*เรียบเรียงมาจากโพสท์นี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.imdb.com/title/tt1375666/นะจ๊ะ
1. ถ้าเอาตัวอักษรแรกของตัวละครมาวางเรียงกัน คือ Dom, Robert, Eames, Arthur, Mal และ Saito จะได้เป็นคำว่า “Dreams” และถ้าใส่ชื่อของ Peter, Ariadne และ Yusuf ด้วยจะได้เป็นคำว่า “Dreams Pay” (นี่ถ้าสลับตัวอักษรนิดเดียวนี่แปลไม่ได้เลยนะเนี่ย)
2. คริสโตเฟอร์ โนแลนด์อธิบายบทบาทของตัวละครโดยเปรียบเสมือนเป็นกองถ่าย “คอบบ์คือผู้กำกับ, อาร์เธอร์คือโปรดิวเซอร์, แอดเรียนเน่คือดีไซเนอร์โปรดักชั่น, อีมส์คือนักแสดง, ไซโตะคือสตูดิโอ และฟิชเชอร์คือผู้รับชม”
3. ยูซุป ในภาษาอาระบิกคือโจเซฟในคัมภีร์ไบเบิล เขาตีความความฝันได้และถูกน้องชายขายไปเป็นทาส ยูซุปใช้ความสามารถของเขาในการช่วยฟาโรห์เตรียมรับมือภัยพิบัติ จากนั้นจึงได้รับรางวัลตอบแทน
4.พี่โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ แสดงเองทุกฉากยกเว้นฉากห้องโถงที่หมุนคว้างในความฝัน
5. คอบบ์ ตัวละครหลักของเรื่องเป็นชื่อเดียวกับตัวละครหลักในหนังเรื่องแรกของโนแลนด์คือ Following (1998) แถมยังมีอาชีพเดียวกันด้วย-ใช่แล้ว เป็นขโมย
6. ราเชล วู้ด คือตัวเลือกแรกที่โนแลนอยากให้มารับบทแอดเรียนเน่แต่เธอปฏิเสธไป เขาจึงแคสทั้งเอมิลี่ บลันท์, ราเชล แม็คอดัมส์, เอ็มม่า โรเบิร์ต, เจซซี่ ชแรมม์, เทย์เลอร์ สวิฟท์และแครี่ มัลลิแกน แต่ก็มาลงเอยที่เอลเลน เพจในที่สุด
7. โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์มาที่สตูดิโอหลังจากบรีฟตัวละครเสร็จแล้ว เขาสวมสูทเต็มชุดโดยไม่รู้สักนิดว่านั่นเป็นเครื่องแบบที่ตัวละครเขาต้องใส่
8. ชื่อ “มอล” ที่มาริยง คอติยาร์ดรับบทนั้น ชื่อเต็มคือ “มอลโลรี” ซึ่งเป็นชื่อที่รับมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า ‘malheur’ แปลว่าไร้ความสุข แถมคำย่ออย่าง “มอล” ก็แปลได้ว่า “พลาด, แย่, ชั่วร้าย” อีกด้วย (ใครก็ช่างตั้งน้าา)
9. บทไซโตะนั้นเขียนมาเพื่อเคน วาตะนาเบ้โดยเฉพาะเลยทีเดียว เนื่องจากโนแลนคิดว่าวาะนาเบ้ปรากฏตัวใน Batman Begins (2005) น้อยมาก และควรได้รับบทบาทที่เด่นขึ้น (นี่ไม่รักไม่ทำนะเนี่ย!)
