[3,4]
เพราะ เราอยู่ได้ ด้วย"ความไร้ระเบียบ" ในสภาพตัวเราเกิดมา เกิดจาก "ความไร้ระเบียบ" เพราะ เอนโทรปี ไม่คิดเวลา
ตัว เอนโทรปี คิดถึงจุดเริ่มต้นและจุดจบเท่านั้น ระหว่างทางนั้นคือ "ความไร้ระเรียบ" เพราะฉะนั้น เราแค่อยู่บนเส้นทางนี้เท่านั้น
ร่างกายเรา เส้นเลือด เลือดเราได้แรงส่งจากกล้ามเนื้อของหัวใจ เมื่อไม่คิดเวลา หัวใจเราจะหยุดทำงานลง เนื่องจากกากเสื่อมของกล้ามเนื้อหัวใจ หรือแม้กระทั่ง อวัยวะต่างๆ เพื่อให้สภาพแวดล้อม จัด "ความไร้ระเบียบ" ให้มีระเบียบมากยิ่งขึ้น
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงมายังโลก เพื่อลด "ความไร้ระเบียบ" ของตัวเอง ในขณะที่โลกได้รับความร้อนกลับเพิ่ม "ความไร้ระเบียบ" มากขึ้น มีพลังงาน จึงมีสิ่งมีชีวิต ที่จัดตัวเอง กินอาหาร "ความไร้ระเบียบ" นี้
"ความไร้ระเบียบ" นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
หากจักรวาลขยายตัวจริง นั้นหมายความว่า จักรวาลมี "ความไร้ระเบียบ" อยู่
เมื่อจักรวาลจัดการเรื่อง "ความไร้ระเบียบ"นี้เสร็จ จักรวาลจะหยุดเคลื่อนที่ เวลาจะหยุดทันที
จริงๆแล้ว เวลานี้เกิดจาก "ความไร้ระเบียบ" ความร้อนถ่ายเทจากสูงไปต่ำ เมื่อเกิดการถ่ายเท "ความไร้ระเบียบ" ก็จะเกิดการเคลื่อนที่ เกิดระยะทาง เกิดการถ่ายเทพลังงาน เพื่อที่จะจัด "ความไร้ระเบียบ" นี้ให้สู่ความมีระเบียบ
ในแบบจำลองย่อยๆของความ "ไร้ระเบียบ" นี้เราสามารถ ทำนายการเกิดปฎิกิริยา ของสารได้อีกด้วย
ความมหัศจรรย์ เหล่านี้ มีที่มาและอย่างไร คงไม่มีคำตอบมากนัก แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เราอยู่ใน เส้นทางของ "การจัดระเบียบ" เท่านั้น
หากมอกมิติ [1,2] เป็นเส้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย
มิติที่ 1 คือ เส้น
มิติที่ 2 คือ พื้นที่
มิติที่ 3 คือ ปริมาตร
มิติที่ 4 เขาว่าเป็น เวลา แต่ เวลาคืออะไร เวลาคือ เข็มนาฬิกา เดินไปงั้นหรือ เข็มนาฬิกา เกิดจากอะไร เกิดจาก การถ่ายเทพลังงานสู่เข็ม มอเตอร์ได้รับพลังงาน ผมว่าจริงๆ มิติที่ 4 ที่เราอยู่กัน คือ "เอนโทรปี" ครับ เพราะเราอยู่ในของ "ความไร้ระเบียบ" นั้นเอง เมื่อมี ในเส้นทางของ "ความไร้ระเบียบ" (เส้น จุดเริ่มต้นและจุดจบ) คือตัวเรา ที่เรารู้สึกได้นั้นเอง ลองดูสิครับ ทุกที่ย่อมมีอุณหภูมิ นั้นก็คือ ย่อมมีการไหล มี "ความไร้ระเบียบ" ถ้าอุณหภูมิ 0 องศาเคลวิน จะเกิดอะไรขึ้น คงจะจินตนการไม่ได้ แต่ 0 จริงๆ นั้นก็คือ ไม่มีเวลา ไม่มี "ความไร้ระเบียบ" ไม่มีการเคลื่อนที่ ดังนั้น มิติที่ 4 ก็คือ " ความไร้ระเบียบ" หรือ เอนโทรปีนั้นเองถูกต้องไหมครับ ?
