ช่างศูนย์แห่งหนึ่ง คุยกันว่า CRV 2.4 G4 กินน้ำมันสุดๆ 2.7 KM ต่อ ลิตร

กระทู้สนทนา
เรื่องมีอยู่ว่านำรถ CRV 2.4 G4 2WD ไปเช็คระยะ 2หมื่น เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มค 2557 ที่ผ่านมา

โดยแจ้งให้ทางศูนย์ตรวจสอบ คือ เช็คระยะ 2 หมื่น และมีเสียงลมเข้าห้องโดยสารเมื่อวิ่งเกิน 80 KM/Hr
โดยที่นำรถเช้าศูนย์ เวลา 9:00 และทางศูนย์บอกว่ารถน่าจะได้ประมาณ 18:00 และได้ช้าเพราะต้องนำรถไปวิ่งทดสอบเรื่องลมเข้าห้องโดยสารด้วย

 เวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็นก็ไปรับรถปรกติ ตามเวลานัดคือ 18:00 ก็รับรถมา แต่ตอนที่จะขับออกจากศูนย์ก็เห็นว่า น้ำมันของรถหายไปค่อนข้างเยอะมาก จากเดิมที่ตอนเช้าที่ไปส่งรถ เหลือประมาณครึ่งถัง เข็มชี้ขีดกลาง แต่ตอนรับรถมา เข็มชี้ที่ต่ำกว่า ¼ ถัง หายไปเกินครึ่งจากตอนเช้า ในใจก็คิดว่าเดี๊ยวจะกลับไปดูกล้องว่าช่างทำอะไรไปบ้าง เพราะในรถติดตั้ง กล้องบันทึกอัตโนมัติ และเปิดบันทึกเสียงไว้ด้วย

และสิ่งที่จะเล่าดังต่อไปนี้คือสิ่งที่ได้ยินบทสนทนา ระหว่างหัวหน้าช่าง และช่าง บนรถของผม ที่ถูกบันทึกไว้

1. ช่วงการเช็คระยะ 2หมื่นเริ่มตั้งแต่ 9:30 จะเสร็จ 10:30 ตามเวลากล้อง ซึ่งก็มีจุดไม่พอใจบางอย่างแต่จะไม่พูดถึง

2. เหตุการณ์ต่อมาซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกไม่พอใจอย่างมากคือ ช่างไปนำรถเพื่อตั้งใจจะไปตรวจสอบเรื่องลมเข้า ตั้งแต่เวลา 13:45 ตามเวลา  กล้อง และติดเครื่องรถไว้ตลอดเวลา โดยจากภาพที่บันทึกได้ มีการขับรถวนไปมา สลับกับจอดหยุดนิ่ง บนชั้นเดียวกันบ้าง ขับวนไปชั้นล่างบ้าง และผลัดเปลี่ยน ช่างและ หัวหน้าช่างขึ้น บนรถผม 3 คน ในขณะที่จอดรถ ก็มีช่างอยู่บนรถตลอดเวลา และได้นำรถออกจาก ศูนย์ไปในเวลา 14:41

ซึ่งรวมเวลาขณะที่รถติดเครื่องยนต์ และเปิดแอร์อยู่ เป็นเวลา 56 นาทีโดยที่ไม่ได้ไปทดสอบรถ ตามที่ช่างต้องทำ เพราะขับวนไปมา และจอดอยู่ในศูนย์แห่งนี้ สาเหตุที่รู้ว่าไม่มีการดับเครื่องเลยเพราะว่ากล้องรุ่นนี้ไม่มี แบตเตอรี่สำรอง จะสร้างไฟล์ภาพใหม่ทุกครั้งที่มีการสตาร์ทรถใหม่

3. แต่สิ่งที่ได้ยินมาในบทสนทนา เป็นสิ่งที่หัวหน้าช่าง และช่างพยายามแก้ไขปัญหา เรื่องพอจับใจความได้ว่า มีช่างคนหนึ่งทำ อ่างน้ำมันเครื่องลูกค้า CRV 2.0 G3 แตกโดยความสะเพร่าของช่างเอง โดยความตั้งใจจะเปลี่ยนยางรองแท่นเครื่อง แต่นำค้อนเหล็กไปรองไต้เครื่อง แทนที่จะเป็นยาง ทำให้เวลาปลดเครื่องลงมา น้ำหนักเครื่องทับลงมาบนค้อน ทำให้อ่างอลูมิเนียมของ CRV 2.0 G3 คันนั้นทะลุ

หัวหน้าช่างเอาโทรศัพท์มือถือ ของศูนย์มานั่งไล่โทรเช็ค ที่ต่างๆเพื่อหาอะไหล่มาทดแทน CRV คันนั้น รวมไปถึงพยายามปรึกษาหาทางออก กันในรถของผม สงสัยเห็นรถผมเป็นที่ประชุมลับ เพื่อปฏิบัติการ ลับสุดยอดมั้ง คุยกัน 3 คน แถมใช้รถผมขับวน บนชั้นเดียวกัน เพื่อไปยังจุดที่ช่าง คนนั้นทำงานอยู่ และเสนอทางเลือก ต่างๆนา แล้วก็ขับกลับมายังจุดจ่ายงานจุดเดิม เท่าที่นับได้  4 รอบ

