จริงๆว่าจะมาโพสสิ้นปี เพราะช่วงสิ้นปี รายการต่างๆก้อชอบเอาเรื่องเด่นๆของตลอดทั้งปีมาให้ชมกัน เลยได้ไอเดียทำ 25 Best of My First Year Photography ออกมา แต่ด้วยผมค่อยๆโพสใน facebook วันละภาพ กว่าจะได้มาโพสที่นี่ก้อจะสิ้นเดือนมกราล่ะ หวังว่าคงไม่ช้าเกินไปนะครับ

ตอนแรกก้อว่าจะเอาแค่ 10 หรือ 20 ไปๆมาๆกลายเป็น 25 ภาพที่ตัดใจไม่ลงแล้ว

จริงๆแล้วตั้งใจจะทำแบบนี้ตั้งแต่ปีแรกที่ถ่ายรูปจริงๆจังๆ แต่ช่วง 2 ปีแรกตะลุยเที่ยวเยอะมาก และหลังๆก้อมีภาระหน้าที่ต่างๆ เลย process รูปไม่ทัน อัลบั้มที่ลงปัจจุบันยังอยู่ที่ปี 2009 อยู่เลย เลยไม่ใช่ "25 Best of 2013 Photography" แต่เป็น "25 Best of My First Year Photography" ซึ่งก้อคือ 25 รูปที่ดีที่สุดของผมในปีแรกที่ถ่ายรูป ซึ่งก้อคือปี 2008 นั่นเอง

ยังไงขอฝากผลงานด้วยนะครับ





ภาพนี้เป็นภาพแรกๆที่ถ่ายเลย แต่ก้อยังชอบจนทุกวันนี้ ถ่ายรูถที่โชว์อยู่ทางเข้าร้านอาหาร The Story (ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว) ถ่ายโดยเลือกใช้เลนส์ 50mm f1.8 เพื่อละลายหลัง ตอนแรกคิดจะถ่ายรถทั้งคัน แต่มั
นธรรมดาไป เลยเจาะแค่ไฟหน้ารถ เพื่อเน้นให้เด่นขึ้น เป็นการถ่ายภาพให้ดูเป็น 2 มิติ เลือกวางองค์ประกอบให้รถอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของภาพ ที่เหลือเป็นที่ว่าง ซึ่งมีไฟรางๆจากด้านหลังไม่ให้ภาพว่างจนเกินไป ภาพนี้วางองค์ประกอบง่ายๆ ไม่มีอะไรในภาพนัก เพื่อให้จุดสนใจของคนดูพุ่งไปที่ไฟ กับรถสีเหลืองๆอย่างด้วย



ภาพนี้ได้มาหลังจากไปเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกรอบที่ 2 ซึ่งรอบนี้ผมอยากได้ภาพคนพายเรือ ปกติเวลาถ่ายภาพคนทำกิจกรรมอะไรก้อแล้วแต่ แผ่นหลังของเค้าจะน่าจะสนใจเสมอ ซึ่งจะได้อารมณ์คนละแบบกับการถ่ายด้านหน้า การถ่ายภาพด้านหน้าจะเด่นตรงที่ได้เห็นสีหน้า และอารมณ์ของ Object แต่การถ่ายภาพด้านหลังจะเปิดให้คนดูจินตนาการเอาเอง ลึกลับ น่าค้นหากว่าเยอะ

หลังจากลงเรือ ส่วนใหญ่การถ่ายภาพด้านหลัง ถ้าใช้เลนส์ wide และถ่ายจากมุมต่ำจะทำให้ภาพมีพลัง แต่ในกรณีนี้ไม่ได้จัดฉาก เลยเลือกถ่ายในมุมต่ำที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะทำได้ คือถ่ายในระดับเดียวกันกับ object คือถ่ายตอนเราอยู่ในเรืออีกลำ และแน่นอน ด้วยระยะที่เราไม่อาจคาดเดาได้ ผมเลือกใช้ เลนส์ Tele 70-300 เพื่อความคล่องตัวในการ zoom ภาพ และด้วย perspective ของเลนส์ Tele ทำให้เน้น object ให้เด่นชัดขึ้น

ภาพนี้วางเรือไว้ที่จุดตัดสามส่วนด้านล่างซ้าย รอจังหวะอยู่ 2 อย่างคือ 1. ฉากหลังที่ไกลออกไปจะต้องไม่รกนัก 2. จังหวะที่คนพายกำลังจ้วงพายลงมา จึงได้ภาพนี้ออกมา



