ชม.ละ 200 - 250 บาท ไม่แพงนะ เราว่าเผลอๆจะถูกไปด้วย
แต่ก็ควรสอนให้มากระดับชั้นกว่านั้นเพราะถ้าจำกัดอยู่แต่ประถมนี่จะหานักเรียนลำบากนะ

อยากสอนพิเศษ ภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไง??
^
ต้องขยันทำงานค้นคว้า

สมัยเราหัดสอนภาษาอังกฤษครั้งแรกเมื่อหลายปีมาแล้ว เราใช้วิธีมั่วและลักไก่...555+++... เล่นแบบวัดดวง คิดๆแล้วยังเสียวสันหลังไม่หายเลย...555+++... ไม่รู้ว่ารอดตายมาได้ไงอ้ะ เรากลับจากต่างแดนมาอยู่ กทม แล้วใช้เงินฟุ่มเฟือยจนเงินหมดต้องเดินย่ำต๊อกๆหางาน สมัครงานแต่ละแห่งนะ เจอแต่เค้าจะเอาคนจบปริญญาโท แต่เราเรียน ม.ปลายก็ยังไม่จบเลยอ้ะ  เราได้กุนซือมาคนหนึ่งเก่งมั่กๆเค้าวางแผนให้เราเสร็จสรรพ เค้าลงโฆษณารับสอนภาษาอังกฤษในหนังสือพิมพ์รายวัน เราเห็นค่าโฆษณาที่จะต้องจ่ายภายใน 2 เดือนแล้วหัวใจแทบวายแน่ะ เพราะตอนนั้นเราไม่มีเงินในกระเป๋าเราเลย ถ้าเรารับนักเรียนไม่ได้เราต้องแย่แน่ๆเลย  กุนซือเรามานั่งเฝ้าโทรศัพท์ให้เรา แล้วพยายามขาย courses ให้เรา โดยให้เราไปสอนตามบ้านและตามสำนักงานของนักเรียนรวยๆ ปรากฏว่าขายได้ทะลุเป้า เราเลยรอดตายอย่างหวุดหวิด  กุนซือพาเราไปซื้อเสื้อผ้าราคาแพงๆแบบย้อมแมวเราว่าเราเป็นพวกผู้ดีที่เรียนจบสูงๆ (แต่จริงๆแล้วตอนอยู่ต่างแดนเราทำงานเป็นผู้จัดการบ่อนการพนัน แล้วก็เคยทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง...555+++...) เลยเวลาสอนซึ่งส่วนใหญ่สอนแต่ conversation เราก็แค่ชวนนักเรียนคุยสนุกๆนะ ก็ได้เงินแล้วหละ

เราได้เงินมามากพอแล้วเอาเงินไปเปิดโรงเรียนกวดวิชาเล็กๆแห่งหนึ่ง ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะสอนยังไงเพราะเราไม่เคยเรียน grammar มาก่อนเลยแต่เราพูดอังกฤษได้ถูกต้องเป็นธรรมชาตินะ เราเลยสอนเน้นหนักพวก reading comprehension (สอนนักเรียนเตรียมเอ็นเข้ามหาลัย) ตอนสอน vocab นะ นักเรียนตากลอกตอนเรายกตัวอย่างประโยคแบบลื่นไหลมากๆ  นักเรียนถามว่า "อาจารย์จบเอกอังกฤษมาหรือ" เล่นเอาเราอายม้วนไปเลย...555+++...
^
ลองไปอ่านวิธีการสอน reading comprehension ที่เราคิดค้นและพัฒนาด้วยตนเองได้ (ซึ่งเราแนะนำครูสอนภาษาอังกฤษไว้) ที่ คคห 1 กระทู้นี้
http://2g.ppantip.com/cafe/library/topic/K12077457/K12077457.html

ณ จุดนั้น เราสอน reading comprehension ให้นักเรียนที่ไม่อ่อนมากและไม่เก่งมาก ให้กลายเป็นอ่านเก่งมากๆ ได้ แต่สิ่งที่เราอ่อนหัดมากๆนั่นก็คือเราไม่รู้วิธีสอนนักเรียนที่อ่อนแบบไม่กระดิกหูเลย ให้เก่งขึ้นมาได้ จริงๆถ้าเราดันทุรังสอนแค่ reading comprehension ต่อไปเราก็คงได้เงินมากนะ แต่เราเบื่อกับการที่ต้องวางมาดเป็นคนเรียบร้อย เป็นเด็กเรียนเก่ง แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ conservative มากๆ เราเลยไปทำงานแปลเอกสาร แล้วเลิกสอนไปตั้งหลายปีแน่ะ

คิดๆย้อนหลังนะ สมัยนั้นเราเรียนรู้เรื่องการสอนโดยการ survey ตลาดตำราและสื่อการสอน โดยเข้าร้านหนังสือ เราจำได้ว่าเราลงทุนซื้อตำราและสื่อการสอนจากต่างประเทศไปเป็นเงินมหาศาล

พอเข้ายุคการสื่อสารไร้พรมแดนด้วย Internet การ survey ตลาดตำราและสื่อการสอน ไม่ทำโดยการเข้าร้านหนังสืออีกต่อไป แต่ทำโดยใช้ google โลดเลย และการหานักเรียนก็ไม่ต้องเสียเงินโฆษณาหนังสือพิมพ์รายวันราคาแพงๆ แต่สามารถทำ marketing ผ่าน social media networks ได้สบายๆ

เราใช้ google ค้นข้อมูล และได้สื่อการสอนแบบ digital media มาตั้งมากมาย จนตอนนี้เราแก้ไขจุดอ่อนเราได้แล้วหละ  นั่นก็คือว่า เราเรียนรู้ค้นคว้าและพัฒนาวิธีการสอนใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งเรานำไปใช้สอนนักเรียนที่อ่อนมาก แบบไม่กระดิกหูเลย ให้เก่งขึ้นมาได้ โดยที่เราสามารถสอน listening and speaking skills กับสอน grammar ได้พร้อมๆกันภายในแต่ละ teaching session (รอบการสอน)
^
ถ้าอยากรู้ว่าเราใช้วิธีการสอนใหม่ๆแบบไหนก็ไปอ่าน คคห 2 กระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31579173/comment2
เราก็ค้นคว้าเพื่อพัฒนาวิธีการใหม่ๆมาสอน pronunciation ด้วยเช่นกัน ลองไปดูข้อมูลที่เราค้นคว้ามาได้...อยู่ใน คคห 2 กระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31548343/comment2

เราทดลองสอนตัวต่อตัวเล็กๆน้อยๆเป็นระยะๆ จนพอจะหาทางหนีทีไล่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เราฝันเฟื่องจะขยายการสอนออกไปเป็น class ย่อมๆในบ้านตัวเอง  เราลงทุนไปซื้อ projector กับจอมา แล้วเตรียมสื่อการสอนไว้ครบครัน  แต่เผอิญไปเจอเอา mobs สุเทพเข้าให้ (mobs มาตั้งเวทีใกล้บ้านเรา) เราเลยชะงักไปเลย เพราะนักเรียนเดินทางลำบากมากๆ เราเลยยกเลิกการสอนไปหมดเลย...555+++...แต่ก็ดีตอนนี้นั่งๆนอนๆกินๆไม่ทำอะไรสบายดี...555+++...ทีแรกคิดว่าจะไม่มีรายได้ไปอีกนาน แต่ก็เผอิญโชคดีมีงานแปลเอกสารราคาแพงๆมาให้ทำ

ก็เลยเล่าเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง แล้วสรุปประเด็นสำคัญๆให้ จขกท 2 อย่างคือ

1 ใช้ google ค้นข้อมูลว่าในโลกนี้มี textbooks และสื่อการสอนดีๆอะไรจากต่างประเทศบ้าง แล้วหามันมาศึกษาค้นคว้า (จะด้วยการสั่งซื้อหรือ download ของเถื่อนมาใช้ คุณก็ตัดสินใจเอาเอง)  ถ้าค้นดีๆจะรู้วิธีสอนนักเรียนได้ทุกระดับเลย ยิ่งถ้าได้สื่อการสอนที่เป็น series ยาวๆหละยิ่งดีๆ เพราะมันจะมี teacher's manuals ให้เราเรียนรู้วิธีการสอนได้เป็นอย่างดี สื่อการสอนสมัยนี้ก้าวหน้ามากๆ มีทั้ง ebooks, audios, videos และ computer applications

2 ทำ marketing ขาย courses ผ่าน social media networks อันนี้เราทำเป็นเพราะเราเคยแปล training videos วิชา marketing ให้ลูกค้าเราที่เรียน marketing แบบ distance learning กับมหาลัยต่างประเทศ แต่ถ้า จขกท ไม่รู้วิธีทำ ก็ลองไปหาตำราต่างประเทศมาศึกษาดู  จริงๆแล้วถ้าเป็นเซียน google ก็ใช้ google ค้นข้อมูลได้ คล้ายๆกับเมื่อสมัยก่อนเราต้องซื้อหนังสือคอมพิวเตอร์เพื่อเรียนรู้คอมพิวเตอร์ แต่เราเลิกซื้อหนังสือคอมพิวเตอร์ไปตั้ง 10 ปี แล้วเพราะตอนนี้เราใช้ google อย่างเดียวเราค้นข้อมูลเจอหมดเราเลยกลายเป็นชำนาญเรื่องการติดตั้ง รื้อถอน ดูแลรักษา หรือซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยแต่ google อย่างเดียวเท่านั้น