สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
สำหรับผม จุดพีคสุดของ SNSD ถ้าในเกาหลีจะอยู่ช่วง Oh! ช่วงนั้นแบบว่าอะไรๆ ก็พีคไปหมด เพลงก็ติดอันดับ (แม้ตอนนั้นจะมีคนบ่นเรื่องเพลง Oh! กันเยอะก็ตาม) ยอดขายอัลบั้มก็พุ่ง สมาชิกแต่ละคนก็มีงานเดี่ยวกัน รายได้จากโฆษณาก็เยอะ ภาพลักษณ์ก็ดี ทุกๆ อย่างมันส่งเสริมกันหมด ช่วงหลังจากนั้นคือแม้จะไม่พีคแล้วแต่ก็ติดลมบนแล้วละ
ส่วนตลาดต่างประเทศ จุดพีคสุดน่าจะอยู่ช่วง The Boys เพราะตอนนั้นในญี่ปุ่นก็กำลังไปได้สวย (เพิ่งออกอัลบั้มแรก และมีซิงเกิล Mr.Taxi ที่ดังสุดๆ) เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ซึ่งไปหลายประเทศกว่าเดิม เริ่มเปิดตลาดในยุโรปและอเมริกาแม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ได้แฟนใหม่ๆ มาเยอะ ส่วนตลาดเอเชียไม่ต้องพูดถึง ช่วงนั้นแบบเหนียวแน่นสุดๆ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้แม้จะเลยจุดพีคมาแล้ว แต่ SNSD ยังคงรักษาระดับไว้ที่บนๆ ได้อย่างต่อเนื่องก็คือตัวสมาชิกเอง คือนอกจากเสน่ห์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคนเองแล้ว ความเป็นทีมเวิร์คคือปัจจัยความสำเร็จอย่างหนึ่งของ SNSD เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่วงที่มีสมาชิกถึง 9 คนจะยังคงรักษาสมาชิกดั้งเดิมทั้ง 9 คนได้อย่างครบถ้วน ไม่มีเปลี่ยนสมาชิก ไม่มีดราม่าภายในวง (ถึงมีก็ไม่บอกให้ภายนอกรู้) จุดนี้แหละทำให้ยิ่งเวลาผ่านไป ความเหนียวแน่นของแฟนคลับกลับยิ่งเพิ่มขึ้นอีกไม่ลดลงไปเลย
อีกอย่างผมรู้สึกว่า SNSD เป็นวงที่รู้จักจังหวะของตัวเอง รู้จักการวางตัว รู้จักปรับปรุงตัวเอง ทำให้หลังจากที่มีกรณีให้โดนแอนตี้หนักในช่วงปีแรก หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวเสียหายเกี่ยวกับตัววงเลย ตัวสมาชิกเองก็รู้ลิมิต รู้ระดับของตัวเองว่าควรจะปล่อยแค่ไหน ช่วง 2-3 ปีแรกก็ยังเป็นไอดอลใสๆ ทั่วๆ ไป ช่วงปีที่ 4-5 เริ่มกล้าแสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น เริ่มกล้าบอกว่าชั้นก็เคยดูหนังโป๊ จิบโซจู เที่ยวผับบ้างนะ เนื้อหาเพลงก็โตขึ้นจากผู้หญิงแอบรักผู้ชาย กลายเป็นผู้หญิงแบบไม่แคร์ผู้ชาย (ตรงนี้เพลง Run Devil Run คือจุดเปลี่ยนสำคัญ) พอช่วงปีที่ 6 สมาชิกหลายคนถึงค่อยเริ่มเล่น Social Network แสดงความติสท์เฉพาะตัวออกมามากขึ้น เนื้อเพลงช่วงหลังนี่ก็แนวผู้หญิงมั่นใจหรือเชิดชูผู้หญิงสุดๆ สไตล์ของวงก็ปรับจากน่ารักๆ มาเป็นแบบแนวเท่ๆ แล้วช่วงปีที่ 7 สมาชิกบางคนถึงค่อยเปิดเผยเรื่องแฟน (ต้องเรียกว่าโดนสำนักข่าวเปิดมากกว่า) ซึ่งแทนที่จะมีดราม่ากลับมีแต่คนยินดี เพราะที่ผ่านมา SNSD เป็นวงที่เติบโตแบบเป็นขั้นเป็นตอน กลุ่มแฟนคลับเองก็เติบโตไปพร้อมๆ กับตัววงด้วย ลองคิดดูถ้าสมาชิก SNSD เล่น Social Network ตั้งแต่ช่วง 2-3 ปี แรก หรือเปิดตัวแฟนตั้งแต่ตอนปีที่ 3 กระแสวงอาจไม่อยู่ยาวมาจนถึงขนาดนี้ก็ได้
ส่วนตลาดต่างประเทศ จุดพีคสุดน่าจะอยู่ช่วง The Boys เพราะตอนนั้นในญี่ปุ่นก็กำลังไปได้สวย (เพิ่งออกอัลบั้มแรก และมีซิงเกิล Mr.Taxi ที่ดังสุดๆ) เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ซึ่งไปหลายประเทศกว่าเดิม เริ่มเปิดตลาดในยุโรปและอเมริกาแม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ได้แฟนใหม่ๆ มาเยอะ ส่วนตลาดเอเชียไม่ต้องพูดถึง ช่วงนั้นแบบเหนียวแน่นสุดๆ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้แม้จะเลยจุดพีคมาแล้ว แต่ SNSD ยังคงรักษาระดับไว้ที่บนๆ ได้อย่างต่อเนื่องก็คือตัวสมาชิกเอง คือนอกจากเสน่ห์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคนเองแล้ว ความเป็นทีมเวิร์คคือปัจจัยความสำเร็จอย่างหนึ่งของ SNSD เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่วงที่มีสมาชิกถึง 9 คนจะยังคงรักษาสมาชิกดั้งเดิมทั้ง 9 คนได้อย่างครบถ้วน ไม่มีเปลี่ยนสมาชิก ไม่มีดราม่าภายในวง (ถึงมีก็ไม่บอกให้ภายนอกรู้) จุดนี้แหละทำให้ยิ่งเวลาผ่านไป ความเหนียวแน่นของแฟนคลับกลับยิ่งเพิ่มขึ้นอีกไม่ลดลงไปเลย
