"นอร์เวย์" ต้นแบบชาติประชาธิปไตยที่สมบูรณ์





ในสภาวะที่การเมืองไทย เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย มืดแปดด้านไร้ทางออก ผู้คนต่างต่อสู้ดิ้นรน และเรียกหาประชาธิปไตยจนเสียงแหบแห้ง หลายคนเริ่มจะถอดใจกับคำว่าประชาธิปไตยและหมดหวังในแผ่นกระดาษที่เรียกกันว่า รัฐธรรมนูญ แต่มีตัวอย่างของประเทศหนึ่ง คือ นอร์เวย์ ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเหมือนกับไทยแทบทุกอย่าง แต่กลับได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ และไม่เคยแก้รัฐธรรมนูญ จนมีรัฐธรรมนูญเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลก ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ติดตามจากรายงานพิเศษของ คุณอรชพร ชลาดล

รัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดี่ยวที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลกที่มีผลบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบันนั้นเป็นของ ประเทศนอร์เวย์

แต่เดิม ประเทศนอร์เวย์มีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ภายใต้การปกครองของประเทศเดนมาร์ก โดยมีลักษณะเป็นการปกครองแบบสหภาพตั้งแต่ปี 1940 จนกระทั่งปี 2357 สหภาพเดนมาร์ก-นอร์เวย์ได้เข้าร่วมสงครามนโปเลียนร่วมกับประเทศฝรั่งเศส และแพ้ให้กับประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศสจึงจำต้องบังคับให้เดนมาร์กยกนอร์เวย์ให้กับประเทศสวีเดน ที่อยู่ข้างเดียวกับประเทศอังกฤษในตอนนั้น

ประเทศนอร์เวย์ที่ต้องการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสสระจากระบบสหภาพ จึงได้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งเมือง Eidsvoll ขึ้นและร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในปี 2357 โดยมีหัวใจสำคัญ 3 ประการคือ อำนาจอธิปไตยของปวงชน การแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ และสิทธิมนุษยชน แม้จะผ่านการแก้ไขเนื้อความหลายครั้งตามกาลเวลา แต่ประเทศนอร์เวย์ก็เคารพและยึดถือหลักสำคัญของรัฐธรรมนูญนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศนอร์เวย์ปรากฏชัดเจนด้วยการเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในโลก โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาคุณสมบัติวัดจากจากคุณภาพของระบอบประชาธิปไตย ทั้งในมิติทางการเมืองถึงคุณลักษณะที่เป็นประชาธิปไตยอย่างอิสระ และมิติที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแบ่งเป็นสัดส่วน

ซึ่งผลการจัดอันดับของ Global Democracy Ranking ในเดือนธันวาคมปี 2556 นั้น ประเทศนอร์เวย์ทำคะแนนได้เป็นที่ 1 โดยมีคะแนนสูงถึง 88.3 คะแนน

ปัจจุบันประเทศนอร์เวย์มีการปกครอง แบบราชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญหรือ constitutional monarchy ร่วมกับระบอบรัฐสภา การปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนี้เป็นระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ไม่ว่าจะมาจากการสืบเชื้อสายพระราชบัลลังก์หรือการเลือกตั้ง แต่จะมีพระราชอำนาจถูกจำกัดอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีบทบาทในด้านพิธีการและสัญลักษณ์เท่านั้น ส่วนฝ่ายบริหารจะมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นหัวหน้า

ถ้าจะพูดให้ฟังคุ้นหูก็คือระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแบบไทยเรานั่นเอง.








ไทยรัฐออนไลน์ 15 มกราคม 2557, 05:30 น.
http://www.thairath.co.th/content/oversea/396130



                                           ???????????????????????????????????????????



"มีหัวใจสำคัญ 3 ประการคือ อำนาจอธิปไตยของปวงชน การแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ และสิทธิมนุษยชน "


"ฝ่ายบริหารจะมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นหัวหน้า"



หลักการในระบอบประชาธิปไตยของสากล
และประเทศที่เป็นต้นแบบชาติประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เขายึดถือเป็นตัวอย่างอยู่เห็นๆ
ก็มีอยู่เพียงเท่านี้เอง....ไม่ได้ซับซ้อนตรงไหนเลย...เบิกเนตรดูกันหน่อยสิครับ...

แล้วพวกทั่นจะแถลกแถกไถ  ทำหน้ามึนอ้างระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆหรือแบบท้องถิ่นของชนเผ่าไหนกันอีก
เขามีระบอบประชาธิปไตยเพียงหนึ่งเดียว
ถ้าไม่เหมือนของประเทศอารยะ  ก็อย่าไปสะเออะอ้างเลียนแบบให้ระบอบสากลเขาเสียหายคับเพ่....

ว่าแล้ว...รับคำสดุดีจากณัฐวุฒิไปเสียดีๆ.....
แม้ผมจะใช้บ่อยไปสักนิด    แต่ก็ควรค่าแก่การรับฟังเสมอ......จริงไหมล่ะทาสเผด็จการทั้งหลาย...