แต่ๆๆ ยังมีเหนือกว่านั้น หาก ทฤษฎีเรื่อง สิบ มิติ อย่างน้อยเป็นจริง
มิติที่ 5 คือ ความสัมพันธ์ของ เส้นทาง "ความไร้ระเบียบ" หลายๆ เส้นทางๆ หลายๆโอกาส ใช่ไหม ?
มิติที่ 6 คือ ความต่อเนื่องของเส้นทางที่เกิดขึ้นจากทางเลือกหลายๆเส้นทางที่มีผลซึ่งกันและกันใน "ความไร้ระเบียบ" นี้รึเปล่า ?
มิติที่ 7 คือ All possible time line ทุกเส้นทางที่เป็นไปได้ในทุกๆสิ่ง ตัวนี้คือ จุดเริ่มต้นและจุดจบของ "ความไร้ระเบียบ"รึเปล่า (ไม่คิดระหว่างทาง มิติ 1 - 6)
มิติที่ 8,9,10 งง.....
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์และเป็นไปได้
หากพูดถึง ศาสนาแล้ว มิติที่ 5 จะเกี่ยวข้องกับ Free will ว่าคนเราที่แท้จริงแล้วนั้นมีทางเลือกตัดสินใจจริงรึเปล่า หรือว่า เราโดนสมองสั่งการให้โดนหลอกว่าเราตัดสินใจได้นั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามจาก มิติที่ 5 คนเรามีสิทธิที่จะตัดสินใจ เลือกทางเดินและโอกาสได้ด้วยตัวเราเอง [5,6]
มิติที่ 6 เกี่ยวข้องกับ แมวของชโลดิงเจอร์ หรือไม่ เมื่อคุณเปิดดูแมวตายหรือยัง สถานะมันก็จะเปลี่ยนไป ผลที่ได้มันจะผิดพลาดเมื่อคุณเปิดดู เพราะฉะนั้นคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า"ขณะที่แมวถูกขังปิด โดนแก๊สพิษ หรือ อะไรก็ตามนั้น ตายหรือยัง" อีกนัยหนึ่ง กับคำกล่าวว่า ผีเสื้อกระพือปีกมีผลกระทบทั้งจักรวาล นั้นเอง
มิติที่ 7,8,9,10 ผมว่าต้องมีมิติใด มิติหนึ่ง เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธแน่ๆ
การบรรลุอรหันต์ คือการ ไม่เกิดมา อย่างน้อยมิติที่ 4 ไม่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความไร้ระเบียบไม่มี เพราะอยู่เหนือกว่านั้น มีระเบียบแล้ว เอนโทรปีจัดตัวเองเสร็จหมดแล้ว
ลองจินตนาการ สมองเราสัมผัส รับรู้ได้ แค่มิติที่ 4 สิ่งที่อยู่เหนือกว่านั้น
ลองจินตนาการ อีก หากสมองเราสัมผัสได้ถึง มิติที่ 5 เราคงจะมองเห็น "ความไร้ระเบียบ" เหล่านี้มากขึ้น นั้นคือ เราสามารถเลือกเส้นทางเดิน มองเห็นโอกาสต่างๆ ได้ ทำไมถึงมี หมอดูทำนายได้อย่างแม่นยำ นั้นก็เพราะเขาสามารถ สัมผัสถึง มิติที่ 5 ได้ สัมผัสถึงความน่าจะเป็นอนาคต ที่เกิดขึ้น ของโอกาสของๆคนๆนั้น
อย่างไรก็ตามหากจะอธิบาย ถึงมิติที่ 6 ถ้าเราไปดูหมอดู โอกาสนั้นจะเปลี่ยนไป เพราะเรารับรู้ "แมวของชโลดิงเจอร์" [7] แล้วนั้นเอง
ลองจินตนาการ อีกว่า หากเราเป็นสิ่งมีชีวิต ที่สัมผัสได้ถึง มิติที่ 7 เราก็คือ พระเจ้าดีๆ นั้นเอง เราจะเหนือกว่า "แมงของชโลดิงเจอร์" เราจะเหนือกว่าหมอดู นั้นหล่ะคือ พระเจ้า
แล้วมนุษย์ต่างดาวหล่ะ จะจินตนาการ อย่างไร ?