อีกอย่างผมรู้สึกว่า SNSD เป็นวงที่รู้จักจังหวะของตัวเอง รู้จักการวางตัว รู้จักปรับปรุงตัวเอง ทำให้หลังจากที่มีกรณีให้โดนแอนตี้หนักในช่วงปีแรก หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวเสียหายเกี่ยวกับตัววงเลย ตัวสมาชิกเองก็รู้ลิมิต รู้ระดับของตัวเองว่าควรจะปล่อยแค่ไหน ช่วง 2-3 ปีแรกก็ยังเป็นไอดอลใสๆ ทั่วๆ ไป ช่วงปีที่ 4-5 เริ่มกล้าแสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น เริ่มกล้าบอกว่าชั้นก็เคยดูหนังโป๊ จิบโซจู เที่ยวผับบ้างนะ เนื้อหาเพลงก็โตขึ้นจากผู้หญิงแอบรักผู้ชาย กลายเป็นผู้หญิงแบบไม่แคร์ผู้ชาย (ตรงนี้เพลง Run Devil Run คือจุดเปลี่ยนสำคัญ) พอช่วงปีที่ 6 สมาชิกหลายคนถึงค่อยเริ่มเล่น Social Network แสดงความติสท์เฉพาะตัวออกมามากขึ้น เนื้อเพลงช่วงหลังนี่ก็แนวผู้หญิงมั่นใจหรือเชิดชูผู้หญิงสุดๆ สไตล์ของวงก็ปรับจากน่ารักๆ มาเป็นแบบแนวเท่ๆ แล้วช่วงปีที่ 7 สมาชิกบางคนถึงค่อยเปิดเผยเรื่องแฟน (ต้องเรียกว่าโดนสำนักข่าวเปิดมากกว่า) ซึ่งแทนที่จะมีดราม่ากลับมีแต่คนยินดี เพราะที่ผ่านมา SNSD เป็นวงที่เติบโตแบบเป็นขั้นเป็นตอน กลุ่มแฟนคลับเองก็เติบโตไปพร้อมๆ กับตัววงด้วย ลองคิดดูถ้าสมาชิก SNSD เล่น Social Network ตั้งแต่ช่วง 2-3 ปี แรก หรือเปิดตัวแฟนตั้งแต่ตอนปีที่ 3 กระแสวงอาจไม่อยู่ยาวมาจนถึงขนาดนี้ก็ได้
ความคิดเห็นที่ 12
2009
ออกเพลง Gee สร้างความนิยมทั่วประเทศระดับ Mega-Hit เริ่มโกยฐานแฟนคลับใหม่ๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก แอนตี้ที่เคยแรงๆ โดนกลบกระแสจากแฟนคลับทั้งเก่าและใหม่ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉายาเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ เริ่มได้มาในช่วงนี้ ไม่ทราบแน่นอนว่า สื่อใดเริ่มเรียกก่อน เท่าที่จำได้ ในรายการ Deep Talk with Park Jong Hoon (090308) พิธีกรได้กล่าวถึงกระแสของสาวๆ ว่าได้รับความนิยมระดับชาติ
ในปีเดียวกันได้ออก Genie มาอีกเพลง ซึ่งเปลี่ยน look จาก Gee ไปโดยสิ้นเชิง ช่วงนั้นแฟนคลับโวยกันว่า เซ็กซี่เกินไปแล้ว (มองย้อนไปตอนนี้ ก็ไม่เท่าไรเลยนะ) ตอนเพลงออกมาชนกับ I don't care ของ 2NE1 ทำให้รางวัลรายการเพลงไม่ได้เยอะเหมือน Gee โดยเฉพาะ Music Bank ได้มาเพียงครั้งเดียว ทำให้ดูเหมือนว่า กระแส drop แต่ในความเป็นจริงแล้ว Genie ถือว่าเป็นเพลงที่มียอด download สูงอันดับต้นๆ ของปีเช่นกัน เพียงแต่เป็นรอง I don't care แม้รางวัลรายการเพลงจะน้อยไปหน่อย แต่ประโยชน์ที่ทรงคุณค่ามากสำหรับเพลง Tell me your wish หรือ Genie ก็คือ การดึงดูดฐานแฟนคลับใหม่มาได้อีกจำนวนมากๆ เพราะบางคนที่ไม่ชอบแนวน่ารักแบ๊วๆ จะไม่ชอบ Gee พอมาเพลง Genie ซึ่งดูเผินๆเหมือนจะเซ็กซี่ แต่จริงๆแล้วมันออกแนวเท่ๆ เก๋ๆ ทำให้คนที่เคยไม่ชอบแนวแบ๊วๆ หันมามองพวกเธอใหม่ และกลายมาเป็นแฟนคลับอีกจำนวนมาก
ปลายปี 2009 สาวๆ ได้รางวัลใหญ่ คือ แดซัง ดิจิตอล จาก Golden Disk Awards และแดซังจาก Seoul Music Awards (แจกต้นปี 2010) แสดงถึงความสำเร็จอย่างสูง และที่สำคัญได้จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นครั้งแรก
(อ่านประกอบ The Legend of So Nyeo Shi Dae: 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จากเด็กฝึกเลหลัง SM สู่ Solo Concert [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
2010
ออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 เพลง Oh! พลิกกลับมาแบ๊วอีกรอบ หลังจากเท่ๆ มาแล้ว กลับมากวาดรางวัลรายการเพลงอีกครั้ง Music Bank ได้มา 5 ครั้งรวด Inkigayo ได้ Triple Crown หลังจากนั้นมี Repackage “Run Devil Run” กลับมาเท่อีก ทำให้แฟนคลับได้เห็นว่า พวกเธอพลิกบุคลิกได้หลายแบบ โดยที่ดูไม่ขัดตา และกลับไปกลับมาได้อีกต่างหาก ปลายปีออก Mini Album Hoot มาอีกรอบ เพื่อรักษากระแส และในปีนี้เอง ก็ได้รางวัลใหญ่ที่สุดในชีวิต คือ Disk Daesang จาก GDA ซึ่งเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกและวงเดียว ที่เคยได้รับรางวัลนี้ พร้อมกันนี้ก็ได้แดซังจาก Seoul Music Awards เป็นปีที่สองติดต่อกัน ถือเป็นวงแรกสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รางวัลนี้สองปีติดต่อกัน
สรุปว่า ช่วงปี 2009 – 2010 เป็นช่วงสั่งสมความนิยมและสร้างฐานแฟนคลับจนมั่นคง และในปีนี้พวกเธอก็ได้เป็น ผู้มีชื่อเสียงที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของเกาหลี จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes Korea (ประกาศผลต้นปี 2011) การจัดอันดับนี้ ไม่ได้มีแค่นักร้อง หากแต่มีทั้งดารา พิธีกร นักกีฬา และเช่นเคย ไม่เคยมีนักร้องไอดอลได้อันดับ 1 มาก่อนเลย ปีก่อนหน้าสองปีซ้อนอันดับ 1 คือ คิมยอนอา นักสเก๊ตน้ำแข็งเหรียญทองโอลิมปิก ใครๆ ที่เคยว่า นักร้องไม่มีทางดังมากกว่า ดารา พิธีกร นักกีฬา โซนยอชิ-็สามารถแหกด่านที่ว่าหินๆ มาได้ทุกอย่าง
2011
ทำตลาดที่ญี่ปุ่นอย่างจริงจัง จนสร้างฐานแฟนคลับได้จำนวนมาก ขายอัลบั้มเต็มได้ถึงล้านแผ่น มีคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นถึง 14 รอบ ในขณะที่ในเกาหลี ไม่มีการออก Mini Album นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยออกอัลบั้มเต็ม The Boys มาเพียงอัลบั้มเดียว ปีนี้ถือว่าเป็นปีสร้างชื่อในญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนความนิยมกลับไปในเกาหลีว่า พวกเธอมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ทำให้ถึงแม้ว่าในเกาหลีกิจกรรมจะลดน้อยลงไป แต่ชื่อเสียงและความนิยมยังไม่หายไปไหน และปีนี้พวกเธอก็ ยังได้ เป็นผู้มีชื่อเสียงที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของเกาหลีอีกครั้ง เรียกได้ว่า สามปีนับตั้งแต่ปี 2009 ความนิยมปักฐานแน่นหนามาก ปีนี้พวกเธอยังได้เป็นทูตกิตติมศักดิ์ในแคมเปญปีการท่องเที่ยวเกาหลี เป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ภริยา ประธานาธิบดีเกาหลี เปิดทำเนียบ Blue House ต้อนรับ
2012 – ถึงปัจจุบัน
หลักจากปี 2012 ถือได้ว่าเป็นช่วงเลี้ยงกระแส ไม่มีการออกอัลบั้มถี่ๆ เหมือนสมัยก่อน 2012 ถือว่าพักด้วยซ้ำไป เพราะมีออกเพียง unit ย่อย แททิซอ มาออกอัลบั้มเต็มของวงอีกทีก็ปี 2013 I got a boy รายการวาไรตี้ต่างๆ ก็แทบไม่ได้ไปออกแล้ว อาชีพหลักช่วงนี้คือ การทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ กระแสความร้อนแรง ก็ลดลงไปบ้าง แต่ด้วยความที่ฐานแข็งแกร่ง ทำให้ความนิยมยังคงอยู่ต่อเนื่อง
อาจสังเกตได้ว่า ช่วงแรกที่เดบิวท์ แฟนบอยของโซชิในเกาหลีจะเยอะมาก แต่เมื่อเวลาผ่านๆ พวกเธอมีแฟนเกิร์ลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้แม้แต่ในเกาหลี ได้ยินเชียร์ของผู้หญิงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากตัวเพลงที่เริ่มมาแนวๆ ปาน ธนพรแล้ว เมื่อสาวๆ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้ผู้หญิงเองมองพวกเธอเป็นไอดอลของตนเองมากขึ้น ซึ่งถ้าในไทยและญี่ปุ่น คงไม่ต้องพูดถึง แฟนคลับผู้หญิงเยอะอยู่แล้ว แต่ในเกาหลีถือได้ว่าเป็นพัฒนาการและเป็นสิ่งที่ทำให้ฐานแฟนคลับคงตัว ถึงแม้จะมีแฟนบอย แฟนคลับรุ่นลุง หรือแฟนคลับในกรม ออกไปชอบเด็กใหม่ๆมากขึ้น แต่เมื่อถูกเติมด้วยฐานแฟนคลับหญิง ทำให้จำนวนแฟนคลับไม่ได้ลดถอยไปมากนัก
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้โซนยอชิแดคงความนิยมได้ยาวนาน คือ การที่สามารถรักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้ได้อย่างยาวนาน ซึ่งปัจจัยสำคัญคือ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในวงไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาดราม่ากันเองในวง ซึ่งนี่เป็นจุดเปราะบางที่สุดสำหรับเกิร์ลกรุ๊ป มีปัญหาเมื่อไร เรียกได้ว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์กันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ต้องชื่นชมความมีวินัยของสาวๆ สาเหตุของดราม่า บ่อยครั้งมาจาก Social Network ในช่วงแรกๆ สาวๆ จึงตกลงกันว่า จะไม่เล่น social network อย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ก็จะอยู่กันแต่ในวง กว่าจะออกมาให้คนนอกได้รับรู้กัน มันก็กลายเป็นเรื่องฮาๆ ไปแล้ว ถ้าทะเลาะกันผ่าน social ท้ายที่สุด มันจะลากผู้ไม่เกี่ยวข้องมาดราม่าด้วยจนเป็นเรื่องใหญ่ จนเมื่อพวกเธอฐานแน่นสุดๆ เป็นผู้ใหญ่กันเต็มที่ ถึงได้เพิ่งเริ่มปลดปล่อย โดยการมี social network เป็นของตนเองเมื่อปีที่แล้วนี่เอง นำโดยแทยอน IG
มาถึงวันนี้ต้องเรียกได้ว่าฐานแน่นขนาดที่ว่า ถึงจะมีแฟน แฟนคลับก็ยังไม่ไปไหน ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งสำคัญอีกเหมือนกันที่จะทำให้พวกเธออยู่ได้อีกยาวๆ เพราะสาวๆ จะไม่ต้องมาแอบคิดว่า อยากออกจากวงเพื่อจะได้มีแฟนได้ มีชีวิตอิสระได้ ถือเป็นการปลดล็อกอีกชั้นหนึ่งที่จะทำให้สามารถทำงานได้อย่างสบายใจไปอีกนานๆ
ออกเพลง Gee สร้างความนิยมทั่วประเทศระดับ Mega-Hit เริ่มโกยฐานแฟนคลับใหม่ๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก แอนตี้ที่เคยแรงๆ โดนกลบกระแสจากแฟนคลับทั้งเก่าและใหม่ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉายาเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ เริ่มได้มาในช่วงนี้ ไม่ทราบแน่นอนว่า สื่อใดเริ่มเรียกก่อน เท่าที่จำได้ ในรายการ Deep Talk with Park Jong Hoon (090308) พิธีกรได้กล่าวถึงกระแสของสาวๆ ว่าได้รับความนิยมระดับชาติ
ในปีเดียวกันได้ออก Genie มาอีกเพลง ซึ่งเปลี่ยน look จาก Gee ไปโดยสิ้นเชิง ช่วงนั้นแฟนคลับโวยกันว่า เซ็กซี่เกินไปแล้ว (มองย้อนไปตอนนี้ ก็ไม่เท่าไรเลยนะ) ตอนเพลงออกมาชนกับ I don't care ของ 2NE1 ทำให้รางวัลรายการเพลงไม่ได้เยอะเหมือน Gee โดยเฉพาะ Music Bank ได้มาเพียงครั้งเดียว ทำให้ดูเหมือนว่า กระแส drop แต่ในความเป็นจริงแล้ว Genie ถือว่าเป็นเพลงที่มียอด download สูงอันดับต้นๆ ของปีเช่นกัน เพียงแต่เป็นรอง I don't care แม้รางวัลรายการเพลงจะน้อยไปหน่อย แต่ประโยชน์ที่ทรงคุณค่ามากสำหรับเพลง Tell me your wish หรือ Genie ก็คือ การดึงดูดฐานแฟนคลับใหม่มาได้อีกจำนวนมากๆ เพราะบางคนที่ไม่ชอบแนวน่ารักแบ๊วๆ จะไม่ชอบ Gee พอมาเพลง Genie ซึ่งดูเผินๆเหมือนจะเซ็กซี่ แต่จริงๆแล้วมันออกแนวเท่ๆ เก๋ๆ ทำให้คนที่เคยไม่ชอบแนวแบ๊วๆ หันมามองพวกเธอใหม่ และกลายมาเป็นแฟนคลับอีกจำนวนมาก
