กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กลุ่มผู้มีอำนาจในประเทศด้อยพัฒนาแห่งหนึ่ง มีความสุขกับการว่านอนสอนง่ายของคนในประเทศ
คนในประเทศนั้นไม่มีปากไม่มีเสียง หาเช้ากินค่ำ การเมืองการปกครองก็เป็นระบอบประชาธิปไตยตามชาวโลกนั่นแหละ แต่ก็เป้นแค่ชื่อ..
การเลือกตั้งมีตามปกติเหมือนนานาประเทศ แต่ก็เป็นแค่วิธีการเข้าสู่อำนาจ เพื่อให้ถูกทำนองคลองธรรมตามแบบนานาอารยะประเทศ
เหตุการณ์ก็เป็นปกติของประเทศนั้นมาอย่างยาวนาน นานเสียคนในประเทศก็เริ่มไม่รู้ว่าประชาธิปไตย ที่เคยตอบในข้อสอบโรงเรียนตอนประถม
รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร สงสัยจะเป็นแบบที่เราเป็นอยู่นี่แหละ เรานี่แหละประชาธิปไตย ถูกต้องแน่นอน
จนวันหนึ่ง กลุ่มอำนาจใหม่กลุ่มหนึ่งได้เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ด้วยความมุ่งหวังหลายประการ
..ทั้งมุ่งหวังเพื่อตัวเอง...เพื่อคนในประเทศ..
มีสายตาเห็นการเจริญเติบโตของประเทศแบบก้าวกระโดด สามารถเป็นเสือร้ายตัวใหม่แห่งภูมิภาคได้..
เลือกตั้งชนะ ยกกะลาที่ครอบออก เข้ามาบริหารประเทศอย่างรวดเร็วฉับไวตามประสาคนรุ่นใหม่ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากมาย
แต่ช้าก่อน..ของเค้าอยู่ดีๆมาหลายปีจะมาเอาไปเฉยๆไม่ได้
กระบวนการสกัดดาวรุ่งจึงเริ่มขึ้น
เริ่มจากโฆษณาชวนเชื่อว่ากลุ่มอำนาจใหม่เป็นกลุ่มที่ไม่......ต่อ.........ซึ่งเป็นข้อหาทางสังคมที่ร้ายกาจของประเทศนั้น
ดังที่เคยได้ยินจากหลายที่ว่าถ้าอยากทำลายใครให้กล่าวหาว่าอย่างนี้ รับรองเสร็จทุกราย
แผนก็ได้ผลอย่าง่ายดาย หน่วยงานถูกสังให้ยุบ ผู้นำกลุ่มอำนาจใหม่ต้องออกไปอยู่นอกประเทศนั้น
แต่..เขาผู้นั้นก็ไม่ได้ยอม หมอบราบคาบแก้วแต่อย่างใด เขายังมีระบบตัวแทน
แต่..ตัวแทนก็ไปไม่รอด คนแล้ว..คนเล่า..และจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด
มีคำถามมาว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แล้วประเทศที่ว่าจะเจริญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้จะอยู่ได้อย่างไร
คำตอบ..เมื่อมีการเลือกตั้ง แล้วเลือกแต่กลุ่มนี้เข้ามา..จะเปลี่ยนชื่อ..เปลี่ยนผู้นำ..ประชาชนก็ยังเลือก
ก็ไม่ต้องเลือกตั้ง
แต่เพื่อความสวยงามก็คงต้องมีเลือกตั้งไว้บางส่วน เพื่อจะได้พูดกับเพื่อนบ้านได้ว่าเราเป็นประชาธิปไตย แต่ส่วนใหญ่ต้องแต่งตั้ง
เพื่อให้ประเทศกลับมาว่านอนสอนง่ายเหมือนเดิม
เป้าหมายสุดท้าย....อนิจจาประเทศ...ต้องแต่งตั้งเท่านั้น
คนในประเทศนั้นไม่มีปากไม่มีเสียง หาเช้ากินค่ำ การเมืองการปกครองก็เป็นระบอบประชาธิปไตยตามชาวโลกนั่นแหละ แต่ก็เป้นแค่ชื่อ..
การเลือกตั้งมีตามปกติเหมือนนานาประเทศ แต่ก็เป็นแค่วิธีการเข้าสู่อำนาจ เพื่อให้ถูกทำนองคลองธรรมตามแบบนานาอารยะประเทศ
เหตุการณ์ก็เป็นปกติของประเทศนั้นมาอย่างยาวนาน นานเสียคนในประเทศก็เริ่มไม่รู้ว่าประชาธิปไตย ที่เคยตอบในข้อสอบโรงเรียนตอนประถม
รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร สงสัยจะเป็นแบบที่เราเป็นอยู่นี่แหละ เรานี่แหละประชาธิปไตย ถูกต้องแน่นอน
จนวันหนึ่ง กลุ่มอำนาจใหม่กลุ่มหนึ่งได้เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ด้วยความมุ่งหวังหลายประการ
..ทั้งมุ่งหวังเพื่อตัวเอง...เพื่อคนในประเทศ..
มีสายตาเห็นการเจริญเติบโตของประเทศแบบก้าวกระโดด สามารถเป็นเสือร้ายตัวใหม่แห่งภูมิภาคได้..
เลือกตั้งชนะ ยกกะลาที่ครอบออก เข้ามาบริหารประเทศอย่างรวดเร็วฉับไวตามประสาคนรุ่นใหม่ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากมาย
แต่ช้าก่อน..ของเค้าอยู่ดีๆมาหลายปีจะมาเอาไปเฉยๆไม่ได้
กระบวนการสกัดดาวรุ่งจึงเริ่มขึ้น
เริ่มจากโฆษณาชวนเชื่อว่ากลุ่มอำนาจใหม่เป็นกลุ่มที่ไม่......ต่อ.........ซึ่งเป็นข้อหาทางสังคมที่ร้ายกาจของประเทศนั้น
ดังที่เคยได้ยินจากหลายที่ว่าถ้าอยากทำลายใครให้กล่าวหาว่าอย่างนี้ รับรองเสร็จทุกราย
แผนก็ได้ผลอย่าง่ายดาย หน่วยงานถูกสังให้ยุบ ผู้นำกลุ่มอำนาจใหม่ต้องออกไปอยู่นอกประเทศนั้น
แต่..เขาผู้นั้นก็ไม่ได้ยอม หมอบราบคาบแก้วแต่อย่างใด เขายังมีระบบตัวแทน
แต่..ตัวแทนก็ไปไม่รอด คนแล้ว..คนเล่า..และจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด
มีคำถามมาว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แล้วประเทศที่ว่าจะเจริญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้จะอยู่ได้อย่างไร
คำตอบ..เมื่อมีการเลือกตั้ง แล้วเลือกแต่กลุ่มนี้เข้ามา..จะเปลี่ยนชื่อ..เปลี่ยนผู้นำ..ประชาชนก็ยังเลือก
ก็ไม่ต้องเลือกตั้ง
แต่เพื่อความสวยงามก็คงต้องมีเลือกตั้งไว้บางส่วน เพื่อจะได้พูดกับเพื่อนบ้านได้ว่าเราเป็นประชาธิปไตย แต่ส่วนใหญ่ต้องแต่งตั้ง
เพื่อให้ประเทศกลับมาว่านอนสอนง่ายเหมือนเดิม