อยากจะแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวเมกาเมื่อเช้านี้ เวลา 7.00 น.  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเคยขอวีซ่าเมกามาแล้ว 3 ครั้งแต่โดนปฏิเสธทุกครั้ง ครั้งแรกขอวีซ่านักเรียนในปี 2004 หลังจากเรียนจบมหาลัยก็ตั้งใจว่าจะไปเรียนภาษาและไปต่อปริญญาโทที่นั่น ก็ทำเรื่องตามปกติ พอถึงวันสัมภาษณ์โดนคำถามอยู่ 2-3 คำถามแล้วก็ปฏิเสธ เราก็เอ้าลองอีกครั้งเพราะตั้งใจจะไปเรียนจริงๆ ครั้งที่สองก็ปฏิเสธอีก ทีนี้ก็ตัดใจแร่ะ ท้อเลย ก็เลยตัดสินใจเรียนต่อที่ไทยนี่แหล่ะและก็ทำงานไปด้วย พอทำงานได้สี่ปีและกำลังจะจบปริญญาโทก็ไปลองขอวีซ่าใหม่ แต่คราวนี้ไปขอวีซ่าท่องเที่ยวนะ สุดท้ายก็โดนปฏิเสธอีก อ๋อต้องบอกก่อนว่าในช่วงระหว่างที่โดนปฏิเสธวีซ่ามาเนี่ย เราไปเที่ยวประเทศอื่นๆมาตลอด ปีนึง 2-3 ทริป จนเมื่อปี 2010 เริ่มเบื่อๆงานเลยตัดสินใจจะไปท่องโลกอีกครั้งแต่ครางนี้เลือกไปแคนาดาแทน ขอวีซ่านักเรียนก็ได้มาสมใจ ไปเรียนอยู่จนจบก็กลับมาทำงานที่เมืองไทย ได้ 2 ปีกว่า เพื่อนที่แคนาดาชวนไปเที่ยวก็เลยขอวีซ่าท่องเที่ยวแคนาดามาอีก 5 ปี ทีนี้เพื่อนบอกว่าขอวีซ่าเมกาไว้ด้วย เผื่อจะข้ามไปเที่ยวที่ Seattle เราก็กลัวจะผิดหวังอีก แต่ก็เอานะลองดูอีกครั้ง คราวนี้เตรียมเองทุกอย่างตั้งแต่กรอกเอกสาร เตรียมเอกสาร จนถึงวันนี้วันสัมภาษณ์ ได้คิวตอน 7 โมงเช้า ตื่นตั้งแต่ตีห้าไปยืนต่อคิว นั่งรอไปเรื่อยๆจนหลับอีกรอบ คิดในใจถ้าไม่ได้รอบนี้คงไม่ขออีกแร่ะ พอถึงคิวสัมภาษณ์ ได้ช่อง 13 ฝรั่งหนุ่มหล่อใจดี พูดภาษาไทยชัดแจ๋ว ก็หยิบเอกสารเราไปดู แล้วก็ถามคำถามเรา

กงศุล : ชื่ออะไรครับ
เรา : ชื่อ....................
กงศุล : ไปเที่ยวไหนครับ
เรา : ไป Seattle ค่ะ
กงศุล : นี่เพิ่งย้ายงานมาได้หกเดือนนี่ครับ ทำไมถึงเปลี่ยนงาน
เรา : ได้เงินเดือนเยอะกว่าค่ะ
กงศุล : เรียบร้อยครับ
เรา : ขอบคุณค่ะ

แค่นี้เองจริง ๆ ไม่ขอดูเอกสารอะไรเลย เราอุสาตห์เตรียมไปเยอะแยะ อะไรที่จำเป็นขนมาหมด เราเดินออกมาแบบงงๆปนดีใจ ไปซื้อซองที่ไปรษณีย์

อยากบอกเพื่อนๆว่าอย่าเพิ่งหมดหวังนะถ้าไม่ได้วีซ่า เตรียมเอกสารให้พร้อม ตอบตามความจริง