มนุษย์ต่างดาว ผมคิดว่า เขาคงจะอยู่เหนือมากกว่า มิติ ที่เราสัมผัสได้ หากมนุษย์ต่างดาวคือ มิติที่ 5 คงเป็นรูปหนึ่งแน่ๆ
แล้วยิ่งมิติที่ 6,7,8,9 ขึ้นไป
จักรวาลจะเป็นอย่างไร ทุกวันนี้เราแค่อธิบาย จักรวาลใน 4 มิติเท่านั้น
ลองจินตนาการ จักรวาลในมิติที่ 5 จะเป็นอย่างไร หล่ะครับ ?
ราตรีสวัสดิ์
[1]
http://www.youtube.com/watch?v=JkxieS-6WuA
[2]
http://www.youtube.com/watch?v=ySBaYMESb8o
[3]
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2011/04/X10415642/X10415642.html
[4]
http://en.wikipedia.org/wiki/Entropy
[5]
http://en.wikipedia.org/wiki/Free_will
[6]
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5
[7]
http://en.wikipedia.org/wiki/Schr%C3%B6dinger's_cat
ผม จิตนาการว่า เอนโทรปี ทำให้เรา เกิด แก่ เจ็บตาย และจุดจบคือ มิติที่เหนือกว่า
เพราะ เราอยู่ได้ ด้วย"ความไร้ระเบียบ" ในสภาพตัวเราเกิดมา เกิดจาก "ความไร้ระเบียบ" เพราะ เอนโทรปี ไม่คิดเวลา
ตัว เอนโทรปี คิดถึงจุดเริ่มต้นและจุดจบเท่านั้น ระหว่างทางนั้นคือ "ความไร้ระเรียบ" เพราะฉะนั้น เราแค่อยู่บนเส้นทางนี้เท่านั้น
ร่างกายเรา เส้นเลือด เลือดเราได้แรงส่งจากกล้ามเนื้อของหัวใจ เมื่อไม่คิดเวลา หัวใจเราจะหยุดทำงานลง เนื่องจากกากเสื่อมของกล้ามเนื้อหัวใจ หรือแม้กระทั่ง อวัยวะต่างๆ เพื่อให้สภาพแวดล้อม จัด "ความไร้ระเบียบ" ให้มีระเบียบมากยิ่งขึ้น
ดวงอาทิตย์ ส่องแสงมายังโลก เพื่อลด "ความไร้ระเบียบ" ของตัวเอง ในขณะที่โลกได้รับความร้อนกลับเพิ่ม "ความไร้ระเบียบ" มากขึ้น มีพลังงาน จึงมีสิ่งมีชีวิต ที่จัดตัวเอง กินอาหาร "ความไร้ระเบียบ" นี้
"ความไร้ระเบียบ" นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
หากจักรวาลขยายตัวจริง นั้นหมายความว่า จักรวาลมี "ความไร้ระเบียบ" อยู่
เมื่อจักรวาลจัดการเรื่อง "ความไร้ระเบียบ"นี้เสร็จ จักรวาลจะหยุดเคลื่อนที่ เวลาจะหยุดทันที
