ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัวเป็นเวลา 7 วัน 5 คืน ก็ได้นั่งคิดกับน้องๆว่าเราจะทำยังไงดี ให้สามารถเล่น wifi ได้ทั้งครอบครัว โดยที่ไม่ต้องเปิด โรมมิ่ง ไปกันทั้งครอบครัว เริ่มเเรกก็นั่งหารีวิวในกูเกิ้ลค่ะ ว่ามีทางไหนที่จะใช้ wifi ที่ญี่ปุ่นได้ทั้งครอบครัว โดยไม่ต้องเสียเงินมาก ซึ่งเราก็เจอสองวิธี
วิธีเเรกคือ
การเช่า Pocket Wifi ค่ะ โดยเช่าตัดผ่านบัตรเครดิต เเล้วเรามาสารถเลือกให้ทาง บริษัท wifi ส่งตัว Pocket ไปที่ สนามบินที่เราไปถึง หรือ ส่งไปที่โรมเเรมเเรกที่ เราเข้าพัก
วิธีที่สองคือ
การซื้อซิม วิธีการซื้อก็คล้ายๆกับ การเช่าไอ้ตัว Pocket Wifi

เเต่หลังจากที่อ่านวิธีการทั้งสองทาง สำหรับเรา พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย เเล้วไปกับทัวร์ มันเลยจะดูยุ่งยากสำหรับเรา เราจึงนั่งหาข้อมูลต่อไปเรื่อยๆค่ะ ประจวบเหมาะมาก เพื่อนเราได้ รีทวิต โฆษณาเช่าตัว Pocket Wifi ในประเทศไทยมา เราจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่บริษัท ซึ่งได้ความว่า ค่าเช่าตัว Pocket Wifi ราคาเช่าวันละ 200 บาท (ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นนะคะ เราไม่เเน่ใจว่าถ้าหมดช่วงโปรโมชั่นไป ค่าเช่าจะเป็นวันละเท่าไหร่) เเละมีค่ามัดจำเครื่อง ประมาณ 1000 บาทค่ะ ซึ่งตัวไวไฟสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ทั้งหมด 10 เครื่องค่ะ การเช่าก็ง่ายๆ สามารถเข้าไปเอาตัวเครื่องได้ที่บริษัทก่อนวันเดินทางได้ ซึ่งบริษัทที่ว่านี่ อยู่เเถวๆ อโศกค่ะ เราก็โอเคเลย ราคาไม่เเพง เดินทางง่าย มีทั้ง BTS และ MRT ไปถึง เราจึงทำการเช่าตัว Pocket Wifi กับที่นี่ค่ะ ราคาไม่เเพง เเถมถูกกว่า เปิดโรมมิ่งกันไปคนละเครื่องอีกค่ะ (อ้ออ ลืมบอก ครอบครัวเราไปกัน 5 คนค่ะ)

วันเเรกที่ไปถึงค่ะ พอถึงสนามบินนาริตะปุ๊ป เราก็เปิดใช้ตัวเครื่องเลยค่ะ ด้วยความที่ว่ากลัวว่าจะใช้งานไม่ได้ เราเลยรีบเปิดตั้งเเต่ที่แอร์พอร์ต ถ้าเกิดมีปัญหาอะไร จะได้สามารถใช้ Free-wifi ของสนามบินส่งไลน์กลับไปถามพนักงานได้(ตอนไปเช่า พนักงานก็ได้ให้ไลน์มาไว้ติดต่อค่ะ เผื่อเรามาถึงญี่ปุ่นเเล้วใช้งาน wifi ไม่ได้) เเต่หลังจากเปิดเครื่อง ทำการล๊อคอิน ก็เล่นได้เลยค่ะ ใช้งานง่ายมาก เเค่เปิดตัวเครื่อง จากนั้นเราก็เปิดหาไวไฟจากโทรศัพท์ของเราค่ะ ซึ่งตัว Username กับ Password ของไวไฟจะระบุไว้หลังตัวเครื่อง หลังจากเราหาชื่อ ทำการล๊อคอินใส่ Password ที่หลังเครื่องลงไป ก็สามารถ ใช้ไวไฟได้เเล้วค่ะ

