สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
จากประสบการณ์ ตัวเอง และ สิ่งที่ได้พบเจอมานะค่ะ ไม่ได้ว่าใครนะ เพระาส่วนตัว ก็จบ ปวช และ เอนท์ เข้ามหาลัยรัฐ เหมือนกัน ไม่ได้ต่อเนื่องนะ เรียนี 4 ปี เลย ฉะนั้นจะมีสังคม เพื่อน 2 สังคม คือ พวก เด็กมหาลัย และ พวกเด็ก ปวช ปวส
สิ่งที่ต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเลย คือ ค่ามาตรฐาน ค่าเฉลี่ย ค่ะ แน่นอนว่า ทั้ง ม. ปลาย และ ปวช จะมีเด็กเก่งเวอรรรรรร และ เด็ก โง่ เวอรรรรรรรรร มีทุกทีค่ะ แต่ คนที่อยู่ระดับ กลางๆเนี้ย จะต่างกัน
เพราะ สังคม ปวช แข่งกันเปิดโรงเรียน ดึงเด็กมาเรียน ด้วย ชุด น่ารักๆ ระเบียบ หลวมๆ ในขณะที่ ม. ปลาย ระเบียบเข้มกว่า
ฉะนั้น ความขยันหมั่นเพียร ของ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างกันค่ะ แน่นอนว่า เด็ก ม. ปลาย ขยันกว่าเยอะค่ะ (ในค่าเฉลี่ย ไม่นับ พวก ดีเวอร์ กับแย่เวอร์นะค่ะ)
เพราะว่า กฏ เค้าเข้มงวดกว่าค่ะ ไม่ส่งงาน ไม่ผ่าน คะแนนไม่ดี GPA ที่จะไปเอน ก็แย่ คือมันมีผลหมด เพื่อนฝูง คนรอบข้าง บลาๆๆๆ ทำให้ ในค่ากลาางๆ เด็ก ม. ปลาย ต้องมี ความตั้งใจมากกว่า เพราะ มุ่ง เอนทรานซ์ ด้วย ในขณะที่ เด็ก ปวช เรียนไปเรื่อยๆก็ได้ จบ ต่อ ปวส ต่อ แล้วค่อยต่อเนื่องเอา ซึ่ง บอกตรงๆว่า เข้าง่ายๆกว่าเอน เยอะค่ะ (ขอโทษที่พูดตรงๆ ) ถึง คุณๆ จะรู้สึกว่าเห้ย มาพูดงี้ได้งัย กว่าจะผ่านได้กว่าจะจบ ยากนะเฟ้ย ไม่ได้ง่าย แต่อย่างที่บอก ว่าเรา อยู่ ในกลุ่มสองกลุ่ม คือ เรียน ปวช แล้ว เรียน ตรี 4 ปี เราเรียนร่วมกับเด็กสายสามัญค่ะ พอ ขึ้นปี 3 เพื่อนๆเรา ที่ต่อ ปวส ก็มาเรียนต่อเนื่องที่เดียวกัน สิ่งที่เพื่อนๆ บ่นว่า ยากกกกก หรือ ทำไม่ได้ หรือ เหนื่อย เป็นสิ่งที่ เหล่าเด็กสายสามัญ เนี้ย ชิลๆค่ะ เป็นเรื่องปกติ สำหรับเค้า เพื่อนบางคน เรียนได้ ไม่ถึงเทอม ลาออกไป เพราะ ใช้ภาษาอังกฤษ ในการเรียนเยอะ บอกปวดหัว เราแบบ เห้ยยยย จะบร้าหรอออ แค่นี้เองนะ แล้วก็สังเกต นะค่ะ หลายๆครั้ง ถ้า เด็ก ปวช ปวส พลาด ท้องขึ้นมา ก็ จะไม่เรียนละ อาย พอละ แล้วก็ออกมาแบบไม่มีวุฒิ แล้วก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ จะเลี้ยงลูกกันยังงัย ในขณะที่ ถ้าเด็กมหาลัยท้อง ทำไงหรอ? ดรอป ค่ะ คลอดก่อน แล้วกลับมาเรียนต่อ ให้จบ แล้วก็ออกไปทำงานด้วยวุฒิที่มี ใช้ชีวิต ปกติ พร้อมกับมีลูก 1 คน แต่มีงานที่มั่นคงทำ คือ มันไม่มีผล สำหรับเค้าเท่าไร ค่ะ เพระามุมมองที่ต่างกัน และสังคมที่ต่างกันด้วยค่ะ วิธีคิดก็ต่างค่ะ เค้ายังจะเดินหน้าต่อ แม้จะมีลุกก็ตาม แต่ เด็ก ปวส จะ แบบ ไม่เอาละ พอละ ออกมาเลี้ยงลูก ไม่เรียนละ ถึงแม้ว่า จะบอกว่า สงสาร ถ้าต้องให้แม่เลี้ยง ก็ออกมาเลี้ยงเอง แต่ คุณไม่มีวุฒิ คุณทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณก็ยังต้องเบียดเบียนแม่อยู่ดี เหล่านี้ คือ สิ่งที่ ต่าง เพราะสังคม และความเป็นอยู่ ของแต่ละแบบ การศึกษาค่ะ
แล้วก็จุดต่าง คือ เด็ก ม.ปลาย มีความทะเยอ ทะยาน มากกว่า อยากเรียนรู้ อยากมีวิชา เพิ่ม ในขณะที่ เด็ก ปวช เนี้ย จะแบบ แค่นี้ก็ได้วะ แค่นี้ก็พอละ เหนื่อยละ
