สวัสดี พี่ๆเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน
วันนี้ขอเล่าสู่กันฟังกับประสบการณ์ตรงจากการใช้รถกระบะ Ford Ranger เครื่อง 2.2 เกียร์ออโต้
ออกรถเดือน สิงหาคม 2556
ตกลงกับทางศูนย์ Ford ว่า จะแจ้งกำหนดการรับรถก่อน 1 เดือน
แต่ทางศูนย์แจ้งต้องรีบมาเอารถออก ภายในสัปดาห์นี้
ผมตอบไปว่า ผมไม่ได้พิมพ์แบงค์นะครับ จะเตรียมเงินให้ทันได้ยังไง (สุดท้าย ก็ต้องรีบทำเรื่อง หาเงินมาออกรถ)
ขอเข้าสู่ปัญหาที่พบเจอเลยล่ะกันครับ
1.รถมีกลิ่นเข้ามากับแอร์ ถ้าปิดแอร์กลิ่นก็ไม่เข้า
2.รถมีเสียง ครีดๆ เป็นบ่อยมาก (ตอนนี้เลขไมล์ผม 13,xxx กิโลเมตร) *
ช่างแจ้งว่า Run In ,หาไม่เจอ ถ้าเป็นจากกรณี Run in แสดงว่ารถทุกคันต้องเหมือนกัน...ซึ่งไม่เป็นความจริง
ทั้งสองกรณีนี้ ซ่อมไม่หาย ปัจจุบันก็ยังไม่หาย
* จากการหาข้อมูลเจอผู้ใช้รถ Ford รุ่นนี้ เจอปัญหาเหมือนผม เลยปรึกษาคนใช้รถ Ford รุ่นนี้ ได้รับคำตอบว่า
1.จากผู้ใช้งานที่เจอปัญหาเดียวกัน ได้ข้อมูลว่าไม่ได้ซ่อมรถแล้ว ปัจจุบันขับรถมา 6 หมื่นโลแล้ว ก็ยังเจอปัญหากวนใจอยู่ มีเสียงดังครีดๆ อยู่ ไม่มีเวลาไปซ่อม ต้องใช้รถ ก็ใช้ให้มันพังไป...
2.จากเพื่อนที่ใช้ Ford และยี่ห้ออื่นๆ (ที่บ้านเพื่อนผมมีหลายคันมาก)
- เรื่องนี้จะได้รับการแก้ปัญหาตามชนชั้น ( หมายความว่าไง )
รถราคาแค่นี้ จะเอาอะไรกับคุณภาพ...ห๊ะ ผมคิดในใจ นี่ผมชื้อรถราคา 829,000 บาท รถราคาแค่นี้ ก็ได้มาตรฐานแค่นี้
(มาตรฐานโรงงานผลิต Ford เป็นอย่างไรครับ?) กับ คำตอบของเพื่อนผม...
พูดถึงการเข้าศูนย์ซ่อม ศูนย์บริการดี พร้อมดูแล แก้ไขปัญหา ซ่อมแซมให้ แต่...
1.กว่าจะจองคิวซ่อมได้นานมาก
2.ซ่อมแล้วไม่หาย แถมมีค่าใช้จ่ายอีก*
3.ซ่อมแล้วซ่อมอีก ซ่อมจนรถซ้ำ รื้อคอนโซลรถผมหลวมแล้วตอนนี้ รถผมมีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้นอีก
- บริเวณคอนโซลฝั่งข้างคนขับ มีเสียง วืด วืด เวลาหมุนกุญแจก่อนสตาร์ทรถ (ช่างบอกว่าเป็นเสียงใบโบก) จากไม่มีปัญหาก็มีปัญหา
- บริเวณ ล้อขวาหน้า เวลาดับเครื่อง (ต้องขับมาสักพัก) จะเสียงประหลาดๆ ฟังเพลินๆ ก็น่ารักดี แต่ไม่ควรจะมาดังกับรถ
อันนี้ก็เป็นปัญหาใหม่
*หลายท่านอาจสงสัย ทำไมมีค่าใช้จ่าย ขอชี้แจ้งว่าผมเอารถเข้าซ่อมหลายครั้ง
1.ช่างแจ้งว่า ต้องเปลี่ยนกรองแอร์ เนื่องจากสกปรก มีค่าใช้จ่าย (จำไม่ได้เท่าไร) ถ้าเปลี่ยนเรื่องกลิ่นเข้ารถก็จะหาย ซึ่งผมเต็มใจที่จะจ่ายถ้าปัญหาหาย ตามที่ ศูนย์แจ้งไว้ ทว่า...ขับไปสักพัก ก็ได้กลิ่นไก่ย่างโชยมาตามลมแอร์
เหตุผลที่ต้องมี**ค่าใช้จ่ายเพราะป็นอะไหล่สิ้นเปลือง ไม่อยู่ในประกัน
2.ช่างเอารถไปทดสอบ ซึ่งต้องใช้น้ำมันรถของผม
