*เนื้อหาและภาพประกอบทั้งหมด เรียบเรียงมาจากบทความที่ Rega Jha เผยแพร่ไว้ในเว็บ buzzfeed จ้ะ
1. หลังจากแจ้งเตือนลิขสิทธิ์แล้ว สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่งคือสารจากไทเลอร์
2. ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า มีแก้วสตาร์บัคส์ปรากฏอยู่ทุกฉาก อย่างน้อยฉากละหนึ่งใบ
3. ไทเลอร์ เดอร์เด้น ปรากฏอย่างเร็วๆ อยู่สี่ฉากก่อนที่ตัวละครของเขาจะปรากฏจริงๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
4. ในฉากแรกๆ ของ ‘ผู้เล่าเรื่อง’ โทรทัศน์กำลังฉายโฆษณาสูทบริดจ์วอร์ธ
ซึ่งมีแบรด พิทท์ ร่วมอยู่ในนั้นด้วย (ทำไมไม่เคยสังเกตนะ!)
5. ลมหายใจในฉากถ้ำน้ำแข็งใช้ลมหายใจของลีโอนาโด ดิคาปริโอในเรื่อง Titanic (1997)
6. แบรด พิทท์ ไม่อยากให้พ่อแม่ดูหนังเรื่องนี้แต่พวกเขายืนกรานว่ายังไงก็จะดู แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อได้เห็นฉากนี้ (โถ่ คุณพ่อคุณแม่ T T)
7. ก่อนถ่ายทำ แบรด พิทท์ และ เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน ต้องไปเข้าชั้นเรียนมวยและการทำสบู่
8. ตามที่เว็บไซต์ IMDB ว่ามา แบรด พิทท์ไปหาหมอฟันและเฉือนเอาฟันซี่หน้าออกเล็กน้อย เพื่อรับบทนี้
9. เจ้าป้าเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ เจ้าของส่วนสูง 5 ฟุต 2 นิ้ว (ราวๆ 157 เซนติเมตร) ต้องสวมรองเท้าพื้นหนาเตอะเพื่อให้ส่วนสูงใกล้เคียงกับแบรด พิทท์ (5 ฟุต 11 นิ้ว หรือราวๆ 180 เซนติเมตร) และเอ็ดวาร์ด นอร์ตัน (6 ฟุต หรือราวๆ 182 เซนติเมตร)
10. แถมเจ้าป้ายังยืนกรานให้ช่างแต่งหน้า แต่งหน้าให้เธอด้วยมือซ้าย เพราะเธอคิดว่าตัวละครอย่างมาร์ล่าคงไม่สนใจเกี่ยวกับเมคอัพแหงๆ
11. ในฉากที่สมาชิกไฟท์คลับฉีดน้ำใส่นักบวช กล้องสั่นเล็กน้อยเพราะช่างกล้องกลั้นขำไม่ไหว (โถ พ่อคุณ)
12. ก่อนจะตัดสินใจเลือกแบรด พิทท์ ตอนแรกๆ เหล่าโปรดิวเซอร์สนอกสนใจรัสเซล โครว์ ให้มารับบทไทเลอร์ เดอร์เดน
13. แถมยังพิจารณาฌอน เพนน์กับแมตต์ เดม่อนสำหรับบท “ผู้เล่าเรื่อง” กระทั่งได้เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน มารับบทไปในที่สุด (แมตต์นี่พอเข้าใจและเห็นภาพ แต่ป๋าฌอนนี่จะดูสูงวัยไปไหมคะ)
14. รีส วิทเธอร์สปูนกับซาราห์ มิเชลล์ เกลลาร์ ต่างถูกเสนอให้รับบทมาร์ล่า ซิงเกอร์ ซึ่งตกเป็นของเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ในที่สุด
รีสปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ามันดาร์กไป (หือ?) ส่วนซาราห์ติดสัญญาจากซีรีย์เรื่อง Buffy the Vampire Slayer ทำให้ไม่สามารถรับบทนี้ได้
แล้วยังมีคอร์ทนีย์ เลิฟกับวิโนน่า ไรเดอร์ ที่ได้รับการพิจารณาสำหรับบทนี้ด้วย (สองคนนี้คงทำให้บทมาร์ล่าดูร็อคไม่น้อยเลย)
15. แบบอักษรที่ใช้ตอนต้นเรื่องและช่วงเครดิตนั้นชื่อว่า “Fight This.”
