ในความจำของผม สเตฟาน เอดเบิร์กยิ่งใหญ่อยู่ในยุคเดียวกับบอริส เบคเกอร์ และเล่นในยุคโรยของอีวาน เลนเดิล กับยุคแรกแย้มของพีท แซมพราส เป็นเวลาที่เอทีพีทัวร์ยังอุดมไปด้วยมือเสิร์ฟ-วอลเลย์เจ๋ง ๆ เล่นกันแต้มสั้น ๆ และเอดเบิร์ก็คือหนึ่งนักเทนนิสที่ใช้สไตล์นี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ แชมป์เมเจอร์ 3 รายการ 6 สมัยคือเครื่องพิสูจน์
สมัยนั้นเทนนิสสดในเมืองไทยหาดูยากยิ่ง การดวลที่ติดตาก็คือการดวลบนคอร์ตหญ้าวิมเบิลดันรอบชิง 3 ปีติด บอริส เบคเกอร์เป็นขวัญใจผมเวลานั้น ทำให้ผมไม่ค่อยชอบ ติดไปทางชังสเตฟาน เอดเบิร์ก ที่เป็นฝ่ายชนะไปสองครั้ง
ยุคนั้นเบคเกอร์กับเอดเบิร์กคือยอดนักเสิร์ฟ-วอลเลย์ เบคเกอร์มีลูกเสิร์ฟหนักหน่วง พุ่งเหมือนจรวด ทำให้ครองใจขาโจ๋ในคอร์ตยุคนั้น ในขณะที่เอดเบิร์กมีลูกเสิร์ฟที่หลากหลาย และอาวุธสำคัญก็คือจังหวะขึ้นวอลเลย์ที่แน่น ไว้ใจได้ (จะเป็นเพราะผมลุ้นเบคเกอร์รึเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่สองคนนี้เจอกัน ผมลุ้นระทึกกับจังหวะขึนหน้าเน็ตของเบคเกอร์มากกว่า รู้สึกโอกาสพลาดเยอะ)
ฤดูกาล 2014 พึ่งเริ่ม ผมยังไม่ได้ดูสถิติ แต่ถึงนาทีนี้ผมรู้สึกว่าเฟดขึ้นหน้าเน็ตมากขึ้น (จากแต่ก่อนที่นับว่าขึ้นหน้าเน็ตไม่น้อยอยู่แล้ว) คำแนะนำจากเอดเบิร์ก บวกกับแร็คเก็ตหน้ากว้างขึ้น ดูจะทำให้การวอลเลย์มีความแน่นอน และตอบโจทย์ให้การเล่นของนักเทนนิสเกมบุกในวัย 32 คือการเล่นแต้มสั้น แทนที่จะยื้อแต้มยาว ๆ กับคู่แข่งที่กำลังวังชาสดกว่า (ผมคิดว่าเหมาะกับสภาพจิตใจเฟดด้วย ที่ดูจะไม่ชอบแต้มยืดเยื้อ)
การดึงเอดเบิร์กเข้ามาคือสัญญาณดีที่บอกว่า เฟดยังมีไฟในการเล่น ยังพยายามปรับปรุงการเล่น ยังอยากลุ้นแชมป์ และการเข้าถึงรอบรองออสเตรเลียนโอเพ่นก็ยิ่งเป็นสัญญาณดีที่บอกว่า ส่วนผสมนี้ใช้ได้ (อันที่จริงฝีเท้าว่องไวอย่างเฟดนั้นเป็นประโยชน์ในการขึ้นหน้าเน็ตอยู่แล้ว) และบทพิสูจน์สำคัญก็อยู่ที่วันพรุ่งนี้ แมทช์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อันดับโลก เฮดทูเฮด และอายุ บอกว่านาดาลเป็นต่ออย่างไม่ต้องสงสัย เฟดแพ้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเกมออกมาสูสี หรือกลายเป็นเฟดชนะ ก็แปลว่าเทนนิสชายปีนี้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเฟด นาดาล โจโควิชจะมีโอกาสสูสีกันอีกครั้ง
สเตฟาน เอดเบิร์กมีดีอย่างไรสำหรับเฟเดอเรอร์
สมัยนั้นเทนนิสสดในเมืองไทยหาดูยากยิ่ง การดวลที่ติดตาก็คือการดวลบนคอร์ตหญ้าวิมเบิลดันรอบชิง 3 ปีติด บอริส เบคเกอร์เป็นขวัญใจผมเวลานั้น ทำให้ผมไม่ค่อยชอบ ติดไปทางชังสเตฟาน เอดเบิร์ก ที่เป็นฝ่ายชนะไปสองครั้ง
ยุคนั้นเบคเกอร์กับเอดเบิร์กคือยอดนักเสิร์ฟ-วอลเลย์ เบคเกอร์มีลูกเสิร์ฟหนักหน่วง พุ่งเหมือนจรวด ทำให้ครองใจขาโจ๋ในคอร์ตยุคนั้น ในขณะที่เอดเบิร์กมีลูกเสิร์ฟที่หลากหลาย และอาวุธสำคัญก็คือจังหวะขึ้นวอลเลย์ที่แน่น ไว้ใจได้ (จะเป็นเพราะผมลุ้นเบคเกอร์รึเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่สองคนนี้เจอกัน ผมลุ้นระทึกกับจังหวะขึนหน้าเน็ตของเบคเกอร์มากกว่า รู้สึกโอกาสพลาดเยอะ)
ฤดูกาล 2014 พึ่งเริ่ม ผมยังไม่ได้ดูสถิติ แต่ถึงนาทีนี้ผมรู้สึกว่าเฟดขึ้นหน้าเน็ตมากขึ้น (จากแต่ก่อนที่นับว่าขึ้นหน้าเน็ตไม่น้อยอยู่แล้ว) คำแนะนำจากเอดเบิร์ก บวกกับแร็คเก็ตหน้ากว้างขึ้น ดูจะทำให้การวอลเลย์มีความแน่นอน และตอบโจทย์ให้การเล่นของนักเทนนิสเกมบุกในวัย 32 คือการเล่นแต้มสั้น แทนที่จะยื้อแต้มยาว ๆ กับคู่แข่งที่กำลังวังชาสดกว่า (ผมคิดว่าเหมาะกับสภาพจิตใจเฟดด้วย ที่ดูจะไม่ชอบแต้มยืดเยื้อ)
การดึงเอดเบิร์กเข้ามาคือสัญญาณดีที่บอกว่า เฟดยังมีไฟในการเล่น ยังพยายามปรับปรุงการเล่น ยังอยากลุ้นแชมป์ และการเข้าถึงรอบรองออสเตรเลียนโอเพ่นก็ยิ่งเป็นสัญญาณดีที่บอกว่า ส่วนผสมนี้ใช้ได้ (อันที่จริงฝีเท้าว่องไวอย่างเฟดนั้นเป็นประโยชน์ในการขึ้นหน้าเน็ตอยู่แล้ว) และบทพิสูจน์สำคัญก็อยู่ที่วันพรุ่งนี้ แมทช์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อันดับโลก เฮดทูเฮด และอายุ บอกว่านาดาลเป็นต่ออย่างไม่ต้องสงสัย เฟดแพ้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเกมออกมาสูสี หรือกลายเป็นเฟดชนะ ก็แปลว่าเทนนิสชายปีนี้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเฟด นาดาล โจโควิชจะมีโอกาสสูสีกันอีกครั้ง