จ้าวจตุรทิศ ภาค จัณฑวาตา ตอนที่ 41: เกาะแห่งความตาย (ต่อ)- (1/2)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 40: เกาะแห่งความตาย (2/2) http://ppantip.com/topic/31471287

คุยกันก่อนนะคะ

คุณ Psycho Man: ขอบคุณมากนะคะ เป็นนักอ่านมั่นคงต่อ บุษบรรณ จริงๆ   ^^

ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ:  คุณ GTW, คุณ zoi , คุณ ตะวันรัตติกาล, คุณ สมาชิกหมายเลข 1049340


ความเดิมจากตอนที่แล้ว

อารมันและบุษบรรณได้บังเอิญเข้าไปรู้เห็นการเจรจาลับระหว่างมุตติและผู้ส่งสารปริศนา ถึงแม้จะมีข้อขัดแย้งจนต้องสำแดงพละเวทเพื่อกำราบกันและกัน แต่สุดท้ายทั้งสองก็เลือกที่จะไม่หักหาญเอาชนะกันเองในเวลาแบบนี้ จากนั้นอารมันพาบุษบรรณหนีออกมาทันที่จะโดนจับได้ แต่ถึงอย่างไรเทวะหนุ่มได้ตระหนักอย่างแท้จริงว่าเขาตกลงมาในหลุมพรางที่เจ้าเกาะแห่งความตายได้วางเอาไว้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง






41. เกาะแห่งความตาย (ต่อ) - 1/2



“ทำไมนางถึงช่วยเรา ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่านี่ไม่ใช่หลุมพราง”

บุษบรรณกระซิบถามเสียงเบาพอให้อารมันได้ยินขณะเดินตามมาลาออกจากบริเวณทัณฑสถานร้างผ่านเส้นทางคดเคี้ยวมากมาย จนแม้แต่อารมันก็คิดว่าต่อให้เขาต้องเดินซ้ำสองรอบคงไม่อาจจำเส้นทางที่ถูกต้องได้ สถานที่นี้ดูราวกับถูกใช้เป็นเส้นทางลับใต้ดิน ทว่าบางส่วนนั้นก็ใหม่และซ้อนทับกับเส้นทางเก่าจนไม่อาจจำแนกออก นักรบแห่งเวนไตยคิดว่าโพรงน้ำมหึมาที่เรียกว่าเวียงน้ำพิษนั้นอาจไม่ได้เกิดจากอำนาจมนตราของไอ้เผือกหรือไมยราญเพียงอย่างเดียว บางทีเวียงน้ำที่นี่คงเกิดจากอำนาจของพลังธรรมชาติในยามที่ดินแดนนี้เพิ่งถือกำเนิด ในคราแรกมันอาจเป็นเพียงธารน้ำเก่าแก่ที่ไม่เป็นอันตราย ทว่าเมื่อถูกเหล่ามารร้ายพานพบสถานที่ลึกลับและเข้ายึดครองมันจึงกลายเป็นสถานที่ที่น่ากลัวดังนี้

เทพเวนไตยส่ายศีรษะเป็นคำตอบทำนองว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน อารมันนึกสาปแช่งตัวเองที่พาตัวเองเข้ามาสู่สถานการณ์ที่แทบไม่มีทางเลือกมากนัก

“เส้นทางนี้เป็นทางออกจากวงกตจริงๆ อย่ากลัวไปเลย” มาลาที่เดินนำหน้าอยู่ในระยะไกลพอสมควรกลับตอบได้ตรงประเด็นคล้ายรู้ว่าผู้ร่วมทางทั้งสองกำลังคิดสิ่งใด “ตอนที่ท่านเปิดโพรงเวทไปพบกับท่านมุตติแบบนั้น ข้าคิดว่าคงหมดหวังแล้ว แต่พวกท่านก็เก่งมากที่เอาตัวรอดมาได้ มิน่าล่ะ...” เธอชมทิ้งท้าย

“หากข้าเก่งจริงดังท่านว่า คงสามารถเบิกโพรงเวท หนีไปได้ไกลแล้ว” อารมันกล่าวตอบ

“แต่เดิมทางวงกตของเกาะแห่งความตายและเวียงน้ำพิษใช้เป็นกำแพงล้อมตรุเทพเจ้า ไม่แปลกหรอกที่พวกท่านไม่สามารถออกไปได้ง่ายๆ”

บุษบรรณมองสลับไปมาระหว่างผู้นำทางกับอารมัน เพราะยังไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องได้ ทว่าอารมันกลับไม่แสดงอาการตื่นตระหนก ทั้งสองเร่งฝีเท้าจนทันผู้นำทาง ในตอนนั้นเองที่มาลาเอ่ยขึ้นช้าๆ “จากนี้ไปจะเข้าเขตเวียงน้ำพิษ”

ปลายทางออกของทางวงกตปรากฏแก่สายตา บุษบรรณได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาแว่วๆ แต่แทนที่มาลาจะเดินนำออกไปยังปลายทาง กลับหักเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง แล้วผงกศีรษะทีหนึ่งเป็นเชิงให้ทั้งสองตามตนมา

“ถึงเวลาแล้วท่านอารมัน” เธอพูด “หวังว่าท่านคงยังไม่ลืมวาจาที่ให้ไว้กับข้า”

ในวาระนั้นเองบุษบรรณพลันรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ในขณะที่อารมันตัดสินใจก้าวตามมาลาโดยไม่ลังเล ก่อนที่ร่างสูงตรงจะชะงักเพราะบุษบรรณกลับยุดแขนของอีกฝ่าย จงใจมองลึกเข้าไปในดวงตาและภาวนาว่าสิ่งที่เธอคิดไว้จะไม่เป็นจริง

ในตอนนั้นเองที่อารมันรู้ว่าคงไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป

“พวกมันคิดว่าข้าคือศิษย์เอกจอมเทพ” อารมันกล่าวเสียงเบา

ข้านึกแล้ว...บุษบรรณหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปชั่วขณะ จนเธอเองเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าความปริวิตกนี้เกิดจากอะไรกันแน่ “ท่านทำอะไรลงไป อารมัน” เสียงของเธอแตกพร่า

ทำทุกอย่างเท่าที่ข้าจะทำได้ เทวะหนุ่มคิดในใจ ทว่ากลับปิดปากเงียบ ในใจนั้นหวนนึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เขาจะบุกเข้ามาถึงเกาะแห่งความตาย เขาจำใบหน้าเกรี้ยวโกรธของจ้าวแดนตะวันออกได้ยามที่เจ้าตัวประกาศท้ารบลั่นกลางป้อมนักล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่