เรียน mba ไม่ยากไปกว่า bba หรอกครับ ขอเพียงแค่เรามีความตั้งใจ อะไรก็สามารถสำเร็จได้ทั้งนั้น

ที่คิดว่า mba ต่างจาก bba ก็เพราะว่า mba จะสอนให้ผู้เรียนสามารถนำองค์ความรู้ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้กับงานที่ทำ โดยข้อสอบจะเน้นการสอบเป็นในลักษณะข้อเขียนเป็นหลัก และโจทย์ส่วนใหญ่จะเป็นในเชิงกรณีศึกษา เน้นเอาทฤษฎีมาประยุกต์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรณีศึกษาต่างๆ นอกจากนี้การเรียนใน class จะเน้นการทำงานแบบกลุ่มเป็นหลักเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนต่างสายงานในชั้นเรียนเดียวกัน (ซึ่งงานจะเยอะกว่า bba ค่อนข้างมากครับ)

แต่หากตั้งใจจะเรียน mba จริง แนะนำให้ย้อนกลับไปถามตัวเราเองครับว่า เราต้องการทำงานทางด้านใดเป็นหลัก และเราสามารถนำเอาสิ่งที่เราเรียนมาไปต่อยอด หรือใช้ประโยชน์อย่างไรเนื่องจาก mba จะมีหลากหลายสาขาเอกวิชาเหมือนกับที่เราเลือกเรียน bba คือเรียนวิชาพื้นฐานทางธุรกิจเกือบทุกวิชา ไม่ว่าจะเป็น การตลาด การเงิน บัญชี การจัดการ การผลิต เศรษฐศาสตร์ องค์กร และอื่นๆ แต่เนื้อหาจะเข้มข้นและลึกกว่า

สุดท้ายนี้ อยากให้ลองทบทวนตามที่กล่าวมาว่าเรียนไปเพื่อ... ถ้าได้คำตอบแล้วจึงค่อยเลือกที่จะเรียนก็ได้ครับ การเรียนรู้ยังไม่สายถ้าคิดจะเรียน ผู้เรียนบางท่านที่เลือกเรียน mba อายุบางคนก็ปาเข้าไป 40-50 ก็มีครับ แต่สิ่งที่อยากให้คิดคือ อรรถประโยชน์ เรียนแล้วจะสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันย่อมสำคัญมากกว่า แต่ถ้าเรียนมาแล้วไม่สามารถนำไปใช้ได้ mba ก็ไม่ต่างอะไรจาก bba หรอกครับ โชคดีครับ