โรคของคุณแตงโมโรคนี้มันอันตรายนะครับ ไม่ใช่เพียงแต่ตัวคุณแตงโมเอง แต่มันจะรวมไปถึงคนรอบข้างด้วยนะครับ เพราะเจ้าโรคนี้มันเกี่ยวข้องกับจิตเป็นสำคัญ ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำคุณแตงโมไปหาจิตแพทย์ เพื่อรักษาโรคนี้ให้หายขาดก่อนดีกว่านะครับ มิฉะนั้นคุณแตงโมจะกลายเป็นคนที่ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลอย่างนี้อยู่ร่ำไป

ยิ่งคุณแตงโมบอกว่านอนดูบลูสกายตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงช่วงลุงกำนันออกมาพูด มันยิ่งเป็นอันตรายต่อโรคที่คุณแตงโมเป็นอยู่นะครับ มันจะซ้ำเติมให้อาการหวาดระแวงของคุณแตงโมเพิ่มขึ้น จนขาดสติในการใช้วิจารณญาณนะครับคุณแตงโม

อย่างคุณแตงโมพูดถึงการชุมนุมด้วยจิตที่ไม่ปกติ ก็เลยแลดูว่า การชุมนุมทุกครั้ง ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม ฝ่ายคุณแตงโมเป็นฝ่ายถูกรังแกตลอด นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า คุณแตงโมกำลังถูกชักจูงให้เข้าใจผิด โดยอาศัยผ่านช่องทางที่จิตกำลังไม่ปกติของคุณแตงโม ดังนั้นตราบที่คุณแตงโมยังไม่หายจากโรคนี้ คุณแตงโมก็จะถูกพวกเขาสนสะพายตลอดไปอย่างนี้ ผมเห็นแล้วรู้สึกสงสารมากนะครับ

ส่วนเรื่องหลุดคำหยาบอะไรเหล่านี้ คุณแตงโมไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหรอกครับ เพราะมันเป็นนิสัยที่ติดตัวมาตลอดอยู่ไม่ใช่หรือครับ ผมเห็นคุณแตงโมในหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นทางการเมืองหรือหน้าที่การงาน คุณแตงโมก็หยาบโดยไม่ต้องขออนุญาตอยู่แล้วนิครับ

แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องของโรคหวาดระแวงหรอกครับ คุณแตงโมไม่ต้องเป็นห่วง มันเป็นเรื่องของการอบรมเสียมากกว่าครับคุณแตงโม ไม่อย่างนั้นสื่อคงไม่ให้ฉายาฝีปากไร้ตะกร้อให้กับคุณแตงโมหรอกครับ จริงไหม

คุณแตงโมใช้คำว่า ที่ถูกรังแก ทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลหรือกฎหมายช่วยได้ มันก็ใช้วิธีสกปรก แล้วคุณแตงโมรู้ตัวหรือเปล่าครับ ที่พวกคุณแตงโมทำอยู่ขณะนี้ มันไม่ใช่วิธีการที่สุภาพชนเขาทำกันหรอกนะครับ ทั้งผิดกฎหมาย ทั้งผิดหลักการและยังไปละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่กับพวกคุณแตงโมด้วยเลย อย่างนี้แหละครับที่เขาเรียกว่า ใช้วิธีการสกปรกเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ เข้าใจไหมครับคุณแตงโม

คุณแตงโมครับ คนอย่างผมแม้จะไร้การศึกษา แต่คุณพ่อคุณแม่ผมก็คอยอบรมผมมาแต่เล็กแต่น้อย ให้ระวังคำพูด อย่าไปขึ้นไอ้ขึ้นอิกับใคร ยิ่งคนๆนั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งนะครับ ไม่รู้ว่าทางบ้านคุณแตงโมไม่เคยสอนหรือสอนแล้วแต่คุณแตงโมไม่จำกันแน่ แต่ผมก็ยังอยากยืนยันอีกครั้งครับว่า มันไม่สมควรครับ

แล้วที่คุณแตงโมไปเที่ยวกล่าวหาคน แน่นอนครับคุณแตงโมไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่า คุณแตงโมหมายถึงท่านนายกฯอย่างแน่นอน ดังนั้นผมอยากถามคุณแตงโมว่า คุณแตงโมเชื่อได้อย่างไรครับว่า นายกฯปูเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ทั้งๆที่นายกฯก็ประนีประนอมมาตลอด สั่งแล้วสั่งอีกห้ามตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

ในขณะเดียวกันลุงกำนันของคุณแตงโมคนนี้ไม่ใช่หรือครับ ที่ศาลได้วินิฉัยแล้วว่า ผู้ชุมนุมแดงที่ถูกสังหารหมู่ด้วยอาวุธสงครามร่วมๆยี่สิบศพ และยังมีต่อไปอีกหลายสิบศพ ซึ่งเกิดจากการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ภายใต้คำสั่งของลุงกำนันไม่ใช่หรือครับ อีกทั้งหัวหน้าพรรคลุงกำนันของคุณแตงโมก็ยอมรับกับสื่อต่างชาติว่า เป็นคนอนุญาตให้ทหารใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมได้ อย่างนี้แล้วคุณแตงโมคิดว่า ใครควรจะได้รับคำว่า “ฆาตกร”จากคุณแตงโมกันแน่ นี่คือตัวอย่างของการขาดสติในการใช้เหตุผลอย่างชัดเจนที่สุดเลยครับ

