รบกวนปรึกษาค่ะ คือเราคบกับแฟนต่างชาติค่ะ เราอายุ 26 ย่าง 27 ส่วนแฟนอายุ 29 ค่ะ คบกันกำลังจะคบปีแล้ว
เค้าเคยมาพบครอบครัวเราแล้วซึ่งทุกคนก็ชอบเค้าค่ะ เราเองก็ไปพบครอบครัวเค้ามาแล้วเช่นกันก็ไม่ปัญอะไรค่ะ
ทุกคนชอบเรา คราวนี้แม่ของเราค่ะเอาดวงเราไปดูตั้งเด็กๆ เลยและหมอดูทุกคนพูดเหมือนกันคือเนื้อคู่เรามาตอนอายุ 30
และแมาเราเชื่อมาก เฉพาะฉะนั้นแม่จะไม่ยอมให้แต่งก่อนหน้านั้น เราก็ไม่อยากไปขัดแม่เราก็เลยต้องบอกแฟนตามนั้น
ซึ่งเค้ายอมที่จะรอ แม้ว่าครอบครัวเค้าอยากขอให้แต่ตั้งแต่ปีที่ 2 ที่คบกันด้วยซ้ำ
คราวนี้เมื่อคืนเราโทรไปหาแม่คุยเรื่อยเปื่อย จู่ๆ แม่เราก็พูดถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมา ซึ่งยิ่งพูดยิ่งฟังเรายิ่งเครียด เลยต้องมารบกวนผู้รู้ค่ะ...
เรากับแฟนมักจะไปเที่ยวด้วยกันเกือบจะทุกๆ 3 เดือนเลยก็ว่าได้แต่นั่นเราก็แชร์ค่าใช้จ่ายและไม่เคยเดือดร้อน แม่เราพูดขึ้นมาว่า
อยากให้พากันหยุดเที่ยวแล้วเก็บเงินเผื่อแต่งงาน อันนี้เราพอเข้าใจ แต่แม่เราก็พูดมาอีกว่าเพราะงานแต่งแบบไทยผู้ชายต้องออกทั้งหมด
เราได้ยินก็ตกใจ เพราะเรามีเพื่อนที่เป็นออกาไนเซอร์ซึ่งตอนแต่งเจ้าบ่าวก็จัดการเรื่องสินสอดส่วนเจ้าสาวก็ต้องจัดเรื่องงานเลี้ยงไป ซึ่งเราเข้าใจแบบนั่นมาตลอด เราแย้งแม่ไป แม่ก็พูดผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย แล้วยังเราไปเปรียบเทีบบกับน้าสะใภ้ซึ่งได้ค่าสินสอดไป 4 แสนบาท และเราต้องได้มากกว่าเพราะเราอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราค้านทันทีว่าอย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน และงานแต่งที่เราแพลนไว้คือจัดที่บ้านเราและบ้านเค้าซึ่งถ้าเป็นไปตามที่แม่เราบอกแฟนเราอ่วมแน่ๆ ค่ะ เพราะวัฒนธรรมบ้านเค้าสินสอดไม่ได้เยอะเหมือนบ้านเรา ไหนจะค่างานแต่งทั้ง 2 ที่ แฟนเราบอกเราว่าเค้าไม่มีปัญหาถ้าจะให้เค้าออกเงินช่วยงานเลี้ยงที่บ้านเราแต่ออกทั้งหมดนี่มันลากเลือดเหมือนกันนะ เราไม่รู้ว่าแม่เราไปเอาเรื่องแบบนี้มาจากที่ไหน พอเหมือนจะเห็นว่าเราไม่เห็นดีด้วยก็เลือกงั้นก็จัดที่เดียว ซึ่งใจเราคิดละว่าถ้าที่เดียวงั้นก็บ้านเค้า ในเมื่อเค้าต้องออกทุกอย่างทั้งหมด (ค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางและค่าที่พักเค้าเองก็จะเป็นคนจัดการค่ะ ) แล้วเหมือนแม่เรารู้ว่าเราคิดอะไร แม่ก็พูดว่าแต่ไม่รู้แม่จะเสียหน้ามากน้อยแค่ไหน คุณคงคิดสภาพเราออกกันนะคะ เจอแบบนี้ปวดหัวทันทีค่ะ เพราะทางบ้านแฟนเค้าก็อยากให้จัดที่บ้านเค้าด้วย ซึ่งแฟนเราแอบบอกมาว่าทางบ้านเค้าบอกจะช่วยออกด้วยถ้าค่าใช้จ่ายในงานที่บ้านเค้ามันบานปลาย แล้วยังเอาไปเปรียบเทียบกับเพื่อนสนิทที่ฐานะดีกว่าบ้านเราอีกว่างานเค้ายังมีรถเบนซ์ ซึ่งเราก็แจงให้แม่ฟังค่ะว่าเพื่อนเช่ามา สินสอดเพื่อนก็ไม่ใช่หลักล้าน เพราะเราเห็นเราอยู่ตรงนั้น...
