บุกกูถอย ถอยกูแหย่ แย่กูตี พิชัยสงครามนี้ยังใช้ได้อยู่หรือ

มา กูมุด หยุด กุแหย่ แย่ กุตี หนี กุตาม

    ตำราพื้นฐาน ซึ่งเหมือนกับว่า ตอนนี้มันเข้าข่ายอีกฝั่งเหลือเกิน เพราะทำได้ตามตำราเป๊ะ ๆ
และเหมือนอีกฝ่ายจะศึกษาตำราพิชัยมากเกินไป หรือไม่ได้ศึกษาเลยก็เป็นได้
เพราะเอาแต่รุก ไล่ อยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่เห็นว่าชัยภูมิรบนั้น  ล้วนแล้วแต่เป็นบ้าน ที่เขาเกิด อยู่มาตั้งแต่เด็ก
โดยถือประมาณว่ากองกำลังฝ่ายตนมีกำลังเยอะกว่า 6:1 : ซึ่งเข้าข่าย
ทำการรบได้ต้องมีกำลังมากกว่าประมาณนี้ล่ะ  เอ๊า ทหารแนวหน้า ทับบก บุก
     หากเคยอ่านสามก๊ก จะอ่านถึง 3 รอบ 4 รอบ หรือครึ่งรอบ จะเห็นว่า การรบกับศัตรูโดยกำลัง
ไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ร้อยเปอร์เซ็นเลย หากแต่เป็นกลอุบายต่างหากที่ทำให้ศัตรูแตกพ่ายเอง
ไม่ว่ารูปแบบการรบของคุณจะดูสวยงามเพียงใด หากศัตรูมีความสามัคคีอยู่ในที่กำบัง (สมัยก่อนยังไม่มี
เครื่องบินเน๊าะ)  การจะตีให้แตกโดยกองกำลังเป็นไปแทบไม่ได้ หากเป็นกลอุบาย หรือสามารถจับตัวแม่ทับได้
จึงจะทำให้ศัตรูแตกพ่ายได้
     มาถึงตอนนี้ ผมคิดว่าทางกองกำลังของพี่เทือกเหมือนกับกองทัพอันมหึมา รับทุกคำสั่งจากปากท่านแม่ทัพ
ไม่ว่าจะคำสั่งนั้นจะเป็นอย่างไร ข้าน้อยทหารเลว พร้อมจะทำสุดความสามารถ และเหมือนว่า ท่านแม่ทัพจะเถลิง
กับอำนาจที่ผู้ไต้บังคับบัญชามอบให้เหลือเกิน  เมื่อท่านแม่ทับ สั่งกองกำลังบุกเข้าเมืองซึ่งอุดมสมบูรณ์ เพรียบพร้อมด้วย
ทรัพยากรทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ต้องการอยู่ในเมืองนี้แล้ว  ไม่ว่าจะเป็น พืชไร่ อาหาร ต้นข้าว แหล่งน้ำ แต่แล้วเมื่อท่านแม่ทับ
เดินทางเข้าเมือง หลังจากที่รู้ว่ายึดเมืองได้แล้ว ท่านแม่ทับผู้ปลาดเปือง ก็เข้าใจว่า "เมืองที่ยึดมาได้ แม้จะมีทุกสิ่ง แต่ไม่มี
คนที่ทำให้มันยืนยาวได้  เพราะ พืชไร่ ต้นข้าว อาหาร เพราะไม่มีชาวไร่ที่เหลือในเมืองเลย" ท่านแม่ทับ ถึงกับรู้ได้ว่า เอ๊ะ
ที่เราเข้าตี เราเข้าตีเมืองที่มีคนอยู่ มีทหารอยู่ มีประชาชน มีเกษตรกรอยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ในเมือง  
"เราจะถอนทัพ จะตั้งตัวเองปกครองเมือง หรือจะให้กองทัพปักหลักรอพวกมันกลับมา"

      ส่วนอีกฝ่ายเมื่อรู้ว่า ตอนนี้รักษาประตูเมืองไว้ยาก เพราะหากให้ทหารเข้าประจำการณ์แล้ว ย่อมทำให้เกิดการรบรา ประชาชน
ที่อยู่ในเมืองจะต้องได้รับความเดือดร้อนจากลูกหลง หรือลูกตั้งใจไปบ้าง บ้านเรือน เรือนเพาะชำ พืชไร่ จะได้รับความเสียหายไปด้วย
จึงได้นำกองกำลัง พร้อมกับประชาชนออกนอกเมืองไป พร้อมกับส่งศาสน์ไปยังหัวเมืองต่าง ๆ และสั่งให้นกเหยี่ยวสายการข่าว จับตามอง
กองกำลังศัตรูที่อยู่ในเมือง