ปลายปี 2009 สาวๆ ได้รางวัลใหญ่ คือ แดซัง ดิจิตอล จาก Golden Disk Awards และแดซังจาก Seoul Music Awards (แจกต้นปี 2010) แสดงถึงความสำเร็จอย่างสูง และที่สำคัญได้จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นครั้งแรก
(อ่านประกอบ The Legend of So Nyeo Shi Dae: 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จากเด็กฝึกเลหลัง SM สู่ Solo Concert [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
2010
ออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 เพลง Oh! พลิกกลับมาแบ๊วอีกรอบ หลังจากเท่ๆ มาแล้ว กลับมากวาดรางวัลรายการเพลงอีกครั้ง Music Bank ได้มา 5 ครั้งรวด Inkigayo ได้ Triple Crown หลังจากนั้นมี Repackage “Run Devil Run” กลับมาเท่อีก ทำให้แฟนคลับได้เห็นว่า พวกเธอพลิกบุคลิกได้หลายแบบ โดยที่ดูไม่ขัดตา และกลับไปกลับมาได้อีกต่างหาก ปลายปีออก Mini Album Hoot มาอีกรอบ เพื่อรักษากระแส และในปีนี้เอง ก็ได้รางวัลใหญ่ที่สุดในชีวิต คือ Disk Daesang จาก GDA ซึ่งเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกและวงเดียว ที่เคยได้รับรางวัลนี้ พร้อมกันนี้ก็ได้แดซังจาก Seoul Music Awards เป็นปีที่สองติดต่อกัน ถือเป็นวงแรกสำหรับเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รางวัลนี้สองปีติดต่อกัน
สรุปว่า ช่วงปี 2009 – 2010 เป็นช่วงสั่งสมความนิยมและสร้างฐานแฟนคลับจนมั่นคง และในปีนี้พวกเธอก็ได้เป็น ผู้มีชื่อเสียงที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของเกาหลี จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes Korea (ประกาศผลต้นปี 2011) การจัดอันดับนี้ ไม่ได้มีแค่นักร้อง หากแต่มีทั้งดารา พิธีกร นักกีฬา และเช่นเคย ไม่เคยมีนักร้องไอดอลได้อันดับ 1 มาก่อนเลย ปีก่อนหน้าสองปีซ้อนอันดับ 1 คือ คิมยอนอา นักสเก๊ตน้ำแข็งเหรียญทองโอลิมปิก ใครๆ ที่เคยว่า นักร้องไม่มีทางดังมากกว่า ดารา พิธีกร นักกีฬา โซนยอชิ-็สามารถแหกด่านที่ว่าหินๆ มาได้ทุกอย่าง
2011
ทำตลาดที่ญี่ปุ่นอย่างจริงจัง จนสร้างฐานแฟนคลับได้จำนวนมาก ขายอัลบั้มเต็มได้ถึงล้านแผ่น มีคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นถึง 14 รอบ ในขณะที่ในเกาหลี ไม่มีการออก Mini Album นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยออกอัลบั้มเต็ม The Boys มาเพียงอัลบั้มเดียว ปีนี้ถือว่าเป็นปีสร้างชื่อในญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนความนิยมกลับไปในเกาหลีว่า พวกเธอมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ทำให้ถึงแม้ว่าในเกาหลีกิจกรรมจะลดน้อยลงไป แต่ชื่อเสียงและความนิยมยังไม่หายไปไหน และปีนี้พวกเธอก็ ยังได้ เป็นผู้มีชื่อเสียงที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ของเกาหลีอีกครั้ง เรียกได้ว่า สามปีนับตั้งแต่ปี 2009 ความนิยมปักฐานแน่นหนามาก ปีนี้พวกเธอยังได้เป็นทูตกิตติมศักดิ์ในแคมเปญปีการท่องเที่ยวเกาหลี เป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ภริยา ประธานาธิบดีเกาหลี เปิดทำเนียบ Blue House ต้อนรับ
2012 – ถึงปัจจุบัน
หลักจากปี 2012 ถือได้ว่าเป็นช่วงเลี้ยงกระแส ไม่มีการออกอัลบั้มถี่ๆ เหมือนสมัยก่อน 2012 ถือว่าพักด้วยซ้ำไป เพราะมีออกเพียง unit ย่อย แททิซอ มาออกอัลบั้มเต็มของวงอีกทีก็ปี 2013 I got a boy รายการวาไรตี้ต่างๆ ก็แทบไม่ได้ไปออกแล้ว อาชีพหลักช่วงนี้คือ การทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ กระแสความร้อนแรง ก็ลดลงไปบ้าง แต่ด้วยความที่ฐานแข็งแกร่ง ทำให้ความนิยมยังคงอยู่ต่อเนื่อง
อาจสังเกตได้ว่า ช่วงแรกที่เดบิวท์ แฟนบอยของโซชิในเกาหลีจะเยอะมาก แต่เมื่อเวลาผ่านๆ พวกเธอมีแฟนเกิร์ลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้แม้แต่ในเกาหลี ได้ยินเชียร์ของผู้หญิงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากตัวเพลงที่เริ่มมาแนวๆ ปาน ธนพรแล้ว เมื่อสาวๆ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้ผู้หญิงเองมองพวกเธอเป็นไอดอลของตนเองมากขึ้น ซึ่งถ้าในไทยและญี่ปุ่น คงไม่ต้องพูดถึง แฟนคลับผู้หญิงเยอะอยู่แล้ว แต่ในเกาหลีถือได้ว่าเป็นพัฒนาการและเป็นสิ่งที่ทำให้ฐานแฟนคลับคงตัว ถึงแม้จะมีแฟนบอย แฟนคลับรุ่นลุง หรือแฟนคลับในกรม ออกไปชอบเด็กใหม่ๆมากขึ้น แต่เมื่อถูกเติมด้วยฐานแฟนคลับหญิง ทำให้จำนวนแฟนคลับไม่ได้ลดถอยไปมากนัก