จริงๆแล้ว เวลานี้เกิดจาก "ความไร้ระเบียบ" ความร้อนถ่ายเทจากสูงไปต่ำ เมื่อเกิดการถ่ายเท "ความไร้ระเบียบ" ก็จะเกิดการเคลื่อนที่ เกิดระยะทาง เกิดการถ่ายเทพลังงาน เพื่อที่จะจัด "ความไร้ระเบียบ" นี้ให้สู่ความมีระเบียบ
ในแบบจำลองย่อยๆของความ "ไร้ระเบียบ" นี้เราสามารถ ทำนายการเกิดปฎิกิริยา ของสารได้อีกด้วย
ความมหัศจรรย์ เหล่านี้ มีที่มาและอย่างไร คงไม่มีคำตอบมากนัก แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เราอยู่ใน เส้นทางของ "การจัดระเบียบ" เท่านั้น
หากมอกมิติ [1,2] เป็นเส้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย
มิติที่ 1 คือ เส้น
มิติที่ 2 คือ พื้นที่
มิติที่ 3 คือ ปริมาตร
มิติที่ 4 เขาว่าเป็น เวลา แต่ เวลาคืออะไร เวลาคือ เข็มนาฬิกา เดินไปงั้นหรือ เข็มนาฬิกา เกิดจากอะไร เกิดจาก การถ่ายเทพลังงานสู่เข็ม มอเตอร์ได้รับพลังงาน ผมว่าจริงๆ มิติที่ 4 ที่เราอยู่กัน คือ "เอนโทรปี" ครับ เพราะเราอยู่ในของ "ความไร้ระเบียบ" นั้นเอง เมื่อมี ในเส้นทางของ "ความไร้ระเบียบ" (เส้น จุดเริ่มต้นและจุดจบ) คือตัวเรา ที่เรารู้สึกได้นั้นเอง ลองดูสิครับ ทุกที่ย่อมมีอุณหภูมิ นั้นก็คือ ย่อมมีการไหล มี "ความไร้ระเบียบ" ถ้าอุณหภูมิ 0 องศาเคลวิน จะเกิดอะไรขึ้น คงจะจินตนการไม่ได้ แต่ 0 จริงๆ นั้นก็คือ ไม่มีเวลา ไม่มี "ความไร้ระเบียบ" ไม่มีการเคลื่อนที่ ดังนั้น มิติที่ 4 ก็คือ " ความไร้ระเบียบ" หรือ เอนโทรปีนั้นเองถูกต้องไหมครับ ?
แต่ๆๆ ยังมีเหนือกว่านั้น หาก ทฤษฎีเรื่อง สิบ มิติ อย่างน้อยเป็นจริง
มิติที่ 5 คือ ความสัมพันธ์ของ เส้นทาง "ความไร้ระเบียบ" หลายๆ เส้นทางๆ หลายๆโอกาส ใช่ไหม ?
มิติที่ 6 คือ ความต่อเนื่องของเส้นทางที่เกิดขึ้นจากทางเลือกหลายๆเส้นทางที่มีผลซึ่งกันและกันใน "ความไร้ระเบียบ" นี้รึเปล่า ?
มิติที่ 7 คือ All possible time line ทุกเส้นทางที่เป็นไปได้ในทุกๆสิ่ง ตัวนี้คือ จุดเริ่มต้นและจุดจบของ "ความไร้ระเบียบ"รึเปล่า (ไม่คิดระหว่างทาง มิติ 1 - 6)
มิติที่ 8,9,10 งง.....