3.สืบเนื่องจากข้อ 2 ผมต้องเดินทางทำงาน ตจว. จึงทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มขึ้น
หลายท่านอาจจะมองว่า รถมีปัญหาก็ต้องซ่อม การไปทำงานต้องทำทุกวันมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เพราะ ผมจอดรถค้างคืน ที่ศูนย์ มากกว่า 1 ครั้ง (จำไม่ได้ว่ากี่วัน) รวมถึงครั้งล่าสุด ทางศูนย์ ขอให้ทิ้งรถไว้ เพื่อเช็คให้มั่นใจ
ถึงจุดนี้เลยตัดสินว่าจะไม่เอาเข้าซ่อมแล้ว
ผมจึงโทรคุยกับทางผู้จัดการศูนย์ ได้ข้อสรุปว่า ทางศูนย์ Ford ที่ผมออกรถ จะทำหนังสือแจ้งไปทาง Ford สำนักงานใหญ่ เพื่อให้หาทางแก้ไขปัญหาให้ ( คุยกับ ผู้จัดการศูนย์ วันที่ 16/1/57 )
* ตรงนี้ขอระบายล้วนๆ
- ผมชื้อรถ ซึ่งเป็นรถใหม่ ไว้ใช้งาน ไม่ใช่ชื้อไว้ซ่อม และ จอดทิ้งไว้ที่ศูนย์
- ผมผิดเองที่ไม่หาข้อมูล รถ Ford ให้ดีก่อนชื้อ ว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง เป็นข้อบกพร่องส่วนตัว ไม่คิดว่า รถ Ford จะมีปัญหา สร้างความกวนใจ และ ปัญหาในการใช้งานให้ผมขนาดนี้
- ผมเก็บ Mitsubishi Triton ผมไว้ดีกว่า อย่างน้อย มันก็ไม่เคยต้องไปซ่อมกับปัญหาพวกนี้
- เปรียบเทียบรถ ราคาเท่ากัน Ford สู้ Mitsubishi ไม่ได้ ( ที่บ้านผม มี Mitsubishi ด้วยครับ ซึ่งก็มีปัญหา แต่ก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้ ขอบคุณ ศูนย์ Mitsubishi ครับ )
ตอนนี้ ผมรอทาง Ford ว่าจะติดต่อกลับหาผมเมื่อไร ตั้งใจว่าจะติดต่อกลับศูนย์ Ford สิ้นเดือนนี้ครับ (31/1/57) ความคืบหน้าเป็นอย่างไร จะมาเขียนบรรยายไว้ครับ
ปัญหา Ford Ranger 2.2 XLT
วันนี้ขอเล่าสู่กันฟังกับประสบการณ์ตรงจากการใช้รถกระบะ Ford Ranger เครื่อง 2.2 เกียร์ออโต้
ออกรถเดือน สิงหาคม 2556
ตกลงกับทางศูนย์ Ford ว่า จะแจ้งกำหนดการรับรถก่อน 1 เดือน
แต่ทางศูนย์แจ้งต้องรีบมาเอารถออก ภายในสัปดาห์นี้
ผมตอบไปว่า ผมไม่ได้พิมพ์แบงค์นะครับ จะเตรียมเงินให้ทันได้ยังไง (สุดท้าย ก็ต้องรีบทำเรื่อง หาเงินมาออกรถ)
ขอเข้าสู่ปัญหาที่พบเจอเลยล่ะกันครับ
1.รถมีกลิ่นเข้ามากับแอร์ ถ้าปิดแอร์กลิ่นก็ไม่เข้า
2.รถมีเสียง ครีดๆ เป็นบ่อยมาก (ตอนนี้เลขไมล์ผม 13,xxx กิโลเมตร) *
ช่างแจ้งว่า Run In ,หาไม่เจอ ถ้าเป็นจากกรณี Run in แสดงว่ารถทุกคันต้องเหมือนกัน...ซึ่งไม่เป็นความจริง
ทั้งสองกรณีนี้ ซ่อมไม่หาย ปัจจุบันก็ยังไม่หาย
* จากการหาข้อมูลเจอผู้ใช้รถ Ford รุ่นนี้ เจอปัญหาเหมือนผม เลยปรึกษาคนใช้รถ Ford รุ่นนี้ ได้รับคำตอบว่า
1.จากผู้ใช้งานที่เจอปัญหาเดียวกัน ได้ข้อมูลว่าไม่ได้ซ่อมรถแล้ว ปัจจุบันขับรถมา 6 หมื่นโลแล้ว ก็ยังเจอปัญหากวนใจอยู่ มีเสียงดังครีดๆ อยู่ ไม่มีเวลาไปซ่อม ต้องใช้รถ ก็ใช้ให้มันพังไป...