10. เรื่องนี้เป็นหนังลำดับที่ 5 ของโนแลนที่อยู่ในลำดับ Top 250 ของเว็บไซต์ IMDB เรื่องอื่นได้แก่ Memento (2000), Batman Begins (2005), The Prestige (2006), The Dark Knight (2008)
11. จุดประสงค์หลักของดอม คอบบ์คือการกลับไปบ้าน ดอมในภาษาสลาฟแปลว่า “บ้าน” รากศัพท์ “*Dom” มาจากศัพท์ภาษาละตินคือ “Domus” ซึ่งเป็นคำเหมือนกับคำว่า ‘Domesticated’ (เกี่ยวกับบ้าน) และ ‘Domicile’ (บ้าน) ซึ่งสองคำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำว่า “*Dom” เหมือนกัน
12. ชื่อตัวละครโรเบิร์ต ฟิชเชอร์นั้นอุทิศให้แชมป์แข่งหมากรุก บ็อบบี้ ฟิชเชอร์ ส่วนบทพ่อของเขาโรเบิร์ต, มัวไรซ์ ฟิชเชอร์นั้น เป็นการให้ความเคารพแก่ศิลปินมัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์ ซึ่งงานของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค ในหนังหลายๆ เรื่อง
บ็อบบี้ ฟิชเชอร์
มัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์
งานของมัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์ ที่น่าจะคุ้นตากันดี
13. เคท วินสเล็ต ปฏิเสธบทมอลไปเพราะเธอบอกว่าเธอนึกภาพตัวเองในบทบาทนี้ไม่ออกเลย
14. หนังทั้งเรื่องในฉบับ DVD ใช้เวลาไปทั้งหมด 8,888 วินาที
15. ชุดตัวเลขที่ปรากฏในเรื่องคือ บนรถไฟมีเลข 3502, แท็กซี่เลข 2305 และหมายเลขห้องที่โรงแรมคือ 5320
16. โนแลนแคสท์ทอม ฮาร์ดี้มารับบทอีมส์เพราะเคยดูฮาร์ดี้เคยแสดงเรื่อง RocknRolla (2008) ฝั่งฮาร์ดี้ก็เข้าใจมาตลอดว่าโนแลนเลือกเขาเพราะเขาแสดงเรื่อง Bronson (2008) และมารู้ทีหลังว่าตาโนแลนน่ะไม่เคยดูเรื่อง Bronson กะเขาร้อกกก (โถ—)
17. ชื่อคอบบ์อ้างอิงมาจากเฮนรี่ เอ็น. คอบบ์ นักสถาปนิกที่โดดเด่นด้านการออกแบบตึกสูงระฟ้า โลกที่ดอมกับมอลสร้างในลิมโบก็ประกอบไปด้วยตึกระฟ้าเช่นกัน
18. ตัวเลขที่ปรากฏในเรื่องเป็นชุดเดียวกัน ที่ฟิชเชอร์บอกดอมคือ 528491, ห้องพักในโรงแรมคือห้อง 528 และ 491, เลขที่อีมส์ (ในร่างสาวสวย) ให้ฟิชเชอร์คือ 528-491, เลขในห้องคือ 52, ตัวเลขปลดรหัสเริ่มที่ 528-491 ช่วยเสริมสร้างความสำคัญของเหล่าตัวเลขตลอดทั้งเรื่อง
19. ชื่ออีมส์ตั้งตามชาร์ลี อีมส์และเรย์ อีมส์ สองสามีภรรยาที่มีชื่อเสียงด้านออกแบบเฟอร์นิเจอร์และสถาปัตยกรรม
20. ฉากที่คอบบ์และไมล์สเจอกัน ค็อบบ์เน้นว่า “การส่งอาชญากรข้ามแดนระหว่างฝรั่งเศสกับอเมริกาน่ะเป็นฝันร้ายของพวกข้าราชการเชียวล่ะ” ใน Catch Me If You Can (2002) พี่ลีโอแกรับบทเป็นคนที่ถูกจับกุมในฝรั่งเศสและถูกส่งข้ามแดนไปสหรัฐอเมริกา
ป.ล. เรื่องนี้เราชอบมากเลยค่ะ เจ๋งมาก อยากทำอะไรแบบแฟรงค์ในเรื่องได้มั้ง ฮ่าาา สมัยนั้นพี่ลีโอแกอย่างกิ๊งเลยเนาะ
21. เก้าอี้ที่ไซโตะนั่งในห้องทานอาหาร ดีไซน์โดยแฟรงค์ ลอยด์ ไรก์ท ในปี 1937 สำหรับบ้านของเฮอร์เบิร์ท จอห์นสันในวิสคอนซิน ไซโตะนั่งที่หัวโต๊ะซึ่งก็อปมาจากวิลโลว์ แชร์ งานของชาร์ลีส์ เร็นนี่ เม็กคินทอชเมื่อปี 1903
