รอยเตอร์ชี้ “ชาวนาแดง” ยังไม่เข็ด “จำนำข้าว” โทษ กปปส. ประท้วงทำ “ปู” ไม่มีเงินจ่ายหนี้

กระทู้สนทนา
รอยเตอร์ - สำนักข่าวรอยเตอร์ชี้ชาวนาเสื้อแดงในภาคอีสานยังคงศรัทธาโครงการรับจำนำข้าว กล่าวโทษ กปปส. เป็นต้นเหตุทำให้รัฐบาลไม่สามารถนำเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาได้ พร้อมจวก ธ.ก.ส. เล่นการเมืองละทิ้งจุดยืน “ธนาคารเพื่อคนรากหญ้า”
       
       รอยเตอร์ได้ตีแผ่บทสัมภาษณ์ ทิวากร ชมจันทร์ ชาวนาไทยรายหนึ่งที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวมาแล้ว 2 เดือน แต่เขายังยืนยันว่าไม่เคยคิดแค้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของโครงการนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นความผิดของผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลในกรุงเทพมหานครมากกว่า
       
       “ชาวนาภาคเหนือและภาคอีสานบางคนที่เอาข้าวไปจำนำกับรัฐบาลเขาไม่ได้โกรธ พวกเขารู้ดีว่ารัฐบาลถูกมัดมือมัดเท้าอยู่” ทิวากร วัย 51 ปี กล่าว
       
       ขณะที่ชาวนาหลายพันคนในภูมิภาคอื่นๆซึ่งไม่ได้รับเงินจำนำข้าวมานานถึง 4 เดือน ออกมาประท้วงต่อต้านโครงการซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น และขู่จะไปขับไล่รัฐบาลร่วมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มชาวนาในภาคอีสานซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยและอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร กลับยังศรัทธาต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
       
       “พวกเราซื่อสัตย์และศรัทธาในนโยบายของรัฐบาล” สุนันทา ซึ่งมีที่นาอยู่ 9 ไร่ใน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี กล่าวในวงประชุมชาวนาราว 20 คนที่ตัดสินใจแล้วว่า จะไม่ไปชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
       
       เสียงสนับสนุนที่เข้มแข็งจากเกษตรกรที่ยากจนแต่มีจำนวนมหาศาลทางภาคเหนือและอีสานเป็นเครื่องการันตีได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะชนะเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ หากไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจนทำให้วันเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป ทว่าการเสียคะแนนนิยมในหมู่ชาวนาภาคอื่นๆก็ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ยิ่งต้องพึ่งพิงฐานเสียงที่พี่ชายตนเองสร้างเอาไว้ ซึ่งเท่ากับทำให้พลเมืองไทยถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน

การชุมนุมขับไล่รัฐบาลซึ่งปะทุขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และสถานการณ์ยังส่อเค้ารุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อ สุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ (26) ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. กระจายกำลังไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า
       
       เมื่อวันพุธที่แล้ว (22) ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.อุดรธานี ก็ถูกคนร้ายลอบยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าบ้านพัก โดยก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน ขวัญชัย ได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า คนเสื้อแดงพร้อมจะลุกขึ้นต่อสู้ทั่วประเทศหากกองทัพก่อรัฐประหารอีกครั้ง
       
       “เราจะไม่ยอมให้พวกเขายึดอำนาจอีกต่อไป ถ้าจะต้องแบ่งประเทศกันก็เอา... เราจะไม่ส่งคนเสื้อแดงไปสู้ในกรุงเทพมหานครมือเปล่าแน่” ขวัญชัยกล่าว
       
       ที่ราบภาคกลางของไทยนอกจากจะเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ ยังถือเป็นพื้นที่ช่วงชิงคะแนนเสียงของพรรคการเมืองต่างๆในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่เคยมีพรรคใดกวาดเสียงส่วนใหญ่ไปได้ แต่แล้วเมื่อปี 2011 ชาวนาในภาคกลางก็ตัดสินใจเทคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชูนโยบายแทรกแซงราคาข้าวที่ 15,000 บาท/ตัน ซึ่งผลออกมาก็ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งในสภาไปถึง 265 ที่นั่ง โดยร้อยละ 39 เป็น ส.ส.จากภาคอีสาน ส่วนอีกร้อยละ 15 เป็น ส.ส.จากพื้นที่ภาคกลาง
       