ภาพหุ่นขี้ผึ้งคณะพระสงฆ์ที่พิพิทธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้ง ราชบุรี รูปนี้ตอนแรกเลียนแบบมุมมหาชน โดยการเดินไปข้างหน้าแล้วถ่ายภาพ มันก้อสวยนะ แต่ไม่ใช่มุมของเราเอง

เลยเดินวนไปรอบๆดูว่าจะถ่ายยังไง เลยถ่ายจากด้านหลังอีกแล้ว โดยใช้เลนส์ Wide อย่างที่บอกไปรูปที่แล้ว แต่เขยิบมานิดนึงเป็นเยื้องๆด้านหลังเพื่อให้เห็นแระองค์ที่เหลือ จัดวางพระองค์ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดให้อยู่ที่จุดตัด 9 เส้น ขยับมุมมองให้พระองค์ด้านซ้ายขนาดใหญ่ที่สุดเพื่อให้เด่น ดีที่ได้แสงจากด้านหน้าช่วยให้มีริมไลท์ หมุนกล้องนิดนึงเพื่อเพิ่มให้ภาพดูมีพลังขึ้น

ในนี้แสงน้อยมากๆ ใช้ speed shutter 1/10 เท่านั้นเอง เลยต้องทำตัวให้นิ่งที่ที่สุด และกลั้นหายใจสุดๆตอนถ่ายภาพ สุดท้ายก้อได้ภาพที่อยากได้มาสมใจ



รูปที่ 4 รูปเครื่องปั้นดินเผา ถ่ายจากที่เกาะเกร็ด ใครเคยไปเที่ยวจะรู้ว่าที่นี่เด่นเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ตามร้านบางทีเราเดินไปหลังร้านได้ จะมีเครื่องปั้นดินเผาที่ปั้นเสร็จแล้วแต่รอเคลือบสีตกแต่งอยู่ ตอนถ่ายรูปนี้เห็นแสงแดดส่องเข้ามาสวยดี เลยถ่ายภาพในแนว Pattern คือมีการวางเรียงของซ้ำๆกัน แต่รูปนี้จะมีบางอันคว่ำ บางอันหงาย และความสูงต่ำไม่เท่ากัน ทำให้เพื่อความน่าสนใจมากกว่า pattern แบบเรียบๆ



ภาพที่ 5 ภาพสระว่ายน้ำในยามค่ำคืนที่ Anatara Resort and Spa มานึกๆดูแล้วนี่เป็นภาพถ่ายแนว resort รูปแรกๆของผมเลย ตอนนั้นยังไม่รู้จัก Golden Time หรือวิธีถ่ายภาพแนว resort ที่พวกนิตยสารชอบเอาไปลงกันเลย เลยถ่ายมาได้แบบนี้ การจัดวางองค์ประกอบแบบภาพนี้เรียกว่า Symmetric คือเหมือนกับเราพับครึ่งกลางรูปแล้วภาพด้านซ้ายกับด้านขวาเหมือนๆกัน เป็นการจัดวางองค์ประกอบแบบหนึ่งที่นิยมใช้กัน ภาพนี้ใช้ขาตั้งกล้อง แล้วตั้ง speed shutter อยู่ที่ 30 วินาที โดยใช้เลนส์ widw 10-20



ภาพที่ 6 ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ราชบุรี อีกแล้ว ภาพนี้เป็นภาพที่มีคนติดต่อมาขอเช่าซื้อไปใช้งาน ภาพนี้จะต่างจากภาพที่แล้ว โดยจะให้เห็นบรรยากาศโดยรวมของตลาดน้ำ เลยเดินขึ้นไปถ่ายบนสะพาน แล้วใช้เลนส์ Wide ถ่ายในมุมกว้าง อยากให้เห็นตลอดทั้งลำน้ำ เลยปรับภาพเป็นแนวตั้ง จัดภาพให้กินมาทางขวาหน่อย เพื่อให้เห็นรายละเอียดของร้านค้าที่ขายของบนฝั่งด้วย ส่วนด้านซ้ายที่เป็นส่วนใหญ่จะเห็นบรรยากาศเรือที่นั่งท่องเที่ยวนั่ง และเรือของพ่อค้าแม่ค้าที่แล่นผ่านไป เล็งๆภาพแล้วรอเรือแล่นมาให้พอดี แล้วก้อแช๊ะ กดชัตเตอร์จนได้ภาพนี้มาครับ



ภาพที่7 เปลวเพลิงสู่สวรรค์ ภาพนี้ได้มาเหมือนไม่ตั้งใจ วันนั้นไปถ่ายรูปโรงเจ ถ่ายงิ้ว ถ่ายบรรยากาศจนเบื่อ นึกพิเรน เห็นเค้าเผากระดาษเงินกระดาษทองกันอยู่ในเตาเผา เลยไปเล็งๆถ่ายรูปกระดาษโดนเผา กับรูปไฟในเตา