สรุปสุดท้ายที่ประชุม มันบอกว่ามี 3 ทางให้ช่างเลือก และ ให้ CRV 2.0 G3 คันนั้นรับไปคือ

-FOC (ฟังมาว่าเป็นอย่างนั้น) สั่งอะไหล่ใหม่ให้ลูกค้า แต่ต้องให้หัวหน้าเซ็นต์ ถ้าหัวหน้าไม่เซ็นต์ ช่างรับกรรม หารกันไป เห็นว่าราคา 7,400 บาท

-เชื่อมอ่างน้ำมันเครื่อง และใส่กลับไปให้ลูกค้า ลูกค้ารับกรรม แต่ในที่ประชุมมี เสียงหนึ่งบอกว่า ถ้าลูกค้ารู้ทีหลังโดนฟ้องอ่วมแน่ อย่าทำดีกว่า ตอนที่ไปเสนอให้ช่างคนนั้น ช่างคนนั้นก็บอกว่าเอาทางนี้ แต่เหมือนมติบอกว่า มันเสี่ยงเกินไป

-หาอะไหล่เชียงกงมาทดแทน ข้อนี้หล่ะน่าจะเป็นสาเหตุที่รถผมต้องวนอยู่ในศูนย์ 56 นาที เพราะมีเสียงหนึ่งบอกว่าจะไปเอาให้เลย เพราะจะไปเอารถไปทดสอบข้างนอกอยู่แล้ว เดี๊ยวไปเอามาให้  แต่จากบทสนทนาเหมือนหาอะไหล่ไม่ได้

ยาวไปหน่อยสรุปอุทาหรณ์ ดังนี้ครับ
1. หลังจากเอารถไปเข้าศูนย์มา ให้เอาไปตรวจสอบช่วงล่างเองอีกครั้ง เพื่อดูใต้รถว่ามีอะไรผิดปรกติใหม ไปยกที่ร้านท่าน B ก็ได้
เผื่อใครรู้จัก CRV 2.0 G3 ที่เข้าศูนย์ ช่วงวันที่ 10 มค และมีการเปลี่ยน ยางรองแท่นเครื่อง กรุณาตรวจสอบด่วนครับ

 2. อย่าให้ศูนย์นำรถไปขับทดลองนอกศูนย์ โดยที่ท่านไม่ได้ไปด้วย เพราะที่เล่ามายังไม่ได้เล่าถึงช่วงที่ช่างนำรถไปทดสอบจริงเลย มีทั้ง ช่างคนขับเจอลูกระนาด แล้วชะลอรถ แต่มีเสียงบอกมาว่าชะลอทำไม คนขับมันก็เลยอัดเข้าใสลูกระนาดเลย 3 ลูกติด ปวดใจไป และสามารถขับรถออกนอกเส้นทางไป แวะซื้อกล้วยทอดร้านโปรดได้ด้วย เศร้าไป เห็นรถเราเป็นรถอะไรเนี๊ย

 3. บางช่วงบางตอนพูดถึงว่าทำไมช่างจ่าย 7,400 บาทไม่ไหวเพราะ หัวหน้าช่างบอกว่าผมเงินเดือนหลังหัก ภาษีได้ 2 หมื่นต้นๆ จ่ายใช้จ่ายประจำคงที่ในแต่ละเดือน ก็เกินแล้ว ส่วนช่างก็บอกว่า ผมเงินเดือน 14,000 บาทค่าใช้ประจำจ่ายทุกเดือนก็ 12,000 แล้วเหลือ 2 พันผมจะเอาไรกิน ฮ่วย แล้วเรายังจะเอารถราคาเป็น ล้านไปฝากเขาดูแลกันรือ หลอนไป

4. ผมได้ร้องร้องเรียนเเล้ว แต่แค่ประเด็นใช้รถผมเป็นที่ประชุมลับ เป็นเวลา 56 นาที อ๋อ ลืมประเด็นที่จั่วหัวไว้ ช่างที่อยู่ในรถ ยังมีการติเตียนผมอีกว่า ลูกค้าเป็นคนขับรถเร็วนะเนี๊ย อัตราการกินน้ำมัน 2.7 KM/L จนสุดท้ายมันตกลงไปเหลือ 1.7 KM/L แถมมีคนอุทานว่า รถอะไรกินน้ำมัน ไม่ถึง 2 KM/L ยิ่งจอดยิ่งกิน เออ ช่างมันไม่รู้หรือไงว่า รถมันสตาร์ทอยู่ แล้วไม่ขับไปไหนเลยอ่ะ เป็นเวลา 56 นาที เอาใครมาเป็นช่างน่ะเนี๊ย

จบเรื่องเล่าจากประสบการณ์นำรถเข้าเช็คระยะ 2หมื่น ไว้เเค่นี้ครับ

--------------- เพิ่มเติม หลังนั่งดูคลิป อยู่ 3 รอบ (ไม่ควรนิ่งเฉย ต่อการกระทำอย่างนี้ จริงๆ) --------------------------
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่