ขอโทษนะคะที่ร่ายซะยาว เราไม่มีเจตนาว่าแม่เรานะ แต่เราตันจริงๆ กับสิ่งที่แม่คาดหวังไว้ TT^TT
ไม่เข้าใจเรื่องสินสอดกับการจัดงานแต่งงานค่ะ...
เค้าเคยมาพบครอบครัวเราแล้วซึ่งทุกคนก็ชอบเค้าค่ะ เราเองก็ไปพบครอบครัวเค้ามาแล้วเช่นกันก็ไม่ปัญอะไรค่ะ
ทุกคนชอบเรา คราวนี้แม่ของเราค่ะเอาดวงเราไปดูตั้งเด็กๆ เลยและหมอดูทุกคนพูดเหมือนกันคือเนื้อคู่เรามาตอนอายุ 30
และแมาเราเชื่อมาก เฉพาะฉะนั้นแม่จะไม่ยอมให้แต่งก่อนหน้านั้น เราก็ไม่อยากไปขัดแม่เราก็เลยต้องบอกแฟนตามนั้น
ซึ่งเค้ายอมที่จะรอ แม้ว่าครอบครัวเค้าอยากขอให้แต่ตั้งแต่ปีที่ 2 ที่คบกันด้วยซ้ำ
คราวนี้เมื่อคืนเราโทรไปหาแม่คุยเรื่อยเปื่อย จู่ๆ แม่เราก็พูดถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมา ซึ่งยิ่งพูดยิ่งฟังเรายิ่งเครียด เลยต้องมารบกวนผู้รู้ค่ะ...
เรากับแฟนมักจะไปเที่ยวด้วยกันเกือบจะทุกๆ 3 เดือนเลยก็ว่าได้แต่นั่นเราก็แชร์ค่าใช้จ่ายและไม่เคยเดือดร้อน แม่เราพูดขึ้นมาว่า
อยากให้พากันหยุดเที่ยวแล้วเก็บเงินเผื่อแต่งงาน อันนี้เราพอเข้าใจ แต่แม่เราก็พูดมาอีกว่าเพราะงานแต่งแบบไทยผู้ชายต้องออกทั้งหมด
เราได้ยินก็ตกใจ เพราะเรามีเพื่อนที่เป็นออกาไนเซอร์ซึ่งตอนแต่งเจ้าบ่าวก็จัดการเรื่องสินสอดส่วนเจ้าสาวก็ต้องจัดเรื่องงานเลี้ยงไป ซึ่งเราเข้าใจแบบนั่นมาตลอด เราแย้งแม่ไป แม่ก็พูดผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย แล้วยังเราไปเปรียบเทีบบกับน้าสะใภ้ซึ่งได้ค่าสินสอดไป 4 แสนบาท และเราต้องได้มากกว่าเพราะเราอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเราค้านทันทีว่าอย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน และงานแต่งที่เราแพลนไว้คือจัดที่บ้านเราและบ้านเค้าซึ่งถ้าเป็นไปตามที่แม่เราบอกแฟนเราอ่วมแน่ๆ ค่ะ เพราะวัฒนธรรมบ้านเค้าสินสอดไม่ได้เยอะเหมือนบ้านเรา ไหนจะค่างานแต่งทั้ง 2 ที่ แฟนเราบอกเราว่าเค้าไม่มีปัญหาถ้าจะให้เค้าออกเงินช่วยงานเลี้ยงที่บ้านเราแต่ออกทั้งหมดนี่มันลากเลือดเหมือนกันนะ เราไม่รู้ว่าแม่เราไปเอาเรื่องแบบนี้มาจากที่ไหน พอเหมือนจะเห็นว่าเราไม่เห็นดีด้วยก็เลือกงั้นก็จัดที่เดียว ซึ่งใจเราคิดละว่าถ้าที่เดียวงั้นก็บ้านเค้า ในเมื่อเค้าต้องออกทุกอย่างทั้งหมด (ค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางและค่าที่พักเค้าเองก็จะเป็นคนจัดการค่ะ ) แล้วเหมือนแม่เรารู้ว่าเราคิดอะไร แม่ก็พูดว่าแต่ไม่รู้แม่จะเสียหน้ามากน้อยแค่ไหน คุณคงคิดสภาพเราออกกันนะคะ เจอแบบนี้ปวดหัวทันทีค่ะ เพราะทางบ้านแฟนเค้าก็อยากให้จัดที่บ้านเค้าด้วย ซึ่งแฟนเราแอบบอกมาว่าทางบ้านเค้าบอกจะช่วยออกด้วยถ้าค่าใช้จ่ายในงานที่บ้านเค้ามันบานปลาย แล้วยังเอาไปเปรียบเทียบกับเพื่อนสนิทที่ฐานะดีกว่าบ้านเราอีกว่างานเค้ายังมีรถเบนซ์ ซึ่งเราก็แจงให้แม่ฟังค่ะว่าเพื่อนเช่ามา สินสอดเพื่อนก็ไม่ใช่หลักล้าน เพราะเราเห็นเราอยู่ตรงนั้น...
ขอโทษนะคะที่ร่ายซะยาว เราไม่มีเจตนาว่าแม่เรานะ แต่เราตันจริงๆ กับสิ่งที่แม่คาดหวังไว้ TT^TT