16. ตอนที่ “ผู้เล่าเรื่อง” อยู่ในที่ทำงานและเขียนไฮกุ รายชื่อที่ปรากฏบนจอคือชื่อของเหล่าโปรดักชั่นและผู้ช่วยของหนังเรื่องนี้นั่นเอง
17. แบรด พิทท์กับเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ ใช้เวลาอยู่สามวันในการบันทึกเสียง “สู่จุดสุดยอด” ในฉากมีเซ็กส์ (อยากเห็นภาพเบื้องหลังฉากนี้จริงๆ เลยเชียว)
18. บทสนทนาในฉากหนุนหมอน เดิมทีเป็น “ฉันอยากจะแท้งลูกกับคุณจัง (I want to have your abortion)” แต่ลอร่า ซิสกิน โปรดิวเซอร์จาก Fox 2000 คิดว่ามันหยาบคายมากไป
19. ฉากที่ “ผู้เล่าเรื่อง” ชกไทเลอร์ เดอร์เดนเป็นครั้งแรก เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน ควรจะชกปลอมๆ ใส่แบรด
แต่เอาเข้าจริงในนาทีสุดท้ายนั่นเอง ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ก็บอกเอ็ดวาร์ด นอร์ตันให้ชกแบรดจริงๆ ไปเล้ยยย ฉะนั้นที่พี่แบรดสะดุ้งโหยงในหนังนั่นก็เพราะเจ็บเอาจริงๆ (T T โถ พี่แบรด) จะเห็นนอร์ตันหัวเราะด้วยนะ
20. เบอร์โทรศัพท์ของมาร์ล่า ซิงเกอร์เป็นเบอร์เดียวกับเท็ดดี้ จากเรื่อง Memento (2000)
และเป็นเบอร์เดียวกับเบอร์ของภัตตาคารฮ่องกงในเรื่อง harriet the spy (1996), เบอร์ของเอ็ดดี้ อัลเดนในเรื่อง Someone Like You (2001) และเป็นเบอร์ของสถาบันจิตวิทยาตอนหนึ่งในโชว์เรื่อง “Millennium.”
21. ขณะถ่ายทำฉากนี้ เอ็ดวาร์ด นอร์ตันเปลือยท่อนล่างจริงๆ จ้ะ
คำบรรยายใน DVD นอร์ตันบอกผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์และยังยิงมุขใส่อีกด้วยว่า “ไม่รู้คุณสังเกตไหมว่าวันนี้ผมไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยสักครั้ง” (ฮาาาา)
22. เพื่อให้เหมือนเนื้อหนังหย่อนๆ มากที่สุด ชุดคนอ้วนของบ็อบจริงถูกยัดด้วยอาหารนกจนเต็ม มันหนักกว่า 100 ปอนด์ (ราว 45 กิโลกรัม) เลยนะ
23. ตอนที่ไทเลอร์กล่าวปราศรัยให้สมาชิกไฟท์คลับ เขาจ้องเป๋งไปที่ตัวละครที่เล่นโดยจาเล็ต เลโต้ เมื่อเอ่ยถึงร็อคสตาร์
ซึ่งจาเร็ต เลโต้ฟอร์มวง 30 Seconds To Mars ก่อนหนังจะฉายได้สักปี
24. หนังแง้มๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทเลอร์ เดอร์เดนกับ “ผู้เล่าเรื่อง” เล็กน้อย
ตัวอย่างเช่น เมื่อทั้งคู่ขึ้นไปบนรสบัสด้วยกัน ผู้เล่าเรื่องจ่ายค่ารถคนเดียว รวมถึงเมื่อทั้งคู่ขึ้นรถที่ไทเลอร์ขับมา “ผู้เล่าเรื่อง” เป็นฝ่ายนั่งอยู่ฝั่งคนขับ
25. และในฉากสุดท้าย ปรากฏไอ้จู๋ขึ้นมาแวบหนึ่ง อย่างที่ไทเลอร์ เดอร์เดนชอบเอามาใส่หนังเรื่องอื่นๆ ในงานของเขานั่นแหละ
สวัสดีค่ะ พอดีกำลังลองทำบล็อกเกี่ยวกับหนัง-การ์ตูน-หนังสือค่ะ เลยหาอะไรต่อมิอะไรมาแปล
เรื่อง Fight Club นี่เราชอบมากๆ จำได้ว่าดูสัก 2-3 ปีที่แล้วค่ะ ตอนเรียนมหา'ลัย ยืมแผ่นเพื่อนมาดู แล้วก็ชอบมากๆ
รู้สึกว่ามันเจ๋งไปทุกส่วนเลย
ยินดีที่ได้รู้จักและแลกเปลี่ยนกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
อันนี้บล็อกค่ะ เยี่ยมชมกันได้นะคะ
http://llkhimll.wordpress.com/
ปล. ตอนตั้งกระทู้เพิ่งรู้ว่าพันทิปไม่อนุญาตให้ใช้ไฟล์ภาพใหญ่เกิน เลยไปย่อรูปมาเหลือติ๊ดเดียว T T มองไม่ชัดขอโทษด้วยนะค้าา
(Spoil) 25 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่อง Fight Club ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1. หลังจากแจ้งเตือนลิขสิทธิ์แล้ว สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่งคือสารจากไทเลอร์
2. ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า มีแก้วสตาร์บัคส์ปรากฏอยู่ทุกฉาก อย่างน้อยฉากละหนึ่งใบ
3. ไทเลอร์ เดอร์เด้น ปรากฏอย่างเร็วๆ อยู่สี่ฉากก่อนที่ตัวละครของเขาจะปรากฏจริงๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
4. ในฉากแรกๆ ของ ‘ผู้เล่าเรื่อง’ โทรทัศน์กำลังฉายโฆษณาสูทบริดจ์วอร์ธ
ซึ่งมีแบรด พิทท์ ร่วมอยู่ในนั้นด้วย (ทำไมไม่เคยสังเกตนะ!)