ฉะนั้น ถ้าคุณ รู้ตัวว่า คุณ ไม่ได้ เป็นเด็กหัวกะทิ เวอร เนี้ย ควรจะเรียน ม.ปลายนะ เพื่อนๆยังลากกัน ให้ตั้งใจเรียน มากกว่า ในขณะที่ เด็กปวช จะลากกันเที่ยว มากกว่า แต่ ถ้าคุณ ดูแล ตัวเองได้ อยุ่ที่ไหนก็ตั้งใจเรียนได้ ก็ ได้ ทั้ง ม. ปลาย ทั้ง ปวช ค่ะ
อันนี้ตอนเรียน นะค่ะ
มาถึงตอนทำงาน ต้องยอมรับ อย่างชัดเจนนะค่ะ ถ้า วุฒิ ปวช ปวส เนี้ย สำหรับ สายผู้หญิง ในบริษัทใหญ่ๆ คุณเป็นได้แค่ พนักงาน document controller ไม่ได้ว่า เด็กสายนี้ไม่ดีนะ แต่ ภาพรวม สิ่งที่คนอื่นตี ค่า คือ แค่นี้งัยค่ะ ตำแหน่งอื่น ให้ ป.ตรี ( ไม่จำเป็นต้อง 4 ปีนะ ต่อเนื่องก็ได้)
ฐานเงินเดือนก็ต่างค่ะเยอะด้วย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว แทบจะทุกๆตำแหน่ง ความรู้ ความสามารถ ปวช ปวส ป.ตรี ทำได้เหมือนกันหมดค่ะ
แต่ มีจุดต่างอีกแล้ว บอกแล้ว เด็ก ปวช ไม่ค่อยทะเยอทะยาน เท่าเด็ก ม.ปลาย--> ปตรี
จากประสบการณ์ตรงๆ ของเพื่อนร่วมงาน ถ้ามีอะไรที่ เป็นเรื่องแปลกใหม่ เด็ก ปวช ปวส จะไม่ทำ ไม่กล้า ไม่ใช่หน้าที่ เกินเงินเดือน ชั้นไม่ทำ ทำไม่เป็น คือ ถ้าถามเนี้ย จะโพล่งก่อนเลย ว่า ทำไม่เป็น แล้วเค้าก็จะมีทัศนคติ ประมาณว่า ชั้นทำแค่นี้ ชั้นก็อยู่ได้ละ พอละ ทำไม ต้องดิ้นรน ทำให้มาก ชั้นเป็น doc con ไปทั้งชาติก็ได้ เด๋ว สามีก็เลี้ยง ประมาณนี้
แต่ถ้างานเดียวกัน ส่งให้ เด็ก ป.ตรี ทำ ถึงจะไม่อยากทำ ถึงจะขี้เกียจทำ เค้าก็จะทำค่ะ มันคือ วุฒิภาวะ ของเค้า ที่ถูกหล่อหลอม มาต่างกัน เค้าพร้อมที่จะเรียนรู้ แม้จะไม่อยากทำ
นั่นก็คือ เหตผลส่วนนึง ที่เด็ก ปวช ปวส เค้าจะให้เป็นแค่ doc con ไปวันๆ เพราะให้ริเริ่มอะไรไม่ได้
แต่เด็ก ป.ตรี ใช่ว่าสถาบัน ไม่มีผลนะ มีผล เช่นกันค่ะ เห็นมาจากเด็กฝึกงานค่ะ
ว่ากันต่อที่เด็กฝึกงาน ไม่เข้าใจว่าทำไมนะ พอจบจาก ปวช ปวส เนี้ย ทำงานไม่ขยันเท่าไร แต่ เด็กฝึกงาน ปวช ปวส ดีๆ ทุกคนเลย เทียบกับ เด็ก ป.ตรี บริษํทที่เคยทำเป็นบริษํทใหญ๋ มีเด็กฝึกงานมาตลอดๆๆๆ ก็จะเห็นหลายรุ่นหลายคน
เด็ก ปวช ปวส เนี้ย จะอ่อนน้อม ขี้กลัว ใช้ให้ทำไร ก็จะทำๆๆๆๆๆ ไม่ขัด แล้วทำได้ดี ด้วย หลายๆคน ปล่อยได้เลย ให้ทำเอง ตัดสินใจเองได้
ที่นี่ ไม่รับเด็กฝึกงานมาถ่ายเอกสารนะค่ะ ทำงานจริงค่ะ ส่วนตัวในแผนกเนี้ย จะชอบมากเวลา มีเด็ก ปวช ปวส มาฝึกงาน เพราะเราจะเบาแรง มีคนช่วย
แต่ เด็ก มหาลัย บางแห่ง ที่เคยรับมา เกี่ยงงานค่ะ คือ อีโก้ ว่า ชั้นเรียน ป.ตรีนะ ทำไม ต้องทำงานประเภทนี้???? ไม่ใช่ งานที่ชั้นต้องทำ ไม่ใช่สายชั้น บอกตรงๆว่าเคืองมากกก เป็นรุ่นที่ พี่ๆ ไม่ปลืมเลย เพราะว่า ไอ้ที่น้องคิดว่า น้อง เรียน ตรี ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ (เศรษฐศาสตร์) งานเอกสารเป็นหลัก เอกสาร ทางวิศวะ ด้วย
อยากจะบอกว่า ไอ้ที่เห็นพี่ๆ นั่งหัวโด่ ทำงานกันเนี้ย พี่ก็ จบตรี กันทั้งนั้น ยังททำกันได้เลยยย อีกอย่าง พี่จบโท ด้วยซ้ำ สายเดียวกับน้องด้วย พี่ยังทำได้เลยยยย แบบ น้องยังไม่ทันจบ ก็เลือกงานแล้ว ส่อแวว ร่วงนะค่ะ คนทำงานมีเยอะ มีให้เลือกไม่หวาดไหว อย่าเล่นตัวกับงาน
