'ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่แพทย์'

EDIT : ข้อมูลคุณหมอที่ คห.12 ค่ะ

เนื่องด้วยยังไม่ได้ขออนุญาตคุณหมอมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ แต่มีเจตนาดี ตั้งใจอยากชื่นชมคุณหมอ
จึงขอความกรุณาเพื่อนๆ พูดคุยกันได้ แต่อย่ากล่าวว่าคุณหมอไปในทางลบเลยนะคะ
หากกระทู้นี้มีแนวโน้มว่าสื่อความหมายผิดไปจากเจตนาแล้ว จะขอลบข้อมูลคุณหมอเพื่อไม่ให้ท่านได้รับผลกระทบค่ะ

ที่คลินิค หลายครั้งคุณหมอวินิจฉัยโรคฟรี และค่ายาถูกมากค่ะ





'ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่แพทย์'

ครอบครัวเรามักฝากไข้ประจำกับคลินิคเล็กๆใกล้บ้าน ของคุณหมอทุนเรียนต่างประเทศ เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
ปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์ที่ รพ.วชิรพยาบาล

ตลอด 25 ปีที่ไปหา คลินิคคุณหมอยังเป็นตึกแถว 1 คูหาหลังเดิม ชั้นล่างเป็นคลินิค ชั้นบนเป็นบ้าน
ไม่เคยมีแอร์ รถที่ขับอายุเกือบเท่าเรา
คุณหมอยังเหมือนเดิม เพียงแค่อายุมากขึ้นและมีผมหงอกมากขึ้น

คุณหมอคิดค่ายาถูกมากๆ หลายครั้งที่วินิจฉัยโรคให้ฟรี และชอบอธิบายอาการอย่างละเอียด
(ทำให้เรารู้จักคำว่า Cell ตอน ป.4)
บางครั้งเราเคยสงสัย ว่าคุณหมอขาดทุนหรือเปล่า?

คุณหมอไม่เคยเลี้ยงไข้ บางครั้งพวกเราป่วยด่วนด้วยโรคทางอายุรกรรม (แต่อาการหนัก)
เช่น เช้าวันอาทิตย์ คุณหมอจะเปิดคลินิคเป็นกรณีพิเศษ แม้ว่าจะเป็นวันหยุดของครอบครัวก็ตาม

คุณหมอสละเวลาเพื่ิอเป็นหมอ หมอแทบไม่เคยหยุด
ทุกวัน เวลา 5 โมงเย็นเป๊ะ หมอจะกลับมาจาก รพ. เพื่อมาเปิดประตู เปิดไฟที่คลินิค
นั่งอยู่มุมห้องตรวจเล็กๆเหมือนเดิม จน 2 ทุ่มครึ่ง ทุกวัน



...นี่คือหมอท่านแรก ที่เรานึกถึงเมื่อเห็พระดำรัสของพระบิดา

หมอที่ดีจะไม่รวย แต่ก็ไม่จน
หมอเชิงพาณิชย์บางคน อาจเรียกไม่ได้ว่าเป็นหมอ
แต่เป็นคนที่หากินกับความเจ็บป่วยมากกว่า...



Tag : ห้องสยาม (การเรียน) เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเลือกคณะ
Tag : ห้องสีลม (มนุษย์เงินเดือน) เพื่อเป็นข้อมูลด้านอาชีพ
ถ้าเราแท็กผิด หรือกล่าวอะไรบกพร่องผิดพลาดไป ขออภัยด้วยนะคะ รบกวนแจ้งเพื่อปรับปรุงได้ค่ะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่