หลังจากเปิดเครื่องหน้าตาของตัว Pocket wifi ก็จะเป็นเเบบนี้ค่ะ



หลังจากสามารถใช้ wifi ที่สนามบินได้ ความกังวลของเราก็ยังไม่หมดไปค่ะ 55555 เนื่องจากทริปนี้ เราได้เดินทางไปหลายจังหวัดมากใน ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น โตเกียว คารุยซาว่า ทาคายาม่า หมู่บ้าน ชิราคาวะโกะ เกียวโต เเละ โอซาก้าค่ะ ซึ่งในเมืองใหญ่ๆในญี่ปุ่นเราไม่กลัวเลยค่ะ มั่นใจมากว่า wifi ที่เช่ามา สามารถเล่นได้เเน่นอน เเต่เนื่องจากว่า ทริปนี้เราเดินทางไป ทาคายาม่า เเละ หมู่บ้านชิราคาวะโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาเลยค่ะ ต้องนั่งรถบัสผ่านเขา เข้าไปหลายลูกมาก เเล้วโรงเเรมที่พักก็ตั้งอยู่กลางหุบเขาเลยค่ะ เราก็กลัวว่า wifi จะใช้งานไม่ได้ เเต่พอไปถึงเเล้ว wifi กลับเล่นได้ เร็วปกติ เหมือนตอนอยู่ในเมืองอย่าง โตเกียว หรือ โอซาก้าเลยค่ะ สุดยอดมากๆ ช่วงที่นั่งรถผ่านอุโมงค์ที่เค้าเจาะผ่านเขาก็เล่นได้นะคะ เเต่อาจจะช้าหน่อย ไม่เร็วเท่ากับตอบอยู่ในที่โล่ง

ส่วนเรื่องเเบตของตัว Pocket wifi เนี่ยก็หมดห่วงเลยค่ะว่าเราจะต้องพกที่ชาร์จสำรองไป เราเปิดใช้งานไวไฟตั้งเเต่ตอน 7 โมงเช้า เข้าโรงเเรม กินข้าว อาบน้ำเเร่ กลับมา 11 โมง เเบตพึ่งลดไปเเค่ขีดเดียวเองค่ะ (มีคนเเชร์ทั้งหมด 5-7 คนค่ะ พอดีเเบ่งให้ลูกเพื่อนคุณพ่อเล่นด้วย 2 คน)
สรุปเเล้ว pocket wifi ของบริษัทนี้ใช้งานดีมากๆเลยค่ะ เลยกะว่า เดินทางครั้งหน้า(เดือนหน้าว่าจะไปเกาหลี)ก็จะไปอุดหนุนบริษัทนี้อีกค่ะ
อ้อ!! ลืมบอกไปว่า บริษัทนี้เค้าไม่ได้มีเเค่ wifi ที่ใช้ในญี่ปุ่นอย่างเดียวนะคะ ยังมีทั้ง เกาหลี ยุโรป เเล้วก็ อเมริกาด้วยค่ะ ^^

ไหนๆเราก็มีโอกาสไปเที่ยวสถานที่เด่นๆดังๆในญี่ปุ่น เลยอยากลงรูปที่เราถ่ายเอง อาจจะไม่ค่อยสวย ก็อย่าว่ากันเนอะ


อันนี้เป็น พระพุทธรูปไดบุทสึ หรือ หลวงพ่อโต ที่เมือง คามาคุระ


น้ำตกชิระอิโตะ อยู่ที่เมืองฟุจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอะกะ ค่ะ


ปราสาทมัตซิโมโต้ ที่จังหวัด นางาโน่


แม่น้ำในหมู่บ้าน ชิราคาวา-โก บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟูและโทยามา


อันนี้ถ่ายจากจุดชมวิวของหมู่บ้าน ชิราคาวา-โก ค่ะ สวยมากๆๆ ถ้าใครมีโอกาสต้องลองไปเที่ยวนะคะ หมู่บ้านนี้หน้าหนาวจะสวยที่สุดค่ะ


วัดคินคาคุจิ หรือ ปราสาททอง ที่เกียวโตค่ะ

รูปอาจจะไม่สวย เเต่ถ่ายด้วยใจนะคะ ^^