เล็งๆถ่ายอยู่นาน ลุงที่ทำหน้าที่ดูแลเตาเผาก้อเรียกผมให้มองขึ้นไปข้างบน ผมก้อมองๆขึ้นไป ทันใดนั้นลุงแกก้ออเอาไม้เขี่ยๆกองกระดาษเงินกระดาษทองที่อยู่ในเตา พอออกซิเจนเข้าไปในเตาเท่านั้นแหละ เปลวไฟก้อลุกโหมขึ้นไปด้านบน ทำให้เกิดแสงไฟสว่างที่ด้านบนของเตาพร้อมสะเก็ดไฟที่กระจายออกมา

โหย ปรับกล้องถ่ายแทบไม่ทัน จังหวะนั้นรีบจัดองค์ประกอบอย่างด่วน ให้เตาอยู่ที่จุดตัด 9 เส้นด้านบนขวา ด้วยความบังเอิญที่ใช้ speed shutter ต่ำ ทำให้เปลวไฟที่พุ่ออกมาแล้วโดนลมพัดวาดเป็นเส้นไฟดังที่เห็นในรูป

บางครั้งบางครา จังหวะในการได้ภาพดีๆมันก้อโผล่มาปุ๊ปปั๊ป และจากไปออย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทันได้บันทึกภาพนั้นๆหรือไม่



ภาพที่8 ไม่แน่ใจว่าเป็นเหยี่ยว หรือนกอินทรี ภาพนี้ได้มาตอนไปทริป Portrait ที่สวนนงนุช พัทยา มันจะมีาวนสวนสัตว์อยู่ ตอนที่ถ่ายภาพนี้เค้านิ่งมากเลย ไม่แน่ใจว่านิ่งอย่างนี้ตลอดหรือเปล่า เลยรีบกดมา โดยวางตำแหน่งตาไว้ที่จุดตัด 9 จุด เว้นเนื้อที่เหนือหัวไว้พอสมควร ไม่มากไปจนโล่ง หรือไม่น้อยไปจนอึดอัด ภาพถ่ายคน หรือสัตว์ สำคัญที่สุดคือดวงตา ห้ามให้เบลอเด็ดขาด ถ้าเบลอก้อจบกัน เลยต้องโฟกัสที่ดวงตาครับ



ภาพที่ 9 ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ช่วงนั้นบ้าภาพ HDR เลย process ภาพแบบ HDR ออกมาเยอะ ภาพนี้เป็นภาพ HDR ที่ชอบมากๆ

สำหรับเทคนิคการถ่ายรูป รูปนี้วางองค์ประกอบแบบสมมาตร(Symmetric) เหมือนที่เคยบอกในภาพก่อนๆ และยังจัดวางน้ำหนักภาพเป็น 3 ส่วน ให้พื้นดิน 1 ส่วน และท้องฟ้าเป็น 3 ส่วน ตามตำราเป๊ะ

ลองสังเกตุภาพของผมอย่างนึง คนจะไม่ค่อยมีในรูป หรือมีก้อน้อยมาก คนที่ดูรูปผมจะมีแต่คนสงสัยว่า ไปตอนไหน ทำไมคนน้อยจัง หรือบางทีก้อโดนเพื่อนๆแซวว่าถ่ายคนไม่เป็น จริงๆแล้วภาพถ่ายของผมทุกรูปหลังจากได้ภาพในหัวแล้วว่าจะถ่ายอะไรแบบไหน ผมจะลองกดชัตเตอร์ถ่ายดูก่อนภาพนึง พอโอเค ถูกใจแล้วจะรอ รอจนกว่าจะไม่มีคนอยู่ในเฟรม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก้อให้มีน้อยที่สุด อย่างภาพนี้ ผมนั่งกลางทางเดิน ท่ามกลางแดดร้อนๆอยู่เกือบ 20 นาที กว่าจะถ่ายภาพนี้ออกมาได้ครับ



ภาพที่10 นกนางนวล ที่ บางปู ครั้งที่ไปถ่ายภาพนี้มา เป็นครั้งแรกที่ได้ไปถ่ายนกนางนวลหลังจากที่เห็นคนถ่ายภาพสวยๆมา ช่วงแรกๆพยายามจับภาพถ่ายภาพนกบินยู่ซะนาน พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า เลยลองหันกลับไปถ่ายรูปอีกฝั่งของสะพาน แสงอาทิตย์สะท้อนกับผืนน้ำทำให้เกิดประกายแสงสีทองอันน่าหลงไหล ภาพที่ถ่ายจากมุมที่พระอาทิตย์ตกดินจะเป็นภาพ Sillouete หรือภาพที่เป็นเงาร่างสีดำ