ในขณะที่ รับ เด็ก ป.ตรี ม. อันดับต้นๆของประเทศ มาฝึกงาน เค้าจะตั้งใจมาก สนใจ ทุกเรื่อง ถามๆๆๆๆๆๆ ตลอด คือ ใฝ่รู้มาก แล้วก็จะหัวไว เข้าใจอะไรง่าย เต็มใจเรียนรุ้
นี่ คือ ทั้งหมด ทั้งมวล ที่เป็นภาพสู่สังคมภายนอก
สำหรับบริษัทใหญ่ เค้าไม่จ้าง ปวช ปวส ให้ ทำงาน ตำแหน่ง ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะให้เป็นลุกมือค่ะ นอกจาก สายช่าง อันนั้น ตำแหน่ง ปวส จะมีเยอะมากกกกกกกก และเข้าทำงาน ง่ายกว่า ป.ตรี ค่ะ การแข่งขันไม่สูง เพราะ บางที่ ตำแหน่ง ปวส รับ เป็นร้อยต่ำแหน่ง แต่ ป.ตรี รับ แค่ สิบ ต่ำแหน่ง ฉะนั้นเรียน ปวส สายช่างมา ถ้าเข้ามาได้ ก็ดีแล้วค่ะ เพราะว่าเงินดีด้วย เข้าง่ายกว่าด้วย แต่ ถ้า วิศวะ ป.ตรี นอกจากรับน้อย ยังรับแต่ มหาลัย อันดับต้นๆด้วย ตัวเลือกเยอะค่ะ
แต่ สำหรับ บริษัท เล็กๆ หลายๆที่ ตำแหน่งงานส่วนใหญ๋ ตำแหน่งเดียวกัน จะรับทั้ง ปวส และ ป.ตรี ค่ะ เงินเดือนก็ไม่ต่างกันมากมั้งค่ะ และ มีเยอะด้วยค่ะ หางานง่าย แน่นอนค่ะ
ทีนี้ ก็ต้องมาดูความต้องการ ของตัวเอง และนิสัย การเรียนรู้ตัวเองแล้วละ ว่าเป็นยังงัย
อยากเข้าบริษัทใหญ่ ที่มีโบนัส 6 เดือน ที่พูดไปแล้ว ทุกคน ต้องร้อง อ๋ออออออ ประมาณนี้ ก็ต้องจบตรี ที่ ดีๆ ถึงจะเข้าได้ จบ ปวส ส่วนใหญ่ได้เป็น sub -contract ไม่ต้องพุดถึงโบนัส เพราะเป็นลูกเมียน้อยค่ะ ไม่ได้อยู่แล้ว อย่างมากเค้าก็ปันให้ สัก เดือนนึง หรรือ ถ้าเป็นบริษัท รถ ซึ่งได้ โบนัสประมาณนี้เหมือนกัน ถึงไม่จบตรี ก็เข้าได้ ค่ะ แต่เป็น ไลนผลิต นะค่ะ และโอกาส เป็นพนักงานประจำ ที่ได้โบนัส ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างค่ะ ที่เห็นๆ ทำในไลน์ บริษัท เหล่านี้ ใช่ว่าจะเป็นพนักงน เค้ากันทุกคนนะค่ะ บางส่วน ก็เป็น sub-contract ค่ะ
แต่ถ้าเข้า บริษัททั่วๆไป แล้วอยากไปไต่เต้า บริษํทเปิดใหม่ อันนี้ จะไม่เน้นนะค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็น อะไรก็รับค่ะ เผลอ บางที รับ ม. อันดับหนึ่ง มา เดือนเดียว ลาออก ก็มีบ่อยค่ะ อยู่ไม่ได้ ไฮโซ เกินไปประมาณนั้น
ทีนี้ ควบคุมตัวเองได้แค่ไหนค่ะ เป็นคนตามเพื่อน หรือป่าวค่ะ หรือ ถึงเพื่อน จะโดดเรียน ก็จะนั่งเรียนในห้องไม่โดดเรียน หรือป่าวค่ะ
ถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ดี หรือ ติด แบบว่า ไหลไปกับกลุ่มส่วนใหญ่ ควรจะอยู่ในที่ๆ มีกฏระเบียบ บังคับ เพราะ พอไปอยู่ๆ เราก็ต้อง ตามเค้าอยู่ดีค่ะ ซึ่งหมายถึง ม.ปลายค่ะ
แต่ถ้าไปอยู่ แบบที่ๆไม่มี กฏระเบียบเข้มงวด ก็จะ อ่อนระเบียบไปด้วย ตามน้ำไป
ถ้าเป็นคนเละเทะ หัวไม่เอาไหน เรียนไม่รอด ไม่ควรเรียน ม. ปลาย เพราะ กดดัน เรียน ปวช อย่างน้อยจบมาก็มีงานทำแน่ๆ ถ้าจบแค่ ม. 6 ทำอะไรไม่ได้นะค่ะ เกิดเรียน ต่อ ตรี เอกชน สมมติว่าเอนไม่ติด แล้วเรียนไป เทอมนึง โดนไทร ไม่เรียนแล้ว ก็ จบกัน หางานยากเลยยย
อย่างนี้ ถูๆไถๆ ให้จบ ปวช ดีกว่า ยังงัยก็ยังหางานได้
แต่ถ้าเป็นหัวกะทิ เรียนที่ไหนก็รุ่งค่ะ จะ ปวช หรือ ม. ปลายก็ได้ค่ะ
ก็เลือกที่ดีๆละกันค่ะ