      วันเวลาผ่านไปนาน 2 วัน ทหารการข่าวมารายงานกับแม่ทับ
        ทหารข่าว : ท่านแม่ทับหญิง จากการที่ข้าน้อยได้จับตาดูทับเทือกที่บุกยึดเมืองของเรา ตอนนี้พวกมันยังอยู่ดี กินดี กับอาหารการกิน
ที่พวกเราปล่อยทิ้งไว้ สัตว์เลี้ยง พืช น้ำ ที่พวกเราเหลือไว้ให้
         แม่ทับหญิง : ดีแล้ว จับตามองต่อไป และดูว่าฝ่ายศัตรูขาดเหลืออะไรบ้าง ดูว่าเราสามารถตีแหย่ศัตรูในสิ่งใดได้บ้าง หากศัตรูมีแววว่าจะละ จากการยึดเมืองของเราไป ให้ท่านนำทหารตีแหย่ให้เกิดการหึงหวงเมืองเหมือนกับว่า เราอยากได้เมืองกลับคืน หากศัตรูอ่อนแรงให้เข้าตีในจุดที่อ่อนแรง หากทหารอีกฝ่ายมีการหนีทัพ ให้จับตัวมาที่ทับเรา
        ทหารข่าว : ขอรับ ท่านแม่ทัพ

      วันเวลาผ่านไป 5 วัน หลังจากที่ยึดเมืองของแม่ทับหญิงได้สำเร็จ ทัพของแม่ทับผู้องอาจ อยู่กินในเมืองที่ยึดมาได้ เหมือนกับบ้านของตน
โดยไม่ได้คำนึงถึงว่า อาหาร น้ำดื่ม ที่เหลือในเมืองนั้นจะลดน้อยลงไป ทัพของแม่ทับผู้เกรียงไกร มาถึงวันนี้ได้เริ่มโหย เรียกร้อง โอญครวญกันบ้างแล้ว
        ทหารทัพเทือก : ท่านแม่ทับ ตอนนี้อาหารที่เหลือในเมืองได้ร่อยหลอ ลดน้อยลงแล้ว ข้าน้อยเกรงว่า หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ทหารของเราจะไม่มีแรงจับดาบจับขวานอีกต่อไป  หากจะให้ทหารละจากอาวุธ ไปทำไร่ไถนา เลี้ยงสัตว์ ทำอาหารเอง เกรงว่าจะลืมด้านการศึก
         ท่านแม่ทับ  :  มองมาที่ทหาร แล้วพูดว่า ทหารของข้าเอ๋ย หากวันนี้เราแพ้ เราจะไม่มีแผ่นดินให้ยืน ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับใครในแผ่นดินนี้ เพราะฉนั้น ขอพวกท่าน จงอยู่ข้างเราเถิด อาหารที่มีอยู่ในเมืองนี้ไม่มีวันหมด ต้นไม้จะผลิใบออกมาไม่ขาด น้ำในแม่น้ำจะไหลอยู่ตลอดเวลา สัตว์เลี้ยงจะให้ลูกหลานไม่มีหมด ท่านแม่ทับ ท่านจงรีบไปปลุกใจทหารเถิด
         ทหารทัพเทือก : ขอรับ ท่านแม่ทับ

      กลับมาที่ฝ่าย ฝ่ายของแม่ทับหญิง สงศาส์นไปถึงทุกหัวเมือง แม้แต่เพื่อนสนิทที่เคยร่วมรบ เพราะรู้ว่าทัพของแม่ทับเทือกนั้นมีขนาดมหึมา แข็งแกร่ง และรบได้กลาดเกียว เมื่อส่งศาสน์ไปแล้ว กลับมานึกกังวลว่า เมื่อไร่จะได้คำตอบจากหัวเมือง หรือสหายเหล่านั้น แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะกล้าต่อกรกับทับเทือกหรือไม่เมื่อได้แต่กังวล ก็ได้แต่นั่งรอคำตอบ ในใจได้แต่คิดว่า
"นี่จะเป็นคำตอบร่วมรบจากทุกหัวเมือง หรือสหายทุกคน ถ้าหากคำตอบที่ได้เป็นการไม่ยกทับมาร่วมรบศึกในครั้งนี้ เราคงต้องนำทหารเท่าที่เหลือบุกยึดเมืองของเราโดยลำพัง"

      คำตอบศาส์นจากหัวเมืองต่าง ๆ สหายของแม่ทัพหญิงจะเป็นอย่างไร วันที่ 15 นี้ ได้รู้กัน

***หากสิ่งที่เขียนไป ทำให้ท่านไม่พอใจ หรือไม่เห็นด้วย โปรดอภัยให้ผู้น้อย ผู้น้อยมีความรู้แค่เพียงหางเต่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่