จากหนูน้อยวัยสี่ขวบที่หล่อนสวยงามที่สุดในชั้นเรียนจนได้รับคัดเลือกให้แต่งกายเป็นนางมารีน้อยในวันคริสตมาส
จนวันนี้หนูน้อยคนเดิมวัยเจ็ดขวบของแม่ เมื่อฟันน้ำนมหลุดออกไปและฟันแท้สองซี่ใหญ่ๆเข้ามาแทนที่ หน้าตาหนูน้อยก็เปลี่ยนไป ทั้งๆที่หนูก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงที่สวยงามที่สุดคนเดิมของแม่
แต่วันหนึ่งหนูน้อยพูดทั้งน้ำตาว่าถูกเพื่อนผู้ชายล้อว่า น่าเกลียดบ้าง ขี้เหล่บ้าง ฟันยักษ์ etc.
แม่ก็ได้แต่สอนให้ลูกอดทนค่ะ รอจนฟันขึ้นครบแล้วเราจะจับมือกันไปดัดให้เข้าที่นะคะ คริๆๆ
ส่วนเรื่องการรับมือกับเพื่อนผู้ชายพวกนั้น คุณแม่สอนให้ลูกเข้มแข็งและทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดของคนอื่น(แม้จะเข้าทำนองแม่ปูสอนลูกปูเดินก็ตาม หุหุ) ชีวิตยังอีกยาวไกล เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ แม้จะเป็นหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ หล่อนก็ต้องผ่านมันไปให้ได้จริงมั้ยคะ?
แอบอยากรู้วิธีการให้กำลังใจลูกๆของแม่ๆบ้านอื่นน่ะค่ะ ว่าคุยกับลูกกันว่าอย่างไรบ้างในกรณีแบบนี้...
ปล. ดิฉันยกตัวอย่างคำพูดที่คุยกับลูกสาวมาเป็นส่วนน้อยนะคะ เรื่องผู้หญิงๆละเอียดอ่อนเสมอ อิอิ
นางถูกเพื่อนล้อว่า "ขี้เหล่" คุณแม่จะบอกลูกอย่างไรดีค่ะ?
จนวันนี้หนูน้อยคนเดิมวัยเจ็ดขวบของแม่ เมื่อฟันน้ำนมหลุดออกไปและฟันแท้สองซี่ใหญ่ๆเข้ามาแทนที่ หน้าตาหนูน้อยก็เปลี่ยนไป ทั้งๆที่หนูก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงที่สวยงามที่สุดคนเดิมของแม่
แต่วันหนึ่งหนูน้อยพูดทั้งน้ำตาว่าถูกเพื่อนผู้ชายล้อว่า น่าเกลียดบ้าง ขี้เหล่บ้าง ฟันยักษ์ etc.
แม่ก็ได้แต่สอนให้ลูกอดทนค่ะ รอจนฟันขึ้นครบแล้วเราจะจับมือกันไปดัดให้เข้าที่นะคะ คริๆๆ
ส่วนเรื่องการรับมือกับเพื่อนผู้ชายพวกนั้น คุณแม่สอนให้ลูกเข้มแข็งและทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดของคนอื่น(แม้จะเข้าทำนองแม่ปูสอนลูกปูเดินก็ตาม หุหุ) ชีวิตยังอีกยาวไกล เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ แม้จะเป็นหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ หล่อนก็ต้องผ่านมันไปให้ได้จริงมั้ยคะ?
แอบอยากรู้วิธีการให้กำลังใจลูกๆของแม่ๆบ้านอื่นน่ะค่ะ ว่าคุยกับลูกกันว่าอย่างไรบ้างในกรณีแบบนี้...
ปล. ดิฉันยกตัวอย่างคำพูดที่คุยกับลูกสาวมาเป็นส่วนน้อยนะคะ เรื่องผู้หญิงๆละเอียดอ่อนเสมอ อิอิ