และจะฝากไว้ นะค่ะ สำหรับเด็ก ม.ปลาย สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ ความอ่อนน้อม อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองฉลาด คุณจะเข้ากับที่ทำงานยากกว่าเด็กปวช เพราะจะติดเลือกงาน ไอ้นั่นไม่ทำ ไอ้นี่ ต่ำไป คือ อย่าติดอีโก้ อะค่ะ จะทำให้ เปลี่ยนงานบ่อยค่ะ
ส่วนเด็ก ปวช สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ ความกระตือรือร้น กล้าคิดกล้าทำ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ อย่าเป็นประเภทว่า ชั้นทำไม่เป็นอะ ชั้นไม่ทำ จริงๆนะ ทุกวันนี้ ไม่มีอะไรยากหรอกค่ะ ไม่รู้หรอ ถามอากู๋ สิค่ะ ไม่ยาก คุณก็รู้ละ เรียนภาษาเพิ่ม เพระาต้องใช้ และเป็นใบเบิกทางที่ดีค่ะ ต่อให้คุณ จบ แค่ปวช แต่ภาษา คุณดี ที่ไหนก็อยากรับค่ะ
ฉะนั้น จะเรียนอะไร ก็ ดีค่ะ ถ้า ทำตัวให้ดี และรู้ว่าความต่างคืออะไร และคนข้างนอกมองว่าต่างกันแบบไหน เราก็สามารถ เพิ่มเขี้ยวเล็บให้ตัวเองได้ค่ะ ถึงแม้ว่า คนอื่นจะมอง เราว่า เป็น เด็ก ปวช หรือ มองว่า เราเป็น เด็กม.ปลาย มันแค่ก่อนเข้าทำงานค่ะ เข้าไปทำได้แล้ว เค้าจะตัดสินตัวตนเรา จาก สิ่งที่เราทำ ที่เราแสดงให้เห็นค่ะ ฉะนั้นไม่ว่าจบอะไรมา แสดงศักยภาพให้เต็มที่ ทลายข้อจำกัดว่า ชั้นจบ นั่นมา ชั้นจบนี่มา คงทำไมได้ ไม่จริงนะ คนเรา ถ้า ตั้งใจ วางเป้าหมาย ว่าจะทำ ยังงัยก็ทำได้ค่ะ
แค่อย่า ไหลตามส่วนใหญ๋ค่ะ
ทุกวันนี้ ยังแอบเสียดาย กับเพื่อนๆ ที่เรียน ปวช มาด้วยกัน พวกเด็ก หัวกะทิเก่งๆ (แน่นอนไม่ใช่เรา ที่เป็นหัวกะทิ) เค้าทำงานกัน ที่สนามกอลฟ ทำงาน ร้านอาหารในห้าง เค้าน่าจะ ทำอะไร ได้เยอะกว่านี้เยอะค่ะ ไม่ใช่เค้าไม่เก่งนะ เค้าเก่งกันมากเลยละ
แต่ สังคมเค้า อยุ่กันแค่นี้ก็พอ แล้ว พอใจแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนก็ทำงานประมาณนี้ รายได้เท่านี้ แค่นี้ก็เยอะแล้ว ทั้งๆที่ ถ้าเค้า ก้าวออกมาจากตรงนั้นนิดนึง เค้าจะไปกันได้ไกลมาก
ในขณะที่ เพื่อนๆ เรา ที่มาเรียน ต่อเนื่อง ตรี หลังจบ ปวส เนี้ย ส่วนใหญ๋ ก็อยู่ บริษัทใหญ่ๆ เงินดีๆ มีความก้าวหน้า ทั้งๆที่เอากันจริงๆ เก่งสู้พวกหัวกะทิ ไม่ได้เลย รวมทั้งเราด้วย
แต่ เพราะ สังคมที่ต่างกัน พวกเรา มีโอกาส ได้เห็น ได้สัมผัส ได้รู้ ว่ามีอะไรดี ที่ตรงไหนบ้าง ถ้าเราอยากไปทำตรงนั้น เราต้องมีความรู้อะไรบ้าง แล้วก็เพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง เพื่อ ที่จะเข้าไปในงานนั้นๆ
ทั้งหมด ที่เขียนมา ไม่ได้จะบอกว่า เรียน อะไรแย่กว่า หรือดีกว่า จะบอกว่านี่คือ ความแตกต่างที่จะเกิดขึ้น เมื่อเลือกเรียน ในแต่ละสาย ชอบแบบไหนก็เรียนแบบนั้นค่ะ
สิ่งที่ต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเลย คือ ค่ามาตรฐาน ค่าเฉลี่ย ค่ะ แน่นอนว่า ทั้ง ม. ปลาย และ ปวช จะมีเด็กเก่งเวอรรรรรร และ เด็ก โง่ เวอรรรรรรรรร มีทุกทีค่ะ แต่ คนที่อยู่ระดับ กลางๆเนี้ย จะต่างกัน
เพราะ สังคม ปวช แข่งกันเปิดโรงเรียน ดึงเด็กมาเรียน ด้วย ชุด น่ารักๆ ระเบียบ หลวมๆ ในขณะที่ ม. ปลาย ระเบียบเข้มกว่า
ฉะนั้น ความขยันหมั่นเพียร ของ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างกันค่ะ แน่นอนว่า เด็ก ม. ปลาย ขยันกว่าเยอะค่ะ (ในค่าเฉลี่ย ไม่นับ พวก ดีเวอร์ กับแย่เวอร์นะค่ะ)
