เป็นคนชอบดื่มกาแฟ และชอบนั่งอ่านหนังสือนอกบ้านครับ เลยได้ไปใช้บริการ cafe ต่างๆเป็นประจำ แต่ละ weekend ก็จะมีร้านที่ดวงตกเจอผมไปสิงสู่ นั่งแช่นานมั่งไม่นานมั่ง

หลายครั้งที่ผมไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียว บางทีรูปที่ถ่ายจากแต่ละร้านก็น้อยเกินจะเอามาทำรีวิว ในกระทู้นี้ผมจะขอถือโอกาสเอาภาพ cafe ในย่านใกล้บ้านผมคือเอกมัยมารวมกันไว้ในกระทู้เดียวนะครับ

ร้านที่จะรีวิวในวันนี้ได้แก่

Roots Coffee Roaster เอกมัยซอย 15-17

One Ounce For Onion เอกมัยซอย 12

Nikko Caféเอกมัยซอย 12

UN Fashion Café เอกมัยซอย 10

INK & Lionเอกมัยซอย 2


เริ่มกันด้วยร้าน  Roots Coffee Roaster ตั้งอยู่ระหว่างเอกมัยซอย15-17
พอดีผมเป็นคนพกแต่เลนส์มุมแคบไว้ถ่ายของกิน เลยถ่ายภาพหน้าร้าน+บรรยากาศร้านด้วย Bianca  (ชื่อ iPhone ของผมเอง... ใช่ครับ... ผมตั้งชื่อให้ iPhone)



ปกติร้านอื่นพอเข้าร้านไปตรงริมประตูจะมีแคชเชียร์ แต่ร้าน Roots Coffee Roaster มีสิ่งนี้อยู่แทนครับ มันคือ Honesty Box รู้ตัวว่ากินอะไรไปเท่าไรก็หย่อนเงินลงไปเองตามนั้น พอใจในรสชาติมากน้อยก็จ่ายตามความรู้สึก โดยมีราคาเสนอไว้ให้เป็นguideline ซึ่งผมคิดว่าระบบคิดเงินแบบนี้เชื่อใจลูกค้าสุดๆและมันเท่ห์มากๆ



ใครเคยไปทานร้านRoast Coffee and Eatery อาจจะคุ้นๆหน้าคุณเต้เจ้าของร้าน Roots เพราะคุณเต้เป็นเจ้าของร้านดังอย่าง Roast Coffee and Eatery นั่นเอง วันที่ผมไปคนแน่นมาก เห็นเจ้าของร้านลงมือชงกาแฟเองตลอดเลยครับ เรียกว่าเปิดร้านด้วยใจรักจริงๆ




ในร้านจะมีถาดขนมวางไว้แบบให้หยิบเองได้เลย เพราะยังไงก็ไม่ได้มีการตรวจสอบอยู่แล้วว่าใครกินอะไรไปเป็นราคาเท่าไร ขนมหน้าตาดีมาก แต่วันนั้นไปกินอย่างอื่นมาก่อนและค่อนข้างอิ่มไม่ได้ลองพวก pastry



เพื่อนสั่งเอสเพรสโซ่มา วันนั้นเป็นเมล็ดกาแฟจาก กัวเตมาลาครับ (เหมือนเมล็ดกาแฟที่ใช้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วย)



ของผมเป็น piccolo คือแบบใส่นมน้อย เบลอๆข้างหลังเป็นกาแฟเย็นของน้องอีกคน กาแฟเย็นร้านนี้ไม่ใส่น้ำแข็ง ชอบจัง วันหลังจะสั่งบ้าง



ข้างๆร้านRoots มีร้านขนมเข้าของเดียวกัน ชื่อ Rise น้องคนที่สั่งกาแฟเย็นเดินไปดู+ซื้อขนมเข้ามากินชิ้นนึง  คิดว่าน่าจะเป็น White chocolate Amaretto tart





ต่อกันที่ร้านถัดมาเป็นอีกร้านที่คั่วกาแฟเอง อยู่ในซอยเอกมัย 12 ชื่อว่า One Ounce For Onion



โดยร้านนี้ก็เป็นของคนดังอีกคนในวงการกาแฟ คุณเตเต เจ้าของแบรนด์เมล็ดกาแฟ Brave Roaster นั่นเอง ในร้านOne Ounce For Onion นี่มีห้องคั่วกาแฟของคุณเตเตตั้งอยู่ด้วยครับ



