8 ยอดแข้งที่ไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีค

พรีเมียรืลีคคือลีคที่คนไทยนิยมมากที่สุด โดยถูกก่อตั้งเมื่อปี 1992 ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีนักฟุตบอลที่โลดแล่น โชว์ฝีเท้า ให้เราได้เห็นในลีคนี้ และให้กำเนิดซุปเปอร์สตาร์ของวงการฟุตบอลมากมาย เช่น เดวิด เบ็คแฮม , เดนนิส เบิร์กแค้มป์ ,จานฟรังโก โซลา , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ทั้งนี้ก็มีนักฟุตบอล  ระดับตำนานหลายคน ที่ไม่เคยค้าแข้งในลีคผู้ดีนี้เลย เรามาดู 8 นักเตะที่ไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีค ตลอดอาชีพจนกระทั่งแขวนสตั๊ด

8. Roberto Carlos

คาร์ลอส คือสุดยอดของแบ็คซ้ายในช่วงปี 1990 – 2000 ถึงแม้ว่าแบ็คซ้ายบราซิลเลี่ยน จะมีส่วนสูงเพียง 5 ฟุตครึ่ง แต่ก็มีความเร็วและความแข็งแกร่งที่สุดยอด และที่เป็นจุดขายเลยก็คือ เท้าซ้ายอันหนักหน่วงแบบสุด ๆ  ที่เป็นที่จดจำที่สุด คือลูกฟรีคิกระยะ 35 หลา ที่ซัดใส่ฝรั่งเศส ในคอนเฟดเดอเรชัน คัพ 1997 เพราะความแรงทำให้ลูกส่ายเหมือนจะออก แต่โค้งวกเข้าประตูแบบเหลือเชื่อ

หลักจากที่คาร์ลอสออกจากรีลมาดริด เขาได้ย้ายไปค้าแข้งที่ตุรกีและรัสเซีย

7. Oliver Kahn

ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมันเป็นที่รู้จักดีในช่วงที่เขาอยู่กับบาเยิร์นมิวนิค คาห์นเป็นผู้บัญชาการในกรอบเขตโทษ และเป็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 1 ตลอดเวลา 14 ปีที่อยู่กับเสื้อใต้

ในช่วงปี 1999 – 2002 คาห์นถูกโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของยุโรป 4 ปีติดต่อกัน ด้วยฝีมือและบุคลิกความเป็นผู้นำ ที่คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมตลอด ในการดวลลูกจุดโทษนัดชิงแชมป์เปี้ยนลีคปี 2001 คาห์นสามารถเซฟไปได้ 3 ลูก ช่วยให้ทีมเสือใต้คว้าแชมป์มาครอง หลังจากอกหักมาในปี 1999

6. Roberto Baggio

ในช่วงปี 90 นักฟุตบอลที่เป็นขวัญใจหลาย ๆ คนคงไม่พ้น โรแบร์โต้ บักโจ้  นักเตะเจ้าของฉายา “เปียทองคำ” มีการเล่นที่ครบเครื่อง เมื่อบอลอยู่ที่เท้า เขาสามารถทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้เสมอ ทำให้บักโจ้เป็นเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ของทีมชาติอิตาลี โดยไร้ข้อกังขา เขายังทำประตูใน Serie A  ได้มากกว่า 200 ประตู จนเป็นที่สนใจจากสโมสรในอังกฤษ อย่างไรก็ตามบักโจ้ ก็ยังอยู่ที่อิตาลีต่อไป โดยเขาค้าแข้งกับยักษ์ใหญ่ในอิตาลี 3 ทีม ได้แก่ ยูเวนตุส , อินเตอร์มิลาน , เอซี มิลาน นอกจากนี้ยังมี ฟิออเรนติน่า , โบโลญญ่า และ เบรสชา

5. Romario

ถ้าพูดถึงนักเตะที่ทำประตูได้ 1,000 ประตู นักเตะที่เข้าข่ายสุดก็คือ โรมาริโอ้ แม้ว่าดูสถิติ FIFA อย่างเป็นทางการ รวมทั้งแมตช์สมัยเยาวชน นัดกระชับมิตร จะยังไม่ถึง แต่เมื่อรวมแล้ว ก็ยิงไปกว่า 900 กว่าประตู นักเตะบราซิลเลี่ยนรายนี้เริ่มโดดเด่นเมื่อปลายยุค 80 กับ PSV  และยิงกระจายกับบาเซโลน่า ในช่วงปี 1993 – 1995 หลังจากที่เขาออกจากถิ่นคัมป์นูแล้ว โรมาริโอ้ก็ไปเล่นในลีคบราซิลบ้านเกิด และยังคงทำประตูได้เรื่อย ๆ