เพราะว่า กฏ เค้าเข้มงวดกว่าค่ะ ไม่ส่งงาน ไม่ผ่าน คะแนนไม่ดี GPA ที่จะไปเอน ก็แย่ คือมันมีผลหมด เพื่อนฝูง คนรอบข้าง บลาๆๆๆ ทำให้ ในค่ากลาางๆ เด็ก ม. ปลาย ต้องมี ความตั้งใจมากกว่า เพราะ มุ่ง เอนทรานซ์ ด้วย ในขณะที่ เด็ก ปวช เรียนไปเรื่อยๆก็ได้ จบ ต่อ ปวส ต่อ แล้วค่อยต่อเนื่องเอา ซึ่ง บอกตรงๆว่า เข้าง่ายๆกว่าเอน เยอะค่ะ (ขอโทษที่พูดตรงๆ ) ถึง คุณๆ จะรู้สึกว่าเห้ย มาพูดงี้ได้งัย กว่าจะผ่านได้กว่าจะจบ ยากนะเฟ้ย ไม่ได้ง่าย แต่อย่างที่บอก ว่าเรา อยู่ ในกลุ่มสองกลุ่ม คือ เรียน ปวช แล้ว เรียน ตรี 4 ปี เราเรียนร่วมกับเด็กสายสามัญค่ะ พอ ขึ้นปี 3 เพื่อนๆเรา ที่ต่อ ปวส ก็มาเรียนต่อเนื่องที่เดียวกัน สิ่งที่เพื่อนๆ บ่นว่า ยากกกกก หรือ ทำไม่ได้ หรือ เหนื่อย เป็นสิ่งที่ เหล่าเด็กสายสามัญ เนี้ย ชิลๆค่ะ เป็นเรื่องปกติ สำหรับเค้า เพื่อนบางคน เรียนได้ ไม่ถึงเทอม ลาออกไป เพราะ ใช้ภาษาอังกฤษ ในการเรียนเยอะ บอกปวดหัว เราแบบ เห้ยยยย จะบร้าหรอออ แค่นี้เองนะ แล้วก็สังเกต นะค่ะ หลายๆครั้ง ถ้า เด็ก ปวช ปวส พลาด ท้องขึ้นมา ก็ จะไม่เรียนละ อาย พอละ แล้วก็ออกมาแบบไม่มีวุฒิ แล้วก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ จะเลี้ยงลูกกันยังงัย ในขณะที่ ถ้าเด็กมหาลัยท้อง ทำไงหรอ? ดรอป ค่ะ คลอดก่อน แล้วกลับมาเรียนต่อ ให้จบ แล้วก็ออกไปทำงานด้วยวุฒิที่มี ใช้ชีวิต ปกติ พร้อมกับมีลูก 1 คน แต่มีงานที่มั่นคงทำ คือ มันไม่มีผล สำหรับเค้าเท่าไร ค่ะ เพระามุมมองที่ต่างกัน และสังคมที่ต่างกันด้วยค่ะ วิธีคิดก็ต่างค่ะ เค้ายังจะเดินหน้าต่อ แม้จะมีลุกก็ตาม แต่ เด็ก ปวส จะ แบบ ไม่เอาละ พอละ ออกมาเลี้ยงลูก ไม่เรียนละ ถึงแม้ว่า จะบอกว่า สงสาร ถ้าต้องให้แม่เลี้ยง ก็ออกมาเลี้ยงเอง แต่ คุณไม่มีวุฒิ คุณทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณก็ยังต้องเบียดเบียนแม่อยู่ดี เหล่านี้ คือ สิ่งที่ ต่าง เพราะสังคม และความเป็นอยู่ ของแต่ละแบบ การศึกษาค่ะ
แล้วก็จุดต่าง คือ เด็ก ม.ปลาย มีความทะเยอ ทะยาน มากกว่า อยากเรียนรู้ อยากมีวิชา เพิ่ม ในขณะที่ เด็ก ปวช เนี้ย จะแบบ แค่นี้ก็ได้วะ แค่นี้ก็พอละ เหนื่อยละ
ฉะนั้น ถ้าคุณ รู้ตัวว่า คุณ ไม่ได้ เป็นเด็กหัวกะทิ เวอร เนี้ย ควรจะเรียน ม.ปลายนะ เพื่อนๆยังลากกัน ให้ตั้งใจเรียน มากกว่า ในขณะที่ เด็กปวช จะลากกันเที่ยว มากกว่า แต่ ถ้าคุณ ดูแล ตัวเองได้ อยุ่ที่ไหนก็ตั้งใจเรียนได้ ก็ ได้ ทั้ง ม. ปลาย ทั้ง ปวช ค่ะ
อันนี้ตอนเรียน นะค่ะ
มาถึงตอนทำงาน ต้องยอมรับ อย่างชัดเจนนะค่ะ ถ้า วุฒิ ปวช ปวส เนี้ย สำหรับ สายผู้หญิง ในบริษัทใหญ่ๆ คุณเป็นได้แค่ พนักงาน document controller ไม่ได้ว่า เด็กสายนี้ไม่ดีนะ แต่ ภาพรวม สิ่งที่คนอื่นตี ค่า คือ แค่นี้งัยค่ะ ตำแหน่งอื่น ให้ ป.ตรี ( ไม่จำเป็นต้อง 4 ปีนะ ต่อเนื่องก็ได้)
ฐานเงินเดือนก็ต่างค่ะเยอะด้วย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว แทบจะทุกๆตำแหน่ง ความรู้ ความสามารถ ปวช ปวส ป.ตรี ทำได้เหมือนกันหมดค่ะ
แต่ มีจุดต่างอีกแล้ว บอกแล้ว เด็ก ปวช ไม่ค่อยทะเยอทะยาน เท่าเด็ก ม.ปลาย--> ปตรี
