ทราบนะว่าห่วงลูก แต่ก็ต้องเห็นใจหมอหน่อย เพราะคนไข้แต่ละเคสเข้ามาก็ล้วนต้องรักษานานครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง
ก็ต้องเอาคนที่นัดก่อน บางคนนัดมา 2 วันกว่าจะได้เจอหมอ พอจะได้เจอ แล้วก็มีใครก็ไม่รู้มาขอลัดคิว จะรู้สึกไงล่ะ

ลองเป็นเคสของคุณบ้าง นัดหมอมาตั้งแต่เมื่อวานด้วยใจร้อนรน วันนี้ก็พาลูกมาหาหมอตามคิว อดทนนั่งรออย่างกระสับกระส่าย จนจะถึงคิวในอีก 10 นาทีอยู่แล้ว  จู่ๆก็มียายเพิ้งที่ไหนก็ไม่รู้อุ้มลูกมาแล้วบอกลูกปวดฟันยังงั้นยังงี้ขอแทรกคิวก่อนได้ไหม พอหมอเห็นก็ไม่ให้ เพราะว่าไม่ได้ฉุกเฉินร้ายแรงอะไรมากจึงให้ตามคิว พอยายเพิ้งไม่ดังดังใจก็ด่าหมอ แล้วถ้าหมอทนไม่ได้เลยมาขอแทรกคิวลูกของคุณก่อน คุณจะพอใจหมอไหม   เพราะรอมาตั้งแต่เมื่อวาน และลูกของคุณก็จะได้รับการรักษาในอีก 10 นาทีข้างหน้าอยู่แล้ว  ที่สำคัญลูกยายเพิ้งนั่นก็ไม่ได้ฉุกเฉินร้ายแรงอะไรเลย  เพียงแค่ยายเพิ้งจิตหลุดมากกว่า ถ้าเจอเหตุการณ์นี้คุณจะทำไง ?

ที่สำคัญถ้าคุณเป็นหมอเองคุณจะทำอย่างไร ? คนนั้นจะเอาอย่าง คนนี้จะเอาอย่าง  ถ้าคนไข้แต่ละคนจะเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ก็แย่ซิ

โรงพยาบาลอื่นมีเยอะแยะ คลินิคหมอฟันมีเป็นร้อย ที่พร้อมอ้าแขนรับ ทำไมไมต้องไปนั่งง้ออยู่ที่เดียว ไม่เข้าใจจริงๆ
ปัญหาแค่นี้ยังแก้ไม่ได้ แล้วถ้าเจอปัญญาของลูกที่ใหญ่กว่านี้จะแก้เป็นไหมเนี่ย ตั้งสติหน่อย ตั้งสติ สติ สติ

ที่เขียนมาทั้งหมดนี่อย่าโกรธกันนะ แต่เพราะปรารถนาดีจริงๆ อยากให้คุณตั้งสติหน่อย เพราะมัวแต่ตกใจ มันจะมืดไปหมดทุกอย่าง คิดอะไรไม่ออกเลย

อยากจะแนะนำว่า ถ้ารักลูกก็ฝึกการวางแผนดูแลลูกไว้ก่อนด้วยจะดีที่สุด เช่น ถ้าเจอกรณีอื่นกับลูกจะทำไง ทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การพาไปหาหมอ พาสามีมาฝึกพร้อมคุณด้วย เตรียมไว้จะได้ไม่ฉุกละหุก ที่บอกก็เพราะเห็นคุณเจอกรณีเล็กน้อยแบบนี้ยังตื่นตระหนกไปหมด ถ้าเจอหนักกว่านี้จะทำไง ฝึกวางแผนไว้ก่อน และตั้งสติ เป็นพ่อแม่ที่ดีต้องแก้ปัญหาให้เป็น

ใช้คำพูดอย่างกับลูกตายเพราะไม่ได้ทำฟัน "ใจสลาย" เนี่ยนะ คลินิกทำฟันมีเยอะแยะไป เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ -*-

ถ้านิสัย อย่างที่คลินิกเค้ามาชี้แจง แนะนำอย่ามีลูกเห้อ จะได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม