ตามที่ตำรวจสรุปว่า มือวางระเบิดม๊อบ ถนนบรรทัดทอง คือชายสวมหมวกขาวที่ปะปนในม็อบ โดยร่วมมือกับคนขับรถกระบะ ...
อ้างอิง: คลิปการระเบิด ถ. บรรทัดทอง
อ้างอิงกระทู้:
http://ppantip.com/topic/31536147
ขออนุญาตตั้งข้อสันนิษฐานว่า การจัดฉากระเบิดนี้ มีเจตนาต้องการ
"จำกัดความเสียหาย" จากระเบิด ไม่ให้ลุกลาม โดยการนำเอารถกระบะมาบัง !
ข้อสันนิษฐาน :-
1.
ปริศนา: ทำไมคนขับรถกระบะ จึงหยุดรถ กระทันหัน ?
เฉลย: คำตอบคือ เพราะเขาเตี๊ยมกันไว้ล่วงหน้า
ว่าจะหยุดรถบริเวณหน้าตู้โทรศัพท์พอดี เพื่อควบคุมพื้นที่ความเสียหายไว้ล่วงหน้า แต่งานนี้ไม่เนียนนัก เพราะชายหมวกขาวที่จะต้องโยนระเบิด เดินมาช้า เขาจึงต้องเร่งฝีเท้า จนเป็นที่ผิดสังเกต และมุ่งเฉียงไปยังหลังตู้โทรศัพท์ ส่วนรถกระบะก็ขับถึงจุดที่กำหนดล่วงหน้าเร็วไปนิด จึงต้องหยุดรถสนิท เพื่อรอเพื่อน
2. พื้นที่ความเสียหายที่กำหนด คือจากตู้โทรศัพท์ มาถึงรถกระบะ เท่านั้น หากไม่มีรถกระบะบังอยู่ อันตรายจะเกิดกับมวลม๊อบอีกหลายราย ที่เดินอยู่อีกฝั่งของรถกระบะ (จำนวนผู้บาดเจ็บอาจเพิ่มเป็น 2 เท่าหรือมากกว่านี้) โดยสังเกตได้ว่า ขนาดยางล้อหน้าด้านตรงข้ามคนขับ ยังถูกแรงระเบิดเจาะแบนตามภาพ ...
ภาพจากด้านหลังรถกระบะ จะเห็นว่าระยะทำการของระเบิด ถูกจำกัดเหลือเพียง 4 เมตร (รวมทางเท้า) จากรถกระบะถึงตู้โทรศัพท์ ...
3. ดังนั้น สาเหตุที่คนขับรถ จงใจหยุดรถหน้าตู้โทรศัพท์ ก็เพราะว่าได้กำหนดจุดระเบิด โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วนั่นเอง
4. ชายทั้งสองคนที่ร่วมมือกัน น่าจะเป็นคนมี
มากกว่าขาวดำ เพราะเชี่ยวชาญดูเป็นมืออาชีพ มีความรู้เรื่องอำนาจทำลายล้างของระเบิดที่ใช้ดีมาก แถมยังมีจิตใจมั่นคง เดิมตามเก็บหลักฐานที่ตกอยู่กลับคืนได้อย่างรวดเร็ว ราวกับได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้ว
5. ระเบิดที่ใช้ ตามหาแหล่งที่มาได้ยาก เพราะไม่มีหลักฐานให้ติดตาม (ส่วนกระเดื่องที่พบน่าจะเป็นการจัดฉาก)
6. คนหมวกขาว อาจตั้งใจสวมหมวกเพื่อปิดบังทรงผมเกรียนแบบ...
7. หลังการระเบิด คนขับรถกระบะ รีบวิ่งออกจากรถ ผ่านจุดระเบิดไปแบบไม่เกรงกลัว อาจเพราะต้องการไปดูชายหมวกขาว ที่หลบอยู่หลังตู้โทรศัพท์ ว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่ ?
8. และเมื่อเห็นว่าชายหมวกขาวปลอดภัยดี ทั้งสองจึงพากันเดินกลับมาค้นหากระเดื่อง เมื่อพบแล้วจึงก้มหยิบ แล้วรีบจากไปจาก crime scene
สรุป: สันนิษฐานว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ โดยเจตนา โดยมีการไตร่ตรอง วางแผนล่วงหน้ามาอย่างรัดกุม
และน่าจะเป็นสัญญาณเตือน ก่อนการ ปะติดสังขาร ของหัวเหม่งๆ บางคนคับ
ข้อสันนิษฐาน ว่าระเบิดม๊อบ กปปส. ที่บรรทัดทอง คือการสร้างสถานการณ์ของมืออาชีพ มีสี ...