2.จากเพื่อนที่ใช้ Ford และยี่ห้ออื่นๆ (ที่บ้านเพื่อนผมมีหลายคันมาก)
- เรื่องนี้จะได้รับการแก้ปัญหาตามชนชั้น ( หมายความว่าไง )
รถราคาแค่นี้ จะเอาอะไรกับคุณภาพ...ห๊ะ ผมคิดในใจ นี่ผมชื้อรถราคา 829,000 บาท รถราคาแค่นี้ ก็ได้มาตรฐานแค่นี้
(มาตรฐานโรงงานผลิต Ford เป็นอย่างไรครับ?) กับ คำตอบของเพื่อนผม...
พูดถึงการเข้าศูนย์ซ่อม ศูนย์บริการดี พร้อมดูแล แก้ไขปัญหา ซ่อมแซมให้ แต่...
1.กว่าจะจองคิวซ่อมได้นานมาก
2.ซ่อมแล้วไม่หาย แถมมีค่าใช้จ่ายอีก*
3.ซ่อมแล้วซ่อมอีก ซ่อมจนรถซ้ำ รื้อคอนโซลรถผมหลวมแล้วตอนนี้ รถผมมีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้นอีก
- บริเวณคอนโซลฝั่งข้างคนขับ มีเสียง วืด วืด เวลาหมุนกุญแจก่อนสตาร์ทรถ (ช่างบอกว่าเป็นเสียงใบโบก) จากไม่มีปัญหาก็มีปัญหา
- บริเวณ ล้อขวาหน้า เวลาดับเครื่อง (ต้องขับมาสักพัก) จะเสียงประหลาดๆ ฟังเพลินๆ ก็น่ารักดี แต่ไม่ควรจะมาดังกับรถ
อันนี้ก็เป็นปัญหาใหม่
*หลายท่านอาจสงสัย ทำไมมีค่าใช้จ่าย ขอชี้แจ้งว่าผมเอารถเข้าซ่อมหลายครั้ง
1.ช่างแจ้งว่า ต้องเปลี่ยนกรองแอร์ เนื่องจากสกปรก มีค่าใช้จ่าย (จำไม่ได้เท่าไร) ถ้าเปลี่ยนเรื่องกลิ่นเข้ารถก็จะหาย ซึ่งผมเต็มใจที่จะจ่ายถ้าปัญหาหาย ตามที่ ศูนย์แจ้งไว้ ทว่า...ขับไปสักพัก ก็ได้กลิ่นไก่ย่างโชยมาตามลมแอร์
เหตุผลที่ต้องมี**ค่าใช้จ่ายเพราะป็นอะไหล่สิ้นเปลือง ไม่อยู่ในประกัน
2.ช่างเอารถไปทดสอบ ซึ่งต้องใช้น้ำมันรถของผม
3.สืบเนื่องจากข้อ 2 ผมต้องเดินทางทำงาน ตจว. จึงทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มขึ้น
หลายท่านอาจจะมองว่า รถมีปัญหาก็ต้องซ่อม การไปทำงานต้องทำทุกวันมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เพราะ ผมจอดรถค้างคืน ที่ศูนย์ มากกว่า 1 ครั้ง (จำไม่ได้ว่ากี่วัน) รวมถึงครั้งล่าสุด ทางศูนย์ ขอให้ทิ้งรถไว้ เพื่อเช็คให้มั่นใจ
ถึงจุดนี้เลยตัดสินว่าจะไม่เอาเข้าซ่อมแล้ว
ผมจึงโทรคุยกับทางผู้จัดการศูนย์ ได้ข้อสรุปว่า ทางศูนย์ Ford ที่ผมออกรถ จะทำหนังสือแจ้งไปทาง Ford สำนักงานใหญ่ เพื่อให้หาทางแก้ไขปัญหาให้ ( คุยกับ ผู้จัดการศูนย์ วันที่ 16/1/57 )
* ตรงนี้ขอระบายล้วนๆ
- ผมชื้อรถ ซึ่งเป็นรถใหม่ ไว้ใช้งาน ไม่ใช่ชื้อไว้ซ่อม และ จอดทิ้งไว้ที่ศูนย์
- ผมผิดเองที่ไม่หาข้อมูล รถ Ford ให้ดีก่อนชื้อ ว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง เป็นข้อบกพร่องส่วนตัว ไม่คิดว่า รถ Ford จะมีปัญหา สร้างความกวนใจ และ ปัญหาในการใช้งานให้ผมขนาดนี้
- ผมเก็บ Mitsubishi Triton ผมไว้ดีกว่า อย่างน้อย มันก็ไม่เคยต้องไปซ่อมกับปัญหาพวกนี้
- เปรียบเทียบรถ ราคาเท่ากัน Ford สู้ Mitsubishi ไม่ได้ ( ที่บ้านผม มี Mitsubishi ด้วยครับ ซึ่งก็มีปัญหา แต่ก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้ ขอบคุณ ศูนย์ Mitsubishi ครับ )
ตอนนี้ ผมรอทาง Ford ว่าจะติดต่อกลับหาผมเมื่อไร ตั้งใจว่าจะติดต่อกลับศูนย์ Ford สิ้นเดือนนี้ครับ (31/1/57) ความคืบหน้าเป็นอย่างไร จะมาเขียนบรรยายไว้ครับ