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้โซนยอชิแดคงความนิยมได้ยาวนาน คือ การที่สามารถรักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้ได้อย่างยาวนาน ซึ่งปัจจัยสำคัญคือ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในวงไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาดราม่ากันเองในวง ซึ่งนี่เป็นจุดเปราะบางที่สุดสำหรับเกิร์ลกรุ๊ป มีปัญหาเมื่อไร เรียกได้ว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์กันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ต้องชื่นชมความมีวินัยของสาวๆ สาเหตุของดราม่า บ่อยครั้งมาจาก Social Network ในช่วงแรกๆ สาวๆ จึงตกลงกันว่า จะไม่เล่น social network อย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะเวลามีเรื่องทะเลาะกัน ก็จะอยู่กันแต่ในวง กว่าจะออกมาให้คนนอกได้รับรู้กัน มันก็กลายเป็นเรื่องฮาๆ ไปแล้ว ถ้าทะเลาะกันผ่าน social ท้ายที่สุด มันจะลากผู้ไม่เกี่ยวข้องมาดราม่าด้วยจนเป็นเรื่องใหญ่ จนเมื่อพวกเธอฐานแน่นสุดๆ เป็นผู้ใหญ่กันเต็มที่ ถึงได้เพิ่งเริ่มปลดปล่อย โดยการมี social network เป็นของตนเองเมื่อปีที่แล้วนี่เอง นำโดยแทยอน IG
มาถึงวันนี้ต้องเรียกได้ว่าฐานแน่นขนาดที่ว่า ถึงจะมีแฟน แฟนคลับก็ยังไม่ไปไหน ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งสำคัญอีกเหมือนกันที่จะทำให้พวกเธออยู่ได้อีกยาวๆ เพราะสาวๆ จะไม่ต้องมาแอบคิดว่า อยากออกจากวงเพื่อจะได้มีแฟนได้ มีชีวิตอิสระได้ ถือเป็นการปลดล็อกอีกชั้นหนึ่งที่จะทำให้สามารถทำงานได้อย่างสบายใจไปอีกนานๆ
ความคิดเห็นที่ 18
Girls'Generation
มีจุดเด่นที่คิดว่าเหนือกว่าเกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นดังนี้
๑. ความแตกต่างด้านอายุ ทั้งๆที่มีสมาชิกถึงเก้าคน แต่ความเหลื่อมล้ำน้อยมาก
๑.๑ แทยอน เจสสิก้า ซันนี่ ทิฟฟานี่ ยูริ ฮโยยอน หกคนที่เกิดปี 1989 ไลน์89 ด้วยความที่อาุยุเท่ากันจึงมีความสนิทสนมที่แทบจะไม่ต้องปรับอะไรเลย
๑.๒ ซูยอง เกิดปี1990 แต่ชั้นเรียนเดียวกับไลน์89 เป็นน้องที่เล่นกับพี่ไลน์89 อย่างกับว่าอายุเท่ากัน
๑.๓ ยุนอา และซอฮยอน เกิดปี 1990 และ 1991 ตามลำดับ อายุห่างกันหนึ่งปีแต่ทั้งสองเรียนโรงเรียนเดียวกัน มีความสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ
๒. การที่เป็นเด็กฝึกร่วมชายคามาเป็นระยะเวลานาน
๒.๑ เจสสิก้า ฮโยยอน ยูริ ซูยอง ยุนอา ซอฮยอน เป็นสมาชิกแรกๆของโปรเจค ซุปเปอร์เกิร์ล กลุ่มนี้ฝึกกันมาไม่ต่ำกว่า 6 ปี ซึ่งถือว่านานมาก (สามารถเรียนจนจบชั้นประถมได้นะ ตั้ง6 ปี)
๒.๒ แทยอน ทิฟฟานี่ เป็นเด็กฝึกประมาณ 3 ปี
๒.๓ ซันนี่เข้าวงเป็นคนสุดท้าย แต่นางก็เกิดปีเดียวกับพวกไลน์ 89 ดังนั้นต่อให้ฝึกในชายคา SM Ent. ไม่นานเท่าคนอื่นก็น่าจะซี้ได้ในระยะเวลาไม่นาน
๒.๔ กฎของSM ที่สมาชิกทุกนางต้องอยู่หอด้วยกัน และอยู่ห้องเดียวกันด้วย (เป็นห้องชุดและซอยๆออกเป็นห้องของแต่ละคู่)
๓.ผ่านเรื่องราวร้ายๆ เหตุการณ์ร้ายๆมาด้วยกัน ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ไม่น่าจะมีวงใดที่มีแอนตี้อย่างเป็นทางการ ไม่น่าจะมีวงไหนที่โดนแบล็โอเชี่ยน โดนขึ้นจอด่ากลางคอนเสิร์ต แต่สาวๆก็ผ่านเวลาที่เลวร้ายมาด้วยกัน (เหมือนถูกสวรรค์ทดสอบยังไงไม่รู้)
๔.การที่สมาชิกในวงไม่มีดราม่า ขนาดที่ว่าต้องพ้นสภาพการเป็นสมาชิก มีแค่ก่อนที่จะเดบิวต์อย่างจริงจัง เปลี่ยนแปลงปรับปรุงจนได้เก้าคนที่อาจจะไม่ใช่คนที่เสียงดีที่สุด สวยที่สุด แต่เป็นเก้าคนที่ลงตัวที่สุด
๕.ทุกๆวันก่อนนอนจะมีการเจียดเวลาเพื่อสนทนาเปิดใจกัน
๖.สมาชิกแต่ละคนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ช่วงแรกๆยุนอา ถูกโปรโมทให้เป็นหน้าตาของวง แต่หลังๆแล้ว อิมเมจคนนี้ก็ได้เป็นแค่อิมเมจในเพียงนามเฉยๆ โดยสมาชิกอย่าง ฮโยยอน ซูยอง ซันนี่ สามารถมีแฟนคลับส่วนตัวที่เยอะพอๆกับ สมาชิกท็อปลิสต์อย่าง ยุนอา แทยอน ทิฟฟานี่ เจสสิก้า เป็นต้นว่า ยุนอา แทยอน มีฐานเสียงที่เกาหลี ทิฟฟานี่ ยูริ มีฐานเสียงที่ไทย เจสสิก้า ที่จีน ซูยอง ที่ญี่ปุ่น ฮโยยอน ซันนี่ ที่ยุโรปและอเมริกา ซอฮยอนก็กระจายๆกันและแฟนคลับของพี่ๆในวงต่างเอ็นดูน้องทั้งนั้น
๗.ความสามารถที่แท้จริงของสมาชิก คือ ถ้าเดบิวต์แทยอน เจสสิก้า ทิฟฟานี่ ซันนี่ ซอฮยอน ก็จะเป็นโปรเจคขายเสียงอลังการงานสร้าง
ถ้าเดบิวต์ ยุนอา ยูริ ซูยอง ฮโยยอน ก็เป็นโปรเจคที่เต้นสวย เต้นเก่ง เมื่อทั้งสองความโดดเด่นมารวมกันก็....เพอร์เฟ็ค....