จากประสบการณ์ตรงๆ ของเพื่อนร่วมงาน ถ้ามีอะไรที่ เป็นเรื่องแปลกใหม่ เด็ก ปวช ปวส จะไม่ทำ ไม่กล้า ไม่ใช่หน้าที่ เกินเงินเดือน ชั้นไม่ทำ ทำไม่เป็น คือ ถ้าถามเนี้ย จะโพล่งก่อนเลย ว่า ทำไม่เป็น แล้วเค้าก็จะมีทัศนคติ ประมาณว่า ชั้นทำแค่นี้ ชั้นก็อยู่ได้ละ พอละ ทำไม ต้องดิ้นรน ทำให้มาก ชั้นเป็น doc con ไปทั้งชาติก็ได้ เด๋ว สามีก็เลี้ยง ประมาณนี้
แต่ถ้างานเดียวกัน ส่งให้ เด็ก ป.ตรี ทำ ถึงจะไม่อยากทำ ถึงจะขี้เกียจทำ เค้าก็จะทำค่ะ มันคือ วุฒิภาวะ ของเค้า ที่ถูกหล่อหลอม มาต่างกัน เค้าพร้อมที่จะเรียนรู้ แม้จะไม่อยากทำ
นั่นก็คือ เหตผลส่วนนึง ที่เด็ก ปวช ปวส เค้าจะให้เป็นแค่ doc con ไปวันๆ เพราะให้ริเริ่มอะไรไม่ได้
แต่เด็ก ป.ตรี ใช่ว่าสถาบัน ไม่มีผลนะ มีผล เช่นกันค่ะ เห็นมาจากเด็กฝึกงานค่ะ
ว่ากันต่อที่เด็กฝึกงาน ไม่เข้าใจว่าทำไมนะ พอจบจาก ปวช ปวส เนี้ย ทำงานไม่ขยันเท่าไร แต่ เด็กฝึกงาน ปวช ปวส ดีๆ ทุกคนเลย เทียบกับ เด็ก ป.ตรี บริษํทที่เคยทำเป็นบริษํทใหญ๋ มีเด็กฝึกงานมาตลอดๆๆๆ ก็จะเห็นหลายรุ่นหลายคน
เด็ก ปวช ปวส เนี้ย จะอ่อนน้อม ขี้กลัว ใช้ให้ทำไร ก็จะทำๆๆๆๆๆ ไม่ขัด แล้วทำได้ดี ด้วย หลายๆคน ปล่อยได้เลย ให้ทำเอง ตัดสินใจเองได้
ที่นี่ ไม่รับเด็กฝึกงานมาถ่ายเอกสารนะค่ะ ทำงานจริงค่ะ ส่วนตัวในแผนกเนี้ย จะชอบมากเวลา มีเด็ก ปวช ปวส มาฝึกงาน เพราะเราจะเบาแรง มีคนช่วย
แต่ เด็ก มหาลัย บางแห่ง ที่เคยรับมา เกี่ยงงานค่ะ คือ อีโก้ ว่า ชั้นเรียน ป.ตรีนะ ทำไม ต้องทำงานประเภทนี้???? ไม่ใช่ งานที่ชั้นต้องทำ ไม่ใช่สายชั้น บอกตรงๆว่าเคืองมากกก เป็นรุ่นที่ พี่ๆ ไม่ปลืมเลย เพราะว่า ไอ้ที่น้องคิดว่า น้อง เรียน ตรี ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ (เศรษฐศาสตร์) งานเอกสารเป็นหลัก เอกสาร ทางวิศวะ ด้วย
อยากจะบอกว่า ไอ้ที่เห็นพี่ๆ นั่งหัวโด่ ทำงานกันเนี้ย พี่ก็ จบตรี กันทั้งนั้น ยังททำกันได้เลยยย อีกอย่าง พี่จบโท ด้วยซ้ำ สายเดียวกับน้องด้วย พี่ยังทำได้เลยยยย แบบ น้องยังไม่ทันจบ ก็เลือกงานแล้ว ส่อแวว ร่วงนะค่ะ คนทำงานมีเยอะ มีให้เลือกไม่หวาดไหว อย่าเล่นตัวกับงาน
ในขณะที่ รับ เด็ก ป.ตรี ม. อันดับต้นๆของประเทศ มาฝึกงาน เค้าจะตั้งใจมาก สนใจ ทุกเรื่อง ถามๆๆๆๆๆๆ ตลอด คือ ใฝ่รู้มาก แล้วก็จะหัวไว เข้าใจอะไรง่าย เต็มใจเรียนรุ้
นี่ คือ ทั้งหมด ทั้งมวล ที่เป็นภาพสู่สังคมภายนอก
สำหรับบริษัทใหญ่ เค้าไม่จ้าง ปวช ปวส ให้ ทำงาน ตำแหน่ง ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะให้เป็นลุกมือค่ะ นอกจาก สายช่าง อันนั้น ตำแหน่ง ปวส จะมีเยอะมากกกกกกกก และเข้าทำงาน ง่ายกว่า ป.ตรี ค่ะ การแข่งขันไม่สูง เพราะ บางที่ ตำแหน่ง ปวส รับ เป็นร้อยต่ำแหน่ง แต่ ป.ตรี รับ แค่ สิบ ต่ำแหน่ง ฉะนั้นเรียน ปวส สายช่างมา ถ้าเข้ามาได้ ก็ดีแล้วค่ะ เพราะว่าเงินดีด้วย เข้าง่ายกว่าด้วย แต่ ถ้า วิศวะ ป.ตรี นอกจากรับน้อย ยังรับแต่ มหาลัย อันดับต้นๆด้วย ตัวเลือกเยอะค่ะ
แต่ สำหรับ บริษัท เล็กๆ หลายๆที่ ตำแหน่งงานส่วนใหญ๋ ตำแหน่งเดียวกัน จะรับทั้ง ปวส และ ป.ตรี ค่ะ เงินเดือนก็ไม่ต่างกันมากมั้งค่ะ และ มีเยอะด้วยค่ะ หางานง่าย แน่นอนค่ะ