อ้างอิง: คลิปการระเบิด ถ. บรรทัดทอง
อ้างอิงกระทู้: http://ppantip.com/topic/31536147
ขออนุญาตตั้งข้อสันนิษฐานว่า การจัดฉากระเบิดนี้ มีเจตนาต้องการ "จำกัดความเสียหาย" จากระเบิด ไม่ให้ลุกลาม โดยการนำเอารถกระบะมาบัง !
ข้อสันนิษฐาน :-
1. ปริศนา: ทำไมคนขับรถกระบะ จึงหยุดรถ กระทันหัน ?
เฉลย: คำตอบคือ เพราะเขาเตี๊ยมกันไว้ล่วงหน้า ว่าจะหยุดรถบริเวณหน้าตู้โทรศัพท์พอดี เพื่อควบคุมพื้นที่ความเสียหายไว้ล่วงหน้า แต่งานนี้ไม่เนียนนัก เพราะชายหมวกขาวที่จะต้องโยนระเบิด เดินมาช้า เขาจึงต้องเร่งฝีเท้า จนเป็นที่ผิดสังเกต และมุ่งเฉียงไปยังหลังตู้โทรศัพท์ ส่วนรถกระบะก็ขับถึงจุดที่กำหนดล่วงหน้าเร็วไปนิด จึงต้องหยุดรถสนิท เพื่อรอเพื่อน
2. พื้นที่ความเสียหายที่กำหนด คือจากตู้โทรศัพท์ มาถึงรถกระบะ เท่านั้น หากไม่มีรถกระบะบังอยู่ อันตรายจะเกิดกับมวลม๊อบอีกหลายราย ที่เดินอยู่อีกฝั่งของรถกระบะ (จำนวนผู้บาดเจ็บอาจเพิ่มเป็น 2 เท่าหรือมากกว่านี้) โดยสังเกตได้ว่า ขนาดยางล้อหน้าด้านตรงข้ามคนขับ ยังถูกแรงระเบิดเจาะแบนตามภาพ ...
ภาพจากด้านหลังรถกระบะ จะเห็นว่าระยะทำการของระเบิด ถูกจำกัดเหลือเพียง 4 เมตร (รวมทางเท้า) จากรถกระบะถึงตู้โทรศัพท์ ...
3. ดังนั้น สาเหตุที่คนขับรถ จงใจหยุดรถหน้าตู้โทรศัพท์ ก็เพราะว่าได้กำหนดจุดระเบิด โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วนั่นเอง
4. ชายทั้งสองคนที่ร่วมมือกัน น่าจะเป็นคนมีมากกว่าขาวดำ เพราะเชี่ยวชาญดูเป็นมืออาชีพ มีความรู้เรื่องอำนาจทำลายล้างของระเบิดที่ใช้ดีมาก แถมยังมีจิตใจมั่นคง เดิมตามเก็บหลักฐานที่ตกอยู่กลับคืนได้อย่างรวดเร็ว ราวกับได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้ว
5. ระเบิดที่ใช้ ตามหาแหล่งที่มาได้ยาก เพราะไม่มีหลักฐานให้ติดตาม (ส่วนกระเดื่องที่พบน่าจะเป็นการจัดฉาก)
6. คนหมวกขาว อาจตั้งใจสวมหมวกเพื่อปิดบังทรงผมเกรียนแบบ...
7. หลังการระเบิด คนขับรถกระบะ รีบวิ่งออกจากรถ ผ่านจุดระเบิดไปแบบไม่เกรงกลัว อาจเพราะต้องการไปดูชายหมวกขาว ที่หลบอยู่หลังตู้โทรศัพท์ ว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่ ?
8. และเมื่อเห็นว่าชายหมวกขาวปลอดภัยดี ทั้งสองจึงพากันเดินกลับมาค้นหากระเดื่อง เมื่อพบแล้วจึงก้มหยิบ แล้วรีบจากไปจาก crime scene
สรุป: สันนิษฐานว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ โดยเจตนา โดยมีการไตร่ตรอง วางแผนล่วงหน้ามาอย่างรัดกุม
และน่าจะเป็นสัญญาณเตือน ก่อนการ ปะติดสังขาร ของหัวเหม่งๆ บางคนคับ