แฟรงค์ ลอยด์ ไรก์ท
ชาร์ลีส์ เร็นนี่ เม็กคินทอช
22. เจมส์ ฟรังโก้เข้าไปคุยกับโนแลนเพื่อรับบทอาร์เธอร์ แต่ด้วยเวลาที่ไม่ลงตัวก็ต้องปฏิเสธไปในที่สุด
23. บทภาพยนตร์ถูกปรินท์เอ้าท์จัดส่งไปให้โรงหนังในชื่อ “Hour Glass” (ชื่อเป็นหนังรักเลยเห้ยย)
24. ฮอลลีวู้ดรายงานว่าทั้งแบรด พิทท์และวิลล์ สมิธต่างถูกนำเสนอให้รับบทคอบบ์ แต่นักแสดงทั้งสองก็มิได้นำพาแต่อย่างใด
แบรด พิทท์
วิล สมิธ
กระทู้ใหม่นะคะ
(Review) The Wolf of Wall Street (Martin Scorsese; 2013) ปฏิบัติการขายความหวัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/31594373
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
24 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Inception
1. ถ้าเอาตัวอักษรแรกของตัวละครมาวางเรียงกัน คือ Dom, Robert, Eames, Arthur, Mal และ Saito จะได้เป็นคำว่า “Dreams” และถ้าใส่ชื่อของ Peter, Ariadne และ Yusuf ด้วยจะได้เป็นคำว่า “Dreams Pay” (นี่ถ้าสลับตัวอักษรนิดเดียวนี่แปลไม่ได้เลยนะเนี่ย)
2. คริสโตเฟอร์ โนแลนด์อธิบายบทบาทของตัวละครโดยเปรียบเสมือนเป็นกองถ่าย “คอบบ์คือผู้กำกับ, อาร์เธอร์คือโปรดิวเซอร์, แอดเรียนเน่คือดีไซเนอร์โปรดักชั่น, อีมส์คือนักแสดง, ไซโตะคือสตูดิโอ และฟิชเชอร์คือผู้รับชม”
3. ยูซุป ในภาษาอาระบิกคือโจเซฟในคัมภีร์ไบเบิล เขาตีความความฝันได้และถูกน้องชายขายไปเป็นทาส ยูซุปใช้ความสามารถของเขาในการช่วยฟาโรห์เตรียมรับมือภัยพิบัติ จากนั้นจึงได้รับรางวัลตอบแทน
4.พี่โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ แสดงเองทุกฉากยกเว้นฉากห้องโถงที่หมุนคว้างในความฝัน
5. คอบบ์ ตัวละครหลักของเรื่องเป็นชื่อเดียวกับตัวละครหลักในหนังเรื่องแรกของโนแลนด์คือ Following (1998) แถมยังมีอาชีพเดียวกันด้วย-ใช่แล้ว เป็นขโมย
6. ราเชล วู้ด คือตัวเลือกแรกที่โนแลนอยากให้มารับบทแอดเรียนเน่แต่เธอปฏิเสธไป เขาจึงแคสทั้งเอมิลี่ บลันท์, ราเชล แม็คอดัมส์, เอ็มม่า โรเบิร์ต, เจซซี่ ชแรมม์, เทย์เลอร์ สวิฟท์และแครี่ มัลลิแกน แต่ก็มาลงเอยที่เอลเลน เพจในที่สุด
7. โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์มาที่สตูดิโอหลังจากบรีฟตัวละครเสร็จแล้ว เขาสวมสูทเต็มชุดโดยไม่รู้สักนิดว่านั่นเป็นเครื่องแบบที่ตัวละครเขาต้องใส่
8. ชื่อ “มอล” ที่มาริยง คอติยาร์ดรับบทนั้น ชื่อเต็มคือ “มอลโลรี” ซึ่งเป็นชื่อที่รับมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า ‘malheur’ แปลว่าไร้ความสุข แถมคำย่ออย่าง “มอล” ก็แปลได้ว่า “พลาด, แย่, ชั่วร้าย” อีกด้วย (ใครก็ช่างตั้งน้าา)
9. บทไซโตะนั้นเขียนมาเพื่อเคน วาตะนาเบ้โดยเฉพาะเลยทีเดียว เนื่องจากโนแลนคิดว่าวาะนาเบ้ปรากฏตัวใน Batman Begins (2005) น้อยมาก และควรได้รับบทบาทที่เด่นขึ้น (นี่ไม่รักไม่ทำนะเนี่ย!)
