ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ เวิลด์มอนิเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่ยังไม่เคยลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดจากกรณีที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง 4 เกาะในบริเวณหมู่เกาะคูริลทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในความควบคุมของรัสเซีย
แต่ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายพยายามเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ แม้รัสเซียจะยังกังวลต่อบทบาทของญี่ปุ่นในโครงการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐอยู่ก็ตาม โดยล่าสุดมีสัญญาณที่ดีจากนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เตรียมจะเดินทางเข้าร่วมการพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ ของรัสเซีย ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
ไม่เพียงแค่ "อาเบะ" อยากสานต่อความสัมพันธ์ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี "วลา ดิเมียร์ ปูติน" ก็อยากจะหามิตรทางแปซิฟิกเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งผู้นำรัสเซียเคยกล่าวว่า ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม รัสเซียกับญี่ปุ่นจะผสานมือกันเสริมความแข็งแกร่งด้านความมั่นคง
เป็นท่าทีจากรัสเซียที่ไม่เอาความหลังมาทำลายความสัมพันธ์แห่งอนาคต สวนทางกับ "จีน" กับ "เกาหลีใต้"
อย่าลืมว่ารัสเซียมี "พลังงานสำรอง" มากติดอันดับต้นๆ ของโลก และญี่ปุ่นเองก็ต้องการพลังงานมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามแผน "อาเบะโนมิกส์" ผนวกกับการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ทำให้รัฐบาลโตเกียวต้องแสวงหาแหล่งพลังงานอื่นที่ปลอดภัยกว่านิวเคลียร์ และมั่นคงกว่าการนำน้ำมันเข้าจากตะวันออกกลาง
รัสเซียจึงเป็นทางเลือกที่ "ปฏิเสธ" ได้ยาก
ประโยชน์อีกประการที่ญี่ปุ่นจะได้หากความสัมพันธ์เข้าขั้นหอมหวานกับรัสเซีย คือ การขนส่งสินค้าข้ามทวีป ผ่านเส้นทางรถไฟสาย "ทรานส์ไซบีเรีย" และเส้นทางการเดินเรือผ่านตอนเหนือของรัสเซียในช่วงฤดูร้อน ซึ่งจะช่วยร่นเวลาส่งสินค้าไปยังยุโรปเหลือเพียง 19 วัน จาก 38 วัน ที่ต้องผ่านคลองสุเอซ
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว สิ่งที่อาเบะอยากเห็น คงไม่ใช่การกวาดเหรียญทองเพียงอย่างเดียว แต่คือ "การกระชับสัมพันธ์กับรัสเซีย" ให้แนบแน่นขึ้นไปอีก
🇯🇵 "ญี่ปุ่น" ผูกมิตร "รัสเซีย" มิตรภาพต่างตอบแทน 🇷🇺
คอลัมน์ เวิลด์มอนิเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่ยังไม่เคยลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดจากกรณีที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง 4 เกาะในบริเวณหมู่เกาะคูริลทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในความควบคุมของรัสเซีย
แต่ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายพยายามเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ แม้รัสเซียจะยังกังวลต่อบทบาทของญี่ปุ่นในโครงการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐอยู่ก็ตาม โดยล่าสุดมีสัญญาณที่ดีจากนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เตรียมจะเดินทางเข้าร่วมการพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ ของรัสเซีย ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
ไม่เพียงแค่ "อาเบะ" อยากสานต่อความสัมพันธ์ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี "วลา ดิเมียร์ ปูติน" ก็อยากจะหามิตรทางแปซิฟิกเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งผู้นำรัสเซียเคยกล่าวว่า ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม รัสเซียกับญี่ปุ่นจะผสานมือกันเสริมความแข็งแกร่งด้านความมั่นคง
เป็นท่าทีจากรัสเซียที่ไม่เอาความหลังมาทำลายความสัมพันธ์แห่งอนาคต สวนทางกับ "จีน" กับ "เกาหลีใต้"
อย่าลืมว่ารัสเซียมี "พลังงานสำรอง" มากติดอันดับต้นๆ ของโลก และญี่ปุ่นเองก็ต้องการพลังงานมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามแผน "อาเบะโนมิกส์" ผนวกกับการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ทำให้รัฐบาลโตเกียวต้องแสวงหาแหล่งพลังงานอื่นที่ปลอดภัยกว่านิวเคลียร์ และมั่นคงกว่าการนำน้ำมันเข้าจากตะวันออกกลาง
รัสเซียจึงเป็นทางเลือกที่ "ปฏิเสธ" ได้ยาก
ประโยชน์อีกประการที่ญี่ปุ่นจะได้หากความสัมพันธ์เข้าขั้นหอมหวานกับรัสเซีย คือ การขนส่งสินค้าข้ามทวีป ผ่านเส้นทางรถไฟสาย "ทรานส์ไซบีเรีย" และเส้นทางการเดินเรือผ่านตอนเหนือของรัสเซียในช่วงฤดูร้อน ซึ่งจะช่วยร่นเวลาส่งสินค้าไปยังยุโรปเหลือเพียง 19 วัน จาก 38 วัน ที่ต้องผ่านคลองสุเอซ
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว สิ่งที่อาเบะอยากเห็น คงไม่ใช่การกวาดเหรียญทองเพียงอย่างเดียว แต่คือ "การกระชับสัมพันธ์กับรัสเซีย" ให้แนบแน่นขึ้นไปอีก