ป.ล.โซนยอชิแดเป็นวงที่มีการร้องประสานเสียงกันเพราะสุดๆในบรรดาเกิร์ลกรุ๊ปทั้งหลาย
๘.แนวเพลงที่พลิกแพลงตลอดเวลา ยากต่อการคาดเดา สามารถใส่กางเกงสีลูกกวาดร้องฮุคซอง จี จี จี แล้วกลับลำเป็นชุดทหารเรือร้องเพลงเนื้อไหลไปเรื่อยๆได้ หรือจากเต้นITNW ยังกับแอโรบิคแล้วกลับมาในKissing You ถืออมยิ้มแบ๊วๆ ร้องเพลงOh! อ้อนพี่ชาย กลับมาแรงกับRDR
แนวเรโทรอย่าง Hoot ก็ดูไม่ขัดตา เพลงของโซชิจะมีแร็ปหรือไม่แร็ปก็ยังต้องลุ้นกันเลย ฉีกกฎK-POP อยู่พอสมควรที่ไม่มีแร็ปเปอร์ไว้สำแดงพลัง
๙.รายการวาไรตี้ ออกของตัวเองก็ฮา ออกของคนอื่นก็รู้จักวิธีที่จะทำให้ตัวเองเด่นขึ้นมาได้
๑๐.ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง SM รุ่นพี่เทพๆอย่างดงบังชินกิ ซุปเปอร์จูเนียร์ ได้ช่วยปูทางให้น้องสาวกลุ่มนี้ด้วย
๑๑.การทำงานแบบ Multi-Talented Idols คือเพลงไม่ใช่ทุกอย่าง มีออกวาไรตี้ ดีเจ ซีรียส์
๑๒.ความรักกันภายในวงหรือพันธะโซชิ "Soshi Bond" วงอื่นก็รักกันนะ แต่โซชิรักกันแล้วความรักมันล้นออกมาจนคนภายนอกสัมผัสได้ว่ารักกันจริงๆ รักกันจนบางทีมันกลายสภาพจากกลุ่มเพื่อน เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด โมเมนท์ระหว่างสมาชิกมีทุกคู่ ทุกคน
ส่วนจุดพีคของโซชิผมว่าน่าจะเป็นตอนเพลง Oh! ; Run Devil Run ที่ช่วงกระแสเกาหลีมาแรงมาก ช่วงเพลงจีก็ได้แฟนคลับมาเยอะพอสมควร ช่วงThe Boys ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ รางวัลอะไรก็ได้มาทุกสถาบัน ความมีอิทธิพลไม่เพียงแต่ในวงการเพลง แต่แทรกซึมไปทุกๆวงการ แบรนด์Girls'Generation ที่ขยับตัวไปไหนก็เป็นข่าวไปหมด และถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปไม่กี่วงที่มีแฟนคลับชนิดที่ว่าสู้กับบอยแบนด์ชั้นนำได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวเวลาคัมแบ็คเพราะวงอื่นๆถอยหมด เลื่อนที่7วง !!!! ยอดขาย ยอดดาวน์โหลดก็สูง แผ่นก็ขายได้เป็นแสน โฆษณาก็เป็นสิบๆชิ้น
ที่สำคัญคือแฟนคลับวงนี้รักแรงมาก ส่วนหนึ่งจะมีแฟนคลับที่ผันตัวมาจากแอนตี้ ที่รู้สึกผิดและอยากจะแสดงความรักแบบสุดขั้วออกมา
มีจุดเด่นที่คิดว่าเหนือกว่าเกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นดังนี้
๑. ความแตกต่างด้านอายุ ทั้งๆที่มีสมาชิกถึงเก้าคน แต่ความเหลื่อมล้ำน้อยมาก
๑.๑ แทยอน เจสสิก้า ซันนี่ ทิฟฟานี่ ยูริ ฮโยยอน หกคนที่เกิดปี 1989 ไลน์89 ด้วยความที่อาุยุเท่ากันจึงมีความสนิทสนมที่แทบจะไม่ต้องปรับอะไรเลย
๑.๒ ซูยอง เกิดปี1990 แต่ชั้นเรียนเดียวกับไลน์89 เป็นน้องที่เล่นกับพี่ไลน์89 อย่างกับว่าอายุเท่ากัน
๑.๓ ยุนอา และซอฮยอน เกิดปี 1990 และ 1991 ตามลำดับ อายุห่างกันหนึ่งปีแต่ทั้งสองเรียนโรงเรียนเดียวกัน มีความสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ
๒. การที่เป็นเด็กฝึกร่วมชายคามาเป็นระยะเวลานาน
๒.๑ เจสสิก้า ฮโยยอน ยูริ ซูยอง ยุนอา ซอฮยอน เป็นสมาชิกแรกๆของโปรเจค ซุปเปอร์เกิร์ล กลุ่มนี้ฝึกกันมาไม่ต่ำกว่า 6 ปี ซึ่งถือว่านานมาก (สามารถเรียนจนจบชั้นประถมได้นะ ตั้ง6 ปี)
๒.๒ แทยอน ทิฟฟานี่ เป็นเด็กฝึกประมาณ 3 ปี
๒.๓ ซันนี่เข้าวงเป็นคนสุดท้าย แต่นางก็เกิดปีเดียวกับพวกไลน์ 89 ดังนั้นต่อให้ฝึกในชายคา SM Ent. ไม่นานเท่าคนอื่นก็น่าจะซี้ได้ในระยะเวลาไม่นาน
๒.๔ กฎของSM ที่สมาชิกทุกนางต้องอยู่หอด้วยกัน และอยู่ห้องเดียวกันด้วย (เป็นห้องชุดและซอยๆออกเป็นห้องของแต่ละคู่)
๓.ผ่านเรื่องราวร้ายๆ เหตุการณ์ร้ายๆมาด้วยกัน ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ไม่น่าจะมีวงใดที่มีแอนตี้อย่างเป็นทางการ ไม่น่าจะมีวงไหนที่โดนแบล็โอเชี่ยน โดนขึ้นจอด่ากลางคอนเสิร์ต แต่สาวๆก็ผ่านเวลาที่เลวร้ายมาด้วยกัน (เหมือนถูกสวรรค์ทดสอบยังไงไม่รู้)
๔.การที่สมาชิกในวงไม่มีดราม่า ขนาดที่ว่าต้องพ้นสภาพการเป็นสมาชิก มีแค่ก่อนที่จะเดบิวต์อย่างจริงจัง เปลี่ยนแปลงปรับปรุงจนได้เก้าคนที่อาจจะไม่ใช่คนที่เสียงดีที่สุด สวยที่สุด แต่เป็นเก้าคนที่ลงตัวที่สุด
๕.ทุกๆวันก่อนนอนจะมีการเจียดเวลาเพื่อสนทนาเปิดใจกัน
๖.สมาชิกแต่ละคนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ช่วงแรกๆยุนอา ถูกโปรโมทให้เป็นหน้าตาของวง แต่หลังๆแล้ว อิมเมจคนนี้ก็ได้เป็นแค่อิมเมจในเพียงนามเฉยๆ โดยสมาชิกอย่าง ฮโยยอน ซูยอง ซันนี่ สามารถมีแฟนคลับส่วนตัวที่เยอะพอๆกับ สมาชิกท็อปลิสต์อย่าง ยุนอา แทยอน ทิฟฟานี่ เจสสิก้า เป็นต้นว่า ยุนอา แทยอน มีฐานเสียงที่เกาหลี ทิฟฟานี่ ยูริ มีฐานเสียงที่ไทย เจสสิก้า ที่จีน ซูยอง ที่ญี่ปุ่น ฮโยยอน ซันนี่ ที่ยุโรปและอเมริกา ซอฮยอนก็กระจายๆกันและแฟนคลับของพี่ๆในวงต่างเอ็นดูน้องทั้งนั้น
๗.ความสามารถที่แท้จริงของสมาชิก คือ ถ้าเดบิวต์แทยอน เจสสิก้า ทิฟฟานี่ ซันนี่ ซอฮยอน ก็จะเป็นโปรเจคขายเสียงอลังการงานสร้าง
ถ้าเดบิวต์ ยุนอา ยูริ ซูยอง ฮโยยอน ก็เป็นโปรเจคที่เต้นสวย เต้นเก่ง เมื่อทั้งสองความโดดเด่นมารวมกันก็....เพอร์เฟ็ค....