พอถ่ายภาพจากมุมกว้างได้สักพัก ผมอยากจะถ่ายภาพนกเดี่ยวๆบ้าง เลยเปลี่ยนไปใช้เลนส์ Tele ซึ่งการใช้เลนส์ Tele จับภาพนกนางนวลที่ไม่ค่อยจะหยุดนิ่งมันยากมากๆ หลังจากเกือบจะถอดใจ ผมก้อเห็นนกนางนวลตัวนึงกำลังจะบินลงมาที่ผืนน้ำ ทันใดนั้นผมรีบแพนกล้องไปตรงบริเวณที่นกน่าจะบินลง โชคเข้าข้าง นกนางนวลตัวนั้นเข้ามาใน frame ภาพของผมพอดี ผมรีบขยับจุดโฟกัสไปที่ตัวนกในทันที โดยไม่ได้สนใจการจัดองค์ประกอบของภาพเลยเพื่อให้ภาพของตัวนกคมชัด ในเสี้ยววินาทีที่นกกำลังจะแตะผิวน้ำ ผมรีบลั่นชัตเตอร์ทันที และแล้วผมก้อได้ภาพที่สมใจมา

แต่ภาพที่ได้ยังไม่สวยงามพอ เพราะผมไม่ได้สนใจเรื่ององค์ประกอบภาพตอนถ่าย และภาพยังกว้างไปนิด ไม่ได้เจาะที่ตัวนก ผมเลยเอามา crop ต่อใน Photoshop เพื่อจัดองค์ประกอบ (ที่ทำได้เพราะผมถ่ายภาพตัวนกมาค่อนข้างชัด เลยเอามา crop ได้โดยภาพยังคงความคมชัดอยู่) ภาพนี้จัดวางองค์ประกอบให้นกอยู่ที่จุดตัด 9 จุดด้านซ้ายล่าง โดยจัดวางองค์ประกอบให้เรียบง่าย มีแค่เงานกเป็นจุดเด่นกับฉากหลังที่เป็นผืนน้ำสีทองเท่านั้น

บางครั้ง โอกาสได้ภาพชั้นเยี่ยมอาจจะโผล่มาแค่ในช่วงเสี้ยววินาที ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสัมผัสถึงเสี้ยววินาทีนั้นได้ไหม และเราจะบันทึกภาพนั้นๆมาได้หรือเปล่า



ภาพที่11 ภาพทิวเขา ห้วยน้ำดัง จังหวัดแม่ฮ่องสอน กว่าจะได้ภาพนี้ต้องออกมารอพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 5 จำได้ว่าอูณหภูมิเลขตัวเดียว ภาพนี้ไม่มีอะไรมากครับ เคยเห็นภาพทิวเขาสวยๆแล้วอยากถ่ายได้บ้าง เลยใช้ Tele ส่องไปตามทิวเขาไกลๆ เลือกช่วงที่มีเขาซ้อนกันเยอะๆ จัดน้ำหนักให้ทิวเขาเป็น 2ใน3ส่วนของภาพ ที่เหลือเป็นทะเลหมอกและเมฆ เลือกยอดเขาที่สูงสุดในภาพอยู่ี่จุดตัด 9 จุดมุมซ้ายบนเพื่อให้ดูน่าสนใจ



ภาพที่12 สายหมอกสีทอง ไม่ใช่ที่ไหน ภาพมุมมหาชนของปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอนนี่เอง ภาพย้อนแสงยามเช้า กับสายหมอกจางๆสีทองที่ระเรี่ยผืนน้ำ มีกระท่อมหลังเล็กๆยื่นออกมา

ภาพนี้ใช้ทฤษฎีเดิมๆครับ แบ่งผืนน้ำ 1ใน 3 ส่วนแนวนอน สำหรับแนวตั้งแบ่งภาพป่า 1ใน 3 ส่วนเหมือนกัน แล้วตัวกระท่อมที่เป็น object หลักก้ออยู่ที่มุมล่างซ้ายของจุดตัด9ส่วนพอดีเลย

มีเรื่องเล่านิดนึง มีคนเคยบอกมาว่าปางอุ๋งไปมาแล้ว ไม่เห็นมีอะไรสวยเลย ปรากฎว่าเค้าตื่นตอน 10 โมง ซึ่งหมอกจางหมดแล้ว การจะได้ภาพสวยๆเราต้องเอาตัวเราไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา ถ้าจะให้ดีก้อควรจะศึกษาก่อนว่าสถานที่ๆเราจะไปมีอะไรเด่น ต้องไปเวลาไหนถึงจะสวยครับ