ปกติดิฉันจะปฏิบัติธรรม ถือศีล 8 ,สวดมนต์, นั่งสมาธิภาวนา(ใช้คำภาวนา " ยึบหนอ พองหนอ ")
วิปัสสนาสูตร 4-5-6 (ธาตุ4,ขันธ์5,อายตนะ6) ชื่อสูตรนี้คิดขึ้นเองค่ะ แหะ ๆ
บางวันถ้ามีเวลามากหน่อยจะพิจารณาอาการ 32 แถมด้วยอสุภะอีกนิดหน่อยเื่พื่อระลึงถึงความตาย
โดยจะทำเป็นประจำทุกวัน ๆ ละ 2 ครั้งคือ ตอนเช้า 04.30-06.30 น.และกลางคืน 19.30-21.30 น.
ดิฉันปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิได้เกือบเดือนแล้ว (วันที่ 11 ม.ค. ครบเดือน) โดยทุกครั้งการนั่งสมาธิจะมีปัญหา
คือหูอื้อ (เนื่องจากน้ำในหูไม่เท่ากัน) และ สะดุ้งตกใจง่ายเพราะเวลาจิตสงบพักหนึ่งมันจะทำให้ได้ยินเสียง
รอบข้างชัดเจนมาก อย่างข้างห้องทำเหรียญตก มันจะรู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่ในหูเราเลย ทำให้ตกใจง่าย
แล้วเมื่อคืนนี้ (08/01/2557) เราสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ ก็นั่งสมาธิ ปกติจะนั่งให้จิตมันสงบแล้วถึงจะเข้าวิปัสสนา
พิจารณาสภาวธรรมต่อ เมื่อคืนก็ทำเช่นเดียวกันกับทุกวัน อาการหูอื้อก็มาเหมือนเคย นั่งไปสักพักรู้สึกถึงความสงบค่ะ
แล้วเราไม่ปล่อยคำภาวนาเลย คือไม่ให้หลุดเผลอเลย สติอยู่ที่อาการพองยุบของท้องเท่านั้น
ทีนี้พอได้ยินเสียงดัง ปรากฎว่าไม่ตกใจอีกเลย ดีใจค่ะ ค้นพบทางออกแล้วที่จะนั่งสมาธิโดยไม่ต้องสะดุ้งอีกต่อไป
ก็นั่งต่อไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกอีกค่ะ ว่าจิตสงัด แล่วรู้สึกความสงัดมันไปกองอยู่ตรงกลางอก บริเวณลิ้นปี่
เราก็บอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว (เพราะเคยมีประสบการณ์ขนหัวลุกจากการนั่งสมาธิมาก่อน) ไม่มีใครตายเพราะนั่งสมาธิ
ใจก็คิดไปงั้น แต่ก็ใจเต้นแรง (แบบว่าตื้นเต้นมากกว่ากลัว) แล้วเราก็ลองส่องดูอาการหูที่เคยอื้อ มันรู้สึกเหมือนไม่มีหู
คือหูทั้งสองข้างเหมือนว่างเปล่า หาอาการใดๆไม่เจอ แล้วทีนี้ก็ส่องดูสมอง ก็ปรากฎรู้สึกเหมือนไม่มีหัวอีก
คือมันโล่งเปล่าไปหมดเลย แล้วความรู้สึกสงบปกติมันอยู่บนหัวนะคะ ตอนนี้มันลงไปกองที่ลิ้นปี่คะ
เราก็ปล่อยให้มันสงบแบบนั้นไปสักพัก แล้วก็บอกจิตว่า "ถอนก่อนดีไหม จะได้ทำวิปัสสนาต่อ" จิตมันก็ถอนค่ะ ทำตามอย่างว่าง่าย
พอถอนออกมาเท่านั้นแหละค่ะ อาการหูอื้อนี่มาก่อนอันดับแรกเลย แล้วเราก็ทำวิปัสสนาต่อจนถึงเวลาควรพัก
พอออกจากสมาธิทั้งหมดออกมา ปรากฎน้ำตาซึม ๆ ด้วย แต่ไม่ได้เสียใจอะไรนะ ไม่รู้ทำไมน้ำตาซึม
ใครพอมีประสบการณ์ด้านนั่งสมาธิ โปรดชี้แนะด้วยค่ะ ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร สงสัยมากค่ะ
สอบถามผู้รู้เกี่ยวกับการนั่งสมาธิค่ะ
วิปัสสนาสูตร 4-5-6 (ธาตุ4,ขันธ์5,อายตนะ6) ชื่อสูตรนี้คิดขึ้นเองค่ะ แหะ ๆ
บางวันถ้ามีเวลามากหน่อยจะพิจารณาอาการ 32 แถมด้วยอสุภะอีกนิดหน่อยเื่พื่อระลึงถึงความตาย
โดยจะทำเป็นประจำทุกวัน ๆ ละ 2 ครั้งคือ ตอนเช้า 04.30-06.30 น.และกลางคืน 19.30-21.30 น.
ดิฉันปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิได้เกือบเดือนแล้ว (วันที่ 11 ม.ค. ครบเดือน) โดยทุกครั้งการนั่งสมาธิจะมีปัญหา
คือหูอื้อ (เนื่องจากน้ำในหูไม่เท่ากัน) และ สะดุ้งตกใจง่ายเพราะเวลาจิตสงบพักหนึ่งมันจะทำให้ได้ยินเสียง
รอบข้างชัดเจนมาก อย่างข้างห้องทำเหรียญตก มันจะรู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่ในหูเราเลย ทำให้ตกใจง่าย
แล้วเมื่อคืนนี้ (08/01/2557) เราสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ ก็นั่งสมาธิ ปกติจะนั่งให้จิตมันสงบแล้วถึงจะเข้าวิปัสสนา
พิจารณาสภาวธรรมต่อ เมื่อคืนก็ทำเช่นเดียวกันกับทุกวัน อาการหูอื้อก็มาเหมือนเคย นั่งไปสักพักรู้สึกถึงความสงบค่ะ
แล้วเราไม่ปล่อยคำภาวนาเลย คือไม่ให้หลุดเผลอเลย สติอยู่ที่อาการพองยุบของท้องเท่านั้น
ทีนี้พอได้ยินเสียงดัง ปรากฎว่าไม่ตกใจอีกเลย ดีใจค่ะ ค้นพบทางออกแล้วที่จะนั่งสมาธิโดยไม่ต้องสะดุ้งอีกต่อไป
ก็นั่งต่อไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกอีกค่ะ ว่าจิตสงัด แล่วรู้สึกความสงัดมันไปกองอยู่ตรงกลางอก บริเวณลิ้นปี่
เราก็บอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว (เพราะเคยมีประสบการณ์ขนหัวลุกจากการนั่งสมาธิมาก่อน) ไม่มีใครตายเพราะนั่งสมาธิ
ใจก็คิดไปงั้น แต่ก็ใจเต้นแรง (แบบว่าตื้นเต้นมากกว่ากลัว) แล้วเราก็ลองส่องดูอาการหูที่เคยอื้อ มันรู้สึกเหมือนไม่มีหู
คือหูทั้งสองข้างเหมือนว่างเปล่า หาอาการใดๆไม่เจอ แล้วทีนี้ก็ส่องดูสมอง ก็ปรากฎรู้สึกเหมือนไม่มีหัวอีก
คือมันโล่งเปล่าไปหมดเลย แล้วความรู้สึกสงบปกติมันอยู่บนหัวนะคะ ตอนนี้มันลงไปกองที่ลิ้นปี่คะ
เราก็ปล่อยให้มันสงบแบบนั้นไปสักพัก แล้วก็บอกจิตว่า "ถอนก่อนดีไหม จะได้ทำวิปัสสนาต่อ" จิตมันก็ถอนค่ะ ทำตามอย่างว่าง่าย
พอถอนออกมาเท่านั้นแหละค่ะ อาการหูอื้อนี่มาก่อนอันดับแรกเลย แล้วเราก็ทำวิปัสสนาต่อจนถึงเวลาควรพัก
พอออกจากสมาธิทั้งหมดออกมา ปรากฎน้ำตาซึม ๆ ด้วย แต่ไม่ได้เสียใจอะไรนะ ไม่รู้ทำไมน้ำตาซึม
ใครพอมีประสบการณ์ด้านนั่งสมาธิ โปรดชี้แนะด้วยค่ะ ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร สงสัยมากค่ะ