10. เรื่องนี้เป็นหนังลำดับที่ 5 ของโนแลนที่อยู่ในลำดับ Top 250 ของเว็บไซต์ IMDB เรื่องอื่นได้แก่ Memento (2000), Batman Begins (2005), The Prestige (2006), The Dark Knight (2008)
11. จุดประสงค์หลักของดอม คอบบ์คือการกลับไปบ้าน ดอมในภาษาสลาฟแปลว่า “บ้าน” รากศัพท์ “*Dom” มาจากศัพท์ภาษาละตินคือ “Domus” ซึ่งเป็นคำเหมือนกับคำว่า ‘Domesticated’ (เกี่ยวกับบ้าน) และ ‘Domicile’ (บ้าน) ซึ่งสองคำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำว่า “*Dom” เหมือนกัน
12. ชื่อตัวละครโรเบิร์ต ฟิชเชอร์นั้นอุทิศให้แชมป์แข่งหมากรุก บ็อบบี้ ฟิชเชอร์ ส่วนบทพ่อของเขาโรเบิร์ต, มัวไรซ์ ฟิชเชอร์นั้น เป็นการให้ความเคารพแก่ศิลปินมัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์ ซึ่งงานของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้สเปเชี่ยล เอฟเฟ็ค ในหนังหลายๆ เรื่อง
บ็อบบี้ ฟิชเชอร์
มัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์
งานของมัวไรซ์ คอร์เนียลส์ เอชเชอร์ ที่น่าจะคุ้นตากันดี
13. เคท วินสเล็ต ปฏิเสธบทมอลไปเพราะเธอบอกว่าเธอนึกภาพตัวเองในบทบาทนี้ไม่ออกเลย
14. หนังทั้งเรื่องในฉบับ DVD ใช้เวลาไปทั้งหมด 8,888 วินาที
15. ชุดตัวเลขที่ปรากฏในเรื่องคือ บนรถไฟมีเลข 3502, แท็กซี่เลข 2305 และหมายเลขห้องที่โรงแรมคือ 5320
16. โนแลนแคสท์ทอม ฮาร์ดี้มารับบทอีมส์เพราะเคยดูฮาร์ดี้เคยแสดงเรื่อง RocknRolla (2008) ฝั่งฮาร์ดี้ก็เข้าใจมาตลอดว่าโนแลนเลือกเขาเพราะเขาแสดงเรื่อง Bronson (2008) และมารู้ทีหลังว่าตาโนแลนน่ะไม่เคยดูเรื่อง Bronson กะเขาร้อกกก (โถ—)
17. ชื่อคอบบ์อ้างอิงมาจากเฮนรี่ เอ็น. คอบบ์ นักสถาปนิกที่โดดเด่นด้านการออกแบบตึกสูงระฟ้า โลกที่ดอมกับมอลสร้างในลิมโบก็ประกอบไปด้วยตึกระฟ้าเช่นกัน
18. ตัวเลขที่ปรากฏในเรื่องเป็นชุดเดียวกัน ที่ฟิชเชอร์บอกดอมคือ 528491, ห้องพักในโรงแรมคือห้อง 528 และ 491, เลขที่อีมส์ (ในร่างสาวสวย) ให้ฟิชเชอร์คือ 528-491, เลขในห้องคือ 52, ตัวเลขปลดรหัสเริ่มที่ 528-491 ช่วยเสริมสร้างความสำคัญของเหล่าตัวเลขตลอดทั้งเรื่อง
19. ชื่ออีมส์ตั้งตามชาร์ลี อีมส์และเรย์ อีมส์ สองสามีภรรยาที่มีชื่อเสียงด้านออกแบบเฟอร์นิเจอร์และสถาปัตยกรรม
20. ฉากที่คอบบ์และไมล์สเจอกัน ค็อบบ์เน้นว่า “การส่งอาชญากรข้ามแดนระหว่างฝรั่งเศสกับอเมริกาน่ะเป็นฝันร้ายของพวกข้าราชการเชียวล่ะ” ใน Catch Me If You Can (2002) พี่ลีโอแกรับบทเป็นคนที่ถูกจับกุมในฝรั่งเศสและถูกส่งข้ามแดนไปสหรัฐอเมริกา
ป.ล. เรื่องนี้เราชอบมากเลยค่ะ เจ๋งมาก อยากทำอะไรแบบแฟรงค์ในเรื่องได้มั้ง ฮ่าาา สมัยนั้นพี่ลีโอแกอย่างกิ๊งเลยเนาะ
21. เก้าอี้ที่ไซโตะนั่งในห้องทานอาหาร ดีไซน์โดยแฟรงค์ ลอยด์ ไรก์ท ในปี 1937 สำหรับบ้านของเฮอร์เบิร์ท จอห์นสันในวิสคอนซิน ไซโตะนั่งที่หัวโต๊ะซึ่งก็อปมาจากวิลโลว์ แชร์ งานของชาร์ลีส์ เร็นนี่ เม็กคินทอชเมื่อปี 1903
แฟรงค์ ลอยด์ ไรก์ท
ชาร์ลีส์ เร็นนี่ เม็กคินทอช
22. เจมส์ ฟรังโก้เข้าไปคุยกับโนแลนเพื่อรับบทอาร์เธอร์ แต่ด้วยเวลาที่ไม่ลงตัวก็ต้องปฏิเสธไปในที่สุด
23. บทภาพยนตร์ถูกปรินท์เอ้าท์จัดส่งไปให้โรงหนังในชื่อ “Hour Glass” (ชื่อเป็นหนังรักเลยเห้ยย)
24. ฮอลลีวู้ดรายงานว่าทั้งแบรด พิทท์และวิลล์ สมิธต่างถูกนำเสนอให้รับบทคอบบ์ แต่นักแสดงทั้งสองก็มิได้นำพาแต่อย่างใด
แบรด พิทท์
วิล สมิธ
กระทู้ใหม่นะคะ (Review) The Wolf of Wall Street (Martin Scorsese; 2013) ปฏิบัติการขายความหวัง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/