ทีนี้ ก็ต้องมาดูความต้องการ ของตัวเอง และนิสัย การเรียนรู้ตัวเองแล้วละ ว่าเป็นยังงัย
อยากเข้าบริษัทใหญ่ ที่มีโบนัส 6 เดือน ที่พูดไปแล้ว ทุกคน ต้องร้อง อ๋ออออออ ประมาณนี้ ก็ต้องจบตรี ที่ ดีๆ ถึงจะเข้าได้ จบ ปวส ส่วนใหญ่ได้เป็น sub -contract ไม่ต้องพุดถึงโบนัส เพราะเป็นลูกเมียน้อยค่ะ ไม่ได้อยู่แล้ว อย่างมากเค้าก็ปันให้ สัก เดือนนึง หรรือ ถ้าเป็นบริษัท รถ ซึ่งได้ โบนัสประมาณนี้เหมือนกัน ถึงไม่จบตรี ก็เข้าได้ ค่ะ แต่เป็น ไลนผลิต นะค่ะ และโอกาส เป็นพนักงานประจำ ที่ได้โบนัส ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างค่ะ ที่เห็นๆ ทำในไลน์ บริษัท เหล่านี้ ใช่ว่าจะเป็นพนักงน เค้ากันทุกคนนะค่ะ บางส่วน ก็เป็น sub-contract ค่ะ
แต่ถ้าเข้า บริษัททั่วๆไป แล้วอยากไปไต่เต้า บริษํทเปิดใหม่ อันนี้ จะไม่เน้นนะค่ะ ส่วนใหญ่ที่เห็น อะไรก็รับค่ะ เผลอ บางที รับ ม. อันดับหนึ่ง มา เดือนเดียว ลาออก ก็มีบ่อยค่ะ อยู่ไม่ได้ ไฮโซ เกินไปประมาณนั้น
ทีนี้ ควบคุมตัวเองได้แค่ไหนค่ะ เป็นคนตามเพื่อน หรือป่าวค่ะ หรือ ถึงเพื่อน จะโดดเรียน ก็จะนั่งเรียนในห้องไม่โดดเรียน หรือป่าวค่ะ
ถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ดี หรือ ติด แบบว่า ไหลไปกับกลุ่มส่วนใหญ่ ควรจะอยู่ในที่ๆ มีกฏระเบียบ บังคับ เพราะ พอไปอยู่ๆ เราก็ต้อง ตามเค้าอยู่ดีค่ะ ซึ่งหมายถึง ม.ปลายค่ะ
แต่ถ้าไปอยู่ แบบที่ๆไม่มี กฏระเบียบเข้มงวด ก็จะ อ่อนระเบียบไปด้วย ตามน้ำไป
ถ้าเป็นคนเละเทะ หัวไม่เอาไหน เรียนไม่รอด ไม่ควรเรียน ม. ปลาย เพราะ กดดัน เรียน ปวช อย่างน้อยจบมาก็มีงานทำแน่ๆ ถ้าจบแค่ ม. 6 ทำอะไรไม่ได้นะค่ะ เกิดเรียน ต่อ ตรี เอกชน สมมติว่าเอนไม่ติด แล้วเรียนไป เทอมนึง โดนไทร ไม่เรียนแล้ว ก็ จบกัน หางานยากเลยยย
อย่างนี้ ถูๆไถๆ ให้จบ ปวช ดีกว่า ยังงัยก็ยังหางานได้
แต่ถ้าเป็นหัวกะทิ เรียนที่ไหนก็รุ่งค่ะ จะ ปวช หรือ ม. ปลายก็ได้ค่ะ
ก็เลือกที่ดีๆละกันค่ะ
และจะฝากไว้ นะค่ะ สำหรับเด็ก ม.ปลาย สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ ความอ่อนน้อม อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองฉลาด คุณจะเข้ากับที่ทำงานยากกว่าเด็กปวช เพราะจะติดเลือกงาน ไอ้นั่นไม่ทำ ไอ้นี่ ต่ำไป คือ อย่าติดอีโก้ อะค่ะ จะทำให้ เปลี่ยนงานบ่อยค่ะ
ส่วนเด็ก ปวช สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ ความกระตือรือร้น กล้าคิดกล้าทำ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ อย่าเป็นประเภทว่า ชั้นทำไม่เป็นอะ ชั้นไม่ทำ จริงๆนะ ทุกวันนี้ ไม่มีอะไรยากหรอกค่ะ ไม่รู้หรอ ถามอากู๋ สิค่ะ ไม่ยาก คุณก็รู้ละ เรียนภาษาเพิ่ม เพระาต้องใช้ และเป็นใบเบิกทางที่ดีค่ะ ต่อให้คุณ จบ แค่ปวช แต่ภาษา คุณดี ที่ไหนก็อยากรับค่ะ
ฉะนั้น จะเรียนอะไร ก็ ดีค่ะ ถ้า ทำตัวให้ดี และรู้ว่าความต่างคืออะไร และคนข้างนอกมองว่าต่างกันแบบไหน เราก็สามารถ เพิ่มเขี้ยวเล็บให้ตัวเองได้ค่ะ ถึงแม้ว่า คนอื่นจะมอง เราว่า เป็น เด็ก ปวช หรือ มองว่า เราเป็น เด็กม.ปลาย มันแค่ก่อนเข้าทำงานค่ะ เข้าไปทำได้แล้ว เค้าจะตัดสินตัวตนเรา จาก สิ่งที่เราทำ ที่เราแสดงให้เห็นค่ะ ฉะนั้นไม่ว่าจบอะไรมา แสดงศักยภาพให้เต็มที่ ทลายข้อจำกัดว่า ชั้นจบ นั่นมา ชั้นจบนี่มา คงทำไมได้ ไม่จริงนะ คนเรา ถ้า ตั้งใจ วางเป้าหมาย ว่าจะทำ ยังงัยก็ทำได้ค่ะ