อ้อ แล้วคุณแตงโมอย่าไปห่วงเรื่องลูกนายกฯเลยนะครับ เพราะความจริงที่ประจักษ์กับความหวาดระแวงของคุณแตงโม คนปกติเขาแยกแยะถูกครับ และก่อนที่ความจริงจะปรากฏ ไม่มีใครแน่ใจได้หรอกครับว่า เป็นฝีมือของรัฐบาล ฝีมือของมือที่สาม หรือแม้กระทั่งฝีมือของตัว กปปส.เอง เพื่อสร้างสถานการณ์ ดังนั้นอย่าพึ่งใช้จิตที่ไม่ปกติมาด่วนตัดสินใครเลยนะครับ บาปกรรมเปล่าๆ

คุณแตงโมครับ ก็อย่างที่ผมบอกแต่ต้น เรื่องการเสพบลูสกายเพียงช่องเดียว มันเป็นผลให้เขาสนสะพายได้ง่าย มันผิดเสียที่ไหนกันล่ะครับ เพราะใครเขาก็รู้รายชื่อที่ติดเป็นคนเลวระดับโลก มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่คุณแตงโมกลับอายในสิ่งที่ไม่จริง

ส่วนที่นานาประเทศกำลังสงสัยกับความประหลาดของ กปปส.ที่เรียกร้องให้ล้มประชาธิปไตย เป็นเรื่องจริงที่น่าอับอาย คุณแตงโมกลับภาคภูมิใจซะงั้น สงสัยจะไม่ใช่แค่หวาดระแวงแล้วกระมังครับ ควรไปตรวจให้ละเอียดนะครับ เพราะมีความรู้สึกว่า สมองคุณแตงโมไล่ไม่ทันอายุไปมากแล้วนะครับ

ส่วนที่คุณแตงโมอายเรื่อง “อิโง่”นั้น แล้วคุณแตงโมลองพิมพ์คำว่า “ฆาตกรร้อยศพ”บ้างสิครับ แล้วคุณแตงโมจะอับอายยิ่งกว่านี้ เพราะมันยังลอยหน้าลอยตาอยู่เคียงข้างกับคุณแตงโมเสียด้วย หากว่าคุณแตงโมไม่อาย แสดงให้เห็นว่า คุณแตงโมอายเรื่องโง่มากกว่าฆาตกรอย่างนั้นหรือครับ ใครสั่งใครสอนไม่ทราบ

คุณแตงโมครับ เรื่องการขับไล่นั้น ทำไมคุณปูต้องออกไปตามพวกคุณแตงโมด้วยเล่า ในเมื่อคุณปูมาตามระบอบ ข้อสำคัญนะครับคุณแตงโม คนที่รักคุณปูและเกลียดคุณสุเทพ มีมากกว่า คนเกลียดคุณปูรักคุณสุเทพอย่างเทียบกันไม่ได้ แล้วคุณแตงโมจะอาศัยสิทธิ์อะไรกันครับมาเที่ยวไล่คุณปู

คุณแตงโมครับ คุณแตงโมอาจจะหลงตัวเองว่าเป็นพวกคนชั้นสูง อาจจะคิดว่าตัวเองเป็นพวกปัญญาชน แต่คุณแตงโมครับ ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงหรือปัญญาชนแค่ไหนก็ตาม มันต้องรู้จักคิดเองเป็นด้วยนะครับ เข้าใจไหม

ไม่ใช่อยากยกระดับประเทศเราให้เท่ากับคนอื่น ด้วยการล้มระบอบประชาธิปไตย
ไม่ใช่อยู่บนความพอเพียง ด้วยการต่อต้านความเจริญของประเทศ
ไม่ใช่ไม่อยากย่ำอยู่กับที่ ด้วยการออกมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างนี้

ความคิดถูกต้อง แต่วิธีการก็ต้องถูกต้องด้วยนะครับ มันจึงจะไปด้วยกันโดยไม่ย้อนแย้งกันให้ชาวบ้านเห็นถึงภูมิปัญญาเลยนะครับ

ข้อสำคัญนะครับคุณแตงโม ลองสละเวลาหยุดดูบลูสกายสักชั่วโมงสองชั่วโมง ลองสละเวลากับการอัพเดทอินสตาแกรมสักชั่วคราว แล้วลองเสิร์ทดูภูมิหลังและการกระทำช่วงก่อนจะมาชุมนุมของเหล่าแกนนำทั้งหลาย แล้วจะรู้ว่า แต่ละคนไม่ใช่คนดีอย่างที่คุณแตงโมคิดหรอกนะ ขอบอก

และเมื่อถึงตอนที่คุณแตงโมมีลูก แล้วลูกเกิดถามคุณแตงโมว่า “คุณแม่ขา คุณแม่ครับ ทำไมพวกชนชั้นสูงอย่างคุณแม่ จึงยอมให้พวกคนเลวมันจูงจมูกอยู่ได้ล่ะครับ ล่ะค่ะ” ผมก็ไม่รู้ว่า ถึงตอนนั้นคุณแตงโมจะแถกับลูกอีท่าไหนกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ผมรู้สึกสงสารลูกที่จะเกิดมาของคุณแตงโมจังว่ะ