5. ลมหายใจในฉากถ้ำน้ำแข็งใช้ลมหายใจของลีโอนาโด ดิคาปริโอในเรื่อง Titanic (1997)
6. แบรด พิทท์ ไม่อยากให้พ่อแม่ดูหนังเรื่องนี้แต่พวกเขายืนกรานว่ายังไงก็จะดู แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อได้เห็นฉากนี้ (โถ่ คุณพ่อคุณแม่ T T)
7. ก่อนถ่ายทำ แบรด พิทท์ และ เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน ต้องไปเข้าชั้นเรียนมวยและการทำสบู่
8. ตามที่เว็บไซต์ IMDB ว่ามา แบรด พิทท์ไปหาหมอฟันและเฉือนเอาฟันซี่หน้าออกเล็กน้อย เพื่อรับบทนี้
9. เจ้าป้าเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ เจ้าของส่วนสูง 5 ฟุต 2 นิ้ว (ราวๆ 157 เซนติเมตร) ต้องสวมรองเท้าพื้นหนาเตอะเพื่อให้ส่วนสูงใกล้เคียงกับแบรด พิทท์ (5 ฟุต 11 นิ้ว หรือราวๆ 180 เซนติเมตร) และเอ็ดวาร์ด นอร์ตัน (6 ฟุต หรือราวๆ 182 เซนติเมตร)
10. แถมเจ้าป้ายังยืนกรานให้ช่างแต่งหน้า แต่งหน้าให้เธอด้วยมือซ้าย เพราะเธอคิดว่าตัวละครอย่างมาร์ล่าคงไม่สนใจเกี่ยวกับเมคอัพแหงๆ
11. ในฉากที่สมาชิกไฟท์คลับฉีดน้ำใส่นักบวช กล้องสั่นเล็กน้อยเพราะช่างกล้องกลั้นขำไม่ไหว (โถ พ่อคุณ)
12. ก่อนจะตัดสินใจเลือกแบรด พิทท์ ตอนแรกๆ เหล่าโปรดิวเซอร์สนอกสนใจรัสเซล โครว์ ให้มารับบทไทเลอร์ เดอร์เดน
13. แถมยังพิจารณาฌอน เพนน์กับแมตต์ เดม่อนสำหรับบท “ผู้เล่าเรื่อง” กระทั่งได้เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน มารับบทไปในที่สุด (แมตต์นี่พอเข้าใจและเห็นภาพ แต่ป๋าฌอนนี่จะดูสูงวัยไปไหมคะ)
14. รีส วิทเธอร์สปูนกับซาราห์ มิเชลล์ เกลลาร์ ต่างถูกเสนอให้รับบทมาร์ล่า ซิงเกอร์ ซึ่งตกเป็นของเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ในที่สุด
รีสปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ามันดาร์กไป (หือ?) ส่วนซาราห์ติดสัญญาจากซีรีย์เรื่อง Buffy the Vampire Slayer ทำให้ไม่สามารถรับบทนี้ได้
แล้วยังมีคอร์ทนีย์ เลิฟกับวิโนน่า ไรเดอร์ ที่ได้รับการพิจารณาสำหรับบทนี้ด้วย (สองคนนี้คงทำให้บทมาร์ล่าดูร็อคไม่น้อยเลย)
15. แบบอักษรที่ใช้ตอนต้นเรื่องและช่วงเครดิตนั้นชื่อว่า “Fight This.”
