คุยกับจอห์นนี น็อกซ์วิลล์ ตาจอมแสบจาก Bad Grandpa เผยหลังรู้ว่าหนังเข้าชิงออสการ์ แม้จะฮาๆ เพี้ยนๆ ก็หวังนะ


(แปลและเรียบเรียงจาก www.hollywoodreporter.com และ www.rollingstone.com)

ท่ามกลางสารพัดเรื่องน่าประหลาดใจในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ มีเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นความโดดเด่น นั่นก็คือ Jackass Presents: Bad Grandpa มีโอกาสคว้ารางวัลออสการ์ในเดือนมีนาคม จากสาขาแต่งหน้าและทำผม ซึ่งจะต้องชิงกับ Dallas Buyers Club และ The Lone Ranger.

“เป็นการให้เกียรติสำหรับสตีเฟน พรูทีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ในสาขาแต่งหน้า และทำผมจาก Jackass Presents: Bad Grandpa,” น็อกซ์วิลล์ ระบุในแถลงการณ์ “ผมก็ตกตะลึงเหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ ที่เราไม่ได้เข้าชิงหนังยอดเยี่ยม? เอ่อ… มุขน่ะ แต่ผมจะไม่ทำให้มันทำลายความสุขที่ผมมีต่อสตีฟ, โทนี การ์ดเนอร์ และทีมของเขา เจ๋งไปเลยพวก!!!”

นักแสดงนำของหนัง Jackass Presents Bad Grandpa จอห์นนี น็อกซ์วิลล์ และช่างแต่งหน้า สตีเฟน พรูที เผยใจออกมาว่า ประหลาดใจสุดๆ ที่หนังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และนั่นก็แสดงให้เห็นว่าหนังของพวกเขายกระดับขึ้นมาจากเดิม ก่อนการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล คงไม่มีไอ้บ้าที่ไหนหรอกที่จะบอกว่า หนังอย่าง Jackass Presents Bad Grandpa หวังจะเข้าชิงกับเขาด้วย แต่แล้วหนังยิ้มนๆ เพี้ยนๆ เรื่องนี้ที่ว่าด้วยคุณตาวัย 86 ที่รับบทโดยน็อกซ์วิลล์ ต้องขับรถข้ามประเทศไปกับหลานชาย ในแบบของหนังโรด ทริป ก็ทำให้ทุกคนที่พาราเมาท์หงายท้องตึง เมื่อหนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม

หัวหน้าทีมแต่งหน้า สตีเฟน พรูที เผยว่า เขาถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลย เมื่อรู้ว่าได้เข้าชิง โดยย้ำอีกว่า เขาไม่เคยคิดอะไรจริงๆ จังๆ เลยว่าหนังจะได้เข้าชิงแบบนี้ “เราไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย ตอนที่เราถ่ายทำกัน” เขาเล่า “เราเคยเล่นมุขกันอยู่ 2-3 หนในกองถ่ายว่า ‘โอ… เราควรจะดันงานตรงนี้ให้ชิงออสการ์’ หรืออะไรเทือกๆ นี้ แต่ก็แค่ล้อเล่นกันไปวันๆ แต่พองานจบ พวกเราก็เริ่มมองเรื่องนี้กันจริงจังมากขึ้น คิดว่าเออ… เราน่าจะส่งเข้าไปพิจารณานะ คือผมหมายความว่า คงไม่มีอะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้นหรอก ใช่ไหมละ?”



พอหนังหลุดเข้ารอบ 7 รายชื่อสุดท้ายในสาขาแต่งหน้าทำผม คราวนี้น็อกซ์วิลล์เล่าว่า เขาพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าหนัง สมควรได้รับการยกย่อง “ในตอนนั้น พวกเราคุยกันอยู่เรื่องเดียว แล้วพยายามทำงานกับพาราเมาท์ เพื่อที่ดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้สตีเฟน และทีมได้เข้าชิง” เขาอธิบาย ก่อนจะเสริมด้วยว่า ตอนนี้พวกเขาพยายามที่จะช่วยให้พรูทีกับทีมงานคว้ารางวัลให้ได้ “พวกเราทุกคนอยากได้ให้พวกเขาได้รางวัลนี้จะตายชัก เลยพยายามทำอะไรก็ตามที่ทำได้ เพราะผมรู้สึกว่า พวกเขาสมควรได้มัน”

จริงๆ แล้ว การแต่งหน้า ทำผม สำหรับหนังตลกห่ามๆ เรื่องนี้ เป็นงานที่ต้องซีเรียสกันสุดๆ สามชั่วโมงของทุกวันจะหมดไปกับการเอาอวัยวะเทียมทั้งหลาย รวมไปถึงการแต่งหน้า แต่งตา เพื่อเปลี่ยนน็อกซ์วิลล์ให้กลายเป็นคนแก่ พรูทีเล่าว่า เขาต้องเพิ่มช่างแต่งหน้าอีก 3 คนมาทำงานด้วย เพื่อแปลงโฉมน็อกซ์วิลล์ ส่วนน็อกซ์วิลล์เองก็บอกว่า การแต่งหน้าได้เป๊ะๆ อย่างที่เห็น มีความสำคัญกับหนังมาก การปรากฏตัวของตัวละครที่เขาเล่นบนจอนั้น ต้องการความสมบูรณ์แบบมากกว่าตัวละครอื่นๆ ในหนัง “ปราศจากทีมแต่งหน้า หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดหรอก” เขากล่าว “หนังของพวกเรา ทำงานตรงนี้ออกมาในมาตรฐานที่ไม่เคยมีหนังเรื่องอื่นเคยทำได้มาก่อน มันต้องดูสมจริงตอนปรากฏบนจอ เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ แต่ผมต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้คนมากมายท่ามกลางแสดงแดด มาอีหรอบนี้ ถ้าพวกเขารู้ว่าเป็นการแต่งหน้าละก็ เป็นเรื่องเลยทีเดียว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นการแต่งหน้า”