ป.ล.โซนยอชิแดเป็นวงที่มีการร้องประสานเสียงกันเพราะสุดๆในบรรดาเกิร์ลกรุ๊ปทั้งหลาย
๘.แนวเพลงที่พลิกแพลงตลอดเวลา ยากต่อการคาดเดา สามารถใส่กางเกงสีลูกกวาดร้องฮุคซอง จี จี จี แล้วกลับลำเป็นชุดทหารเรือร้องเพลงเนื้อไหลไปเรื่อยๆได้ หรือจากเต้นITNW ยังกับแอโรบิคแล้วกลับมาในKissing You ถืออมยิ้มแบ๊วๆ ร้องเพลงOh! อ้อนพี่ชาย กลับมาแรงกับRDR
แนวเรโทรอย่าง Hoot ก็ดูไม่ขัดตา เพลงของโซชิจะมีแร็ปหรือไม่แร็ปก็ยังต้องลุ้นกันเลย ฉีกกฎK-POP อยู่พอสมควรที่ไม่มีแร็ปเปอร์ไว้สำแดงพลัง
๙.รายการวาไรตี้ ออกของตัวเองก็ฮา ออกของคนอื่นก็รู้จักวิธีที่จะทำให้ตัวเองเด่นขึ้นมาได้
๑๐.ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง SM รุ่นพี่เทพๆอย่างดงบังชินกิ ซุปเปอร์จูเนียร์ ได้ช่วยปูทางให้น้องสาวกลุ่มนี้ด้วย
๑๑.การทำงานแบบ Multi-Talented Idols คือเพลงไม่ใช่ทุกอย่าง มีออกวาไรตี้ ดีเจ ซีรียส์
๑๒.ความรักกันภายในวงหรือพันธะโซชิ "Soshi Bond" วงอื่นก็รักกันนะ แต่โซชิรักกันแล้วความรักมันล้นออกมาจนคนภายนอกสัมผัสได้ว่ารักกันจริงๆ รักกันจนบางทีมันกลายสภาพจากกลุ่มเพื่อน เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด โมเมนท์ระหว่างสมาชิกมีทุกคู่ ทุกคน
ส่วนจุดพีคของโซชิผมว่าน่าจะเป็นตอนเพลง Oh! ; Run Devil Run ที่ช่วงกระแสเกาหลีมาแรงมาก ช่วงเพลงจีก็ได้แฟนคลับมาเยอะพอสมควร ช่วงThe Boys ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ รางวัลอะไรก็ได้มาทุกสถาบัน ความมีอิทธิพลไม่เพียงแต่ในวงการเพลง แต่แทรกซึมไปทุกๆวงการ แบรนด์Girls'Generation ที่ขยับตัวไปไหนก็เป็นข่าวไปหมด และถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปไม่กี่วงที่มีแฟนคลับชนิดที่ว่าสู้กับบอยแบนด์ชั้นนำได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวเวลาคัมแบ็คเพราะวงอื่นๆถอยหมด เลื่อนที่7วง !!!! ยอดขาย ยอดดาวน์โหลดก็สูง แผ่นก็ขายได้เป็นแสน โฆษณาก็เป็นสิบๆชิ้น
ที่สำคัญคือแฟนคลับวงนี้รักแรงมาก ส่วนหนึ่งจะมีแฟนคลับที่ผันตัวมาจากแอนตี้ ที่รู้สึกผิดและอยากจะแสดงความรักแบบสุดขั้วออกมา
Whatever You Do , Wherever You go , Whenever You Come ,Pink Ocean are going to support you forever.
ความคิดเห็นที่ 14
จุดพีคของโซชิอยู่ตรงไหน?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
/me ตอบกระทู้แล้ววิ่งหนีออกกระทู้ไปอย่างรวดเร็ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
/me ตอบกระทู้แล้ววิ่งหนีออกกระทู้ไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็นที่ 16
[ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดา]
---------- อยากถามว่าจุดที่ทำให้snsdดังได้ยาวนานขนาดนี้มาจากไหนหรอคะ ---------
คิดว่าไม่มีสิ่งใดสิ่งนึงที่ทำให้ดังยาวนาน คงเกิดจากจังหวะและหลายๆอย่างมากมายที่ประกอบเข้าด้วยกันและส่งเสริมกัน
แต่ถ้าถามถึง จุดเริ่มต้น ที่ทำให้มาไกลขนาดนี้ เราคิดว่าเป็นเพราะความรักค่ะ
(เขียนต่อด้านล่าง ข้อต่อไป)
------- พอหลังจากเพลงgeeแล้วอะไรที่ทำให้snsdดังมาได้ยาวนานขนาดนี้ เพราะเพลงเพราะฐานแฟนคลับหรือว่าอะไร -------
จุดแข็งของโซนยอชิแด ในสายตาเราคือ
1.ล้มแล้วลุกขึ้นยืนได้ใหม่ และจากสภาพนั้น ยังยืนยันจะเป็นฝ่ายให้กำลังใจแฟนคลับอยู่เสมอ (สู้สุดชีวิตและเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานที่ยิ่งใหญ่)
2.รักกันมาก รักกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักกันสนิทใจเหมือนพี่น้อง เหมือนครอบครัว เหมือนเพื่อนแท้ เหมือนเพื่อนซี้ เหมือนคนรัก
(หากคนเราสนิทกันมากกกกกกกกกกกกรู้ใจกันดี อยู่กันนานไปก็จะเหมือนสามีภรรยาที่มีความสุขที่อยู่กินกันมาเป็นสิบๆ ปี คือกระทบกระทั่งกันมาหมดแล้ว รู้หมดแล้วและยังรัก)
คนเราไม่ว่าใคร หากไม่มีปัญหาด้านความเกลียดชังที่ฝังลึกในจิตใจ ย่อมชอบเห็นคนรักกัน ได้ดูคนรักกันแล้วมีความสุข
SNSD ก็เลยเป็นกลุ่มคนที่น่ามองเสมอ เพราะว่าเค้ารักกันค่ะ มองดูเมื่อไรคนดูก็มีความสุข หัวใจพองโต(อันนี้คงเพราะเรารักเค้า^^)
3.เป็นคนน่ารักใจดี อารมณ์ดีและตลก นิสัยแปลกๆกันทุกคน แถมยังรวมกันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว แล้วยังมี combination ได้หลายแบบหลากอารมณ์ สนุกทั้งหมด
4.มีความสุขและอยากมอบความสุขให้กับผู้คนจริงๆ (โดยมีแฟนคลับคอยเป็นกำลังใจ) ความตั้งใจนั้นแรงกล้ามาก สังเกตได้จากยูริ
5.ความผูกพันกับแฟนคลับ อธิบายยากต้องสังเกตด้วยตนเอง
ด้วยเหตุที่พวกเธอเป็นแบบนี้ พวกเราเป็นแบบนี้ ก็เลยมีแฟนคลับส่วนนึง(เยอะแหละ)ที่ไปไหนไปกัน
ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป ก็จะสนับสนุนตลอดไปค่ะ
นอกจากสิ่งที่พูดไปแล้ว พวกเธอยังมีความรักในงาน รักแฟนๆ รักการพัฒนาปรับปรุงต้องการจะทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปทุกอย่าง
และก็ทำงานด้วยความรัก ความทุ่มเทสุดๆเสมอ แล้วเมื่อคุณมีความจริงใจและความรักแบบนั้น คนดูย่อมสัมผัสได้เอง
คนแสดงที่แสดงด้วยความสุขบนเวที ย่อมจะสื่อไปถึงคนดูได้ค่ะ
---------- อะไรที่ทำให้snsdกลายเป็นGGอันดับ1 แล้วชื่อเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติมีได้ยังไง ----------
ทุกข้อดังกล่าวมา จังหวะที่ดี ทีมงานที่ดี ครอบครัวที่ดีที่สนับสนุนด้วยความรักและสู้ไปพร้อมกับลูกๆให้ลูกไปตามความฝัน
(จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกถูกแอนตี้แล้วพาออกจากวงการ บอกว่าพอเถอะลูก บ้านเราก็มีเงิน?)