4. Luis Figo

ฟิโก้คือหนึ่งในปีกที่ดีที่สุดในยุคนั้น เขาสามารถเลี้ยงหลบกองหลัง ก่อนจะยิงประตูไปอย่างน่าตื่นเต้น หรือทำชิ่งกับเพื่อนได้อย่างแม่นยำ ในปี 2000 นักเตะโปรตุกีสได้ทำเรื่องสุดช็อคด้วยการ ย้ายจากบาเซโลน่าไปรีลมาดริด ทีมคู้แค้นของเจ้าบุญทุ่ม จากความเคียดแค้นของแฟนบอลบางกลุ่ม ทำให้มีสิทธิ์ที่เขาอาจย้ายไปเล่นในอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามฟิโก้ก็ยังเล่นอยู่กับราชันย์ชุดขาว 5 ปี ก่อนจะย้ายไปอินเตอร์

3. Paolo Maldini

นี่คือกองหลังที่เล่นให้กับเอซี มิลานถึง 24 ปี และเป็นตำนานของทีมปีศาจแดงดำ โดยมัลดินี่เล่นได้ทั้งเซนเตอร์และแบ็คซ้าย การมีเซ้นส์บอลของกองหลัง และเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้มาจากประสบการณ์ ทำให้มัลดินี่กลายเป็นกองหลังที่ใคร ๆ ก็ยำเกรง กองหลังอิตาเลี่ยนกวาดแชมป์ต่าง ๆ มากมาย ทั้ง 5 แชมป์ยุโรป , 7 สคูเดตโต้ และรางวัลส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน

ตำนานชาวอิตาเลี่ยนเกือบจะได้แชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 แต่ก็ต้องผิดหวัง ในนัดชิง UCL 2005 อันเป็นที่เลื่องลือ โดยในวันนั้นมัลดินี่สามารถทำประตูได้ในนาทีแรกอีกด้วย

2. Zinedine Zidane

แม้ว่าซีดานจะปิดฉากการเล่นฟุตบอล ด้วยเหตุการณ์โขกเฮดบัตต์ใส่มาเตรัซซี่ ในฟุบอลโลกปี 2006 แต่ทุกคนก็จดจำซีดานว่าเป็นนักเตะที่มีลวดลายการเล่นในระดับตำนาน ย้อนไปในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส จอมทัพเลือดน้ำหอมได้โชว์ฟอร์มช่วยทำให้ฝรั่งเศส เอาชนะบราซิล ไป 3-0 ทำให้คว้าแชมป์โลกไปครอง และยังเป็นทัวร์นาเม้นต์สร้างชื่อให้แก่ชิซุอีกด้วย ซีดานเป็นนักเตะสมบูรณ์แบบทั้งความสามารถ และวิสัยทัศน์ ในปี 2001 ตำนานชาวฝรั่งเศสย้ายไปเล่นให้กับราชันย์ชุดขาว 50 ล้านปอนด์ เป็นสถิติโลกตอนนั้น

1. Ronaldo

เป็นเรื่องง่ายมากที่จะยกตำแหน่งสุดยอดกองหน้าให้กับ โรนัลโด้ ทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง เลี้ยง แตะบอล ยิง ทุกอย่างรวมอยู่ในกองหน้าบราซิลเลี่ยนคนนี้

R9 ยิงอย่างต่อเนื่องสมัยเล่นให้กับ PSV ,บาเซโลน่า ,อินเตอร์มิลาน ,รีล มาดริด และยังยิงไปถึง 62 ประตูในนามทีมชาติ ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายดาวเตะบราซิลเลียนยิงไปรวมทั้งสิ้น 15 ประตู ทำให้เป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุดในฟุตบอลรอบสุดท้าย อีกทั้งเขายังได้แชมป์โลก 2 สมัย ในปี 1994 และ 2002

ถึงแม้โรนัลโด้จะไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีค แต่ก็มีเหตุการณ์ที่น่าจดจำในเกาะอังกฤษ  เมื่อเขาสามารถทำแฮททริคได้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ภายหลังเมื่อเขาโดนเปลี่ยนตัวออก แฟนบอลอังกฤษ ต่างปรบมือ ยกย่องในความสามารถของตำนานบราซิลเลี่ยนรายนี้

ที่มา : http://www.srankmeng.com
         https://www.facebook.com/websrankmeng
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่