พรูที บอกด้วยว่า การพยายามทำงานออกมาให้ดูสมจริง เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างสุดๆ “ใครๆ ก็รู้ว่า คนแก่ในโลกจริงๆ นั้น เป็นยังไง แล้วถ้าเกิดมีคนเห็นบางอย่างในการแต่งหน้าที่ทำให้ความแตกขึ้นมา พวกเขาจะมองเป็นจุดด่างพร้อยในทันที แล้วสามารถทำให้เขาหนีเราไปได้ด้วยซ้ำ ความท้าทายของพวกเราก็คือ ต้องแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เขาเปิดตูดโกยแน่บ ซึ่งจะทำให้แก๊กที่วางไว้จบข่าว”

เขายังคิดด้วยว่า งานที่ทำออกมานั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ขนาดหมอในห้องฉุกเฉิน ที่อยู่ห่างจากน็อกซ์วิลล์ที่แต่งเป็นซิสแมนไม่กี่นิ้ว ยังไม่รู้เลยว่า เขากำลังคุยกับคนที่เด็กกว่าที่เห็นจริงๆ พรูที เสริมอีกว่า การที่อยู่กลางแดด ซึ่งน็อกซ์วิลล์จะต้องทำบ่อยๆ เพราะปล่อยมุขของเขา ทำให้การแต่งหน้าเละได้ง่ายๆ ระหว่างการถ่ายทำน็อกซ์วิลล์กำหนดไว้แล้วว่า จะไม่มีรถเทรลเลอร์ให้เขาเข้าไปหลบ ทีมแต่งหน้าจะต้องนั่งรอในรถมินิแวน เพื่อรอซ่อมหน้า



ถึงน็อกซ์วิลล์จะบอกว่า ในตอนแรกที่ต้องใช้เวลาแต่งหน้า ครั้งละ 3 ชั่วโมงต่อวัน มันทำให้เขาแทบคลั่ง แต่หลังจากนั้นเวลาที่หมดไปก็ทำให้เขาเตรียมตัวสำหรับมุข และการถ่ายทำได้ดีขึ้น และการได้พูดคุยถึงการถ่ายทำบางฉากในห้องแต่งตัว ก็ทำให้เขาได้ความเห็นของพวกช่างแต่งหน้ามาใช้กับหนังด้วย “เพราะงั้น พวกเขาถึงช่วยเราได้ในหลายๆ ทาง” น็อกซ์วิลล์ เสริม

เขายังบอกอีกด้วยว่า ทีมแต่งหน้าเป็นคนที่ทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวา มีใบหน้าที่น่าเห็นใจ ทั้งๆ ที่พูดอะไรร้ายๆ ออกมา โดยพรูทีนั้น เคยทำงานกับหนังชุด Jackass ก่อนหน้านี้ทั้งสามเรื่อง และเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมีมาแล้วสามหน แม้จะพลาดทั้งหมด แต่ตอนนี้เขาก็พร้อมแล้วที่จะไปร่วมงานออสการ์ “ผมไปที่งานแน่ๆ ผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานนี้ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย”

Bad Grandpa ออกฉายในอเมริกาเมื่อเดือนธันวาคม 2556 และคว่ำ Gravity หล่นจากอันดับ 1 หนังทำเงินประจำสัปดาห์ ด้วยรายได้เปิดคัว 32 ล้านหรียญ หลังหนังออกฉาย ผู้กำกับของหนัง เจฟฟ์ เทรเมน ก็โดดไปจับงานหนังอัตชีวประวัติของวง มอทลีย์ ครูว์ The Dir แล้ว “ผมต้องระวังสุดๆ เพื่อทำให้มันเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ” เทรเมน เผย “ผมได้รับบทมากมาย ที่เสนอเข้ามาให้ทำ แต่ Dirt เป็นสิ่งที่ผมตามด้วยทุกอย่างที่ผมมีอยู่แล้ว ผมอยากทำหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2001 ตอนที่พวกเราเพิ่งวางแผนทำหนัง Jackass เรื่องแรก แล้วไปพบว่า เดวิด เกล ที่เอ็มทีวี มีเงื่อนไขในการเอาหนังสือเล่มนี้ทำเป็นหนัง

อ่านวิจารณ์หนัง Jackass Presents Bad Grandpa หนังขายฮา แบบมาเป็นเรื่องของทีมแจ็คแอสส์ได้ที่ http://bit.ly/1hNkSTe
อ่านคำวิจารณ์ I, Frankenstein หนังจากทีมผู้สร้างสรรค์ Underworld ได้ที่ http://bit.ly/KSODXs
อ่านคำวิจารณ์ Dallas Buyers Club ว่าที่เจ้าของรางวัลออสการ์ดารานำชาย-สมทบชายปีนี้ ได้ที่ http://bit.ly/19RLOB8

คลิกไลค์ให้กำลังใจ และติดตามข่าวคราว-บทวิจารณ์ หนังและเพลง ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos หรือคลิกไปที่ www.sadaos.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่