" ตอนนี้มันเลยเถิด ไปกันใหญ่แล้ว"

" วันนี้คนไทยคงเห็นภาพที่มีผู้กระทำการเย้ยกฎหมายมากมาย แต่ไม่ถูกตำรวจจับดำเนินคดี ดูเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป คนหลายคนกล้าทำในสิ่งผิดกฎหมายไม่ว่าจะยึดรถกักตัวทหาร หรือพฤติกรรมอันธพาลต่างๆ มากมาย โดยเห็นว่าถ้าอยู่ในเขตกลุ่มของพวกตัวแล้วไม่มีใครกล้าทำอะไรได้
ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวายเช่นนี้ รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ อาจมีความจำเป็นที่จะต้องไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก จึงไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
แต่ กฎหมายไม่มีความหมายจริงหรือ?
ขอบอกว่าไม่ใช่
การกระทำที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดทั้งหลาย นอกจากการฝ่าฝืนข้อกำหนดหรือคำสั่งใน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว
การทำร้ายร่างกาย การกักขังหน่วงเหนี่ยว การทำลายทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือความผิดฐานก่อการร้าย เหล่าน็ล้วนเป็นความผิดต่อแผ่นดิน มีอายุความอีกยาวนาน หมายความว่า  หลังจากวันนี้แล้ว อีกห้าปี สิบปี ใครที่ทำความผิดไว้ก็ยังอาจถูกดำเนินคดีได้
คดีความผิดต่อแผ่นดินนั้น ใครก็อาจไปแจ้งความกล่าวโทษได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย
ที่อยากให้ข้อสังเกตอีกอย่างคือ  
ความผิดฐานก่อการร้ายนั้น มีโทษสูงถึงประหารชีวิต และ กฎหมายบัญญัติให้ ผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานนี้ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ
คนที่เขาเป็นหัวขบวน เขาย่อมทราบดี ว่าความผิดฐานก่อการร้ายนั้น มีโทษหนัก
ขนาดไหน  แต่เขาอาจเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว
แต่ผู้หลงสนับสนุนเขาอยู่นี่สิครับ
รู้ตัวหรือเปล่าว่า กำลังทำอะไรอยู่
รู้ตัวหรือเปล่าว่าความผิดที่ทำนั้นมีโทษขนาดไหน
การรวมกลุ่มที่หนาแน่นอบอุ่น ตำรวจไม่กล้าจับจะอยู่ได้กี่วัน กี่เดือน
คนที่เขาเตรียมทางหนีไว้แล้ว อาจเหาะออกนอกประเทศไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
แต่ถ้าเราเป็นคนธรรมดาที่เหาะไม่ได้  คิดดูให้ดี
การใช้เสรีภาพในการชุมนุม โดยสงบปราศจากอาวุธ นั้นทำได้
แต่ถ้ามันเกินขอบเขตไปจนถึงขนาดที่ผิดกฎหมายร้ายแรง แล้วเรายังร่วมอยู่
ก็เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางล่ะครับ
ใครมีญาติอยู่ ก็โทรตามกลับบ้านเถอะครับ
เรื่องเรียกร้องความเป็นธรรมนั้นยังมีเวลาเรียกร้องกันได้อีกนาน
ตอนนี้มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว จะไปอยู่เสี่ยงคุก เสี่ยงตายทำไม
"กลับบ้านก่อนดีกว่าครับ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่