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์และเป็นไปได้
หากพูดถึง ศาสนาแล้ว มิติที่ 5 จะเกี่ยวข้องกับ Free will ว่าคนเราที่แท้จริงแล้วนั้นมีทางเลือกตัดสินใจจริงรึเปล่า หรือว่า เราโดนสมองสั่งการให้โดนหลอกว่าเราตัดสินใจได้นั้นเอง แต่อย่างไรก็ตามจาก มิติที่ 5 คนเรามีสิทธิที่จะตัดสินใจ เลือกทางเดินและโอกาสได้ด้วยตัวเราเอง [5,6]
มิติที่ 6 เกี่ยวข้องกับ แมวของชโลดิงเจอร์ หรือไม่ เมื่อคุณเปิดดูแมวตายหรือยัง สถานะมันก็จะเปลี่ยนไป ผลที่ได้มันจะผิดพลาดเมื่อคุณเปิดดู เพราะฉะนั้นคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า"ขณะที่แมวถูกขังปิด โดนแก๊สพิษ หรือ อะไรก็ตามนั้น ตายหรือยัง" อีกนัยหนึ่ง กับคำกล่าวว่า ผีเสื้อกระพือปีกมีผลกระทบทั้งจักรวาล นั้นเอง
มิติที่ 7,8,9,10 ผมว่าต้องมีมิติใด มิติหนึ่ง เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธแน่ๆ
การบรรลุอรหันต์ คือการ ไม่เกิดมา อย่างน้อยมิติที่ 4 ไม่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความไร้ระเบียบไม่มี เพราะอยู่เหนือกว่านั้น มีระเบียบแล้ว เอนโทรปีจัดตัวเองเสร็จหมดแล้ว
ลองจินตนาการ สมองเราสัมผัส รับรู้ได้ แค่มิติที่ 4 สิ่งที่อยู่เหนือกว่านั้น
ลองจินตนาการ อีก หากสมองเราสัมผัสได้ถึง มิติที่ 5 เราคงจะมองเห็น "ความไร้ระเบียบ" เหล่านี้มากขึ้น นั้นคือ เราสามารถเลือกเส้นทางเดิน มองเห็นโอกาสต่างๆ ได้ ทำไมถึงมี หมอดูทำนายได้อย่างแม่นยำ นั้นก็เพราะเขาสามารถ สัมผัสถึง มิติที่ 5 ได้ สัมผัสถึงความน่าจะเป็นอนาคต ที่เกิดขึ้น ของโอกาสของๆคนๆนั้น
อย่างไรก็ตามหากจะอธิบาย ถึงมิติที่ 6 ถ้าเราไปดูหมอดู โอกาสนั้นจะเปลี่ยนไป เพราะเรารับรู้ "แมวของชโลดิงเจอร์" [7] แล้วนั้นเอง
ลองจินตนาการ อีกว่า หากเราเป็นสิ่งมีชีวิต ที่สัมผัสได้ถึง มิติที่ 7 เราก็คือ พระเจ้าดีๆ นั้นเอง เราจะเหนือกว่า "แมงของชโลดิงเจอร์" เราจะเหนือกว่าหมอดู นั้นหล่ะคือ พระเจ้า
แล้วมนุษย์ต่างดาวหล่ะ จะจินตนาการ อย่างไร ?
มนุษย์ต่างดาว ผมคิดว่า เขาคงจะอยู่เหนือมากกว่า มิติ ที่เราสัมผัสได้ หากมนุษย์ต่างดาวคือ มิติที่ 5 คงเป็นรูปหนึ่งแน่ๆ
แล้วยิ่งมิติที่ 6,7,8,9 ขึ้นไป
จักรวาลจะเป็นอย่างไร ทุกวันนี้เราแค่อธิบาย จักรวาลใน 4 มิติเท่านั้น
ลองจินตนาการ จักรวาลในมิติที่ 5 จะเป็นอย่างไร หล่ะครับ ?
ราตรีสวัสดิ์
[1] http://www.youtube.com/watch?v=JkxieS-6WuA
[2] http://www.youtube.com/watch?v=ySBaYMESb8o
[3] http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2011/04/X10415642/X10415642.html
[4] http://en.wikipedia.org/wiki/Entropy
[5] http://en.wikipedia.org/wiki/Free_will
[6] http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5
[7] http://en.wikipedia.org/wiki/Schr%C3%B6dinger's_cat