เพลงที่มีมาตรฐานในระดับนึง ความสามารถที่รักษามาตรฐานเสมอ ทีมเวิร์คที่ดี
ความตั้งใจจริงและความพยายามมากมายที่ทุ่มเทลงไป ความขยัน ความสม่ำเสมอ ความฉลาดน่ารัก รูปร่างหน้าตา(? คงเป็นส่วนเล็กๆ )
ความไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อสู้ไปด้วยกัน แฟนคลับที่รักและทุ่มเท ฯลฯ
คงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพราะอย่างใดอย่างนึงหรือสองสามอย่าง
ส่วนฉายานั้นก็เหมือนที่ความเห็นบนๆ ตอบไปแล้วค่ะ
---------- อยากถามว่าจุดที่ทำให้snsdดังได้ยาวนานขนาดนี้มาจากไหนหรอคะ ---------
คิดว่าไม่มีสิ่งใดสิ่งนึงที่ทำให้ดังยาวนาน คงเกิดจากจังหวะและหลายๆอย่างมากมายที่ประกอบเข้าด้วยกันและส่งเสริมกัน
แต่ถ้าถามถึง จุดเริ่มต้น ที่ทำให้มาไกลขนาดนี้ เราคิดว่าเป็นเพราะความรักค่ะ
(เขียนต่อด้านล่าง ข้อต่อไป)
------- พอหลังจากเพลงgeeแล้วอะไรที่ทำให้snsdดังมาได้ยาวนานขนาดนี้ เพราะเพลงเพราะฐานแฟนคลับหรือว่าอะไร -------
จุดแข็งของโซนยอชิแด ในสายตาเราคือ
1.ล้มแล้วลุกขึ้นยืนได้ใหม่ และจากสภาพนั้น ยังยืนยันจะเป็นฝ่ายให้กำลังใจแฟนคลับอยู่เสมอ (สู้สุดชีวิตและเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานที่ยิ่งใหญ่)
2.รักกันมาก รักกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักกันสนิทใจเหมือนพี่น้อง เหมือนครอบครัว เหมือนเพื่อนแท้ เหมือนเพื่อนซี้ เหมือนคนรัก
(หากคนเราสนิทกันมากกกกกกกกกกกกรู้ใจกันดี อยู่กันนานไปก็จะเหมือนสามีภรรยาที่มีความสุขที่อยู่กินกันมาเป็นสิบๆ ปี คือกระทบกระทั่งกันมาหมดแล้ว รู้หมดแล้วและยังรัก)
คนเราไม่ว่าใคร หากไม่มีปัญหาด้านความเกลียดชังที่ฝังลึกในจิตใจ ย่อมชอบเห็นคนรักกัน ได้ดูคนรักกันแล้วมีความสุข
SNSD ก็เลยเป็นกลุ่มคนที่น่ามองเสมอ เพราะว่าเค้ารักกันค่ะ มองดูเมื่อไรคนดูก็มีความสุข หัวใจพองโต(อันนี้คงเพราะเรารักเค้า^^)
3.เป็นคนน่ารักใจดี อารมณ์ดีและตลก นิสัยแปลกๆกันทุกคน แถมยังรวมกันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว แล้วยังมี combination ได้หลายแบบหลากอารมณ์ สนุกทั้งหมด
4.มีความสุขและอยากมอบความสุขให้กับผู้คนจริงๆ (โดยมีแฟนคลับคอยเป็นกำลังใจ) ความตั้งใจนั้นแรงกล้ามาก สังเกตได้จากยูริ
5.ความผูกพันกับแฟนคลับ อธิบายยากต้องสังเกตด้วยตนเอง
ด้วยเหตุที่พวกเธอเป็นแบบนี้ พวกเราเป็นแบบนี้ ก็เลยมีแฟนคลับส่วนนึง(เยอะแหละ)ที่ไปไหนไปกัน
ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป ก็จะสนับสนุนตลอดไปค่ะ
นอกจากสิ่งที่พูดไปแล้ว พวกเธอยังมีความรักในงาน รักแฟนๆ รักการพัฒนาปรับปรุงต้องการจะทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปทุกอย่าง
และก็ทำงานด้วยความรัก ความทุ่มเทสุดๆเสมอ แล้วเมื่อคุณมีความจริงใจและความรักแบบนั้น คนดูย่อมสัมผัสได้เอง
คนแสดงที่แสดงด้วยความสุขบนเวที ย่อมจะสื่อไปถึงคนดูได้ค่ะ
---------- อะไรที่ทำให้snsdกลายเป็นGGอันดับ1 แล้วชื่อเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติมีได้ยังไง ----------
ทุกข้อดังกล่าวมา จังหวะที่ดี ทีมงานที่ดี ครอบครัวที่ดีที่สนับสนุนด้วยความรักและสู้ไปพร้อมกับลูกๆให้ลูกไปตามความฝัน
(จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกถูกแอนตี้แล้วพาออกจากวงการ บอกว่าพอเถอะลูก บ้านเราก็มีเงิน?)
เพลงที่มีมาตรฐานในระดับนึง ความสามารถที่รักษามาตรฐานเสมอ ทีมเวิร์คที่ดี
ความตั้งใจจริงและความพยายามมากมายที่ทุ่มเทลงไป ความขยัน ความสม่ำเสมอ ความฉลาดน่ารัก รูปร่างหน้าตา(? คงเป็นส่วนเล็กๆ )
ความไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อสู้ไปด้วยกัน แฟนคลับที่รักและทุ่มเท ฯลฯ
คงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพราะอย่างใดอย่างนึงหรือสองสามอย่าง
ส่วนฉายานั้นก็เหมือนที่ความเห็นบนๆ ตอบไปแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
SNSD จุดพีคของวงนี้อยู่ตรงไหน
พอหลังจากเพลงgeeแล้วอะไรที่ทำให้snsdดังมาได้ยาวนานขนาดนี้ เพราะเพลงเพราะฐานแฟนคลับหรือว่าอะไร
อะไรที่ทำให้snsdกลายเป็นGGอันดับ1 แล้วชื่อเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติมีได้ยังไง
อาจจะถามยาวสักหน่อยนะคะ แต่อยากรู้จริงๆ