16. ตอนที่ “ผู้เล่าเรื่อง” อยู่ในที่ทำงานและเขียนไฮกุ รายชื่อที่ปรากฏบนจอคือชื่อของเหล่าโปรดักชั่นและผู้ช่วยของหนังเรื่องนี้นั่นเอง
17. แบรด พิทท์กับเฮเลน่า บอนเฮม คาร์เตอร์ ใช้เวลาอยู่สามวันในการบันทึกเสียง “สู่จุดสุดยอด” ในฉากมีเซ็กส์ (อยากเห็นภาพเบื้องหลังฉากนี้จริงๆ เลยเชียว)
18. บทสนทนาในฉากหนุนหมอน เดิมทีเป็น “ฉันอยากจะแท้งลูกกับคุณจัง (I want to have your abortion)” แต่ลอร่า ซิสกิน โปรดิวเซอร์จาก Fox 2000 คิดว่ามันหยาบคายมากไป
19. ฉากที่ “ผู้เล่าเรื่อง” ชกไทเลอร์ เดอร์เดนเป็นครั้งแรก เอ็ดวาร์ด นอร์ตัน ควรจะชกปลอมๆ ใส่แบรด
แต่เอาเข้าจริงในนาทีสุดท้ายนั่นเอง ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ก็บอกเอ็ดวาร์ด นอร์ตันให้ชกแบรดจริงๆ ไปเล้ยยย ฉะนั้นที่พี่แบรดสะดุ้งโหยงในหนังนั่นก็เพราะเจ็บเอาจริงๆ (T T โถ พี่แบรด) จะเห็นนอร์ตันหัวเราะด้วยนะ
20. เบอร์โทรศัพท์ของมาร์ล่า ซิงเกอร์เป็นเบอร์เดียวกับเท็ดดี้ จากเรื่อง Memento (2000)
และเป็นเบอร์เดียวกับเบอร์ของภัตตาคารฮ่องกงในเรื่อง harriet the spy (1996), เบอร์ของเอ็ดดี้ อัลเดนในเรื่อง Someone Like You (2001) และเป็นเบอร์ของสถาบันจิตวิทยาตอนหนึ่งในโชว์เรื่อง “Millennium.”
21. ขณะถ่ายทำฉากนี้ เอ็ดวาร์ด นอร์ตันเปลือยท่อนล่างจริงๆ จ้ะ
คำบรรยายใน DVD นอร์ตันบอกผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์และยังยิงมุขใส่อีกด้วยว่า “ไม่รู้คุณสังเกตไหมว่าวันนี้ผมไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยสักครั้ง” (ฮาาาา)
22. เพื่อให้เหมือนเนื้อหนังหย่อนๆ มากที่สุด ชุดคนอ้วนของบ็อบจริงถูกยัดด้วยอาหารนกจนเต็ม มันหนักกว่า 100 ปอนด์ (ราว 45 กิโลกรัม) เลยนะ
23. ตอนที่ไทเลอร์กล่าวปราศรัยให้สมาชิกไฟท์คลับ เขาจ้องเป๋งไปที่ตัวละครที่เล่นโดยจาเล็ต เลโต้ เมื่อเอ่ยถึงร็อคสตาร์
ซึ่งจาเร็ต เลโต้ฟอร์มวง 30 Seconds To Mars ก่อนหนังจะฉายได้สักปี
24. หนังแง้มๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทเลอร์ เดอร์เดนกับ “ผู้เล่าเรื่อง” เล็กน้อย
ตัวอย่างเช่น เมื่อทั้งคู่ขึ้นไปบนรสบัสด้วยกัน ผู้เล่าเรื่องจ่ายค่ารถคนเดียว รวมถึงเมื่อทั้งคู่ขึ้นรถที่ไทเลอร์ขับมา “ผู้เล่าเรื่อง” เป็นฝ่ายนั่งอยู่ฝั่งคนขับ
25. และในฉากสุดท้าย ปรากฏไอ้จู๋ขึ้นมาแวบหนึ่ง อย่างที่ไทเลอร์ เดอร์เดนชอบเอามาใส่หนังเรื่องอื่นๆ ในงานของเขานั่นแหละ
สวัสดีค่ะ พอดีกำลังลองทำบล็อกเกี่ยวกับหนัง-การ์ตูน-หนังสือค่ะ เลยหาอะไรต่อมิอะไรมาแปล
เรื่อง Fight Club นี่เราชอบมากๆ จำได้ว่าดูสัก 2-3 ปีที่แล้วค่ะ ตอนเรียนมหา'ลัย ยืมแผ่นเพื่อนมาดู แล้วก็ชอบมากๆ
รู้สึกว่ามันเจ๋งไปทุกส่วนเลย
ยินดีที่ได้รู้จักและแลกเปลี่ยนกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
อันนี้บล็อกค่ะ เยี่ยมชมกันได้นะคะ
http://llkhimll.wordpress.com/
ปล. ตอนตั้งกระทู้เพิ่งรู้ว่าพันทิปไม่อนุญาตให้ใช้ไฟล์ภาพใหญ่เกิน เลยไปย่อรูปมาเหลือติ๊ดเดียว T T มองไม่ชัดขอโทษด้วยนะค้าา