ตอนที่มาผมร้านนี้ครั้งแรกเจอคุณเตเตออกมาชงกาแฟให้เองเลย อร่อยมากกก วันนั้นผมสั่งลาเต้ ตั้งแต่นั้นมาแวะไปกินอีก2-3ครั้ง ยังไม่เคยเจอคุณเตเตชงกาแฟอีกเลย(ส่วนใหญ่อยู่ในร้านแต่คั่วกาแฟอยู่บ้าง ทำอย่างอื่นอยู่บ้าง)



รูปนี้ถ่ายอีกวันที่ไปกับเพื่อนครับ (ใช้iPhoneถ่าย) โต๊ะตัวนี้อยู่หน้าห้องคั่วกาแฟพอดีเลย


มาถึงร้านที่3 อยู่ในซอยเอกมัย12เช่นกัน ร้าน Nikko Café ครับ
พอดีวันที่ไปร้านนี้ไม่ได้เอากล้องไปด้วย ใช้ iPhone ถ่ายล้วนๆ ภาพหน้าร้านครับ ตัวร้านออกแบบสวยดี




อันนี้เป็นเคาท์เตอร์รับออเดอร์ ร้านตกแต่งแบบวัสดุเปลือย อย่างพวกไม้ หิน เชือก ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนทางร้านก็ออกแบบมาให้ลูกค้านั่งนานๆด้วยครับ ทุกโต๊ะมีปลั๊กไฟให้หมดเลย แถมมี wifi ฟรีอีกต่างหาก  




ถ้วยนี้เป็นของดังของร้าน Nikko Chocolate อร่อยดีครับ หวานน้อยได้รสช็อกโกแลต มีมาร์ชเมลโลโรยหน้ามาด้วย



ของเพื่อนสั่งชาไทยเย็น  ไม่ได้ชิม




Nikko Matcha Pudding 165บาท พุดดิ้งชาเชียวโปะถั่วแดงหวานราดครีม ผมว่าครีมเยอะไปหน่อยนะ





มาต่อกันที่ร้านบ้านอิฐหลังเล็กนี้ ร้าน UN Fashion Café อยู่ปากซอยเอกมัย10 ร้านเล็กกระทักรัดมาก ขนาดพอๆกับโบกี้รถไฟได้มั้ง



Display หน้าร้านน่ารักมาก อย่างกับไม่ใช่เมืองไทย เขียนเมนูกันบนกระจกเลยทีเดียว



วันนั้นนั่ง outdoor เพราะในร้านคนเต็ม แก้วนี้ Hot Cappuccino รสกาแฟเข้มข้นดี ชอบมากครับ





อันนี้เป็นรูปของที่ไปอีกวัน ไม่ได้เอากล้องไป ใช้ iPhone ถ่ายเช่นกัน
ชาเชียวของผม มีขนมชิ้นเล็กๆแถมมาด้วย



กาแฟเย็นของเพื่อน ชิมไปนิดนึงแก้วนี้รสกาแฟก็เข้มดีนะ




มาถึงร้านสุดท้าย Ink & Lion เอกมัยซอย 2 ร้านออกไปทางเรียบๆและโล่ง สบายตาไปอีกแบบ



ขนมร้านนี้รับมาจาก café อีกร้านที่ผมชอบคือ Size S ในซอยงามดูพลี ทุกอย่างจะจิ๋วๆตามชื่อร้านเขา เหมาะสำหรับคนที่ไปนั่งอ่านจิบกาแฟคนเดียว เพราะชิ้นเล็กๆกินได้หลายอย่าง

ชีสเค้กเนื้อฉ่ำ หวานน้อย อร่อย ส่วน macaron เป็นรสส้มกับลาเวนเดอร์ครับ


กาแฟแบบใส่นมเลือกได้ว่าจะเอานมกี่ออนซ์ มี 3Oz / 5Oz / 7Oz (ผมเข้าใจเอาเองว่ามันคือ macchiato / piccolo /  latte ตามลำดับ) ผมเลือกแบบ 5Oz



จิบกาแฟกินขนมยามบ่าย เป็นอันจบรีวิวสั้นๆฉบับนี้ครับ