ถ้าสภาวิชาชีพบัญชีจะทำแบบนี้ พวกหนูขอความเป็นธรรมด้วยค่ะ

เชื่อว่าหลายๆคนที่อยู่ในแวดวงการตรวจสอบบัญชี คงได้รับข่าวสารที่สภาฯประกาศไปบ้างแล้ว ตามนี้นะคะ
- ขึ้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชี จาก 1,500 บาท เป็น 2,000 บาท
- ขึ้นค่าธรรมเนียมการทดสอบผู้สอบบัญชี จากวิชาละ 500 บาท เป็น 1,000 บาท โดยลดจำนวนวิชาที่สอบจาก 7 เป็น 6 วิชา
- เก็บค่าธรรมเนียมสมาชิกสภาปีละ 500 บาท จากเดิมที่ไม่เคยเก็บ
อันนี้เป็นประเด็นคร่าวๆที่กระทบกับ จขกท โดยตรงค่ะ (ทำงาน Big4 ครบ 3 ปี แต่ยังสอบไม่ได้จ้า)

หลังจากเพื่อนส่งข่าวนี้มาให้ จขกท ก็แทบชักดิ้นตาย คำถามมากมายปลิวว่อนไปหมด (เชื่อว่าหลายๆคนก็เป็นเหมือนกัน)
- จะเอายังไงกับอนาคตดี? ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินชั่วโมงทำงานที่เก็บมาด้วยความยากลำบากก็ต้องสูญสลายไปกับสายลม
- ถ้าเก็บชั่วโมงไว้แล้วดันทุรังสอบ ชาตินี้ก็ไม่รู้จะผ่านรึเปล่า ด้วยความเรื่อยเฉื่อยตามสไตล์ (อุต๊ะ… หนูหมายความว่างานต้องมาก่อนค่ะ เพราะคนในอาชีพนี้รู้ดีว่าไม่มีคำว่าทำไม่ได้)
- แล้วเด็กๆที่เข้ามาใหม่ที่ยังไม่รู้อนาคตล่ะ ต้องยอมจ่ายเงินเลยรึเปล่า ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะทนอยู่ได้อีกกี่ปี (จากประสบการณ์ตรง รอดถึง 3 ปีไม่ถึง 50%)
- แล้วเด็กๆที่จ่ายเงินไปแล้ว 1-2 ปี เพื่อเก็บชั่วโมง แต่โดนมรสุมชีวิตพัดเข้ามา ทำให้ต้องระเห็จออกจากชีวิตออดิทก่อนครบ 3 ปีล่ะ เงินที่จ่ายไปแล้วใน 1-2 ปีแรกก็ต้องเป็นหนี้สูญใช่ไม๊ (ปีแรกๆพวกหนูจนนะคะ สาบานเลยว่า 2 ปีแรกแทบจะเดือนชนเดือน เริ่มทำงานเงินเดือนก็น้อย เงินก็ไม่ได้ขอที่บ้านแล้ว ค่าหอ ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ไหนจะเตรียมตัวรับปริญญา เสื้อผ้าชุดทำงานใหม่อีก บอกเลย ช่วงแรกจนกว่าตอนเรียนเยอะ)
บลาๆ... คำถามมากมายจริงๆ (อันนี้ขอไปนอนก่ายหน้าผากคิดเองนะคะ)

แต่คำถามที่สำคัญที่สุดที่หนูอยากให้สภาฯออกมาชี้แจง คือ...
- สภาฯจะเอาเงินไปทำอะไร?
- สภาฯจำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้นเลย?
- สภาฯกลายเป็นองค์กรที่แสวงหากำไรไปแล้ว? (มิน่า!!! ตึกตั้งโอ่อ่าอยู่ที่อโศกเลย)  

เพื่อตอบคำถามให้ตัวเองก่อนที่จะไปถามคนอื่น ด้วย Skep อย่างเรา ต้องวิ่งเข้าไปดูงบการเงินก่อนเลยจ้า
และหลังจากที่เข้าไปดูงบการเงินประจำปี 2555/2556 (http://www.fap.or.th) ยิ่งงงหนักค่ะ O_o
- สภาฯมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่แล้ว ทั้งที่ในปี 2555/2556 ยังไม่มีการเปลี่ยนค่าธรรมเนียมต่างๆ
- สภาฯมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมากจาก งบปีก่อนซึ่งไม่มีเงินลงทุนเลย  (แบ่งเป็นเงินลงทุนชั่วคราว 83.7 ลบ. และเงินลงทุนระยะยาว 23 ลบ.) แสดงว่าสภาฯต้องมีสภาพคล่องส่วนเกินมากพอแล้ว
ถ้าใครทำงานอยู่สภาฯหรือมีคำตอบช่วยบอกหนูกับเพื่อนๆหน่อยนะคะ อยากรู้จริงๆ

ขอความเป็นธรรมด้วยค่ะ

ปล. ในรายงานประจำปี บอกคำตอบไว้ค่ะ ว่าทำไมต้องแก้ข้อบังคับเหล่านี้ ตามนี้ค่ะ (หน้า 111) ใจความสำคัญคือ
“...อนุกรรมการจัดทำร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชีชี้แจง การแก้ไขข้อบังคับว่าสภาวิชาชีพบัญชีฯ มีเพื่อการปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น และพยายามจะรวมเรื่องเดียวกันมาไว้ด้วยกัน รวมทั้งเรื่องของ AEC ซึ่งกําลังเปิดช่องให้มีนักบัญชีต่างชาติ อันถือเป็นเหตุผลหลักในการแก้ไขร่างข้อบังคับนี้...”
แต่บอกตรงๆค่ะ ไม่เข้าใจอย่างแรง ช่วยขี้แจงให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไม๊

ปล2. อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ สภาฯออกข้อบังคับมา 18 ธ.ค. 56 และให้ขึ้นทะเบียนสมาชิกภายใน 27 มี.ค. 57 ซึ่งเป็นช่วง Year-end หัวหกก้นขวิด ปิดงบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้พวกหนูออกไปเป่านกหวีดใช่ไม๊คะ

ปล3.ใครชอบกดโหวตค่ะ แสดงความคิดเห็นกันเยอะๆ เผื่อจะกลายเป็นกระทู้แนะนำ และมีผู้ใหญ่ในสภาฯผ่านมาเห็น
ถึงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับที่ได้ออกไปแล้ว แต่คิดว่าก็น่าจะมีคำชี้แจงที่น่าพอใจให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนค่ะ

ปล4.ขอ tag หุ้นด้วยค่ะ เพราำะหนูเชื่อว่านักบัญชีหลายคนเล่นหุ้นด้วย และผู้ใหญ่หลายคนๆ เป็นกรรมการและผู้ตรวจสอบงบการเงินให้กับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มากมาย เผื่อผ่านมาพบกระทู้นี้ จะได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่