งแต่ซอยมหาดเล็ก จนไปถึงใกล้สวนลุม
จากนั้นก็โทรไป ขอภาพจากกล้อง กทม.
พี่เจ้าหน้าที่ก็อจ้งว่ารอรับภายใน 2-3วันทำการครับ
ณ วันนี้ คือวันที่สองที่เราจากกับลูกชายไป
นี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่จะฝากถึงความรับผิดชอบ ในสิทธิของประชาชน
ทำไมการหาที่จอดจักรยานอย่างปลอดภัย ช่างแสนยากลำบากจริงในกรุงเทพมหานครแห่งนี้
"โครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น" เป็นโครงการที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีจักรยาน แต่ต้องการใช้การ "ปั่น" เพื่อออกกำลังกาย หรือเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นในเมืองกรุง และมีที่จอดเฉพาะที่แน่นหนา
แต่โครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น จะได้ผลยิ่งขึ้น หากการ "ปั่น" นี้ได้ดูแลจักรยานทุกคัน อย่างทั่วถึง และมีความปลอดภัยเช่นกันกับจักรยานของกทม
....อึ้ง.....ช็อคกับภัยกลางกรุง
เราไม่สามารถจะเชื่อใจแสงสว่าง กลองวงจรปิด และโซ่คล้องหลายนิ้วได้เลย
แม้นไม่แพงถึงหลักหมื่นเหมือนใครเขา เราก็เก็บเงินเอง จักรยานคันแรกที่ซื้อเอง มันมีความทรงจำดีดี...ที่ขนาดแม่ก็ยังขี่เลย
คุณคิดดูผู้หญิงอายุ60ปี เธอมีความสุขกับจักรยานเหมือนกับวัยเดียวกับเรา ซึ่งเป็นลูก
แน่นอนอยู่แล้ว มันคือความทรงจำดีดี เจ้าจักรยานพับได้
ตัวถังสีฟ้า ล้อมีสีขาว แฮนด์และเบาะนั่งสีน้ำตาล
โปรดช่วยกันตามหาโจรด้วยความเคารพทุกท่าน
เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีเจตนาอยากได้จักรยานกลับมาเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่เป็นจุดประสงค์หลัก คือ การตามหาโจรขโมยจักยาน
เพื่อที่คนพวกนี้จะไม่ได้ทำความเดือดร้อนในสังคมนี้อีก
อย่างน้อยก็เพื่ออยากบอกแก่ผู้รับซื้อของโจร
ว่า ก่อนที่คุณจะซื้อ คุณได้ใาในราคาแสนต่ำ แต่เมื่อเทียบกับใจของคนที่สูญเสียไปนั้น ยากนักจะทดแทนได้
เรามีเงิน เราสามารถซื้อใหม่ได้
แต่เราก็สามารถทำมันหายได้
ถ้ามีโจรขโมยจักรยาน
และคนรับซื้อของโจร
และในสังคมที่เราไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินเราได้เลย!!!