       อย่างไรก็ดี เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่านโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และทำให้ประเทศไทยต้องสูญเงินไปถึง 136,000 ล้านบาทในปีเพาะปลูก 2011-2012
       
       นักวิจารณ์หลายราย รวมถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ออกมาประเมินล่าสุดว่า เม็ดเงินที่สูญเสียไปกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลน่าจะไม่ต่ำกว่า 425,000 ล้านบาท
       
       ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวนาจาก 26 จังหวัดได้ออกมาชุมนุมปิดถนนสายหลักเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวแก่พวกเขา
       
       “รัฐบาลเอาข้าวเราไปแต่กลับไม่จ่ายเงิน ชาวนาเหล่านี้แทบจะไม่มีกินอยู่แล้ว” ประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ พร้อมเตือนว่าชาวนากว่า 10,000 คนอาจเดินทางมาประท้วงในกรุงเทพมหานครเร็วๆนี้

   นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ก็ได้ให้ความเห็นว่า “ชาวนาเกือบทุกรายในภาคอีสานได้รับเงินจำนำข้าวเพราะพวกเขาเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว แต่ชาวนาภาคอื่นๆไม่ใช่เช่นนั้น... สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับพวกเขา และชาวนาที่ออกมาประท้วงเวลานี้ก็มีความโกรธแค้นมาก แน่นอนว่าเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐบาลจะไม่ได้เสียงจากชาวนากลุ่มนี้อีกต่อไป”
       
       พื้นที่ลุ่มภาคกลางของไทยมีระบบชลประทานที่ดี ทำให้ชาวนาสามารถปลูกข้าวได้ถึงปีละ 3 ครั้ง ในขณะที่ชาวนาภาคอีสานจะปลูกข้าวได้เพียงปีละครั้งเดียว และหันไปเพาะปลูกพืชชนิดอื่นในฤดูแล้ง เช่น อ้อย, ยาง และมันสำปะหลัง เป็นต้น
       
       จากการสอบถามของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ กลุ่มชาวนาในจังหวัดอุดรธานีกล่าวโทษผู้ชุมนุม กปปส. ในกรุงเทพมหานครว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้รัฐบาลจ่ายเงินจำนำข้าวไม่ได้
       
       “มันไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล... เงินน่ะมีอยู่ แต่ ธ.ก.ส.กลับเล่นการเมือง พวกเขาบอกว่าเป็นธนาคารเพื่อคนรากหญ้า แต่กลับไปทำตามคำสั่งของพวกมีอำนาจ” ทองพูน พรมยิ่ง ชาวนาวัย 61 ปี ซึ่งเคยเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย วิจารณ์บทบาทของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
       
       ภายใต้โครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลจะนำเงินกู้จาก ธ.ก.ส.ไปอุดหนุนการรับซื้อข้าวจากชาวนา และจะระบายข้าวออกสู่ตลาดโลกเพื่อนำเงินมาจ่ายคืน
       
       สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธ.ก.ส.ได้ออกมาคัดค้านการนำเงินฝากและสภาพคล่องของธนาคารไปจ่ายในโครงการรับจำข้าว ขณะที่ผู้ฝากเงินจำนวนมากก็แห่ถอนเงินออก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกรัฐบาลนำไปถลุงกับโครงการนี้
       
       ประเสริฐ สถิตธรรมนิต เจ้าของโรงสีอุดรเพิ่มสินใน จ.อุดรธานี ยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทยมีจุดบกพร่องหลายอย่าง
       
       “มันเป็นความผิดของรัฐบาลเอง ตัวนโยบายดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งควรจะทยอยระบายข้าวล็อตเก่าๆ ออกไปก่อน ไม่ใช่กักตุนข้าวไว้ 3 ปีจนเน่าคาโกดังแบบนี้” ประเสริฐ เผย
       
       เวลานี้ยังมีข้าวค้างอยู่ในโกดังของรัฐบาลสูงถึง 18 ล้านตัน หรือเกือบ 2 เท่าของปริมาณข้าวที่ไทยส่งออกในแต่ละปี และคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของข้าว 38 ล้านตันที่ซื้อขายในตลาดโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่