แค่อย่า ไหลตามส่วนใหญ๋ค่ะ
ทุกวันนี้ ยังแอบเสียดาย กับเพื่อนๆ ที่เรียน ปวช มาด้วยกัน พวกเด็ก หัวกะทิเก่งๆ (แน่นอนไม่ใช่เรา ที่เป็นหัวกะทิ) เค้าทำงานกัน ที่สนามกอลฟ ทำงาน ร้านอาหารในห้าง เค้าน่าจะ ทำอะไร ได้เยอะกว่านี้เยอะค่ะ ไม่ใช่เค้าไม่เก่งนะ เค้าเก่งกันมากเลยละ
แต่ สังคมเค้า อยุ่กันแค่นี้ก็พอ แล้ว พอใจแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนก็ทำงานประมาณนี้ รายได้เท่านี้ แค่นี้ก็เยอะแล้ว ทั้งๆที่ ถ้าเค้า ก้าวออกมาจากตรงนั้นนิดนึง เค้าจะไปกันได้ไกลมาก
ในขณะที่ เพื่อนๆ เรา ที่มาเรียน ต่อเนื่อง ตรี หลังจบ ปวส เนี้ย ส่วนใหญ๋ ก็อยู่ บริษัทใหญ่ๆ เงินดีๆ มีความก้าวหน้า ทั้งๆที่เอากันจริงๆ เก่งสู้พวกหัวกะทิ ไม่ได้เลย รวมทั้งเราด้วย
แต่ เพราะ สังคมที่ต่างกัน พวกเรา มีโอกาส ได้เห็น ได้สัมผัส ได้รู้ ว่ามีอะไรดี ที่ตรงไหนบ้าง ถ้าเราอยากไปทำตรงนั้น เราต้องมีความรู้อะไรบ้าง แล้วก็เพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง เพื่อ ที่จะเข้าไปในงานนั้นๆ
ทั้งหมด ที่เขียนมา ไม่ได้จะบอกว่า เรียน อะไรแย่กว่า หรือดีกว่า จะบอกว่านี่คือ ความแตกต่างที่จะเกิดขึ้น เมื่อเลือกเรียน ในแต่ละสาย ชอบแบบไหนก็เรียนแบบนั้นค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
มันเทียบกันไม่ได้เลยครับ วุฒิม.6 เทียบกับ ปวช.เนี่ย
วุฒิม.6 จบมา แทบไม่มีที่ไหนรับวุฒิม.6เลยครับ(กรณีงานใช้ความรู้และทักษะ) ในขณะที่ ปวช. มีรองรับไม่ว่าจะเป็นช่าง หรือด้านบัญชี หรืออื่นๆ
พอจบ ม.6 ต่อมหาวิทยาลัย จบมาได้วิศวกรที่มีความรู้ทฤษฎี + ฝึกงาน 1รอบ
จบปวช. ต่อมหาวิทยาลัย จบมาได้วิศวกรที่มีความรู้ทฤษฎี + ทักษะการปฏิบัติ +ฝึกงาน 2รอบ
หลายๆคนที่ จบสายอาชีพ แล้วไปต่อ มหาวิทยาลัยนี่ ออกแนวระดับเทพเลยนะครับ เพราะเคยปฏิบัติมาแล้ว เจอทฎษฎีก็จินตนาการ นึกภาพออกได้ง่าย เพราะเคยทำมาแล้ว บางคนนี่ จะว่าประสบการณ์สูงกว่าอาจารย์เลยก็มี อาจารย์บางคนก็เงิบ เจอพวกจบสายอาชีพค้านสิ่งที่อาจารย์สอนก็มี เอาข้อมูล เอาการทดลองมาทำอาจารย์หน้าแหกกลางห้องก็เคยเห็น
วุฒิม.6 จบมา แทบไม่มีที่ไหนรับวุฒิม.6เลยครับ(กรณีงานใช้ความรู้และทักษะ) ในขณะที่ ปวช. มีรองรับไม่ว่าจะเป็นช่าง หรือด้านบัญชี หรืออื่นๆ
พอจบ ม.6 ต่อมหาวิทยาลัย จบมาได้วิศวกรที่มีความรู้ทฤษฎี + ฝึกงาน 1รอบ
จบปวช. ต่อมหาวิทยาลัย จบมาได้วิศวกรที่มีความรู้ทฤษฎี + ทักษะการปฏิบัติ +ฝึกงาน 2รอบ
หลายๆคนที่ จบสายอาชีพ แล้วไปต่อ มหาวิทยาลัยนี่ ออกแนวระดับเทพเลยนะครับ เพราะเคยปฏิบัติมาแล้ว เจอทฎษฎีก็จินตนาการ นึกภาพออกได้ง่าย เพราะเคยทำมาแล้ว บางคนนี่ จะว่าประสบการณ์สูงกว่าอาจารย์เลยก็มี อาจารย์บางคนก็เงิบ เจอพวกจบสายอาชีพค้านสิ่งที่อาจารย์สอนก็มี เอาข้อมูล เอาการทดลองมาทำอาจารย์หน้าแหกกลางห้องก็เคยเห็น
แสดงความคิดเห็น
ม.ปลาย vs วิชาชีพ
เห็นคนชอบบอกว่าเรียนสายอาชีพดีกว่าเรียน ม.ปลาย
งงงวย